งานหน้าศาลเมืองชล #งานหน้าศาลเมืองชล #พรรณีเกษกมล งานหน้าศาลเมืองชล งานประจำปีของชลบุรี เป็นงานใหญ่สุดของเมืองชล ลานกว้างที่จัดเป็นแหล่งรวมศูนย์ราชการ ตั้งอยู่หน้าศาลากลางประจำจังหวัด แต่เดิมมีศาลจังหวัด ศาลากลางหลังเก่าอยู่ฝั่งเดียวกับโรงเรียนอนุบาลชลบุรี ฝั่งตรงข้ามเป็นหอพระพุทธสิหิงค์ ศาลาประชาคม และโรงเรียนชลกันยานุกูล เลยตรงนี้เป็นเรือนจำ วัดเนินสุทธาวาส สถานีตำรวจ สำนักงานที่ดิน แม้จะแก่เฒ่ามากแล้วยังคงแทนตัวว่า เป็นเด็กเมืองชล เป็นคนชลบุรี เด็กหน้าวัดใหญ่ เด็กตลาด ทำไมเป็นงานที่ทุกคนตั้งหน้าตั้งตารอ เป็นเพราะไม่มีห้างใหญ่ให้ไปเดินเที่ยวเล่นเหมือนยุคนี้ แม้แต่คนบ้านไร่ที่เดินทางมาอย่างยากลำบาก ต้องเหมารถมาเที่ยว รถบ้านไร่เป็นของกู๋แดงน้อง ชายแม่ มาจอดที่หน้าร้านเลิศฟ้า คนบ้านไร่มาเสริมสวยก่อนไปเที่ยว สีเสื้อผ้าตัดกันชนิดแสบตา แดงเขียว ราวกับไปงานคริสต์มาส ต้องจัดเต็ม สวยเต็มที่ งานหน้าศาล แขกทำผมเต็มร้าน ยุ่งกันมือเป็นระวิง อย่างว่า ใคร ๆ อยากสวยก่อนไปเฉิดฉายในงานใหญ่ประจำปี บางคนได้เดินเที่ยวนิดเดียว เพราะดัดผมใช้เวลานาน แต่ทุกคนเริงร่าเที่ยวจนดึกดื่น ส่วนพวกเราขึ้นไปเล่นบนรถ ห้อยขาสองฝั่งมาหนีบขากัน มือใครหล่นจากราว เป็นอันแพ้ พอโตหน่อยไปพายเรือเล่นในโรงเรียนชลกันยานุกูล สองคนกับหมวยนิ เล่นกันหลายคืน มีอยู่หนึ่งคืน งิ้นเพื่อนบ้านรูปร่างอ้วนมาขอนั่งเรือด้วย พอลงเรือไม่นาน เรือจมเลย น้ำหนักเกิน เมษาหน้าร้อน งานยิ่งใหญ่สุด 10 วัน 10 คืน หนุ่มสาวหาเรื่องเที่ยวกันทั้ง 10 คืนนั่นแหละ มันเป็นโอกาสที่จะได้เดินจู๋จี๋ จีบกันอย่างเปิดเผย คู่ใครคู่มันกันเลย เพราะเป็นเมษาที่จะมีฝนหลงฤดู ตกลงมาห่าใหญ่ช่วงสงกรานต์ ทำให้บรรดานายอำเภอที่ดูแลสร้างเวทีบางคนไม่เข้าใจ ไม่ลงทุนสร้างให้ใหญ่โตแข็งแรงต้านลมพายุได้ ทำให้เละพังไม่เป็นท่า แต่ละอำเภอต้องแข่งกันสร้างเวที สร้างเมืองตามแต่จะคิดให้อลังการ ใหญ่โตสวยงามที่สุด บริเวณที่จัดงาน จะทำซุ้มประตูเพื่อเก็บตั๋วเข้างาน สวยงามมาก แต่ละปีไม่ซ้ำกัน