มาอีกแล้ว กับโครงการ " ถนนสายนี้ มีตะพาบ "ของเป็ดน้อและผองเพื่อนนะครับงานนี้ มีโจทย์สุดหิน ก็คือประโยคนี้ครับ"ปีบ หูดชะลูดหลังเขาเงาของเราก่ายกอดกันและกัน"มาอ่านดูกันนะจ๊ะ-------------------------ย้อนไปในอดีตกาล นานแสนนานมาแล้วล่ะ..ยังมีพระราชาพระองค์หนึ่ง พระนามว่า “ เฮียกวง “ทรงปกครองอาณาจักรอันรุ่งเรื่อง นามว่า “ ตุ๊ “พระราชาทรงมีพระราชีนีคู่บุญ ทรงพระนามว่า “ เจ๊ก้อย “สองคนนี้ ไม่ได้มีบทบาทมากนัก รู้จักแค่นี้ก็พอวันหนึ่ง พระราชินี เจ๊ก้อย ทรงพระดำเนินไปขุดจิ้งหรีดกลางทุ่งนากับเหล่าข้าราชบริพารวันนั้นเป็นวันหิมะตก ท้องทุ่งนาขาวโพลนไปด้วยหิมะดูงดงามราวกับมีใครมาโปรยแป้งข้าวโพดเอาไว้นางจึงอธิษฐานในใจว่า “ถ้าแม้นว่าเรามีลูก ขอให้ลูกเราผิวขาวบริสุทธิ์ ดุจดังสีของหิมะนี้ “จากนั้น พระนางทรงเหลือบพระเนตรไปเห็นลิงกังตัวหนึ่ง ซึ่งมีก้นที่แดงมากพระนางก็ทรงอธิษฐานอีกว่า “ ต่อจากข้อแรกนะ ขอให้ลูกเรา มีริมฝีปากแดง ดุจก้นของลิงกังนี้ด้วยเถิด “...หลังจากนั้น พระนางก็ไปทำอิท่าไหนก็ไม่รู้ แต่พระราชา เฮียกวงนั้น ดูเหลืองลงไปถนัดตาทีเดียวส่วนพระนางก็ทรงพระครรภ์ และก็ทรงตกลูก เป็นพระราชธิดา ท่ามกลางความโล่งพระทัยกับคำขอของตัวเอง เพราะถ้าออกมาเป็นผู้ชายล่ะก็แม่เอ๋ย ผิวขาวปากแดง คงไม่พ้นเป็นเก้งแน่ๆเห็นดังนั้น พระนางจึงทรงตั้งชื่อพระราชธิดาว่า “ สโนว์วุ้น “ ซึ่งแปลว่า “ หิมะที่เป็นวุ้นๆ “นั่นก็เป็นเพราะพระนาง ทรงโปรดการดื่มเบียร์ที่เป็นเกล็ดน้ำแข็งเอามากๆนั่นเอง...อยู่มาวันหนึ่ง ไม่นานหลังจากพระประสูติการของเจ้าหญิงน้อยพระราชินีเจ๊ก้อย ก็ได้ไปสู่สวรรค์ชั้นฟ้าหลังจากโคม่าอยู่หลายวันหลายคนอาจจะสงสัย ว่าพระนางเป็นอะไรตาย?เรื่องมันก็มีอยู่ว่า วันหนึ่ง ขณะที่พระนางยืนชมวิวข้างหน้าต่างอยู่ดีๆก็มีลิงกังตัวหนึ่ง คาดว่าจะเป็นลิงกังตัวที่พระนางเห็นตอนไปขุดจิ้งหรีดตอนนั้น นั่นแหละมันกระโดดขึ้นมาเกาะบนกิ่งไม้นอกหน้าต่างก้นของมันแดงมาก พระนางเลยตกพระทัยก้นลิง อาการโคม่าจนสิ้นพระชนม์ไปในที่สุด....