ที่เล่นของเด็กห้องแถว ที่เล่นของเด็กห้องแถว เด็กห้องแถวตามตลาด บ้านเป็นห้องแถวริมถนนใหญ่ในเมือง จะมีที่ให้วิ่งเล่นเช่นไร ต่างจากเด็กที่มีบ้านหลังใหญ่ มีบริเวณกว้างขวางใหญ่โตให้วิ่งเล่น หรือเด็กที่อยู่ตามท้องทุ่งท้องนา สบายใจแฮ วิ่งให้เหนื่อย ไปให้ไกล สุดขอบฟ้าได้เลย แต่นี่เรา ในห้องแถวเป็นที่ทำงานของแม่ ร้านเสริมสวย วิ่งไม่ได้แน่ ๆ หน้าบ้านคือฟุตบาท โชคดีมีช่องสี่เหลี่ยม มันคือกระเบื้องปูนแผ่นใหญ่มาต่อเรียงกันพอให้ทำตารางเล่นกระโดดโลดเต้นได้บ้าง นอกนั้นคือริมถนนได้ตีแบด เล่นแบดมินตันยามหัวค่ำที่ถนนปลอดรถ แต่ก่อนเด็ก ๆ ต้องวิ่งเล่น ไม่มีวันได้นั่งจับเจ่าจุกอยู่แต่หน้ามือถือให้เพลิดเพลินไปวัน ๆ บ้านในเมืองไม่มีก้านกล้วยให้ขี่เล่นไล่จับกัน เหมือนในหนัง ขี่ก้านกล้วยหรอก แล้วแล่นอะไรกันบ้างล่ะ เริ่มด้วยฟุตบาทแล้วกัน #การละเล่นของเด็กสมัยก่อน ตี่จับ คนเล่นต้องปิดปากทำเสียงหึ่ง ๆ อือ ๆ ดังพอได้ยิน เดินหรือวิ่งเข้าไปยังฝั่งตรงข้าม วิ่งไล่จับเพื่อนให้ได้สักคน คนนั้นจะกลับมาอยู่ฝ่ายเรา ถ้าเสียงหึ่ง ๆ หมดไป แพ้ ต้องกลับฝั่งของตัวเอง อีกฝั่งจะได้เล่นต่อ ขี่ม้าส่งเมือง มี 2 ข้าง ให้เพื่อนขี่บนหลังเรา แล้วฮ้อไปส่งเพื่อนยังอีกฝั่ง มีแอบกระซิบว่าจะเอาใคร แล้วทายกัน ถ้าทายถูก คนนั้นถูกจับเป็นเชลยอีกฝั่ง เล่นไล่จับ ต้องใช้ขาเดียว วิ่งไล่จับเพื่อนให้ได้ เพื่อนที่โดนจับจะต้องยืนขาเดียวไล่จับคนต่อไป เปิดเนตเขาเรียก กระต่ายขาเดียว แต่เราไม่เคยรู้ชื่อนี้ อีมอญซ่อนผ้า นั่งล้อมเป็นวงกลม คนเล่นร้องเพลง อีมอญซ่อนผ้า ตุ๊กตาอยู่ข้างหลัง ไปโน่นไปนี่ ฉันจะตีตูดเธอ ส่วนอีกคนถือผ้าเดินรอบวงกลม แอบหยอดวางหลังเพื่อนคนหนึ่ง คนอื่นร้องเพลงไม่มีโอกาสบอก ถ้าจบเพลงแล้ว เพื่อนคนนั้นยังไม่รู้ตัว จะเป็นผู้เดินต่อไป แม่งู เพื่อน ๆ จะจับเอวต่อกัน พ่องูร้องเพลงหวังจะจับลูกงู แม่งูเอ๋ยกินน้ำบ่อไหน แม่งูกับลูกงูร้องตอบ กินน้ำบ่อโศก โยกไปก็โยกมา พ่องูพยายามวิ่งมาจับลูกงู ใครโดนจับต้องออก พ่องูถามอีก แม่งูเอ๋ยกินน้ำบ่อไหน แม่งูกับลูกงูร้องตอบ กินน้ำบ่อทราย ย้ายไปก็ย้ายมา พ่องูพยายามวิ่งมาจับลูกงู ใครโดนจับต้องออก พ่องูถามอีก แม่งูเอ๋ยกินน้ำบ่อไหน แม่งูกับลูกงูร้องตอบ กินน้ำบ่อหิน