วิธีแก้สุนัขหวงกรงโดยใช้หลักจิตวิทยาสุนัข แก้ปัญหาน้องหมาหวงกรง สุนัขก้าวร้าวหวงของ หวงถิ่น หวงทุกสิ่งอย่าง เกิดจากเขามีภาวะวางอำนาจเหนือ คือเขาเป็นจ่าฝูงนั้นเอง ร่วมกับ เขาก็มีพลังงานสะสมมาก จนเขาปลดปล่อยพลังงานเหล่านั้นออกมาในรูปแบบความก้าวร้าว เป้าหมาการปรับพฤติกรรมให้สำเร็จ 1 สุนัขต้องถูกระบายพลังงานออกให้หมดทุกเช้าและทุกวัน เช่น พาขึ้นลู่วิ่งคน พาเดินนอกบ้าน Dog training; Mastering the walk [for dog] //www.bloggang.com/mainblog.php?id=yojajiji&month=14-11-2008&group=6&gblog=1 ฝึกให้น้องหมาวิ่งบนลู่วิ่ง //www.bloggang.com/mainblog.php?id=yojajiji&month=07-05-2009&group=6&gblog=38 ------------------------------- 2 คนต้องเป็นจ่าฝูง Dog Behavior; พฤติกรรม จ่าฝูง-ลูกฝูง ของสุนัขตามธรรมชาติ //www.bloggang.com/mainblog.php?id=yojajiji&month=06-01-2010&group=7&gblog=19 สูตรหลัก 3 ข้อ ในการป้องกันปัญหาพฤติกรรมสุนัขทุกประเภท //www.bloggang.com/mainblog.php?id=yojajiji&month=02-03-2010&group=7&gblog=34 อยากรู้ไหม "เรา หรือ หมา ใครกันแน่.....ที่เป็นจ่าฝูง ?" //www.bloggang.com/mainblog.php?id=yojajiji&month=22-03-2010&group=7&gblog=37 Dog training; ฝึกคนเป็นจ่าฝูง //www.bloggang.com/mainblog.php?id=yojajiji&month=27-11-2008&group=6&gblog=11 ชีวิตประจำวันเพื่อการเป็นจ่าฝูงตลอด 24 ชั่วโมง //www.bloggang.com/mainblog.php?id=yojajiji&month=11-10-2009&group=6&gblog=48 ----------------------------------------------------- 3 แก้เฉพาะจุด เน้นเรื่องหวงของ หวงอาหาร หวงกรง Dog training; Feeding ritual //www.bloggang.com/mainblog.php?id=yojajiji&month=15-11-2008&group=6&gblog=2 Feeding ritual 2 [claiming food or objects] //www.bloggang.com/mainblog.php?id=yojajiji&month=13-01-2009&group=6&gblog=31 วิธีทำให้สุนัขยอมปล่อยของออกจากปาก แบบจิตวิทยาสุนัข จ่าฝูง - ลูกฝูง //www.bloggang.com/mainblog.php?id=yojajiji&month=18-01-2010&group=6&gblog=53 -------------------- เทคนิค "สุนัขอยากจะออก ก็ไม่ให้ออก สุนัขอยากเข้าก็ไม่ให้เข้า" สุนัขที่เป็นเจ้าของกรง หวงถิ่น หวงกรง เขาจะสามารถทำตามใจตัวเองได้เมื่ออยู่ในสถานที่ที่เขาเป็นเจ้าของ เขาจะเข้า จะออก จะเห่าก็ได้ เพราะเป็นสิทธิของเขา ใครขัดใจก็ต้องถูกขู่เตือน ถูกกัดเป็นธรรมดาตามธรรมชาติของสุนัข แต่เมื่อไหร่กรงเป็นของเรา ที่แห่งนั้นเป็นของเรา เรียกว่า เราอ้างสิทธิ์ในสิ่งของที่เคยเป็นของสุนัขให้กลายเป็นของเรา สุนัขก็จะไม่ทำตามใจตัวเองได้ จะไม่เห่า ไม่กัด ไม่ก้าวร้าว เพราะฉะนั้น การไม่ยอมให้สุนัขทำตามใจตัวเองในที่ที่หนึ่งได้ และสุนัขยอมทำตามใจเรา เมื่อนั้นแปลว่าเราอ้างสิทธิ์ได้สำเร็จ นี่คือเป้าหมายในการทำให้สุนัขเลิกหวงกรง หวงถิ่น เพราะเขาไม่สามารถทำตามใจเขาได้ เขาก็เลยเสียสิทธิ์ในที่แห่งนั้นไป ทางออกตามวิธีของซีซาร์ มิลลาน ที่เคยออกฉายในรายการคู่มือรู้จักสุนัข ึำ(คำเตือน; การปรับพฤติกรรมนี้ค่อนข้างอันตรายและเสี่ยง ต้องมีคนอยู่ด้วยเพื่อช่วยเหลือ หรือ พิจารณาตามความสามารถของผู้เลี้ยงว่าไหวไหม) 1 สุนัขต้องถูกระบายพลังงานออกให้หมด หรือ หาช่วงเวลาที่สุนัขเหนื่อย เพื่อให้สุนัขดื้อน้อยลง ยอมเร็วขึ้น 2 เราต้องไม่กลัว ไม่รีบ ไม่อาย ไม่เสียใจ ไม่ผิดหวัง ไม่โมโห ไม่หงุดหงิด ให้มีแต่ภาวะที่นิ่ง สงบ แน่วแน่จริงจังเท่านั้น ถ้าเรากลัว หรือ โมโห เสียใจแม้แต่นิดเดียว จะล้มเหลวในการปรับพฤติกรรมสุนัขทันที 3 เตรียมไม้เทนนิส 1 