เริ่มจะเข้าเรื่องแล้วนะ
เริ่มจะเข้าเรื่องแล้วนะ
พายุฤดูร้อนย่อมผ่อนคลายความร้อนรุ่มกลุ้มอุราลงไปได้บ้างหรอกน่า
คนไทยรู้ดีว่า เมษานี่มันร้อนจริง ๆ แต่ถ้ารู้ว่าผ่านไปอีกหกสิบกว่าปี ไอ้ที่บ่นกันว่าร้อน ๆ นัก เทียบกันไม่ได้เลย จากยี่สิบกว่าองศา พรวดพราดกลายเป็นสี่สิบกว่าองศา ด้วยสาเหตุที่โทษกันไปมาระหว่างผู้คนที่เห็นแก่ตัวกับธรรมชาติที่โหดร้าย
ใครผิดใครถูกไม่รู้ล่ะ คนรับกรรมคือชาวบ้านตาดำ ๆ ที่ไม่มีเงินซื้อเครื่องปรับอากาศและจ่ายค่าไฟ
มีคำเตือนว่า ที่บ่นว่าร้อนกันนัก พอเห็นบิลค่าไฟจะหนาวกันขึ้นมาทันที คงแจ้งแก่ใจใครต่อใครหลายคน
 
อันที่จริง เราก็ทน ๆ กันมาได้ ยิ่งเป็นคนจน ความอดทนเป็นของคู่กายเสมอมา เพราะร้อนจัดมากทีไร เมื่อนั้น ฝนตกลงมาห่าใหญ่ทุกที
เขาถึงว่า พอร้อนมาก ๆ ฝนจะกระหน่ำเทลงมาอย่างไม่ลืมหูลืมตา เรียกกันว่าพายุฤดูร้อน
ธรรมดาชาวบ้านร้อนจนตับแตก แต่ถ้าถามหญิงท้องแก่ทั้งหลาย คงแทบอยากจะครางออกมาทีเดียว ทั้งร้อนทั้งอึดอัดทั้งปวดหลังจนแทบอยากจะกระแทกหลังลงกับพื้นไม้แรง ๆ ให้มันหายปวดทีเดียว
บางคนคิดว่า คงอายหมอมากทีเดียว ถ้าหมอหนุ่ม ๆ มาเห็นของเรา คงหมดสิ้นไปในบัดดล เมื่อเจ็บท้องคลอดลูก ทำอะไรก็ทำไปเถอะ ขอให้หายปวดได้เป็นพอ
ท้องแรกคงเจ็บสุดจะบรรยาย พอท้องสองชักเข้าที่รู้ว่าอะไรจะเป็นอะไร ความเจ็บลดลง พอท้องสามชัดเจนกอปรกับร่างกายรู้หน้าที่บวกกับความหย่อนยานทำให้พอเจ็บทนได้ ไม่ถึงกับร้องลั่นทุ่งให้ได้ยินไปทั้งโรงพยาบาล
มีเรื่องเล่าก่อนเข้าห้องคลอด ผู้หญิงคนหนึ่งด่าผัวเสียงหลงทันทีที่เจ็บท้อง ด่าชนิดไม่เว้นวรรคทีเดียว ต่อท้ายด้วยว่า “กูไม่เอาอีกแล้ว กูจะไม่ยอมให้มึงทำอีกแล้ว”
พอปีถัดมา ผู้หญิงคนนี้ก็มาอีก และมาอีกหลายปีต่อกัน จนคนในโรงพยาบาลนำมาเล่าเตือนสติสาว ๆ ที่กำลังจะขึ้นเขียง ให้รู้บันยะบันยังเสียงร้องบ้าง
 
ลูกสาวคนแรกลืมตาดูโลก ตามหลังพี่ชายสองคน ย่อมทำให้ทั้งบ้านได้ยิ้มกันบ้าง
อันที่จริงเราไม่เคยเรียกว่าบ้าน แต่ใช้คำว่าร้านแทนมากกว่า ห้องแถวไม้ปลูกเรียงติดกันให้คนเช่าของยาย
กิมชุน หน้าวัดใหญ่เป็นที่ ๆ ของพวกเราแต่จำความได้ และอยู่มาจนเรียนมัธยมปลาย
               เจ้าของที่ซึ่งเป็นรุ่นลูกมองเห็นว่า แต่เดิมที่ดินเป็นรูปวงกลม ปลูกห้องแถวให้เช่านั้น ถ้าตัดตรงกลางหรือเส้นผ่าศูนย์กลางออก จะเพิ่มห้องเช่าได้อีกหลายสิบห้อง จึงกลายเป็นถนนส่วนตัวที่มีตึกแถวสองข้างทาง
               จากห้องเช่าไม้จึงได้มาอยู่ตึกแถวด้วยประการฉะนี้
 