จากนั้นไม่นาน พระราชา เฮียกวง ก็ทรงเกรงว่าลูกน้อยของตนจะมีปมด้อยพระองค์จึงทรงมีเมียใหม่ซะเลย หน้าตาของนางผู้นี้ สะสวยผิดมนุษย์มนาใช่แล้ว นางหาใช่มนุษย์ปรกติไม่ หากแต่เป็น “ แม่มด “ใช่...นางมีลูกสาวอยู่แล้ว ชื่อมดบางคนสงสัยว่าใช่เหรอ?เอาเป็นว่า นางคนนี้ ได้ปลูกว่านต้องห้าม เล่นคุณไสยมนต์ดำแถมยังชอบเล่นตุ๊กตาบลายธ์ ด้วยว่านางนั้น เป็นผู้หลงไหลในรูปโฉมมากสุดท้าย ก็ถูกพลังมืดเข้าครอบงำ นางถึงกับสังหารลูกตัวเองเพราะเกรงว่าโตขึ้นมาแล้วจะสวยกว่าตนจนสุดท้าย ก็กลายเป็นแม่มดที่มีเวทย์มนต์ชั่วร้ายด้วยประการฉะนี้โหดชะมัด...นางนั้นมีกระจกวิเศษอยู่บานนึง ตลอดเวลานางก็จะถามว่า “ ใครนะ งามขนาดกว่าผู้ใดในโลกนี้ “กระจกบานนั้น ก็มักจะตอบว่า “ หล่อนนั่นแหละย่ะ “ อยู่ทุกเมื่อเชื่อวันจนเมื่อวันหนึ่ง ซึ่งเป็นวันที่ สโนว์วุ้น มีเม็นเป็นครั้งแรกกระจกบานนั้น ก็ตอบคำถามที่ทำให้ยัยราชินีใจร้ายช็อคแทบฟันโยก“ ยัยหน้าวอกนั่น สวยกว่าหล่อนย่ะ “ คือคำตอบที่ว่ามันช่างเป็นกระจกที่ดูดัดจริตและท่าทางจะปากจัดมากนังราชินีใจร้าย มีรึจะยอมให้ใครมาแย่งตำแหน่งภายในสมองอันชั่วร้ายของนางนั้น ปรากฎแผนชั่วร้ายออกมาทันทีนางวางแผนที่จะให้นายพราน ลอบสังหาร สโนว์วุ้น ขณะที่เธอไปเล่นกับแมวในป่าแล้วให้นายพรานโหด ควักหัวใจเธอมาด้วย... แต่เดชะบุญ ขณะที่นายพรานจะลงมือนั่นเอง แกดันเหลือบไปเห็นปานแดงที่จั๊กแร้ของเจ้าหญิงน้อยพอดีแกมีกฎอยู่ว่า “ จะไม่สังหารอะไร ที่มีปานแดงอยู่อย่างเด็ดขาด “เจ้าหญิงน้อยก็เลยรอด นายพรานยังบอกว่า อย่าได้กลับมายังเมืองนี้อีกเป็นอันขาดจากนั้น แกก็ฆ่าอีเห็นตัวนึง แล้วเอาหัวใจไปหลอกราชินีว่าเป็นหัวใจของเจ้าหญิงนังราชินีใจร้ายก็เชื่อ.......เจ้าหญิงสโนว์วุ้นผู้บอบบาง เดินโซซัดโซเซไปในราวป่าทั้งหิว ทั้งเหนื่อย ทั้งท้อแท้ เธอเป็นเพียงเจ้าหญิงตัวเล็กๆป่านี้ทั้งรก ทั้งน่ากลัว เธอจะเอาตัวรอดได้เช่นไรกันควายป่าตัวเบิ้มตัวหนึ่ง เดินผ่านหน้าเธอไปด้วยความหิว เธอจึงพุ่งตรงไปยังควายแล้วพุ่งหมัดอะบะคัตเข้าที่ท้องน้อยของมันอย่างจังควายโชคร้ายล้มฟุบลงกับพื้น ขาดใจตายทันทีเธอลากร่างของมันครืดๆๆ ไปบนพื้นหญ้าก่อไฟขึ้นหนึ่งกอง หมายจะปิ้งควายตัวนี้กินซะให้หายอยากแต่ปัญหาก็คือ เธอจะแร่เนื้อควายตัวนี้อย่างไร?... เจ้าหญิงผู้บอบบาง จึงออกเดินไปรอบๆบริเวณนั้นเผื่อจะมีบ้านคน ให้พอหยิบยืมมีดพร้าได้บ้างทันใดนั้น เธอก็ได้ยินเสียงแพะร้อง“ อุแว้ ๆๆ “ แพะป่าน่ะ มีเสียงร้องที่แปลกมากนะขอบอกเธอรีบซ่อนกายในพุ่มไม้แถวนั้น เพราะคิดว่าเป็นเสียงช้างป่าเอาเข้าไปพอรู้ว่าไม่ใช่ เจาหญิงจึงตัดสินใจ เดินไปตามเสียงนั้นข้างหน้าของเธอ ปรากฎบ้านน้อยหลังหนึ่ง“ ย้าฮู!! “ เธอส่งเสียงเรียกไม่มีใครตอบมาก็เลยถือวิสาสะเข้าไปในบ้านซะเลย ...ทุกอย่างในบ้านนั้น ดูเล็กกว่าขนาดทั่วไปเสียหมดเจ้าหญิงน้อย เดินสำรวจจนทั่วบ้านแอบจัดนู่นิดนี่หน่อย พยายามรื้อหาหนังสือโป๊ใต้ที่นอนทั้งเจ็ดอันก็ไม่เห็นจะมี เธอผิดหวังนิดๆและด้วยความเหนื่อยอ่อนล้าลุ่ย เธอจึงเผลอหลับไปขณะที่หัวพาดอยู่ขอบหน้าต่างนั่นเองหลับง่ายมากๆ น่ารักมั๊ย?...ไม่นาน เจ้าของบ้านตัวจิ๋วทั้งเจ็ดก็กลับมาจากเลี้ยงแพะเห็นสาวน้อยคอพาดขอบหน้าต่างอยู่อย่างนั้นก็เลยแอบถักเปียให้เธอซะเลย วู้วๆๆไม่นาน เธอก็ตื่นขึ้นมาทั้งสองฝ่ายต่างประหม่าเขินอายแต่สุดท้าย ทั้งหมดก็คุยกันจนทราบว่าเจ้าหญิงผู้บอบบาง เป็นคนที่ฆ่าควายป่าตัวนั้นควายป่าที่คอยมากัดกินแพะของพวกเขาบ่อยๆทั้งหมดจึงตกลงใจ ที่จะให้เจ้าหญิงน้อยอาศัยอยู่ด้วยแลกกับการทำลาบลู่ควายให้กินเป็นมื้อเย็นทั้งสองฝ่าย ต่างมีมิตรภาพให้แก่กัน...ฝ่ายนังราชินีใจร้าย ได้รู้ว่าเจ้าหญิงยังไม่ตายก็ชักดิ้นชักงอเข้า ดิ้นพล่าน กระทืบเท้าตึงตังทำตัวซึนเดเร๊ะนางจึงออกอุบาย ทำเนื้อแดดเดียวเอาไว้ในวันต่อมานางก็แปลงกายเป็นพ่อค้ากับข้าวหาบขายอาหารอีสานทั่วไปเดินท่อมๆ ไปยังกระท่อมอุ่นรักแห่งนั้นเจ้าหญิงน้อยได้เห็นเนื้อแดดเดียว ก็อดที่จะน้ำลายสอไม่ได้เธอจับมันเข้าปากในบัดดลจากนั้นก็ล้มตึงหงายเงิบลงกับพื้นทันทีนังราชินีดีใจ รำเซิ้งอยู่บริเวณนั้นตั้งนานสองนาน...