อัน ไ้ว้ป้องกันไม่ให้สุนัขกัด ไม่ใช่เอาไว้ตี แต่เอาไว้เป็นเครื่องป้องกันเท่านั้น เริ่มต้น "สุนัขอยากจะออก ก็ไม่ให้ออก " 1 สุนัขอยู่ในกรง ปิดประตูกรงอยู่ เรายืนอยู่หน้ากรง พยายามให้เราสูงกว่า อาจโน้มตัวไปข้างหน้าเพื่อให้เขารู้สึกว่าเขาอยู่่ต่ำกว่าเรา เราอยู่เหนือกว่า โดยที่เราจะปลอดภัยเพราะมีกรงเป็นตัวป้องกันไม่ให้สุนัขเข้าถึงตัวเราได้ ประตูกรงยังคงปิดไว้อยู่ ระหว่างนี้สุนัขจะขู่ เห่ากรรโชก กระโจนใส่กรง แสดงความก้าวร้าว เพราะเขาถูกเราท้าทายและกำลังทำสงครามแย่งกรงอยู่ ระหว่างนี้เราห้ามกลัว ห้ามอายเด็ดขาด ยืนนิ่งๆไว้ และรออย่างนั้นจนกว่าสุนัขจะเงียบเสียงไปเอง และนั่ง หรือหมอบในกรงนิ่งๆ ไม่ขู่ ไม่แสดงความก้าวร้าวอีก เรารอสักพัก แล้วเราก็เดินออกไป ถือว่าเสร็จยกแรก 2 เว้นไปสัก 1 ชั่วโมง ทำซ้ำข้อ 1 ใหม่ 3 เมื่อไหร่เรายืนหน้ากรงแล้วสุนัขไม่เห่า เขานั่งเฉยๆถือว่าเราชนะยกแรก ทำข้อต่อไป 4 เราเปิดกรงแง้มเล็กน้อยไม่ให้สุนัขออกมาได้ แล้วใช้ไม่เทนนิสปิดทางออกไว้ ถือเป็นเครื่องป้องกันไม่ให้สุนัขออก และ ยังป้องกันไม่ให้สุนัขกัดโดนเราด้วย สุนัขอาจเอาหัวดันเอ็นหน้าไม้ หรือ กัดเอ็นหน้าไม้ ก็ปล่อยให้เขากัดไป ห้ามเคลื่อนหนีเด็ดขาด เราก็ยังคงถือไม้ไว้ให้นิ่งที่สุด อย่าให้ไม้หลุดมือ เพราะถ้าไม้หลุดมือจะทำให้เราถูกโจมตีได้ ถือไม้ไว้และรอจนกว่าสุนัขจะเลิกโจมตีไม้เทนนิส และ เขากลับไปนั่ง หรือหมอบนิ่งๆในกรง เมื่อนั้นค่อยๆเอาไม้เทนนิสออก แต่กรงยังคงแง้มไว้อยู่ ถ้าสุนัขจะพุ่งเข้าโจมตีอีก เราก็เอาไม้เทนนิสบังไว้เหมือนเดิม รอจนกว่าสุนัขจะนั่งนิ่งไม่โจมตีอีกเมื่อเราเอาไม้ออก เมื่อสุนัขไม่จู่โจมไม้เทนนิส เราเอาไม้ออก ประตูยังแง้มอยู่ รอสักพักแล้ัวปิดประตูกรงตามเดิม 5 ทำซ้ำข้อ 4 จนกว่าสุนัขจะไม่โจมตีไม้เทนนิสเลย ไม่พยายามจะพุ่งออกมานอกกรง ทำจนกว่าแม้เราจะเปิดประตู เขาก็นั่งเฉยๆในกรง ไม่แสดงความก้าวร้าว เมื่อนั้นถือว่าเราชนะยกสอง ทำข้อต่อไป 6 เปิดประตูกรงแง้มไว้ สุนัขนั่งนิ่ง (เรายังคงถือไม้เทนนิสป้องกันตัวไว้อยู่) รอสักพัก สุนัขยังคงอยู่ในกรงไม่แสดงความก้าวร้าว เมื่อนั้นเราก็สั่งให้เขาออกจากกรงได้ -------------- "สุนัขอยากเข้าก็ไม่ให้เข้า" 1 ใส่สายจูงสุนัขไว้ ใส่แบบโซ่หรือเชือกกระตุก เพื่อการควบคุมที่ง่ายขึ้น เรามีไม้เทนนิสป้องกันตัว 2 สุนัขอยู่นอกกรง เปิดประตูกรงไว้ 3 เราไปยืนหน้าประตูกรงบังทางเข้าไว้ แล้วใช้ไม้เทนนิสปิดป้องกันขา หรือ ป้องกันสุนัขเข้าจู่โจม เพราะถ้าสุนัขจะกัดก็จะกัดที่เอ็นหน้าไม้แทน 4 เราคอยต้อนไม่ให้สุนัขเข้าไปในกรงได้ โดยใช้ไม้เทนนิสอยู่ตรงกลางระหว่างสุนัขและขาเรา คอยต้อนให้สุนัขออกห่างกรงไปเรื่อยๆ โดยที่เราเป็นฝ่ายเดินไปข้างหน้า แล้วพยายามต้อนให้สุนัขถอยหลัง แต่เราห้ามถอยหลังเด็ดขาด ในหลักจิตวิทยาสุนัข ใครถอยหลังก่อน ผู้นั้นแพ้ เพราะฉะนั้น สุนัขต้องถอยหลังออกห่างจากกรง และเราเป็นฝ่ายเดินหน้าเข้าหา 5 ต้อนจนกว่าสุนัขจะเลิกพยายามเข้ากรง เขาอาจเดินจากไป นั่ง หรือ หมอบ หรือ สนใจอย่างอื่นแทน เราก็ปล่อยไว้อย่างนั้น โดยที่ประตูกรงยังเปิดไว้ และ เรายังคอยคุมไม่ให้สุนัขเข้ากรงได้ 6 รอสักพัก เราถึงอนุญาตให้สุนัขเข้ากรงได้ ------------ ต้องประเมินตามความสามารถของเราด้วย เพราะถือว่าเป็นวิธีที่ค่อนข้างเสี่ยง แต่ถ้าทำสำเร็จได้ สุนัขก็จะหายถาวร โดยที่เราไม่ต้องตีสุนัขเลย เพราะเป็นวิธีที่ใช้จิตวิทยาสุนัขมาใช้ปรับพฤติกรรมสุนัขล้วนๆ   Create Date : 02 สิงหาคม 2553 22 comments Last Update : 2 สิงหาคม 2553 21:06:46 น. Counter : 9492 Pageviews. Share Tweet

