ณ เมืองท่าพาราณสี หลายปีดีดักมาแล้วสมัยนั้น ยังมีพระราชา พระนามว่า “ปุ๊กลุก”ทรงเป็นพระราชาผู้ยิ่งใหญ่ เป็นที่รักของพสกนิกรพระเจ้าปุ๊กลุก มีพระโอรสรูปงามอยู่องค์หนึ่งนามว่า “ จันทโคนม “ ผู้ทรงเป็นที่รักยิ่งของพระบิดาเมื่อทรงเจริญวัยใกล้ฝันเปียก ธรรมดาตามธรรมเนียมสมัยนั้นก็ต้องทรงออกเดินทาง ไปแสวงหาพระอาจารย์ผู้ทรงเวทย์สิปปาจารย์สมัยนั้น ก็นิยมอยู่ในป่าในดงกันนักเชียว นิยมฆ่าเสือแล้วเอาหนังมันมาห่ม กลายเป็นแฟชั่นหนังสัตว์ มาจนกระทั่งสมัยปัจจุบันนี้ไม่เชื่อ ก็ต้องเชื่อว่าแล้วไม่รอช้า ด้วยฮอโมนเพศอันดีดดิ้น ห้าวหาญปานแรดเมายาจันทโคนม ก็กราบลาพระบิดา ออกเดินทางสู่ป่ารกทึบทันที...เจ็ดวันผ่านไป พระองค์ก็โผล่พระพักตร์ออกมาคือหลงทาง ดันทะลึ่งไปคนเดียว สมน้ำหน้าพระบิดาทรงล้อเลียนลูกชายจนหนำใจ จากนั้นจึงให้พรานป่าผู้เชี่ยวชาญในการหาเห็ดเดินทางไปเป็นเพื่อนเจ็ดวันผ่านไปอีกองค์ชายจันทโคนม ก็เหลือเพียงพระองค์เดียวเดี่ยวโดดเพราะพรานป่าคนนั้น โดนชะมดน้ำคาบไปกินซะแล้วตาย ขณะลงไปงมหอยแต่พระองค์ชาย ก็หาได้หวาดกลัวต่อพงไพรไม่พระบาทยังคงย่ำสวบๆไปบนผืนป่า ทรงเดินหาแหล่งน้ำ หาดินโป่ง เผื่อฤาษีจะลงมากินน้ำกินโป่งแถวนั้นบ้างมั่วมากๆ ทรงเข้าใจว่าฤาษี เป็นกระทิงชนิดหนึ่งจากนั้นก็ทรงเดินโต๋เต๋ เข้าไปในป่าไผ่แห่งหนึ่ง...ในดงไผ่นั้น เงียบสงบ จนดูวังเวงกลิ่นสาบสัตว์ลอยเตะแก้มซ้ายของเจ้าชายโคนม ตรงนั้นมีหัวสิวด้วยซี้ดมากๆสายพระเนตรลอกแลก เห็นหน่อไม้แหลมๆ ก็ทรงพระทัยหายให้ตายสิ นี่เป็นครั้งแรกที่พระองค์รู้สึกหวาดกลัว“ โฮกกกกกกกกก...โฮกกกกกกกกก.. “ เสียงหนึ่งดังขึ้น ท่ามกลางความเงียบเวลาใกล้พลบค่ำ องค์ชายขนลูกซู่ “ เสียงงูเหลือม “ พระองค์เดาเอา ทรงย่องๆไปทางต้นเสียงด้วยความอยากรู้ริ้วสีดำสลับเหลืองของเสือลายพาดกลอนปรากฎขึ้นตรงหน้า!!“ งูเหลือมจริงๆด้วย” พระองค์เดามั่วมาก เป็นเจ้าชาย ก็เลยไม่ค่อยได้เห็นสัตว์พวกนี้น่ะ“ โฮกกกกกกกกกกก..” เสียงนั้นคำรามขึ้น พระองค์ทรงตกพระทัยสุดขีด“ ว๊ายยยยยยยย...ตายแล้ว!! “ พระองค์อุทานแบบแมนสุดๆ น้ำเสียงห้าวทุ้มเจ้าของเสียงหันขวับ หนวดเคราขาวเฟิ้ม นั่นคือฤาษี นั่นเองโดนหนามตำเท้าเอา ร้องโฮกๆเชียว“ งูเหลือมมีหนวด!!” ทรงอุทาน พร้อมถอยกรูด กลัวโดนฤาษีรัดโว้..จะมั่วไปไหน... หลังจากทำความเข้าในกันอยู่พักใหญ่ฤาษีก็พาเจ้าชายไปยังอาศรม พร้อมกับเสกแผลที่โดนหนามตำให้หายดีได้อย่างไม่น่าเชื่อ เจ้าชายทึ่งสุดๆ เกิดศรัทธา ขอฝากตัวเป็นศิษย์ทันทีฤาษีเล่นตัวนิดหน่อยพอเป็นพิธี เจ้าชายก็เอาภาพวาดนางสนมคนโปรดในชุดแพรบางเบามาล่อฤาษีเหล่ๆ โบกมือโบกไม้ว่าไม่ยุ่งเกี่ยวโลกีย์แล้วแต่เผลอแป๊บเดียว ภาพหายไปไหนไม่รู้ เห็นแต่ขอบแพมๆ ใต้อาสนะและแล้ว เจ้าชายก็ได้เป็นลูกศิษย์ของฤาษีเฒ่าด้วยประการฉะนี้...