วัดใหญ่อินทาราม ชลบุรี #วัดใหญ่อินทาราม ชลบุรี ความเชื่อของชาวพุทธ ชาวพุทธแต่ก่อนเชื่อในคำสอนที่ว่า ทำบุญที่ได้บุญมาก คือ การสร้างวัด สร้างโบสถ์ หรือสร้างศาสนวัตถุ เมื่อใกล้ตาย จิตสุดท้ายจะได้นึกถึงบุญใหญ่ที่เคยได้กระทำมา ชีวิตหลังตายจะไปอยู่ในภพภูมิใหม่สรวงสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ ผู้มีอันจะกิน เศรษฐีจึงนิยมสร้างวัด รวมทั้งเจ้านายต่าง ๆ วัดเก่าแก่สมัยอยุธยา วัดใหญ่อินทารามแห่งนี้เป็นวัดที่มีมาแต่ดั้งเดิม เก่าแก่ เขาว่าน่าจะสมัยอยุธยาเชียวนา สังเกตได้จากรูปทรงของโบสถ์ที่เหมือนท้องเรือสำเภา และถ้วยชามสังคโลกประดับที่ฝาผังโบสถ์ รวมทั้งภาพวาดจากจิตรกรภายในโบสถ์ นี่ถ้าจะเล่าเรื่องของวัด คงได้หนังสืออีกเป็นเล่มแน่แท้ แต่วัดนี้น่าจะใหญ่โตจริง เพราะชื่อวัดใหญ่ ต่อมาได้เป็นวัดหลวงในสมัยเจ้าคุณไพโรจน์ภัทรธาดา ใครที่มาเที่ยวพระราชวังธนบุรี จะรู้ว่า เป็นหนึ่งในวัดที่สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ได้บูรณะ และถือเป็นวัดประจำรัชกาลด้วย จึงมีสร้อยนามต่อท้ายว่า อินทาราม เสมือนเป็นที่ประทับของพระอินทร์ ผู้ที่รู้ จะบอกว่า วัดที่มีสร้อยนามต่อท้ายว่าอินทารามนั้นเป็นวัดประจำรัชกาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชทั้งสิ้น และนามสกุลของเหล่าเจ้านายที่สืบเชื้อสายมักมีคำว่า อิน เช่นกัน ศาลาเก้าห้อง เอาแต่ภาพความทรงจำแล้วกัน ตอนเป็นเด็กคงจะคุ้นเคยกับศาลาเก้าห้องมากที่สุด เพราะเป็นที่วิ่งเล่นของเด็ก ๆ หน้าวัด โดยเฉพาะการเล่นซ่อนหา แอบตามเสา แล้วให้เพื่อนหา มีเสียงโป้งกับแปะ เป็นระยะ ๆ ผู้หาจะปิดตา นับเลข เพื่อน ๆ ที่เป็นผู้ซ่อนไปแอบตามเสา พอนับเลขครบจะวิ่งตามหา ถ้าผู้หาเจอก่อนจะโป้งผู้ซ่อน ถ้าผู้ซ่อนแอบและแตะตัวผู้หาได้ จะร้องแปะ คงเป็นเรื่องสนุกมากในวัยเด็กสมัยนั้นนะ ถึงได้นัดเจอกันเกือบทุกเย็น ได้วิ่งเล่นออกกำลัง มากกว่าตาจ้องจับแต่มือถือ ไม่ได้วิ่งแถมสายตาจะเสียเอาซะอีกนะนี่ ไม่รู้เหมือนกัน ทำไมเรียกศาลาเก้าห้อง อย่างน้อยเสาใหญ่ ๆ น่าจะมีเสาเก้าต้นอย่างน้อยเป็นแน่ ที่แบ่งกั้นออกเป็นเก้าส่วนกระมัง แต่ไม่เห็นเป็นห้องเลยนะ มีแต่ที่โล่ง ๆ ให้พระนั่งสวดมนต์วันพระ สูงกว่าระดับล่างลดหลั่นลงมา ให้ผู้มาทำบุญนั่งเตรียมอาหาร ฟังพระสวดมนต์และฟังเทศน์ ส่วนวันอื่น ๆ น่ะหรือ เป็นที่วิ่งเล่นของเด็กนั่นเอง รู้แต่ว่าได้วิ่งเล่นบนศาลาแห่งนี้นานหลายปีอยู่ เด็กสมัยนี้น่าจะเรียกซ่อนแอบมากกว่าซ่อนหา เฉพาะไม้ที่สร้าง ไม่ว่าจะเป็นพื้น เสาต้นใหญ่เบ้อเริ่ม ที่แอบซ่อนเด็ก ๆ ให้หายากแล้ว มูลค่าสมัยนี้คงหาค่าไม่ได้ ทว่าการบำรุงรักษา หรือการไม่เห็นคุณค่า ทำให้รื้อทิ้ง แล้วไปสร้างศาลาใหม่ใหญ่โต ทำด้วยอิฐถือปูนแทน น่าเสียดายจริง ๆ ถ้ายังคงอยู่ที่เดิม น่าจะเป็น unseen temple ได้เลย สระน้ำลอยกระทง อีกแห่งที่ดูคุ้นทุกปีในวันลอยกระทง เป็นสระน้ำขนาดใหญ่ ที่สร้างรั้วล้อมรอบแน่นหนา ปิดประตูลงกลอน ไม่มีทางเลยที่สระน้ำแห่งนี้จะเกิดประโยชน์อันใดต่อเด็ก ที่จะไปแอบเล่นน้ำกัน ด้วยข่าวลือที่หลอกเด็กว่า ผีดุ เพราะมีคนตกลงไปตาย แล้วกลายเป็นผีเฝ้าสระ ทำให้ไม่มีเด็กคนใดย่างกรายไปใกล้ แม้จะเป็นเวลาฟ้าแจ้งก็ตามทีเถอะ กระทงสมัยนั้นเท่สุด ๆ ผู้เฒ่าผู้แก่จะใช้เวลาเตรียม เอากาละมังมาแปะกระดาษย่นที่ตัดเป็นรูปกลีบดอกบัว มีธูปเทียนปัก แล้วตั้งขาย ให้ผู้คนมาซื้อ ราคาตามขนาดกระทง ใหญ่เล็ก รวยหน่อยซื้อกระทงใบใหญ่ ไม่เห็นมีใครเสียเวลาทำกระทงใบตองสวยงาม คงคิดว่าสะดวกและทำบุญให้วัด เมื่อกระทงเต็มสระ สวยงามมากทีเดียว คืนวันลอยกระทง พระจันทร์สว่างไสว สวยงาม แค่ไปซื้อกาละมังที่เสแสร้งว่าคือกระทง ทางวัดคงต้องจัดงานให้เอิกเกริกสักหน่อย หนุ่ม ๆ สาว ๆ จะได้มาเที่ยวงานพลางถือโอกาสจีบกันพลาง ที่จำแม่น มีอยู่ครั้งหนึ่ง หนุ่ม ๆ จิ๊กโก๋ที่อยากแอ๊คอวดสาว ๆ พากันมาเป็นกลุ่มก้อน แล้วคงปากเปราะเราะรานกันหรือไรนี่แหละ แขวะกันไปแขวะกันมา ไม่รู้หรอก เพราะตอนนั้นค่อนดึกแล้ว เด็ก ๆ กลับบ้านกันแล้ว เสียงตะโกนโหวกเหวก พร้อมเสียงหวออรถตำรวจ ทำให้ชาวบ้านชาวช่องแตกตื่นกัน รีบออกมาจากห้องแถว ไถ่ถามว่าเกิดอะไรขึ้น สมัยนั้นถือว่าเป็นเรื่องราวใหญ่โตมาก ที่วัยรุ่นจะยกพวกตีกัน ได้ข่าวว่า มีอยู่คนหนึ่งโดนมีดกระซวกแทงไปหลายแผล เอวังหมดกันอนาคต ทั้งผู้แทง และผู้ถูกแทงซึ่งไม่รู้ว่ารอดหรือไม่ เพราะการสื่อสารไม่รวดเร็วและติดตามข่าวเหมือนสมัยนี้หรอก |
บทความทั้งหมด
|