มกราคม 2554“ ได้รับคำร้องขอ เชิงข่มขู่ ให้พาเจ้าคนนี้มาอยู่ด้วยเจ้าน้องชายสุดหล่อ บอกว่า เจ้านี่ ชื่อปีแอร์อ่านจากประวัติความเป็นมา และเหตุผลที่ทำให้เจ้านี่ปลีกวิเวกจากถิ่นพำนักก็ถึงกับหนักใจอยู่เล็กน้อย ไม่รู้ว่าอยู่กับเราจะดีขึ้น หรืออาจจะสับสนทางเพศไปเลยก็เป็นได้ไปรับมันมาตอนต้นเดือน ขลุกกันอยู่ที่ห้องเลี้ยงด้วยกับข้าว ของป้าแหลมโภชนา มันบอกว่ามันเป็นคนฝรั่งเศสแต่ดูแล้ว น่าจะเป็นเศษฝรั่ง? กินปลาร้าเป็นต่อนๆ ฉีกกินแบบดิบๆมันบอกว่าที่นี่ ร้อนกว่าบ้านมันนิดหน่อย นี่ขนาดหน้าหนาวแล้วนะเข้าเมษาล่ะแอร์เอ๋ย เอ็งได้ผมร่วงแน่คนบ้าอะไร มีผมอยู่สี่เส้น?พาไปเดินจตุจักร มันชอบใจใหญ่ ตอนนี้กำลังฮิตใส่กางเกงเจเจก็ดูเข้ากับมันดี เหมือนเงาะป่า แต่ผมไม่หยิก และมีแค่สี่เส้น “....กุมภาพันธ์ 2554“ ไอ้ปีแอร์มันไวไฟ เจ้าชู้ไม่เบามันบอกว่ามันพบรักเข้าแล้วโอ้ว คุณพระคุณเณร!!มันถามเราว่า จำหมาสีดำที่อยู่ปากซอยได้ไหม?ที่ชอบกินโอรีโอ้น่ะ ?เราก็บอกว่าจำได้ มันบอกว่า ที่แท้เจ้าของหมาน่ะ เป็นสาวสวยเชียวนะ เธอชื่อว่า “ พจเม่น “อยูที่ “ บ้านควายทอง “ ตรงซอยถัดไปนี่เองมันเล่าวีรกรรมของตัวเองให้ฟังว่า ไอ้หมาตัวดำตัวนั้นน่ะ เกือบโดนรถชนเพราะมันนอนละเมอ แล้วดันเดินไปกลางถนน ไอ้ปีแอร์กระโดดเข้าไปช่วยชีวิตมันไว้ได้ทันก่อนที่ตัวมันเอง จะโดนจักรยานป็อบปี้คันหนึ่ง ซึ่งวิ่งมาด้วยความเร็ว แล่นทับนิ้วโป้งจนสลบไปมันตื่นมา ในห้องไอซียู แล้วพบว่า มีสาวน้อยตาคมผมยาว ผิวขาวอมยิ้มกริ่ม นั่งอยู่ตรงปลายเตียงมันไม่ได้ถาม ว่า ทำไม ไม่มานั่งข้างๆเตียง?เพราะมัวแต่ตกตะลึงในความงามของเธอปีแอร์ ให้เม่นตัวเล็กๆ ที่ฝนหนามจนทู่แล้ว เป็นของขวัญแด่เธอในวันวาเลนไทน์เธอขวยเขิน พลางเอาหนามเม่นทิ่มก้นตัวเองแก้เขินดีที่มันไม่แหลมมาก และดูท่าทาง ปีแอร์จะชอบเมืองไทยเข้าแล้ว “....