when you feel so lonely living entily but not entity juz turn to GOD and open yours heart he is always right there waiting for you... to open your heart and welcome him with joy and trust!   โดย: da IP: 115.87.121.118 3 สิงหาคม 2553 0:04:13 น.

สวัสดีครับ คุณหญิง จำ บูบู้ ได้มั๊ยครับ ไม่ได้มานานเลย ผมเห็นชื่อ Yoja&Jiji&Yuji ในบอร์ดพิทบูลโซน ไม่ทราบว่า เล่นบอร์ดนั้นด้วยหรือครับ หรือ ว่ามีคนแอบอ้างชื่อ ผมเล่นอยู่บอร์ดนั้นประจำ เพราะ บูบู้ เป็น อเมริกันพิทบูลเทอเรียครับ บูบู้เป็นเรดโน๊สแฟนซี ปัจจุบัน 9 เดือนแล้วครับ ทุกวันนี้นิสัยดีขึ้นครับ เพราะได้ความรู้จากที่นี่หละครับไปอบรมเค้า ขอบคุณสำหรับคำแนะนำที่ผ่านๆ มาครับ   โดย: บูบู้ IP: 61.7.168.72 6 สิงหาคม 2553 12:29:49 น.

สวัสดีคะคุณบูบู้ หญิงเข้าไปโพสเมื่อวานคะ //pitbullzone.com/community/comments.php?DiscussionID=16813&page=1#Item_0 หญิงเองคะ ---------------- หญิงเข้าไปดูบอร์ด pitbullzone เป็นประจำเหมือนกัน ชอบเข้าไปดูรูปน้องหมาพิทบูล เพราะก็ชอบนอ้งหมาพิทบูลเหมือนกันคะ แม้ตัวเองไม่ได้เลี้ยง แต่ได้ดูรูปเอาก็ชื่นใจแล้ว ที่ชอบเป็นพิเศษก็เรดโน๊สคะ ขอบคุณนะคะที่เข้ามาเยี่ยมบล๊อก หญิง   โดย: Yoja&Jiji 6 สิงหาคม 2553 15:18:04 น.

Ying How r u JA? I saw u in Pantip's review, if u have time please add me Na Ja; Kungalanlai@hotmail.com I'm also lokking for a dog for my mom in the new house.Thx Ja Miss u Na   โดย: kung IP: 113.253.116.83 9 สิงหาคม 2553 11:04:47 น.

สวัสดีค่ะพี่หญิง คงจำกันได้นะคะ ตอนนี้มูมูกำลังอ่านหนังสือซีซ่ารอบสองแล้วค่ะ แต่ยังไม่ได้สั่งซื้อดีวีดีมาดูเลยค่ะ วันก่อนเข้าไปดูในเว้ปของซีซ่า เจอเยอะแยะไปหมด พี่หญิงมีคำแนะนำไหมคะว่าควรเริ่มต้นจากดีวีดีชุดไหนดี 2. พอดีตอนนี้ เจ้าของบ้านที่หมาของมูมู(เจ้าน้ำตาล) ชอบเข้าไปเล่นไปกินนอนบ้านเค้าน่ะค่ะ เขามีหมาปั๊กอายุสองปีมาเป็นสมาชิกใหม่ ที่นี้เจ้าน้ำตาลไม่ชอบน้องปั๊กเลยค่ะ เจอกันก็ฮึ่มฮั่มใส่ พี่หญิงมีคำแนะนำไหมคะว่่าควรทำอย่างไร(หรือตามไปอ่านตรงข้อมูลเก่าตรงไหนของพี่หญิงได้บ้าง) มูมูจะได้นำข้อมูลไปบอกคุณป้าเจ้าของบ้านที่ตาลชอบไปนอนบ้านเขาน่ะค่ะ 3. ถ้าหากหมาต้องเดินทางโดยเครื่องบินนานๆ เช่นจากไทยมาเมกา สัตว์แพทย์จะแนะนำให้ให้ยาบางชนิดแก่หมาหรือเปล่าคะ เ่ช่น ทำให้มันนอนหลับ เป็นต้น และเรื่องความกดอากาศบนเครื่องจะมีผลต่อหมาไหมคะ มูมูพยายามหาข้อมูลเรื่องนี้ในเน็ต แต่ยังไม่เจอเลยค่ะ ขอบคุณมากค่ะพี่หญิง ปล. วิธีแก้การหวงกรงของสุนัขตามแนวซีซ่าอย่างที่พี่หญิงเขียนไว้ด้านบน ดูค่อนข้างอันตรายจริงๆนะคะ โดยเฉพาะถ้าต้องปรับพฤติกรรมสุนัขที่เราไม่ได้เป็นผู้เลี้ยงเอง   โดย: Mumububu IP: 152.179.6.42 12 สิงหาคม 2553 1:25:52 น.

สวัสดีคะมูมู จำได้สิคะ เรื่องดีวีดี พี่แนะนำให้สั่งแบบรวม season คะ มีตั้งแต่ 1,2,3 คุ้มที่สุด ส่วน season 4 กำลังจะออกขายสิ้นเดือนสิงหาคมพี่ก็กำลังรอสั่งซื้อ season 4อยู่เหมือนกัน ----------------------- การปรับหมาที่ไม่ถูกกันให้เข้ากันได้ ค่อนข้างยากสำหรับคนที่ไม่่มีประสบการณ์ในการปรับพฤติกรรมสุนัข และต้องมีเวลา ต้องไม่กลัว จะให้ดีก็ควรเป็นหมาของตนเอง เพราะจะได้อ่านอารมณ์นิสัยถูก ถ้าไปปรับหมาของคนอื่น แถมไม่คุ้นเคยกับหมาตัวนั้นๆมาก่อน และยังไม่เข้าใจภาษากายสุนัข ไม่รู้จักซีซาร์ด้วยแล้ว ถือว่ายากและอันตรายต่อคนๆนั้นอาจโดนลูกหลงถูกกัด แถมอันตรายต่อหมาด้วย เพราะเวลาหมาไม่ถูกกัน ปัญหาอาจมาจากเจ้าน้ำตาลเองที่ไม่กินเส้นกับหมาด้วยกัน หรือ เกิดจากหมาปั๊กที่นิสัยไม่ดี วางอำนาจเหนือ ชอบข่ม เนื่องจากถูกเจ้าของถือหางอยู่ เลยทำให้ไปข่มเจ้าน้ำตาล เจ้าน้ำตาลก็เลยแง่มกลับ หรือ มีปัญหาทั้งสองตัว อันนี้ก็ต้องมีประสบการณ์ในการดูภาษากายหมา ต้องห้ามหมาก่อนกัดกันเป็นด้วย และพี่ก็ต้องมีข้อมูลมากกว่านี้จะได้แยกประเด็นออก ลองอ่านดูนะคะ เผื่อเป็นไอเดีย Dog Behavior;สุนัขในบ้านไม่ถูกกัน เห็นกันไม่ได้มีกัด ทำไงดีหนอ? https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=yojajiji&month=04-02-2010&group=7&gblog=30 Video ; กฎเหล็ก เคล็ดไม่ลับ หมาใหม่หมาเก่า รักกันยั่งยืนนาน https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=yojajiji&month=25-11-2009&group=8&gblog=39 -------------------------- เรื่องขนส่งน้องหมาทางเครื่องบินจาก กรุงเทพไปที่อื่นๆ ที่โรงพยาบาลสัตว์ทองหล่อ เขามีบริการด้านนี้อยู่ ยังไงลองปรึกษาดูก็ได้ เรื่องต้องวางยาซึมหรือไม่ อันนี้ก็ขึ้นอยู่กับสไตล์การรักษาของหมอคะ ว่าจะให้ยาหรือ ไม่ให้ยา ขึ้นอยู่กับหมาด้วยนะ ว่านิสัยเป็นอย่างไร ถ้าหมากระวนกระวาย เครียดเมื่อถูกขังกรงนานๆก็คงต้องมีให้ยา แต่ถ้าหมาดีๆ ไม่มีปัญหาในการอยู่กรงก็อาจไม่ต้องให้ยาอะไรก็ได้ เรื่องความกดอากาศหรืออุณหภูมิใต้ห้องเครื่อง อันนี้ก็ต้องขึ้นอยู่กับนักบินแล้ว ว่าเขาจะลืมปรับอุณหถูมิหรือเปล่า เพราะเมื่อมีการขนส่งหมา ก็จะมีการแจ้งกับนักบินว่าเที่ยวนี้มีหมา นักบินก็จะได้ระวังเรื่องอุณหภูมิหรือความกดอากาศต่างๆ ยูจิของพี่มากับ Lufthansa ดูแล้วเขาเชี่ยวเรื่องขนส่งหมานะ ไว้ใจได้ มีประกันหมาให้ด้วย และก็จะมีแอร์ลงไปดูหมาให้ด้วย ประมาณนั้น ในความคิดของพี่ พวกสายการบินต่างชาติเขาอาจคุ้นเคยกับการขนส่งหมากว่า เพราะคนต่างชาติเขาเดินทางแล้วมีหมาไปไหนต่อไหนด้วยบ่อยกว่าคนไทย ก็น่าจะเคยชินและคล่องกว่า ---------------- การปรับพฤติกรรมทีเ่กี่ยวกับสัญชาตญาณดิบ เช่น การไล่ล่า / สืบพันธุ์เมื่อแย่งตัวเมีย / หวงอาหารหวงถิ่น ถือเป็นสิ่งที่ยากและอันตราย เพราะเป็นสัญชาตญาณดิบของสุนัข และเมื่อสุนัขต่อสู้กันเองในเรื่องพวกนี้ที่เกี่ยวกับสัญชาตญาณดิบ มักจะต่อสู้กันรุนแรงบางทีบาดเจ็บกันไปข้างหนึ่ง การแก้เรื่องพวกนี้ก็ต้องใช้จิตวิทยาสุนัขสูง ต้องเข้าใจเรื่องจิตวิทยาสุนัขก่อน และ คนต้องเป็นจ่าฝูงถึงจะแก้ได้สำเร็จอันนี้สำคัญมาก นั่นเองถึงเป็นสิ่งที่ยากสำหรับมือใหม่ หรือ คนที่ขี้กลัว และที่สำคัญ เจ้าของควรปรับพฤติกรรมหมาด้วยตัวเอง และหมาจะหาย เพราะเวลาหมาอยู่ก็อยู่กับเจ้าของ เวลาเขาจะกร่างก็จะกร่างกับเจ้าของ เจ้าของต้องแก้เอง พี่แนะนำได้แต่ก็ขึ้นอยู่กับว่าเจ้าของจะร่วมมือไหม ทำไหม กล้าไหม   โดย: Yoja&Jiji 12 สิงหาคม 2553 15:18:32 น.

ขอบคุณพี่หญิงมากๆค่ะ สำหรับข้อมูล   โดย: Mumububu IP: 24.29.238.60 15 สิงหาคม 2553 19:00:55 น.

สวัสดีครับคุณหญิง รบกวนถามด้วยครับ ว่า ถ้าสุนัขเราเห็นสุนัขอื่นแล้วเค้า เห่าและดึงสายจูง เพื่อจะเข้าไปหาสุนัขตัวอื่นนั้น เรามีวิธีสังเกตุอย่างไรบ้างครับ ว่าเค้าอยากเข้าไปเล่นหรือจะเข้าไปกัด สุนัขอื่น ครับ ผมพยามสังเกตุหลายครั้งแต่ยังไม่เข้าใจเค้า เพราะแค่เค้าดึงผมก็จับสายจูงไว้แน่นเลยครับ เพราะไม่อยากเห็นการกัดหรือต่อสู้กัน   โดย: บูบู้ IP: 61.7.170.15 17 สิงหาคม 2553 13:25:37 น.

สวัสดีคะคุณบูบู้ ตอนที่เขาอยู่ในสายจูง เห่าและดึงเพื่อจะพุ่งไปหาอีกตัว ถือว่าเป็นภาวะอารมณ์ที่ตื่นเต้นมาก และไม่ใช่มารยาทที่ดี ซึ่งถือว่าเป็นภาวะอารมณ์ที่ไม่ปลอดภัยเวลาจะไปพบหมาตัวอื่น เพราะ -ความตื่นเต้นพัฒนาไปสู่ความก้าวร้าวได้ง่าย ขึ้นอยู่กับว่า หมาตัวที่จะไปพบมีท่าทีอย่างไร เพราะฉะนั้นเขาอาจสู้กันหรือไม่ก็ได้ ขึ้นอยู่กับว่าอีกตัวมีท่าทีอย่างไร แต่ถ้าเข้าไปด้วยความตื่นเต้นก็มีแนวโน้มจะมีเหตุการณ์รุนแรงเกิดขึ้นได้ง่ายกว่า เข้าไปด้วยความไม่ตื่นเต้นและมีมารยาท -หมาของเราเห่า ตื่นเต้นมากร่วมกับเครียด เนื่องจากมีแรงดึงเครียดจากสายจูงร่วมกับความกังวลของเรา หมาก็จะตื่นเต้นและมีภาวะวางอำนาจเหนือเรา เพราะเราอยู่ในภาวะอารมณ์ที่ไม่มั่นใจ เมื่อเราไม่มั่นใจ หมาก็จะเข้าสู่โหมดปกป้องเรา หรือ ปกป้องตัวเอง จะเห็นว่าเขาก็จะกร่าง เราเตือนก็ำไม่ค่อยฟัง ตื่นเต้นมากเกิน เครียด เมื่อหมาอีกฝ่ายรับรู้ัว่าหมาของเราตื่นเต้น ร่วมกับวางอำนา่จเหนือ ร่วมกับเราซึ่งเป็นเจ้าของที่จูงก็ไม่มั่นใจ เอาหมาไม่อยู่ หมาตัวนั้นก็จะเข้าสู่โหมดป้องกันตัวเหมือนกัน ถ้าหมาตัวที่จะไปพบ เป็นหมาที่มีภาวะวางอำนาจเหนือเหมือนกัน ก็จะเข้าสู่โหมดตั้งท่าต่อสู้ เมื่อพบกันด้วยความตื่นเต้นทั้งคู่ ถ้าตัวใดตัวหนึ่งอยากจะข่มอีกตัว การต่อสู้กันก็จะเกิด ถ้าหมาที่จะไปพบ เป็นหมาที่ขี้กลัว หมาที่ขี้กลัวจะแสดงออกมา 2 แบบไม่แบบใดก็แบบหนึ่ง คือ กลัวจนหนี เมื่อหมาขี้กลัวพยายามหนี จะทำให้หมาของเรามองเห็นหมาตัวนั้นเป็นเหยื่อ ก็จะเข้าสู่โหมดล่าเหยื่อ หมาขี้กลัวก็จะถูกกัด ถ้าหมาตัวนั้นกลัวแล้วแสดงออกด้วยความก้าวร้าวเพื่อปกป้องตัวเอง แต่ก้าวร้าวแบบกลัว ความกลัวก็คือเหยื่อ ก็จะถูกหมาเรากัดได้เช่นกัน สรุป ภาวะอารมณ์ที่เหมาะสมที่สุดก่อนที่จะพบหมาตัวอื่น ก็คือ สงบ ไม่ตื่นเต้น ไม่เห่า ไม่ดึง ไม่พุ่ง เราต้องคุมหมาของเราให้ได้ ให้นั่งนิ่งก่อน สงบก่อน ห้ามเห่า สักพัก พอหมาสงบ เรา่ค่อยอนุญาตให้ไปดมหมาอีกตัวได้ ถ้าหมาของเรามีภาวะตื่นเต้นหรือท่าทางข่มเมื่อไหร่เราก็ต้องเตือนทันที เตือนก่อนที่ความตื่นเต้นที่มากเกินจะเข้าสู่ความก้าวร้าว ข้อดีอีกอย่างที่เราคุมหมาเราให้สงบนิ่งก่อนไปพบหมาตัวอื่น หมาตัวที่เราจะไปพบ ก็จะผ่อนคลายด้วย เนื่องจากหมาของเราอยู่ในความควบคุมและไม่ตื่นเต้นเกิน ก็มีโอกาสจะท้าทายต่อสู้ลดลง ระหว่างการพบกันสายจูงต้องหย่อนตลอดเวลา อย่าลืมว่า ถ้าสายจูงตึงเครียด หมาก็จะเครียดตามสายจูงที่ตึง ควรให้ดมกัน ให้ดมก้นกันก่อนดีที่สุดถือเป็นมายาทที่ดีเวลาพบกัน ไม่ควรให้มีการขึ้นขี่ การใช้ขาตะปป หรือ ยกหัวพาดหัว พาดไหล่อีกตัว หรือพยายามจะยกหัวสูง หูตั้ง ตาแข็ง ขนกลางหลังตั้ง เมื่อนั้นควรตักเตือนเพราะเป็นภาวะที่เริ่มข่มอีกตัว ควรเลือกหมาที่จะเข้าไปพบด้วย หมาที่ไปพบควรเป็นหมาที่สมดุล ไม่ตื่นเต้น ไม่ข่ม ไม่เห่า ไม่ดึงสายจูง ไม่กลัวหางจุกตูด ก็จะปลอดภัยที่สุดเวลาพบ ถ้าอยากจะทดลองว่าหมาของเราก้าวร้าวหรือไม่เวลาจะไปพบหมาอีกตัว -ลองพาเขาเดินผ่านรั้วที่มีหมาอยู่หลังรั้ว หมาที่อยู่หลังรั้วอาจเห่าหรือมีภาวะตื่นเต้น แล้วเราก็ลองประเมินดูว่า หมาเรามีปฎิกริยาอย่างไรกับหมาตื่นเต้น เห่า พวกนั้น ถ้าหมาของเราเข้าไปดมเฉยๆ ไม่ได้เห่ากลับ พุ่งใส่รั้วกลับ ก็ถือว่าน่าจะปลอดภัยเวลาไปพบหมาตัวอื่นเพราะเขาไม่ก้าวร้าวกับหมาด้วยกัน แต่ถ้าหมาของเราพุ่งเข้าชาร์ตหมาหลังรั้ว เห่า ขู่ กัดกลับ แปลว่าก้าวร้าวกับหมาด้วยกัน อันนี้ก็ต้องระวังอย่างมากเวลาจะไปพบหมาตัวอื่นๆนอกสถานที่ ลองดูคะ   โดย: Yoja&Jiji 17 สิงหาคม 2553 15:04:15 น.

