แนวคิดของอเมริกาในการใช้จักรยานเป็นระบบขนส่งมวลชน BTS TransGlide 2000™ วันนี้มีโครงการสุดยอดทางจักรยานมาเล่าให้ฟังครับ ชื่อโครงการก็อย่างที่ปรากฏนั่นแหละครับ เค้าคุยว่าโครงการของเค้านั้นเป็นโครงการขนส่งมวลชนแบบใหม่ที่ทันสมัย เร็วกว่างรถราง รถรางเดียว รถบัส ราคาถูก ก่อสร้างง่าย ประหยัด รักษาสภาพแวดล้อม เรียกว่าดีไปหมดละครับ สามารถขนคนหรือสิ่งของได้ด้วยความเร็ว 40 กม.ต่อชั่วโมง ภาพแสดงบรรยากาศโดยรวมของเส้นทางจักรยานที่เค้าคิดไว้ครับ Bicycle Transportation Systems, Inc. ได้นำเสนอโครงการขนส่งมวลชนโครงการนี้บนแนวคิดที่ว่าจะสร้างเมืองแห่งศิลปะ สนับสนุนการขี่จักรยาน การบำรุงรักษาเส้นทางทำได้ง่าย และทำให้ประชาชนในพื้นที่เมืองมีสุขภาพดี เจ้า TransGlide 2000™ Bicycle Transit System นี้จะเป็นโครงการขนส่งมวลชนที่ราคาถูกที่สุด และมีประสิทธิภาพมากที่สุดสำหรับประชากรที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เมือง อันนี้แสดงรายละเอียดในเส้นทางว่าต้องมีการเข้าออกอย่างไร มีระบบการรูดการ์ดเพื่อผ่านเข้าออก มีสามล้อบริการในเส้นทาง โครงการนี้มีรายละเอียดดังนี้ครับ เส้นทางทั้งหมดมีความกว้าง 25 ฟุต (7.63 ม.) แบ่งเป็นทางวิ่งของจักรยานสองข้างโดยตรงกลางเส้นทางมีความสูง 13 ฟุต (3.96 ม.) แล้วหลังคาจะลดระดับลงมาที่ผนังทั้งสองด้านที่ความสูง 10 ฟุต (3.04 ม.) ทางวิ่งทั้งสองทางนั้นมีความกว้างภายในด้านละ 12 ฟุต(3.65 ม.) ซึ่งมีความกว้างพอเพียงที่จักรยานจะวิ่งผ่านกันได้ ภายในเส้นทางนี้จะมีการปรับอากาศและกรองอากาศด้วย สามารถปรับอุณหภูมิได้ไม่ว่าจะต้องการสูงต่ำอย่างไร ประเด็นสำคัญคือมีการใช้แรงลมสำหรับเป็นแรงส่งให้ผู้ขี่จักรยานขี่จักรยานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้นกว่าเดิม 90 เปอร์เซ็นต์หมายความว่าถ้าขี่จักรยานปกติใช้แรงในการปั่นไปได้ หนึ่งกิโลเมตร แต่ถ้าใช้แรงเท่ากันแต่ปั่นในเส้นทางนี้จะไปได้สิบกิโลเมตร (นี่คือเหตุผลว่าทำไมเค้าจึงบอกว่าของเค้านั้นเป็นระบบขนส่งที่เร็วมาก) มีการติดตั้งกล้องถ่ายภาพเคลื่อนไหวอัตโนมัติ(เพื่อประหยัดแรงงานคนในการดูแลเส้นทาง)ผ่านการควบคุมจากศูนย์กลางโดยตลอดเส้นทางเพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้เส้นทาง ภาพนี้แสดงทางขึ้น ลง ของเส้นทางเค้าครับ สังเกตว่าทำเป็นทางลาดทั้งหมด ระบบทางจักรยานแบบนี้สามารถสร้างได้ในเส้นทางที่เป็นเส้นทางขนส่งเดิม (ไม่ต้องเวนคืนที่ดินเพื่อก่อสร้างทำให้มีความประหยัด) แล้วยังบอกต่ออีกว่ามีการออกแบบให้คนทั่วไปใช้จักรยานธรรมดาเข้ามาใช้เส้นทางเค้าได้ด้วยโดยจักรยานทั่วไปที่เข้ามาใช้ไม่ต้องปรับปรุงอะไรเลยก็จะมีความสามารถเพิ่มขึ้นจากเดิม 