คนจีนเชื่อว่า มีลูกชายไว้สืบสกุล ส่วนลูกสาวพอแต่งงานก็ไปเป็นคนของบ้านนั้น
คนไทยชอบลูกสาวเพราะรู้ดีว่า จะฝากผีฝากไข้ได้ ด้วยแต่งลูกเขยเข้าเรือน และมักยกสมบัติให้ลูกชายคนเล็กเพราะคิดว่าเป็นผู้ดูแลทรัพย์สมบัติได้ดี
อันที่จริงทั้งลูกสาวลูกชาย ไม่ว่าคนโตคนเล็กหรือคนไหน ๆ ล้วนพึ่งพาดูแลได้ทั้งหมดทั้งสิ้น
ถ้าพ่อแม่ดูแลด้วยความรัก ย่อมได้รักนั้นตอบแทน
แม่มีลูกชายอีกหนึ่งและลูกสาวคนสุดท้องอีกหนึ่ง
ทั้งลูกชายคนเล็กที่ได้อยู่กับพ่อแม่จนแก่เฒ่าและลูกสาวคนเล็กได้เป็นผู้ดูแลพ่อแม่จริง ๆ สมดังใจนึก
 
               สมัยนั้นยังไม่รู้จักวิธีคุมกำเนิดนอกจากการทำหมัน ซึ่งผู้ทำอาจเป็นได้ทั้งหญิงและชาย แปลว่า หมดสิทธิ์มีลูกกันอีกต่อไป แต่คำบอกต่อกันมานี่สิ น่าสยอง
               จริงเท็จไม่รู้ เขาบอกผู้ชายทำหมันอาจเลอะเลือนถึงขั้นบ้าได้ คงเป็นเหตุผลของฝ่ายชายที่กลัวเจ็บ
ฝ่ายหญิงบอก “ถ้าฉันทำ เธอก็ไปมีลูกกับหญิงอื่นได้น่ะสิ” คงเถียงกันอีกหลายยก ลูกตามมาอีกเป็นโขยง จนเลี้ยงไม่ไหว และฝ่ายหนึ่งยอมแพ้ขอทำหมันเอง
               ด้วยเหตุนี้ ยุคหลังสงครามโลกครั้งที่สอง จึงเรียกยุคเบบี้บลูม เด็กเล็กเด็กแดงเต็มบ้านเต็มเมืองไปหมด
               เสียงร้องไห้ของเด็ก ๆ ดังจนชินหูไปแล้ว
               โตขึ้นมาหน่อย พอให้วิ่งเล่นได้ เด็ก ๆ ใกล้บ้านกลายเป็นเพื่อนวิ่งเล่น
               ข้อห้ามของการเล่นมีอยู่อย่างเดียว คือ ห้ามลงถนน จะโดนตีขาจนจำได้ว่า บนฟุตบาทเท่านั้นคือที่วิ่งเล่น กับกองทรายหลังบ้านและลานกว้างที่มีขอบบ่อเอาไว้ขาย ของร้านอึ้งย่งล้งที่ขายสิ่งก่อสร้าง
ลานใหญ่ตรงนี้แต่เดิมเป็นที่วิ่งเล่นของพวกเราตอนกลางวัน ต่อมากลายเป็นถนนและตึกแถว
 
บ้านเกือบทุกหลังมีประตูหลังทะลุออกไปยังลานนี้ ยกเว้นบ้านเราบ้านเดียว ไม่เข้าใจว่าเหตุใด
ที่ร้านเป็นร้านเสริมสวย มีสาว ๆ มาเป็นลูกศิษย์เรียนกันเยอะ พ่อคงไม่ชอบใจที่คนงานทำขอบบ่อจะมาป้วนเปี้ยนโผล่หน้ามาทักทายสาว ๆ กระมัง หรือไม่เพราะหลังบ้านของเรากับร้านขายข้าวแกงของป้าไน๊ติดกับโรงงานเก็บของก่อสร้าง เขาเลยไม่ทำประตูทะลุออกให้
เราต้องขอเข้าบ้านคนอื่นเพื่อไปเล่นหลังบ้าน ปกติจะเรียกลานนี้ว่าหลังบ้าน
ทางเข้าออกส่วนใหญ่เป็นบ้านของอาซิ้มเพาะถั่วงอกขาย นาน ๆ จะเข้าไปยังร้านศิริพร ร้านเสริมสวยคู่แข่งของแม่ ขอบอกแม่เราดังกว่าเยอะ ลูกศิษย์มากกว่า ลูกค้าเยอะกว่า ไม่ได้โม้นะ เรื่องจริง
อีกบ้านที่เข้าได้คือร้านอึ้งย่งล้งนี่แหละ แต่เขาขายดีลูกค้ามากมายทั้งวัน อาซิ้มนี่แหละที่พึ่งสุดท้าย
 



Create Date : 03 มิถุนายน 2562
Last Update : 3 มิถุนายน 2562 9:35:20 น.
Counter : 559 Pageviews.

2 comments
: รูปแบบของชีวิต : กะว่าก๋า
(17 เม.ย. 2567 04:37:20 น.)
แพ้เนื้อจากการโดนเห็บกัด alpha-gal allergy สวยสุดซอย
(17 เม.ย. 2567 14:07:10 น.)
: รูปแบบของการค้นพบตนเอง : กะว่าก๋า
(16 เม.ย. 2567 06:05:58 น.)
15/04/67 สมาชิกหมายเลข 4675166
(15 เม.ย. 2567 09:46:52 น.)
  
โดย: สมาชิกหมายเลข 3445381 วันที่: 3 มิถุนายน 2562 เวลา:10:39:30 น.
  
โดย: สมาชิกหมายเลข 4665919 วันที่: 3 มิถุนายน 2562 เวลา:11:22:01 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Drpk.BlogGang.com

สมาชิกหมายเลข 4665919
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]

บทความทั้งหมด