ขอบคุณมากๆ เลยครับคุณหญิง ที่ให้คำปรึกษาครับ ผมเพิ่งเข้าใจความหมายของคำว่า หมาที่สมดุล วันนี้เอง และ ขออนุญาตนำข้อความที่ตอบคำถามนี้ ไปโพสเพื่อเป็นวิทยาทานแ่ก่ท่านอื่นใน pitbullzone ด้วยนะครับ เพราะเห็นหลายท่านสนใจเกี่ยวปัญหานี้แต่ยังไม่สามารถแก้ปัญหาได้เช่นกันครับ   โดย: บูบู้ IP: 61.7.140.58 17 สิงหาคม 2553 15:56:38 น.

ยินดีคะคุณบูบู้   โดย: Yoja&Jiji 17 สิงหาคม 2553 16:46:45 น.

พอดีไปเจอวีดีโอนี้มา เห็นว่าน่ารักดี เลยเอามาแบ่งปันกันค่ะ ไม่รู้ว่าคุณ Yoja&Jiji จะเคยเห็นรึยัง //www.youtube.com/watch?v=kzlIIL_rmLE&feature=player_embedded   โดย: berserker IP: 161.246.45.236, 161.246.254.167 6 กันยายน 2553 13:50:30 น.

ขอบคุณนะคะ สำหรัับคลิปเจ๋งๆๆ   โดย: Yoja&Jiji 6 กันยายน 2553 14:23:26 น.

สวัสดีครับ คุณหญิง วันนี้ บูบู้ แวะมาทักทายรายงานตัวนะครับ อีกไม่กี่วันบูบู้จะครบขวบแล้วครับ ความซนบูบู้ยังเหมือนเดิมแต่ นิสัยดีขึ้นเยอะไม่ดื้อมากเหมือนเมื่อก่อน ทุกวันนี้ถือว่าเป็นหมาดีอยู่ในขั้นพอใช้ครับ บอกให้คอยก็คอย บอกให้นอนเดิมต้วมเตี้ยมๆ เข้ากรงนอนแบบสบายใจไม่เปลืองขนม ต้องยอมรับเลยว่าบล็อกนี้มีส่วนในการเสริมสร้างนิสัยที่ดีให้บูบู้ได้มากเลยครับ ขอบคุณอีกครั้งครับ   โดย: บูบู้ IP: 61.7.168.2 15 ตุลาคม 2553 12:07:44 น.