มีนาคม 2554“ อากาศเริ่มร้อน ไม่ต่างอะไรกับรักของปีแอร์รักต่างเชื้อชาติของมัน เจอตอตะเคียนเข้าแล้วเมื่อ พจเม่น เธอดันมีคนรักอยู่แล้ว นั่นก็คือ “ชายก้าง”ชายก้าง เป็นผู้มีพระคุณ ช่วยให้พจเม่น ได้พิสูจน์ตนเองว่าที่แท้ เธอก็คือเชื้อสายของสกุล “ สว่างโล่ “ ซึ่งถูกกลั่นแกล้งจนต้องระเหเร่ร่อน ตกระกำรำตัด ต้องรับจ้างปีนมะพร้าวอยู่ตั้งหลายปีแต่หลังๆนี่ ชายก้างเริ่มจะติดสนุกเกอร์ ชอบเล่นซอดแจ้งเป็นประจำไม่ใช่ที่ไหน ตรงข้างตึกที่เราอยู่นี่เอง เสียงโวยวายเชียวปีแอร์ถึงกับหน้าเหี่ยวไปหลายวัน พจเม่นเองก็ดูเหมือนจะดราม่าเหมือนกันโถ ..กลายเป็นรักสามเส้า กับเม่นตัวนึงไปซะได้ “...เมษายน 2554“ ปีแอร์อกหัก จากพจเม่นหน้าร้อน ยิ่งทำให้ปีแอร์หงุดหงิดต้องพามันไปเล่นสงกรานต์หน่อย ปีแอร์ กลับมาใส่กางเกงเจเจหลังจากเลิกใส่มาพักหนึ่ง ตอนที่หลงรักพจเม่นปีแอร์ สนุกนานกับการปะแป้งสาวๆ ไปเล่นกันที่ถนนข้าวสาร ฝรั่งเต็มไปหมดผมทั้งสี่เส้นของมันยังอยู่ดี และเปียกลู่ไปกับหนังหัวลื่นๆของมันไอ้แอร์เล่นน้ำจนเป็นหวัด รู้สึกมันจะชอบหนังที่เราพาไปดูตอนปลายเดือนชื่อเรื่อง “ เรียกข้าว่า ไอ้สามหู “ พระเอกในเรื่อง มีหูอีกหูอยู่กลางหน้าผาก ผู้ร้ายกก็โคตรเหี้ยม แถมชอบกินอาหารปลาซากุระด้วยพวกผู้ร้ายในหนังก็งี้แหละ มักมีนิสัยแปลกๆ เอาไว้ข่มขวัญคนดู “....พฤษภาคม 2554“ เดือนหน้า จะพาเจ้าปีแอร์ กลับไปเยี่ยมบ้านนอกบ้านนอกจริงๆนะนอกโลกโน่นแน่ะ ดูมันตื่นเต้นใหญ่ที่รู้ว่าเรา ไม่ได้เกิดที่โลกใบนี้แต่น้องชายเรา เจ้าเป็ดนรกนั่น เป็นน้องบุญธรรมและเป็นมนุษย์นะไอ้แอร์ ถามเราว่ารู้จักเจ้าพวกที่อยู่ในยานและเข้าสิงควายของมันหรือเปล่ามันมาจากดาวไหน?เราก็ไม่แน่ใจนะ แต่คิดว่า น่าจะอยู่แถวดาวคะนองฝนเริ่มตกมาตั้งแต่กลางเดือน ปีแอร์ท้องเสียเพราะมะม่วงกระสอป้าแหลม “...มิถุนายน 2554“ ฝนตกแฉะๆ เจ้าปีแอร์นอนแหมะมันหัวเสีย เพราะเราไปอำมันว่าเราเป็นมนุษย์ต่างดาวมันยิ่งกำลังอิน ฮ่ะๆแต่ก็ดีหน่อย ที่ช่วงนี้ มันตกหลุมรักอีกครั้งคราวนี้กับสาวน้อยตากลม เจอกันตอนหลบฝนอยู่ข้างซ่องแถวๆหัวลำโพงทราบชื่อทีหลังว่าเธอชื่อ “ ดาวปลาดุก “ไอ้แอร์ แทบไม่เชื่อว่าเธอจะเป็นผู้หญิงอย่างว่า