วิถีแห่งการเรียนรู้ วิถีแห่งการเรียนรู้ #พรรณีเกษกมล แต่ละยุค คิดเห็นและรับรู้ต่างกัน อะไร ๆ มันก็เปลี่ยนไปได้ทั้งนั้น อย่าไปยึดมั่นถือมั่นให้คงเดิมเลย ต้องเรียนให้เก่งเป็นเจ้าคนนายคน สมัยก่อน การได้เป็นข้าราชการนับเป็นเป้าหมายหนึ่ง ได้เป็นเจ้าคนนายคน มีอำนาจบาตรใหญ่ในกำมือ บ้างสามารถสร้างฐานอำนาจ มีเครือข่ายจนกินสินบาทคาดสินบน ร่ำรวยเป็นเศรษฐีได้ในช่วงชีวิตเดียว การเข้ารับราชการได้ต้องสอบแข่งขันกับคนจำนวนมาก และได้ในลำดับต้น ๆ จึงจะได้เลือกงานดี ๆ ทำ คนเรียนเก่ง ต้องได้คะแนนสูง ๆ จากการเรียนในห้องเรียนเท่านั้น การฟังคำสอนของครูอย่างตั้งใจ ดูหนังสือ อ่านท่องจำให้ได้มากที่สุด เพื่อจะทำข้อสอบได้ ไม่มีหรอกที่จะให้คิดวิเคราะห์ ถามนอกกรอบ คะแนนเกิดจากเอาคะแนนทุกวิชามารวมกัน คิดเป็นร้อยละ ไม่ใช่แค่ให้ผ่านในแต่ละรายวิชา แล้วให้เกรดในทุกวันนี้ วิชาเด่นต้องเป็นภาษาอังกฤษ คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ จึงจะเอาตัวรอดได้ในอนาคต เคยมีคนวาดรูปว่า คนที่ตะกายบนบ่าคนอื่น เพื่อขึ้นไปยืนสูงสุด บนบ่าของคนมากมายได้นั้น จึงจะได้เจ้าคนนายคน การเรียนภาษาอังกฤษสมัยที่ยังเป็นเด็ก บ้านเราเน้น Grammar การฟัง การอ่าน มากกว่า การสื่อสารกับเจ้าของภาษาให้ได้ ตอนเด็กเรียนภาษาอังกฤษ รุ่นเราคงจำได้ต้องเริ่มจากท่องพยัญชนะ 21 ตัว แล้วสระ A- E- I- O- U อีก 5 ตัว ซึ่งจะเอามาใช้ตอนเล่นปิดตาด้วย กับต้องท่อง C - A - T แคท แมว R - A - T แรท หนู H - A - T แฮท หมวก อะไรทำนองนี้กันทุกคน ตอนเด็กเรียนคอนแวนต์ เน้นภาษาอังกฤษ อยู่ ป. 6 เก่งมากแล้ว แต่ไม่เคยท่องไวยากรณ์ พอโตขึ้นมาหน่อย เรียนมัธยมปลาย โรงเรียนรัฐ ไวยากรณ์ต้องแม่นเป๊ะ ถึงแม้เขาจะเริ่มเรียนตอนมัธยมต้นก็ตาม ต้องท่องหลักมากมาย ในขณะที่เราทำได้ด้วยความเคยชิน รู้ว่าต้องเป็นอย่างนี้เท่านั้น ไม่มีหลักต้องท่อง ต่อมา พอได้มาเป็นครู รู้ว่านักเรียนไม่ต้องแม่นเป๊ะในไวยากรณ์ ขอแค่พูดสื่อสารกับฝรั่งแถวตรอกข้าวสารเป็นใช้ได้ ฟุตฟิตฟอไฟไปตามเรื่องก็ผ่านแล้ว ไม่รู้ว่าแบบใดดีกว่า ถ้าเก่งได้ทุกแบบคงได้เป็นอัจฉริยะด้านภาษาไปแล้ว