อิจฉาคนญี่ปุ่น เมื่อเดือนที่แล้ว(กันยายน2549) มีโอกาสได้เดินทางไปที่ประเทศญี่ปุ่น ได้ไปพบเห็นรูปแบบกายภาพเมืองของเค้าแล้วก็ให้นึกอิจฉาคนญี่ปุ่นเป็นที่สุด พวกเราอาจจะเคยได้ยินว่าคนญี่ปุ่นมีอายุยืนที่สุดในโลก อาจจะคิดว่าเพราะเค้ามีอากาศดี อาหารดี ฯลฯ แต่เหตุผลหนึ่งก็คือเค้ามีทางเท้าดีด้วย ดีอย่างไรนะหรือ ก็คือที่ประเทศญี่ปุ่นนี่ถือว่ามีความก้าวหน้าเกี่ยวกับการใช้ทางเท้าเป็นทางจักรยานร่วมกันไปด้วยมากที่สุดในโลก(ในประเทศอื่นๆไม่ค่อยประสบความสำเร็จ ส่วนใหญ่จะใช้ทางจักรยานแยกออกจากทางเท้า) ทางเท้ารุ่นใหม่ของเค้าส่วนใหญ่จะใช้ระดับทางเท้าให้ใกล้เคียงกับระดับถนนเพื่อให้เกิดความต่อเนื่องของทางเท้าทำให้ขี่จักรยานได้สะดวก โดยมีขอบกันด้านถนนเพื่อป้องกันรถยนต์จอดบนทางเท้า(ที่พบเห็นทั่วไปในประเทศไทยจนกลายเป็นเรื่องปกติ) คนเดินเท้าหรือขี่จักรยานจะมีความรู้สึกปลอดภัยมากขึ้น เค้าสร้างความร่มรื่นให้กับทางเท้าด้วยต้นไม้ที่ปลูกริมทางเท้าด้านใดด้านหนึ่ง(ต่างจากประเทศไทยที่นิยมปลูกต้นไม้กลางทางเท้า ทางเท้าที่แคบอยู่แล้วก็เลยโดนแบ่งออกเป็นสองส่วน ยิ่งแคบไปอีก) ใครอยากเดินทางไปไหนก็ใช้จักรยาน ทำให้เกิดการออกกำลังกายในชีวิตประจำวัน ส่งผลให้คุณภาพชีวิตของเค้าดีกว่าเรามากกกก ตัวอย่างภาพทางจักรยานที่เป็นทางเท้าไปในตัวของเค้า เห็นแล้วอยากเอาจักรยานจากเมืองไทยไปขี่ที่ญี่ปุ่นจริงๆเล้ย ญี่ปุ่นเค้าถือว่าคนขี่จักรยานก็คือคนที่เดินเร็วเค้าก็เลยให้ใช้ทางเท้าร่วมกับคนเดินเท้าได้แถมยังมีการอำนวยความสะดวกอย่างเต็มที่ด้วยทางม้าลายตรงจุดที่เป็นทางข้ามให้ด้วย ได้เห็นจุดที่เป็นทางข้ามถนนอย่างรูปสุดท้ายที่ทำทางเท้าลำออกมาเพื่อให้คนข้ามถนนได้สะดวกก็เลยเกิดไอเดียอยากเอากลับมาใช้ที่เมืองไทยบ้าง มีโอกาสก็เลยนำเสนอท่านผู้บริหารเมืองในที่ประชุม อุตสาห์ยกแม่น้ำทั้งห้ามาอธิบายว่ามันจะเป็นประโยชน์ต่อคนเดินเท้าอย่างไร ท่านผู้บริหารที่นั่งหาวแล้วหาวอีก บางทีก็เผลองีบไปนิดหน่อย ฟังมั่งไม่ฟังมั่ง พอเราพูดจบท่านก็ตื่นมาบอกว่า "เป็นไปไม่ได้หรอก ทุกวันนี้เทศบาลต้องเฉือนฟุทบาทให้ถนนกว้างขึ้นในหลายพื้นที่ แต่นี่คุณมาเสนอให้เอาฟุทบาทไปกินพื้นที่ถนนรถก็จะยิ่งติดไปกันใหญ่ ไม่เข้าท่า............" ที่เว้นจุดๆไว้คือสาระพัดเหตุผลที่ท่านอ้างมาเพื่อให้เห็นว่าต้องอำนวยความสะดวกให้คนขับรถส่วนตัวเสียก่อน คนเดินเท้าจะเป็นอย่างไรช่างหัวมัน...ก็คงได้แต่ปลง...อนิจจา..ประเทศไทย ที่เดนมาร์คเขาถีบกันเป็นประจำไปทำงาน ไปไหนมาไหน เช่นกัน ใช้กันทั่วเมือง
โดย: ying (takom ) วันที่: 17 ตุลาคม 2549 เวลา:16:19:54 น.
อ่า..เอ่อ..เห็นด้วยค่ะ ไปเห็นเหมือนกัน ที่นั่นคนเดินถนน กับใช้จักรยาน มีสิทธิเสียงไม่น้อยกว่าคนใช้รถ เป็นบ้านเราแบนไปแล้น +55
เคยต้องขี่จักรไปทำงาน ไป-กลับ เหนื่อยมากกๆๆๆ เพราะไม่ชินกับเนิน เยอะๆที่ญี่ปุ่น ประเทศเกาะก็เงี๊ยเนอะ การเดินเยอะๆก็เริ่มจะชินละ เพราะบ้านเค้าใช้รถไฟกันเป็นล่ำเป็นสัน พักหลังเลยเริ่มเดินเก่ง แฮ่ะๆ เข้ามาแจมจ้า โดย: ผ่านมา (รถเมล์สาย 170 ) วันที่: 18 ตุลาคม 2549 เวลา:22:39:27 น.
มันต่างกันน่ะค่ะ อ่านแล้ว...เมืองไทย ไม่ลงทุน ทำทางทางเท้าให้ ขี่จักรยาน ใครจะขี่ค่ะ อันตรายมาก แต่ที่นี่ ถึงร้อน จะตายก็ ขี่ค่ะ บัวขี่ไป เรียน ไป ทำงานตลอด !!! เพราะทางเท้า สำหรับ ขี่จักรยาน แล้วก็ สำหรับคนเดิน เฮ้อ เมืองไทย คงรอ จักรยาน เหาะ ได้แล้วกันค่ะ....อิอิ อนิจจัง โดย: fluffyboy101 วันที่: 19 ตุลาคม 2549 เวลา:8:24:09 น.
ขี่เหมือนกันค่ะทู้กวันไปจ่ายตลาด ออกกำลังกายไปในตัว
โดย: แม่บ้านณ.โตเกียว วันที่: 8 มกราคม 2550 เวลา:13:17:10 น.
|
บทความทั้งหมด
|
อยากถีบไปทำงานบ้างเหมือนกันแต่ว่ายังถีบไม่เก่งนะคะ เลยนานๆทีก็เอาไปถีบเล่นตามสวนแถวๆบ้าน
เจ้าของบล็อกท่าทางจะเป็นเซียนจักรยานนะคะ ที่เมืองไทยถีบจักรยานได้คงเข้าท่าเหมือนกัน น่าจะไปได้เร็วกว่าทนติดบนท้องถนน
อย่างนี้ต้องขอให้ที่ท่ำงานมีห้องอาบน้ำให้อีกอย่างหนึ่ง จะได้ถีบไปทำงานได้ทุกวัน