บินไปก็บินมา มีอยู่แค่นี้ ก็สนุกมากแล้ว ตอนวิ่งหนีและอย่าให้หลุดจากการเกาะเอวเพื่อน ตั้งเต กระโดดขาเดียวไปตามช่องที่ขีดเส้นไว้ ใช้แผ่นพื้นฟุตบาทขีดเส้น ให้ได้ 5 แถว แต่ละแถวแบ่งครึ่งรวมเป็น 10 ช่อง ใครชนะจะได้ช่องนั้น คนต่อไปกระโดดข้ามช่องนั้นให้ได้ กระโดดยาง เอายางเอ็นมาพัน ๆ ผูกกันเป็นเชือก มันเด้ง ๆ ดึ๋ง ๆ ได้ มันไปอีกแบบ คนเก่งจะกระโดดข้ามเส้นยางได้ มีสองคนจับยางไว้ ค่อย ๆ ยกระดับความสูงขึ้นเรื่อย ๆ เลยแหละ แต่เราไม่กล้า ขอเป็นคนจับยางดีกว่า สนุกกว่าที่เห็นเพื่อนกระโดด กระโปรงปลิวได้เลย ขวับ ๆ หมากเก็บ ใช้ก้อนหิน 5 ก้อน นั่งล้อมวง มือโยนก้อนหินขึ้น 1 ก้อน แล้วต้องหยิบหินที่พื้นให้ได้ ตั้งแต่ 1 ก้อน 2 ก้อน จนถึง 4 ก้อนนี่แหละ มันยากที่สุดตอนทอยหินออกจากมือ มันไม่ได้เกาะกลุ่มรวมกัน ใครทอยแรง หินอยู่ไกลกัน ตอนรวบ 4 ก้อนนี่ ยากสุด เราไม่ใช่เด็กแนวนี้อีก จำวิธีเล่นไม่ค่อยได้ เจ็บมือจะตาย แล้วโชคดีมากที่มีข้ออ้าง ซิสเตอร์ฟรานซิส ครูใหญ่ที่โรงเรียน สั่งห้ามเล่นเด็ดขาด บอกเป็นผู้หญิงมือต้องไม่หยาบกร้าน นิ้วมือต้องเรียว ข้อนิ้วต้องไม่แตก ถูกใจเขาเลย ลูกแก้ว แค่มองลูกแก้วสวย ๆ นี่ก็แสนจะเพลินตาเพลินใจมากแล้ว ลูกแก้วแต่ละลูกมีสีสันแตกต่างกัน วัยเด็กสงสัยตั้งคำถามว่า เขาทำได้อย่างไร จึงชอบเก็บสะสมมากกว่าเอาไปทอยเล่นให้ลงหลุม บางทีใช้นิ้วดีดให้ลงหลุม ถ้าหลุมไม่ไกลเกิน บางทีใช้เม็ดน้อยหน่า ดำ ๆ เกลี้ยงนี่แหละ ล้างน้ำให้สะอาดสักหน่อย มาแทนลูกแก้วทอยลงหลุม หรือแทนก้อนหินเล่นหมากเก็บ เอากระดาษมาตัดคล้ายรูปกรวย แล้วตักเม็ดน้อยหน่าให้ได้มากที่สุด ผลัดกันตัก ใครตักได้มากที่สุด ชนะ ทอยเส้น ใช้แรงเหวี่ยงโยนของที่ใช้เล่น ให้ใกล้เคียงเส้นที่ขีดไว้ไกล ๆ เป่ายาง ต้องใช้แรงลมมากเกินจะเป่ายางให้ออกจากกองได้ ที่เล่ามาทั้งหมด ไม่ใช่การละเล่นที่สนุกสนานสำหรับเราเลย ที่ชอบน่าจะเป็นการเล่นขายของ หม้อข้าวหม้อแกง แต่นั่น ไม่ใช่สัญญาณบ่งบอกว่า จะเป็นแม่บ้านแม่เรือนที่ทำอาหารเก่งเลยสักนิด และไม่ใช่แม่ค้าที่คิดหาเงินด้วย ด้วยเป็นตัวเล็ก ๆ ไม่มีเรี่ยวแรงมาก จึงเล่นที่มันง่าย ๆ ไม่เหนื่อยมาก การละเล่นเช่นนี้ ทำให้ผ่านวัยเด็กมาได้อย่างสนุกสนาน |
บทความทั้งหมด
|