เมื่อคนเลี้ยงแพะตัวแคระกลับมา ก็พบว่าเจ้าหญิงน้อยของพวกเขา ไม่หายใจเสียแล้วบางคนก็ว่าตายแล้ว บางคนก็ว่ายังไม่ตายด้วยความที่เธอขาว และตัวยังอุ่นๆอยู่เลยดูไม่ค่อยออกบางคนก็บ่นเสียดาย ว่าคงอดกินลาบอร่อยๆเสียแล้วทั้งหมด จึงนำร่างของเธอไปวางที่ลานกว้างบนแท่นหินที่ประดับด้วยดอกไม้สวยงาม หัวแท่น ประดับด้วย เขา ของควายตัวนั้นข้างแท่น มีต้นดอกปีบ ที่ดอกของมันกำลังร่วงหล่นจนสีขาวของมันเกลื่อนเต็มพื้น...วันรุ่งขึ้นนั่นเองเจ้าชายรูปงาม หุ่นสูงชะลูดแต่มีหูดเล็กๆ อยู่ตรงนิ้วโ้ป้งพระบาทซ้ายก็ออกมาตามหางูเหลือมของพระองค์ที่เลื้อยหายเข้ามาในป่านี้ทรงขี่ควายเผือกมาอย่างสง่างามใครเห็นเป็นต้องตะลึงเชียวล่ะพลันสายพระเนตรอันแวววาวของพระองค์กระเหลือบไปเห็นร่างของเจ้าหญิงสโนว์วุ้นนอนแอ้งแม้งอยู่บนแท่นบุพชาตินั่นพระองค์ปรี่เข้าไป ถึงเหล่าคนเลี้ยงแพะจะ บอกว่านางตายแล้วพระองค์ก็ไม่ฟัง“ ก็กูชอบของกูนี่ “ พระองค์ทรงบ่นงึมงำพระองค์ทรงกอดก่ายกับศพของสโนว์วุ้นฉับพลันทันใดนางก็ฟื้นขึ้นมาแต่ก็เคลิ้มๆ เพราะรสจูบอันหวานละมุนทั้งคู่ก็เลยกอดก่ายกันและกันอยู่อย่างนั้นหลังเขาควาย ใต้ต้นดอกปีบ กับเจ้าชายผู้สูงชะลูดและมีหูดแต่พองามและก่อนที่มันจะอีโรติคมากกว่านี้คนเลี้ยงแพะตัวแคระๆ ก็พากันจับเขาควายกระหน่ำฟาดเจ้าชายบ้ากามทันที บ้างก็ตบบ้องหูบ้างก็ด่าพ่อล่อแม่ ตามแต่กำลัง...ส่วนนังราชินีนั้นระหว่างทางดันเกิดหิวข้าวและเผลอหลับไปด้วยความเพลียเวรกรรมตามทัน นางจึงละเมอหยิบเนื้อแดดเดียวที่มีพิษเข้าปากตัวเองตายจ้อย...จบบริบูรณ์ปล.ถามว่าทั้งเจ้าชาย และเจ้าหญิง ได้กันหรือเปล่า?ได้ครับเพราะเจ้าชาย โดนฟาดซะความจำเสื่อมเจ้าหญิงก็ดูแลเอาใจใส่เจ้าชาย กลับตัวเป็นคนดีสุดท้าย ก็ได้กันจ้อย-------------------...เพื่อนบล็อกที่รักครับ บล็อกนี้ อาจจะมีคำราชาศัพท์ที่ไม่เหมาะสมอยู่บ้างนะครับมีลูกบอกลูก มีหลาน บอกหลาน มีเมียน้อยบอกเมียน้อยนะครับอย่าเอาเยี่ยงอย่างเชียวต่อไปเป็นโจทย์กิโลเมตรที่เจ็ดไม่ยากเลยครับ โจทย์นั้นก็คือให้ทุกคน เขียนเกี่ยวกับ “ ดาวลูกไก่ บ้านบนเนินเขา และ บทสนทนาในค่ำคืนหนึ่งระหว่าง บารัค โอบาม่า กับมนุษย์ต่างดาว “อัพบล็อกกันอีกที วันพืชมงคลที่ 13 พฤษภาคมนี้ นะครับคิกๆๆลองดูเด้อ
มาเจิม