พูดถึงเรื่องเก่งภาษา คนรุ่นใหม่บอก เป็นผู้นำต้องฟุตฟิตฟอไฟ สำเนียงเป๊ะเว่อร์เหมือนฝรั่ง จึงจะสุดยอด เมื่อฝรั่งมาสัมภาษณ์ต้องเจรจาได้ทันท่วงที ชาวบ้านบอกเก่งจัง แต่มีบางคนต้องแอบเจาะแล้วโพนทะนาบอก ที่พูดน่ะไม่ถูกต้อง พร้อมอธิบายให้ชาวบ้านฟังเป็นฉาก ๆ ขนาดคนที่เรียนที่เมืองนอกตั้งแต่เป็นเด็ก ยังโดนข้อหาว่า ไม่ถูกเลย อีกคนเรียนที่โรงเรียนแม่ชีฝรั่ง แล้วจบโทที่อเมริกา ยังโดนค่อนแคะอีกว่า ตอบไม่ตรงประเด็น ฟังฝรั่งพูดไม่รู้เรื่อง จึงตอบมั่วไปหมด คนค่อนแคะนี่ ไม่รู้เก่งเป๊ะเว่อร์ ถูกต้องตามแบบฝรั่งขนาดไหน อยากรู้จัง ที่รู้ ฝรั่ง ไม่ว่ายุโรป อเมริกา ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ แต่ละถิ่นที่ออกเสียง สำเนียง แม้แต่การสะกดคำอาจแตกต่างกันได้ ผู้ค่อนขอดนี่ชอบด้อยค่าคนอื่น มัวแต่ใส่ใจและค่อนขอดคนอื่น เลยไม่ได้เป็นนายกสักที เป็นได้แค่คนที่ชอบด้อยค่าคนใหญ่คนโต ห้อยโหนกระแส เผื่อมีคนชมว่าตัวเองเก่งบ้าง สมัยก่อนจีไอเข้าประเทศ พวกทหารอเมริกันน่ะ นี่เป็นเรื่องเล่าระดับมหาวิทยาลัยวิชาภาษาอังกฤษ เมื่อเด็กไทยไม่เก่งไม่แม่น โดนครูดุ เด็กสวนทันควัน พ่อผมไม่ใช่ จีไอ ได้ฮาครืนทั้งห้อง แม้แต่คณิตศาสตร์ เราจะบวกลบเลขจากหลักหน่วยมายังหลักสิบ หลักร้อย ก็รู้และทำมาตลอดชีวิต พอไปดูแลโครงการคุมองในโรงเรียนสตรีวิทยา เขาบังคับให้ครูทำแบบฝึกจะได้แม่นในหลักการของเขา น่าแปลกไม่ต้องมีครูสอน แต่สมองจะสั่งการให้บวกจากหลักร้อย หลักสิบ หลักหน่วย ไปได้เองโดยอัตโนมัติ เมื่อไปถามเจ้าของที่นำคุมองเข้ามาในไทย เขาบอกว่าเราได้ทำแบบฝึกจริงจัง ต่างจากครูอีกคนที่ไม่ได้ทำจึงไม่รับรู้หลักการของเขา แม้แต่การทดสอบเพื่อเลื่อนระดับ ถ้าใช้นิ้วนับจะต้องเริ่มจากขั้นแรกสุด ในขณะที่เราใช้นิ้วนับเลขในใจตอนเด็ก ถ้าไม่พอยังแอบนับนิ้วเท้าผสมไปด้วย คนเรียนเก่งแต่ละยุค อาจมีวิถีการเรียนรู้ให้เก่งแตกต่างกันไป ตามความต้องการของสังคมในขณะนั้น มีหลายสิ่งมากอย่างที่ต่างกัน อย่าไปยึดมั่นให้จีรัง ว่าทุกสิ่งต้องถูกต้อง ตามที่เคยเรียนรู้มาเท่านั้น |
บทความทั้งหมด
|