90 เปอร์เซ็นต์ แต่ถ้าอยากใช้จักรยานที่เค้ามีให้เช่าก็สามารถจอดจักรยานไว้ที่บริเวณที่จอดที่จัดไว้ให้แล้วเช่าจักรยานเข้ามาในเส้นทาง (เนื่องจากจักรยานเช่าทีเค้าทำไว้นั้นจะมีการออกแบบให้ขี่ได้สบายและใช้แรงน้อย) เรียกว่าแล้วแต่ความพอใจของใครว่างั้นเหอะ นอกจากนี้ยังได้กล่าวถึงเรื่องของอุตสาหกรรมการผลิตจักรยานที่มีการออกแบบจักรยานที่เรียกว่าจักรยานแบบนั่งขับ(recumbent) สามารถขี่ได้ระยะทางไกลโดยไม่เมื่อย และทำความเร็วได้มากกว่าจักรยานแบบปกติซึ่งต่อไปก็สามารถที่จะประยุกต์ใช้ให้สามารถบรรทุกสิ่งของได้ จะทำให้โครงการนี้ยิ่งเป็นโครงการขนส่งที่สมบูรณ์ ประหยัด มีประสิทธิภาพด้านการรักษาสิ่งแวดล้อมที่ดีที่สุดเท่าที่มนุษย์เคยมีมา แล้วก็ตอนนี้บริษัทนี้ก็กำลังหาพันธมิตรที่จะมาเป็นผู้ร่วมกันก่อสร้างโครงการนี้ให้เกิดเป็นรูปธรรม รูปร่างภายนอกแสดงให้ดูว่าสามารถก่อสร้างไว้บนระบบขนส่งเดิมได้อย่างไร อันนี้สร้างบนระบบรถไฟ ระบบขนส่งมวลชนแบบพอเพียงที่ผมคิดขึ้นมาก็ได้ไอเดียมาจากโครงการนี้ล่ะครับ แต่ว่าเราไม่ได้มีเทคโนโลยีสูงอย่างเค้าที่คิดระบบอัดอากาศให้เพิ่มความเร็วสำหรับผู้ขี่จักรยานได้ ผมก็เลยเปลี่ยนมาเป็นให้ใช้จักรยานไฟฟ้าในโครงการซึ่งจักรยานไฟฟ้านั้นสามารถทำความเร็วได้ถึงสี่สิบกิโลเมตรต่อชั่วโมง และการชาร์ทไฟหนึ่งครั้งจะวิ่งได้ประมาณห้าสิบกิโลเมตร ซึ่งก็น่าจะพอเพียงที่จะใช้กับเส้นทางที่กำหนดไว้ แล้วบ้านเรานั้นสภาพอากาศไม่ได้เปลี่ยนแปลงแตกต่างกันมากมายเท่ากับบ้านเค้าที่ต้องใช้ระบบปรับอากาศให้ปรับอุณหภูมิได้ทั้งร้อนทั้งเย็น ของเรามีแต่ร้อน กะร้อนมากๆ ผมก็ออกแบบให้มีหลังคาคลุม ใช้ชายคาที่ยื่นยาวเพื่อกันแดด กันฝน แล้วก็สร้างราวกันตกที่โปร่ง เพื่อให้ลมพัดผ่านได้ตลอด อันจะทำให้ในเส้นทางของเราไม่ร้อน แล้วกีมีความสะดวกในการใช้งานไม่ว่าฝนจะตกหรือแดดจะออก เรียกว่ามีประสิทธิภาพพอกะเค้านั่นแหละ แต่ของเราราคาถูกกว่าเพราะไม่ได้ใช้เทคโนโลยีอะไรมากมาย ส่วนการติดกล้องวงจรปิดนั้นก็คงจะต้องมีการติดตั้งไว้ตลอดเส้นทาง เนื่องจากปัจจุบันราคาของระบบกล้องวงจรปิดก็ไม่ได้มากมายอะไร ผมว่าถ้าเรารีบสร้างของเราให้เสร็จก่อน บริษัทนี้อาจจะต้องบินจากอเมริกามาดูงานที่โคราชบ้านเราก็ได้นะครับ ไอเดียนี่เหมาะกับการเดินทางข้ามจังหวัด แต่ก็จะพลาดโอกาสการสัมผัสกับธรรมชาติ หรือการแวะข้างทาง ซอยเล็กซอยน้อย โอกาสของร้านค้ารายย่อยริมทางก็คงไม่เติบโต
โดย: แอนนา IP: 113.53.155.48 วันที่: 19 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา:19:19:44 น.
|
บทความทั้งหมด
|
เดี๋ยวพรรคพวกจะมาดูกันครับ