พี่กมลแฟนของพี่ไพเป็นนายช่างใหญ่ที่ออกแบบซุ้ม อวยกันเอง ร้านค้าที่ขายของจะขายกันชนิดเอาทุนคืน ก่อนงาน หลังงานนานอักโข นานเป็นเดือน ๆ กันเชียวแหละ สมัยนี้ไม่ตื่นเต้นกัน ตลาดนัดผุดขึ้นมาเป็นดอกเห็ด ไม่ต้องรอมาซื้อที่นี่ สารพัดของที่จะขายตั้งแต่ชิ้นเล็กชิ้นน้อย นึกถึงสำนวนสากกะเบือยันเรือรบ ขายรองเท้าติดป้ายว่า ซื้อ 1 แถม 1 พอเข้าไปถาม กลายเป็นซื้อ 1 ข้าง แถมอีก 1 ข้าง เป็นงั้นไป ไอศกรีมเป็นของอร่อย ทั่วไปตามร้านไม่ค่อยมีขาย ไม่เหมือนเดี๋ยวนี้มีขายเกร่อไปหมด ยิ่งไอศกรีมจากจีนมีทั่วบ้านทุกหนแห่งไม่แพงอีกต่างหาก เฟอร์นิเจอร์ไม้สักดี ๆ ชิ้นใหญ่ต้องรอซื้อที่งานหน้าศาล ตู้เตียง สารพัดไม้สุดสวยงาม ทนทานแข็งแรง ชนิดใช้ได้ชั่วลูกชั่วหลาน น่าจะมีรถบริการขนส่งถึงบ้าน แต่ไม่เคยรู้ราคา เพราะไม่เคยเข้าไปถามไถ่ ไก่ย่างนี่จำต้องขาย เป็นของที่ต้องกินทีเดียว จำว่าทั้งตัว 16 บาท อย่างว่าอัตราเงินเฟ้อทำให้คนรุ่นหลังงงไปตาม ๆ กัน มีทั้งขายตามร้านรอบนอก แต่จะให้เท่ต้องกินในร้านของแต่ละอำเภอ จะมีสาว ๆ อโกโก้มาเต้นโชว์ ดนตรีคลอ โก้ซะไม่มีดี มีต่อยมวยบนเวที ลานเต้นรำสาว ๆ นุ่งกระโปรงสั้น ๆ ให้หนุ่มตีตั๋วขึ้นไปรำวง เป็นรอบ ๆ ไป ชิงช้าสวรรค์นี่เคยขึ้น ถ้าโชคร้ายชิงช้าอยู่ยอดสุดแล้วต้องหยุด ให้คนอื่นขึ้น สุดเสียวเลยนะ แต่หนุ่มสาวที่เพิ่งรักกันคงโอเคแหละ หนุ่มสาวต้องกินไก่ย่างในร้านแต่ละอำเภอ ที่หนุ่มต้องเปย์ ซึ่งเป็นเรื่องยุ่งยากมาก แม่จะสอนลูกศิษย์ที่จะออกไปเที่ยวกับหนุ่ม ๆ ให้ระวังท่าทางกินไก่ย่าง ห้ามหยิบน่องไก่ เนื้อชิ้นใหญ่แทะกระดูก ไม่งดงาม ทั้งที่อยากทำ ต้องสงวนท่าทีกันหน่อย อาจซื้อห่อกลับบ้านมาแทะกระดูกกันต่อที่บ้าน สุดทางของงานต้องริมทะเล เด็ก ๆ ไม่ได้รับอนุญาตให้เยี่ยมกรายเข้าใกล้ ได้ยินแต่เสียงเพลง ต่อมาเรียกกันว่า เพลงจ้ำบ๊ะ เป็นเพลงฝรั่งเร่าร้อน cherry pink and apple wine ข้างในมีอะไร ไม่เคยรู้เหมือนกัน คงมีแต่หนุ่ม ๆ ที่ได้เข้าไป แค่เดินรอบงาน สุดเมื่อยแล้วสำหรับเด็ก ๆ คงไม่มีปัญญาเดินไปไกล ๆ ถึงโรงจ้ำบ๊ะกันหรอก ต้องตั้งใจจริง ๆ สำหรับหนุ่ม ๆ ที่ตรงนี้เดิมเรียกตำหนักน้ำ เป็นเรือนไม้อยู่ไกลออกไป เหมือนจะเป็นสะพานที่ยื่นออกไปในทะเล เมืองชลมีสะพานที่ยื่นออกไปในทะเลหลายแห่ง แต่ตำหนักน้ำนี่เท่สุด เพราะเป็นที่สาธารณะ ส่วนสะพานอื่นเป็นของชาวบ้าน มีบ้านเรือนริมทะเล แล้วแต่ขนาดของสะพาน แรก ๆ จะมีไม้กระดานหลายแผ่นหน่อย เดินออกไป ไม้กระดานเหลือน้อยแผ่น ตอนเป็นเด็ก เคยถือถาดของงานหมั้น เดินบนสะพาน บ้านเจ้าสาวอยู่ปลายสะพาน เดินบนกระดานแผ่นเดียว เสียวมั้ยล่ะ ผู้ใหญ่ต้องรอลุ้นว่าจะมีเด็กเดินตกสะพาน อยากรู้ชื่อสะพานเมืองชลที่คล้องจองกัน ลองเปิดเนตเห็นแต่ชื่อสะพานชลมารควิถี ที่จริงไม่น่าเรียกสะพาน เป็นถนนที่ยื่นออกไปในทะเล เลียบชายฝั่งจากแยกใกล้อ่างศิลาจนถึงหน้าวัดเขาบางทราย สวยงามอลังการมาก มองเห็นแผ่นน้ำผืนฟ้า บางวันน้ำทะเลหนุนสูง น้ำขึ้นมาถนนนี้ สะพานท่าเรือพลี จะคึกคักเย็นวันเสาร์ ต้องใช้เวลาค้นนาน แล้วไม่เจอ ต้องค้นว่าชื่อซอย ไม่ใช่ชื่อสะพาน 34 ซอยที่แต่เดิมเป็นสะพานยื่นลงไปในทะเลชลบุรี เป็นสะพานไม้เรียงทอดยาวต่อกัน เลยได้ชื่อมา #ชื่อสะพานหรือซอยที่คล้องจองกันของชลบุรี ตอนเป็นเด็กจะท่องชื่อสะพานเหล่านี้ได้ ราชวิถี ศรีบัญญัติ รัฐผดุง บำรุงเขต เจตน์ประชา ฑีฆามารค ภาคมหรรณพ์ จันทร์สถิตย์ พิทย์สถาน บ้านลำภู คูกำพล กลป้อมค่าย บ่ายพลนำ สำราญราษฎร์ ชาติเดชา ท่าเรือพลี ศรีนิคม ปฐมวัย ไกรเกรียงยุค สุขนิรันดร์ เสริมสันติ อดิเรก เอกวุฒิ อุทยาน ธารนที ปรีดารมย์ ชมสำราญ ย่านโพธิ์ทอง คลองสังเขป เทพประสาท ราษฎรประสิทธิ์ จิตประสงค์ จงประสาน เทศบาลสมมุติ ชุดที่ใส่ต้องสวยงาม มีซับในเหมือนสุ่มไก่ ให้กระโปรงพอง ๆ ทว่ามันคันยุบยิบตอนนั่ง เด็ก ๆ เดินได้ไม่นาน งอแงเพราะง่วง ครั้งหนึ่งมีงานใหญ่ตอนกลางวัน น้องสาวเคยรอแม่กับช่างที่ร้านจะไปเที่ยว เมื่อแขกทำผมเยอะ น้องผล็อยหลับ ทุกคนออกจากร้านไปแล้ว นึกได้ว่าน้องสาวไม่ได้ออกมาด้วย ต้องกลับมาปลุกให้น้องตื่น ภาพอดีตไม่มีอีกแล้ว ภาพงานเปลี่ยนไป ไม่ได้ไปเดินเที่ยวงานสงกรานต์เมืองชลหลายปีดีดักแล้ว |
บทความทั้งหมด
|