เจ็ดปีผ่านไป ไวเหมือนลิงขี่จรวด...“ เจ้าคงต้องไปแล้วสินะ โค “ ฤาษีเรียกสั้นๆ“ ขอรับ พระเจ้าตา “ โคนมทำหน้าฉอเลาะ“ ฤาษีอย่างตา เป็นเพียง นักปลุกปลอบชีวิต ทั้งชีวิตตัวเองและผู้อื่น ชีวิตนั้นวุ่นวาย และเศร้านัก ตาจะมอบสิ่งที่จะทำให้ชีวิตของเจ้านั้นสงบเย็นมากขึ้น “ว่าแล้วฤาษีชราก็ยกแขนขึ้น เผยให้เห็น “ วงแขน “ อันอุดมไปด้วยขนจั๊กแร้ขนแต่ละเส้นนั้นเงางามอย่างไม่น่าเชื่อ มือประนมอยู่เหนือหัว พลางบริกรรมคาถา“ โอม...เส้นใดไม่ชอบจั๊กแร้ข้า จงร่วงไป “ ขนจั๊กแร้เส้นหนึ่งก็ร่วงผล็อยฤาษีจับมันมาบริกรรมคาถาต่อ เป่าปู้ดดดด...แล้วเหน็บเข้าไปในจั๊กแร้อีกครั้ง...แสงสว่างวาบชวนแสบตา ขนเส้นนั้น สันดาปตัวเองภายใต้วงแขนพลันปรากฎเป็นผอบอันหนึ่ง สีสันสวยงาม“ เจ้าจงเปิดมัน เมื่อไปถึงบ้านเมืองเจ้าเท่านั้น “ ฤาษีสั่งเจ้าชายโคนมกราบลาอาจารย์ พยายามทวงภาพนางสนมคืน แต่ไม่สำเร็จแล้วจึงออกเดินทางอนิจจา ระหว่างเดินทางนั้น ด้วยความอยากรู้จันทโคนม จึงยอมเสียสัตย์ เปิดผอบออกดูและแล้ว สิ่งที่อยู่ในผอบนั้น ก็เผยตัวมันคือ “ โน๊ตบุ๊กโซนี่ รุ่นรวมโปรแกนอรรถประโยชน์ทุกสิ่งทุกอย่าง แบตไม่ต้องชาร์ตตลอดชาติสัญญานเน็ต ลิ้งก์ตรงจากสวรรค์ชั้นดุสิต ผ่านไทม์แมชีนสู่ยุคปัจจุบัน ““ นี่มันอะไร? “ เจ้าชายงง พยามใช้ฟันแทะ นึกว่าเห็ดชนิดใหม่พระองค์มองไม่เห็นประโยชน์ จึงทิ้งมันไปเสียโอ้หนอ..ถ้าพระองค์เปิดที่บ้านเมืองของตัวแล้วไซร้มันจะมีคู่มือมาให้ด้วยนะเออ...นิทานเรื่องนี้ สอนให้รู้ว่า“ของมีค่า อยู่ไม่ถูกที่ถูกเวลา ก็ไร้ค่า”นะจ๊ะจบแล้วจ้า...โจทย์ประจำหลักกิโลเมตรนี้คือ "การสันดาปในวงแขนของนักปลุกปลอบชีวิต"ของลูกพี่ก๋านั่นเอง กติกาคือ เขียนให้มีคำเหล่านี้ ประกอบอยู่ในเรื่อง ใช้เวลาเขียนเกือบสองชั่วโมงเต็มปวดตับมากๆเลยเชียวหวังว่าจะสนุกนะครับ...ใครเขียนบ้าง มาดูกันตะพาบ พธูตะพาบ กลิ่นดอยตะพาบ ซองขาวเบอร์ 9ตะพาบ กะว่าก๋าตะพาบ nikandaตะพาบ JewNidตะพาบ peeampตะพาบ mastanaตะพาบ ท่านหญิงน่าเกลียด อัพเดตเรื่อยๆจ้า..ส่วนโจทย์ข้อต่อไป จะบอกพรุ่งนี้นะครับมันยาวมากแล้ว อัพกันอีกที วันที่ 26 นู่นนะครับคราวนี้ เป็นโจทย์ของเป็ดน้อยเองจ๊ะ
แล้วก็ไม่ได้ร่วมกินตะพาบ อีกจนได้... ไว้รอบใหม่เนอะขอบคุณสำหรับภาพเอริ ยั่วน้ำลายเฮ้อ.... อยากเป็นนักศึกษาจีนในญี่ปุ่นมั่งอ่ะเนอะ
โห เร็วมากเลยค่ะ
เลยเวลาแค่ 13 นาที
อ่านแล้ว นั่งขำอยู่คนเดียวนะคะ