ซึ่งก็จริงเพราะเธอเล่าให้ฟังว่า ทุกครั้งที่มีคนออฟเธอ พอถึงตอนเข้าด้ายเข้าเข็มเธอจะให้ไอ้ชด คนจรจัดแถวนั้น มาสวมรอยแทนเธอทันทีซึ่งลูกค้า ก็ไม่มีใครเอะใจเลยไอ้แอร์ ประทับใจในความห่ามของเธอ ทั้งคู่มักมาพรอดรักกันข้างตู้เย็นที่ห้องเราเป็นประจำและอีกครั้งที่มันต้องอกหัก เพราะน้องดาวปลาดุกไปเจอแขกใจถึงที่ไม่ยอมปิดไฟแถมเมามายซะจนคุมสติไม่อยู่ เธอโดนเจาะไข่เหลืองจนได้และไปสร้างตำนานรักกับไอ้หนุ่มนั่นในที่สุด “....กรกฎาคม 2554“ กลับบ้านตุเลงปีแอร์ กลับถิ่นฐานหนองคายมหานครภูเขาหลังบ้าน ยังอยู่เหมือนเดิม ท้องทุ่งนายังคงเงียบสงบ ไม่มีปากเสียงเถียงคำปีแอร์ท่าทางจะชอบที่นี่แต่ไอ้ทิม หมาประจำบ้าน ดูจะไม่ชอบปีแอร์ คงเป็นเพราะผมทั้งสี่เส้นของมันนั่นเองปีแอร์ คันไม้คันมือ เมื่อเห็นฝูงควายพากันวิ่งเล่นน้ำอยู่กลางทุ่งมันคงคิดถึงควายของมันอ่ะนะนาบางแปลง เริ่มปักดำ สิ่งที่เปลี่ยนไป แรงงานที่ใช้ในการดำไม่ใช่แรงคน แต่เป็นแรงของเครื่องยนต์ที่ทำได้เร็วกว่าแต่มันก็ทำให้รู้สึก ว่าบางสิ่งบางอย่างได้เหือดหายไปอะไรกันนะที่หายไป? “...สิงหาคม 2554“ ต้นไม้ใบหญ้าของเดือนสิงหาคม ดูเขียวเข้มเพราะฝนที่เทกระหน่ำปีแอร์ชอบวิ่งเล่นน้ำฝน ชอบวิ่งไปตามคันนาและกระโดดลงไปงับปลาในแปลงข้าวเสมอๆดูท่าทางมันจะอินกับธรรมชาติมากไปแล้วนะปีแอร์ชอบนอนเกลือกขี้โคลนกับวัวควาย ชอบแอบยิ้มให้ควายตัวเมียเราชักสงสัย เลยพามันไปพบตาเถรที่วัดในหมู่บ้านปรากฎว่า ไอ้แอร์มันโดนปอบเข้าโอวววววววว....ลำบากต้องไปหาใบหนาดมาให้มันกินกันยกใหญ่เผื่อจะออกได้ เล่นเอาลิ้นลากเพราะมันไม่ใช่ปอบธรรมดาแต่เป็น ปอบ อารียา อดีตนางสาวไทยเชียวนะ (ฮา )ไม่ฮาก็แล้วไป “...กันยายน 2554“ ต้นเดือน มีพายุเข้ากอไผ่ข้างบ้านส่งเสียงลั่นโผละผละไอ้แอร์มันกลัว มันบอกว่านั่นน่ะเสียงผีปอบจามมันตัวสั่นงันงก พวกเราก็พากันขำใกล้ออกพรรษา เริ่มมีการจองกฐินเตรียมงานกันยกใหญ่ ไอ้แอร์ก็เอากะเค้าด้วยไปช่วยเขาเย็บผ้า ช่างไม่เข้ากับหน้าของมันเล้ยแต่ก็นั่นแหละ ทำให้มันได้พบกับ “ อีส้มเขียวหวาน “ลูกสาวกำนันจอมแก่นเซี้ยวอีส้มเขียวหวาน ไปหายิงกะปอมแถวๆวัดไอ้แอร์เลยด่าให้ อีส้มมันก็ไม่พูดอะไรเลย มันกำมือแน่นลูกเดียวคงเป็นเพราะมันเป็นลูกสาวกำนันนั่นเองและแล้ว ตำนานรักแห่งทุ่งควายเหงาก็เริ่มขึ้น “...