#วิ่งควายที่วัดใหญ่ชลบุรี #วิ่งควายที่วัดใหญ่ชลบุรี สมัยก่อนวิ่งควายกันที่หน้าวัดใหญ่ ที่บ้านเป็นร้านเสริมสวยอยู่ฝั่งตรงข้ามวัด จึงมีโอกาสเห็นควายมากมายมาเดินหรือวิ่งในช่วงใกล้วันออกพรรษา ทั้งที่ตั้งใจดูหรือไม่ตั้งใจจะได้เห็นควายแต่งตัวกันแปลกตาแน่นอน ถามว่ามีคนมาดูมากมายกันไหม ทั้งจากบ้านไร่ และแถวตลาดแห่แหนกันมาดู ทำให้เจ้าของควายยิ่งอยากมาโชว์ หนุ่ม ๆ บ้านไร่เจ้าของควายแต่งตัวโก้อวดสาว ๆ ในเมือง ถือแส้สวยตีควายให้วิ่งโชว์ วิ่งควายในวันนั้นไม่เหมือนกับประเพณีวิ่งควายในวันนี้ที่จัดงานกันอย่างเอิกเกริก มันต่างกันมาก แบบไหนสนุกกว่ากันคงตอบไม่ได้ วันนี้ให้แข่งกันอย่างจริงจังที่หน้าศาล ออกข่าวเชิญชวนว่าเป็นประเพณีท้องถิ่น มีแห่งเดียวในไทย คนต่างชาติต่างถิ่นมองเห็นเป็นของประหลาดจึงมาดูวิ่งควายกัน เมื่อถึงวันวิ่งควาย แถวหน้าบ้านจะมีคนแปลกหน้าต่างถิ่นมากพอควร ไม่ได้ตั้งใจยืนดูแห่อาจเดินไปเดินมา เพราะไม่ได้มีขบวนแห่ ควายไม่ได้วิ่งแข่งกัน แต่มันจะเดินไปเดินมา คนขี่ควายที่หนุ่มแน่นจะให้ควายวิ่งโชว์ แข่งกันเองระหว่างหนุ่มต่างถิ่น เลยเรียกกันว่า วิ่งควาย วันนี้ควายแต่งตัวสวยตามใจคนขี่ควาย มีผ้าแพรสีสดใส ชมพูสด เขียวแดงเหลือง มีดอกไม้ประดับตกแต่ง ไม่รู้ว่าควายจะรู้ตัวไหมว่าวันนี้มันได้เป็นพระเอกนางเอกมีคนคอยจ้องมอง มันจะชอบหรือรำคาญ มันไม่เคยบอกใครและคงบอกไม่ได้ มีควายมากมายจากท้องไร่ท้องนามาอวดโฉมที่ตลาด ตัวดำอ้วนพีเชียว ส่วนตัวผอมกะหร่องคงไม่มีทางได้มาหรอก เจ้าของเตรียมอาบน้ำอาบท่าแต่งโฉมให้เด่นสะดุดตาที่สุด ใครเห็นจะได้หันมามองและเอ่ยปากชม ที่รู้สึกไม่ชอบคือคนขี่ควายจะมีแส้คอยหวดให้ควายวิ่ง ไม่เหมือนโคนันทิวิศาลที่ใช้การพูดจาไพเราะก็วิ่งแข่งจนชนะ ควายจะเจ็บไหม บางคนบอกมันหนังหนาคงไม่เจ็บเท่าไรนักหรอก สิ่งที่จดจำได้คือกองขี้ควายเต็มเกลื่อนหน้าบ้าน แรก ๆ กองขี้จะสวยเหมือนขนมเค้ก กลมโตเนียน สักพักควายตัวอื่นเดินมาเหยียบ เละตุ้มเป๊ะสิครับ ส่วนกลิ่นไม่ต้องพูดถึง พอบ่ายคล้อยเท่านั้นทั่วทั้งท้องถนนเละไปด้วยขี้ควายเหม็น ๆ แม่เล่าว่าที่มีวิ่งควายเพราะมีเปรตมาก่อกวน ชาวบ้านกลัวเปรตมากเลยต้องมาทำบุญวันออกพรรษา สมัยนั้นควายเป็นสัตว์ใหญ่ประจำบ้านที่ใช้เดินทางมาทำบุญที่วัดใหญ่ของเมือง