สวัสดีคะคุณบูบู้ ยินดีคะ   โดย: Yoja&Jiji 15 ตุลาคม 2553 12:51:18 น.

สวัสดีค่ะ คุณหญิงไม่ทราบว่ายังจำได้รึเปล่าแม่เลดี้ค่ะ อยู่เบลเยี่ยมมีหมาพันธุ์ french bulldog ค่ะ วันนี้ไม่ได้มาถามให้ตัวเองค่ะแต่มาถามให้เพื่อน น้องหมาของเพื่อนเป็นพันธุ์ลาบราเดอร์ค่ะ ค่อนข้างไฮเปอร์มากแต่ก็ใจดีไม่กัด แต่ปัญหาคือเค้าหวงที่นอนค่ะ เพืี่่อนให้หมานอนโซฟา คือเป็นที่นอนหมาไปเลย1โซฟา แต่พอเพื่อนลองนั่งหรือเข้าใกล้หมาจะเริ่มขู่ค่ะ ดิฉันคิดว่าที่บ้านเค้าก็มีเพืีอนนี่แหล่ะที่เอาหมาอยู่ เพราะคุณสามีเพืีอนสปอล์ยหมามากค่ะ เพราะเค้าไม่มีลูกด้วยกัน หมาเค้าอายุ 2ปีค่ะ ควรเริ่มฝึกไม่ให้หวงโซฟายังไงดีคะ   โดย: แม่เลดี้ IP: 83.134.3.177 17 พฤศจิกายน 2554 18:01:08 น.

ตอบคุณมิ้ม แม่เลดี้ หญิงไม่อยากให้คุณมิ้มย้ายถามเปลี่ยนหน้าไปมา ซึ่งทำให้หญิงต้องตามหา เพราะคนมาถามเยอะ หญิงไม่สามารถจำเรื่องราวของทุกคนได้หมด ย้ายคำตอบไปหน้าเดิมที่เคยคุยกันไว้ https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=yojajiji&month=16-11-2008&group=6&gblog=4   โดย: Yoja&Jiji 17 พฤศจิกายน 2554 20:40:00 น.

สวัสดีค่ะคุณหญิง อยากทราบว่าคุณหญิงให้น้องหมาทั้ง3ตัว อยู่ในกรงตลอดเลยรึเปล่าค่ะ ยกเว้นเวลาพาเดินเล่น อึฉี่ ออกกำลังกาย เวลาอื่นๆให้ออกมาเล่นในบ้านบ้างรึเปล่าค่ะ คือพอดีจะย้ายบ้านใหม่ค่ะเลยคิดว่าจะต้องให้เค้าอยู่ในกรงแล้ว เลยอยากปรึกษาว่านอกเหนือจากเวลาพาเค้าไปเดินเล่น อึฉี่ ออกกำลังกายแล้ว ถ้าน้องหมาอยู่แต่ในกรงตลอดเค้าจะไม่เครียดมากเกินไปค่ะ ขอบคุณคุณหญิงล่วงหน้านะค่ะ   โดย: หวาน IP: 114.217.230.87 24 ธันวาคม 2555 21:10:11 น.

สวัสดีค่ะคุณหวาน หญิงไม่ได้ให้หมาอยู่กรงทั้งวันค่ะ จะให้อยู่กรงเฉพาะตอนนอนกลางคืน และ ตอนที่หญิงไม่อยู่บ้าน ก็จะให้หมาอยู่กรง ถ้าต้องออกไปนอกบ้าน จะเอาหมาเข้ากรง และไม่ให้หมาอยู่กรงนานเกิน 5ชั่วโมง ถ้าต้องออกไปนอกบ้านทั้งวันหรือไม่อยู่บ้านหลายวัน จะฝากให้คุณแม่มาช่วยดูน้องหมาที่บ้านให้ค่ะ เวลาทำงานบ้านก็เอาหมาเข้ากรงค่ะ -------------------- หมาไม่ควรอยู่กรงทั้งวันค่ะ อยู่กรงได้แต่ต้องมีการปล่อยออกมานอกกรงเป็นระยะๆ เช่นพาไปออกกำลัง พาไปขับถ่าย พาออกมากิน พามาฝึก นั้นก็คือ ต้องมีคนอยู่บ้าน แล้วเปิดกรงพาหมาออกมาเป็นเวลา เหมือนพวกฟาร์ม หรือ พวกโรงเรียนฝึกหมา คือ หมาอยู่กรง และพาหมาออกมาเป็นเวลา วันละหลายรอบเพื่อมาทำกิจกรรม ทำเสร้จก็เอาเข้ากรง ไม่ใช่ว่า เอาเข้ากรงเช้าถึงเย็นแล้วไม่ได้พาออกมาเลย ไม่เช่นนั้นก็ต้องมีการกั้นบริเวณ เหมือนคอก มีที่ให้หมาเดินเล่นยืดเส้นยืดสายในบริเวณที่เรากั้นไว้ ในนั้นจัดสัดส่วนให้มีที่สำหรับน้องหมานอนพักผ่อนหลบแดด หลบฝน หรือ กั้นรั้วให้หมาอยู่ในสวนหลังบ้าน ในส่วนที่ปลอดภัย มีที่หลบแดดฝน ก่อนเอาเข้าคอก ก็พาไปออกกำลังกายระบายพลังงาน ทำเสร็จก็เอาเข้าคอก ------------- มีปัญหาสงสัย ถามต่อที่หน้านี้เลยนะคะ ไม่ต้องย้ายไปถามหน้าอื่น   โดย: Yoja&Jiji 25 ธันวาคม 2555 8:28:24 น.