ตุลาคม 2554 “ ออกพรรษา ไอแอร์ฟ้อนรำเกี้ยวสาวในหมู่บ้านฟ้อนไปถึงอีส้มเขียวหวานแล้วเขาและเธอก็รักกันเลยเฮ้ย!!ง่ายจัง?นั่นแหละครับ ความรักไม่มีเหตุผลที่แน่นอนหรอกครับบางครั้งก็มั่วๆแบบนี้แหละ-*-มันสองคน ชอบไปขี่ควายเล่นที่ท้ายทุ่งชาวบ้านก็ด่ากันขรม เพราะมันสองคนชอบแอบไปกัดกินต้นข้าวของชาวบ้านส่วนควายนั้นเล็มหญ้าอยู่อย่างสงบเสงี่ยมดูท่ามันจะรักกันดี “...พฤศจิกายน 2554“ ปลายฝนต้นหนาวลมหนาวพัดผ่าน ข้าวออกรวงและเก็บเกี่ยวเสร็จตอนต้นเดือนอีส้มเขียวหวานกับไอ้แอร์ เกี่ยวข้าวด้วยกันร้องเพลงฮิปฮอพจีบกัน ป้อนหนูนาให้กันกินเป็นที่น่าอิจฉาของพวกเรายิ่งนักปีแอร์ ตัดต้นข้าวมาทำเป็นปี่ภูธร เป่ากล่อมเจ้ากลอยใจรุ่งขึ้น มันก็ไปขออีส้มกับลุงกำนันแกก็ยกให้ เพราะชอบผมสลวยสวยเก๋ของมันทั้งสี่เส้นเอ้อ..ความรักนี้ เหนือการคาดเดาจริงๆหนอ “...ธันวาคม 2554“ หน้านาวเข้ามาเยือนเต็มตัวแต่บางคนกำลังอุ่น เพราะพากันไปฮันนีมูนตรงริมห้วยไอ้แอร์และอีส้มเขียวหวานเมียสาวนั่นเองมันขี่ควายพรอดรักกันทุกเช้าค่ำเชียวแล้ววันหนึ่ง ไอ้แอร์มันก็วิ่งหน้าตาเหรอหรามาหาเราบอกว่ามันเจอควายของมันแล้วมันก็คือควายตัวที่พวกมันขี่กันอยู่นั่นแหละมันจำได้ เพราะควายของมันนั้น มีปานแดงอยู่ที่ซอกขาหลังข้างขวาสืบไปมา ก็รู้ว่า ควายตัวนี้ อยู่ดีๆมันก้มายืนงงๆอยู่ในคอกลุงกำนันเลยเลี้ยงไว้เป็นควายบุญธรรมไอ้แอร์เห็นทีจะไม่กลับบ้านเก่าแล้วล่ะครับถึงจะเจอควายแล้วก็เถอะเราก็ดีใจ ที่มันหายเซ็งโลกจนได้สวัสดีปีใหม่ล่วงหน้าครับ “ -------------------เสร็จจนได้ครับประชาชนชาวตะพาบที่รักเอิ้กๆๆงานมาเข้าช่วงนี้พอดีเด้อเน็ตก็ไม่เป็นใจน้อเจอกันใหม่ โจทย์หน้าครับพรุ่งนี้ ไปดูที่บ้านคุณพู่เด้อ
อิพี่โต้ง...