ทำไม ใคร ๆ ต้องมาทำบุญที่วัดใหญ่ก็ไม่รู้ อาจเป็นเพราะเป็นวัดใหญ่ที่มีมาแต่สมัยอยุธยา เป็นที่ชุมชนของชาวบ้านร้านถิ่น เมื่อถึงเทศกาลทำบุญใหญ่จึงมาที่นี่แทนวัดเล็ก ๆ ข้างบ้าน เพราะมีที่มาจึงมีที่ไป ใช่ว่าจะเกิดมาโดด ๆ ที่จะเขียนเล่าต่อไปนี้มาจากเนต แต่ไม่ตรงกับที่รู้สักเท่าไร ก่อนออกพรรษา 1 วัน วัดใหญ่จัดงานเทศน์มหาชาติ โดยใช้ควายมาเทียมเกวียนและตกแต่งเกวียนให้แลดูสวยงาม ซึ่งเราไม่เคยเห็น แต่เป็นไปได้ว่าชาวบ้านมาวัดเพื่อติดกัณฑ์เทศน์ ด้วยวัดใหญ่เป็นที่ที่ชาวไร่ชาวสวน นำผลผลิตของตนบรรทุกเกวียนมาขาย เลยเรียกว่า “ท่าเกวียน” ที่ท่าเกวียนห่างจากวัดใหญ่เยื้องไปทางซ้ายมือ เป็นแหล่งขายข้าวหน้าเป็ด เป็ดพะโล้ เมื่อเกวียนเหล่านี้มาพร้อมรวมกันที่วัด โดยมีเกวียน 13 เล่ม (13 กัณฑ์) มีควายที่ใช้เทียมเกวียน 26 ตัว ชาวบ้านในเมืองและชาวไร่ ชาวนา ต่างเมือง ก็มาร่วมบุญกุศลติดกัณฑ์เทศน์กันเป็นจำนวนมาก ส่วนเจ้าของควาย จะนำควายของตนไปอาบน้ำที่สระภายในวัด ตรงนี้ไม่น่าจริง เพราะสระน้ำนี้เป็นสระขุด ต้องเดินลงบันไดไปหลายขั้นอยู่ ถ้าให้ควายลงไปคงไม่สะดวก และสระน้ำคงเหม็น เพราะไม่ใช้สระตามธรรมชาติแต่เป็นสระขุดสี่เหลี่ยม เมื่อมีคนนึกสนุกท้าผู้อื่นขี่ควายแข่งขันประลองฝีเท้าควายขึ้นมา โดยเริ่มจากท่าเกวียนจนถึงวัดกลางบริเวณต้นเลียบ เพื่อความสนุกสนานและเพื่อทดสอบความแข็งแรงของควาย ตรงนี้ไม่แน่ใจเพราะเห็นแต่วิ่งแถวหน้าวัดใหญ่ เราเป็นเด็กไม่รู้ว่ามันวิ่งไปถึงวัดกลางจริงหรือไม่ ส่วนที่ว่าวัดใหญ่จัดงานเทศน์มหาชาตินั้นจริงอยู่ แต่จัดตรงศาลาริมถนน เป็นร้านขายอาหารตอนกลางวัน เมื่อได้เป็นเจ้าของกัณฑ์ จะได้อีกทุกปี จนครบ 13 กัณฑ์ ผู้คนมาทำบุญและฟังเทศน์ ไม่ได้มากมายนักภายในโบสถ์ เราเคยไปนั่งเฝ้ากัณฑ์เทศน์ด้วย ส่วนใหญ่คนทำบุญฟังเทศน์จะหย่อนเหรียญ หรือธนบัตรทำบุญ ไม่ได้เอิกเกริกใหญ่โต และไม่เคยเห็นที่เนตบอก ควายแต่งกัณฑ์เทศน์มาด้วย ตามเนตบอกว่ามีพิธีสู่ขวัญควาย เพื่อแสดงความเมตตาธรรม กตัญญูรู้คุณต่อควาย จัดขบวนแห่ควายเทียมเกวียนเครื่องกัณฑ์เทศน์ 13 กัณฑ์ (ขบวนเกวียนกัณฑ์) รอบเมืองชลบุรี มาที่วัดใหญ่อินทาราม ที่โด่งดังเห็นแต่วิ่งควายแข่งกันจริงที่หน้าศาลมีคนไปดูกันมากมาย |
บทความทั้งหมด
|