Merry christmas ค่ะ ขอบคุณคุณหญิงนะค่ะที่ตอบคำถามค่ะ พอดีน้องมีขนร่วงบ้างเล็กน้อยค่ะ บางทีติดเสื้อผ้าแฟนด้วย แฟนหวานเลยไม่ค่อยชอบ (น่าจะเหมือนแฟนคุณหญิง) ก็เลยต้องเปลี่ยนไปเลี้ยงในกรงซึ่งหวานอยู่คอนโดชุดค่ะ พื้นที่กว้างเหมือนกันค่ะ (มีพาขับถ่าย ออกกำลังที่สวนทุกวัน) แต่แฟนจะให้อยู่ที่ระเบียงเพราะปัญหาขน อากาศก็หนาวด้วย พอดีหมาเป็นชิวาวาค่ะเค้ากลัวหนาว ไม่ชอบใส่เสื้อด้วยเวลาใส่ให้ก็หาทางถอดออก ตอนนี้ก็แกะกระดุมเองเป็นแล้ว เลยอยากทราบว่าคุณหวานเอาหมาเข้าบ้านบ้างรึเปล่าหรือว่าอยู่แต่หน้าบ้านค่ะแล้วมีปัญหาเรื่องขนติดเสื้อผ้ามั้ยค่ะ แล้วจัดการยังไงค่ะ ขอบคุณค่ะ   โดย: หวาน IP: 114.217.230.87 25 ธันวาคม 2555 9:13:15 น.

สวัสดีค่ะคุณหวาน Merry christmas เช่นกันค่ะ สามีหญิงเขาเฉยๆกับขนหมาค่ะ เพียงแต่ตอนจะไปทำงาน เสื้อผ้าก็ไม่ควรมีขนหมาติด ตอนกลับมาบ้าน เปลี่ยนเป็นชุดอยู่บ้าน คราวนี้ก้ไม่ต้องกังวลใดๆ เลี้ยงหมากับขนหมา เป็นของคู่กันค่ะ ไม่สามารถจะหลีกหนีได้ หญิงจะให้หมาอยู่เฉพาะห้องรับแขกเท่านั้น ไม่ให้เดินเพ่นพ่านไปห้องอื่น เราก็จะควบคุมขนหมาได้ประมาณหนึ่ง ไม่ให้ปลิวไปห้องอื่นๆ ห้องนอน ห้องครัว ก็ไม่มีขนปลิวไป แล้วเราก็ดูดฝุ่นห้องรับแขกทุกวัน ก็ช่่วยได้ค่ะ คุณหวาน สามารถให้หมาอยู่ห้องใดห้องหนึ่งได้นะคะ เช่นห้องรับแขก ในส่วนดูทีวี ส่วนห้องอื่นๆ ก็ปิดประตู ไม่ต้องให้หมาเข้า แล้วก็ฝึกให้หมาอยู่เป็นที่เป็นทาง หมาก็ไม่ก้าวก่ายเดินไปห้องอื่นๆที่เราไม่อนุญาต ดีกว่าให้หมาอยู่ระเบียง ในกรงทั้งวัน สงสารหมาค่ะ วิธีฝึกน้องหมาให้อยู่ในบริเวณที่เรากำหนด https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=yojajiji&month=13-06-2009&group=6&gblog=39 เรื่องขนติดเสื้อ สำหรับชุดอยู่บ้านก็เป็นปกติ ไม่ได้ซีเรียสอะไร เพราะเลี้ยงหมาก็ต้องมีขนติดเสื้อ แต่ถ้าเป็นชุดทำงานสามี ชุดออกงาน ก็ไม่พบปัญหาขนติดเสื้อใดๆ เพราะหมาที่บ้านไม่ปีนป่ายคนอยู่แล้ว / ก่อนสามีจะออกไปทำงาน หมาก็ยังคงอยู่ในกรงอยู่แล้ว ขนก็ไม่ติดเสื้อค่ะ ดูแล้วแฟนคุณหวานจะไม่ชอบหมานะคะ อย่างนี้ต้องคุยกันให้เข้าใจนะคะ ไม่เช่นนั้นเสี่ยงต่อพฤติกรรมของสุนัขได้ หรือ คนต้องมานั่งทะเลาะกันเอง   โดย: Yoja&Jiji 25 ธันวาคม 2555 10:20:27 น.

ขอบคุณคำแนะนำค่ะ แฟนชอบหมาค่ะ เพียงแต่เป็นการเลี้ยงหมาครั้งแรกในชีวิตเค้า คือเค้าไม่เคยมีหมาเลยค่ะ เลยไม่คุ้นเคยกับขนหมา ที่มันต้องมีติดเสื้อผ้าบ้าง แต่หวานเลี้ยงหมาตั้งแต่เกิดค่ะ ถ้าขนติดเสื้อผ้าเวลาออกไปทำงานเนี่ยรู้สึกคิดถึงหมามากกว่า ทุกวันนี้หมาก็อยู่ห้องรับแขกค่ะ บางอารมณ์เค้าก็จะเข้ากรงนอนเอง ส่วนห้องอื่นๆเนี่ยเค้าไม่เข้าถ้าไม่อนุญาติค่ะฝึกตามคำแนะนำคุณหญิงตามหัวข้อแหละค่ะ ได้ผลดีมากๆเลยค่ะ ขอบคุณคุณหญิงอีกครั้งค่ะ   โดย: หวาน IP: 117.81.90.139 27 ธันวาคม 2555 20:30:52 น.