<<
มีนาคม 2561
 
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
22 มีนาคม 2561
 
 

JOY RUNNING; 100 km ...Trans Lantau 2018 ..Hongkong


 ร้อยที่สองแล้วจ้าาาาาา!

เรามาวิ่ง Trans Lantau เป็นปีที่ 3 แล้ว ....สองครั้งแรกลง 50 km และปีนี้2018 ลง 100 km

...........วันเดินทาง......วันพฤหัส ที่ 1 มีนาคม ......

เราทั้งคู่พักที่เดิมเหมือนทุกปี คือ Silvermine beach resort ที่ Silvermine Bay, Mui Wo
สะดวกสุดแล้ว ห้องสะอาด สิ่งอำนวยความสะดวกครบ ใกล้จุดปล่อยตัว

เสียอย่างเดียว! ไม่มีลิฟท์

แบกกระเป๋าเดินทางเดินขึ้นลงบันไดเอง ถ้าช่วงหลังวิ่งก็จะได้อารมณ์แบบว่า ...ทรมานบันเทิงดี







ภาพภายในห้องฝั่ง North wing การตกแต่งสไตล์จีน




มาถึงก็บ่ายแก่ๆแล้ว เลยได้แต่ซื้อของจากซุปเปอร์นิดๆหน่อยๆกลับมากินมื้อเย็นที่ห้อง เพราะไม่อยากเพลียเกิน และอยากจะเข้านอนเร็วๆ นอนตุนเยอะๆ เพราะจากคืนนี้จะไม่ได้นอนอีก 2 คืนเต็มๆ

__________________________

...... The race day.....วันศุกร์ที่ 2 มีนาคม.....

วันนี้วันวิ่ง แต่ แต่ แต่ ปล่อยตัวตอน 5 ทุ่มครึ่งจ้าาาาาา!

แพลนว่า ...ตอนเช้าไปวัดกังหัน......ตอนเที่ยงหาของหม่ำ...........ตอนบ่ายกลับมาพักผ่อนที่โรงแรม จะพยายามฝืนตาหลับให้ได้..........ตอนเย็นๆไปรับ Bib ต่อด้วยหม่ำมื้อเย็น............ก่อนหนึ่งทุ่มกลับมาพักผ่อนที่โรงแรม........สามทุ่มอาบน้ำแต่งตัวเตรียมวิ่ง............ห้าทุ่มครึ่ง ปล่อยตัว 100 km


เริ่มด้วยวัดกังหัน















ตอนบ่าย กลับมาที่โรงแรม



ใส่แว่นแทน contact lenses เพราะจะพักดวงตาทั้งวัน 





กลับมาที่ห้อง พยายามให้หลับ แต่ก็ไม่หลับ
พอห้าโมงเย็นก็มารับ bib ที่ Expo

แถวยาวเชียว ยืนต่อตั้งนาน ดันไปต่อคิวของ 50 km
โชคดีที่เจอเพื่อนที่วิ่ง 100km เหมือนกัน เรียกให้ไปอีกแถวข้างๆกันซึ่งเป็นแถวของ 100 km แต่ไม่มีใครต่อคิวเลย
เลยได้ bib เร็ว ไม่เสียเวลานาน จะได้รีบหม่ำมื้อเย็น แล้วกลับไปพักผ่อนที่ห้องต่ออีกรอบก่อนปล่อยตัววิ่งห้าทุ่มครึ่ง









รับ bib เสร็จ หม่ำมื้อเย็นง่ายๆเร็วๆ
เราทั้งคู่วิ่ง 100km เราก็ทานอาหารเป็นปกติเหมือนทุกๆวันทั่วๆไป ไม่ได้โหลดคาร์บก่อนวิ่งมากมายอะไรเป็นพิเศษ

....เสื้องาน







แจกผ้า Buff ลายสวยดี
แจก survival blanket (เป็นอุปกรณ์บังคับที่ต้องพก)
แจก Tattoo sticker (แต่เล็กเกิน ตัวหนังสือก็เล็ก มองลำบากมากๆ)


กล่องสี่เหลี่ยมนี้เป็น GPS tracker ที่นักวิ่งจะต้องพกติดตัว
แล้วคืนเจ้าหน้าที่หลังวิ่งเสร็จ ถึงรับเงินมัดจำคืน








เราทั้งคู่ใช้ Salomon sense ride เกาะดีมากๆ ไม่ลื่นเลย
และสำคัญที่สุด...เหมือนเช่นเคย......เราทั้งคู่ไม่ใช้ Trekking pole ค่ะ

...............Out fit of the race day.............





เราทั้งคู่ใช้เสื้อ X-bionic รุ่น Accumulator

กระโปรงของหญิง Adidas by Stella mccartney








แม้จะไปวิ่ง 100 km ก็ต้องจัดเต็มค่ะ

เป้าของคนอื่นคงเป็นเรื่องเวลา....แต่....เป้าหมายในการวิ่ง(ทุกสนาม)แบบขำๆสไตล์หญิงก็คือ ...ก่อนวิ่งกับหลังวิ่งเข้าเส้นชัย จะต้องแจ่มไม่แพ้กันจ้าาาาาา!



จุดปล่อยตัว Mui wo





ตื่นเต้นมาก!
และง่วงมากด้วย 5555 (เพราะปกติจะเข้านอนไม่เกิน 4 ทุ่ม)



นักวิ่ง 100 km ปล่อยตัว 23.30 น.
Cut off time 33 h

แต่ละ check point จะมี cut off
โดยเฉพาะจุด CP2 / CP3 เวลา cut off จะค่อนข้างสั้น จะต้องทำเวลาช่วงแรกๆด้วย ไม่เช่นนั้นอาจไม่ทัน  ส่วน CP หลังๆ พอมีเวลาให้หายใจหายคอบ้าง (ก็ต้องเป็นเช่นนั้น เพราะจาก CP3 เป็นต้นไปจะต้องปีนหลักๆ 3 เขา ก็ต้องใช้เวลาพอสมควร)

ประเมินจาก ITRA งานนี้ให้ 5 คะแนน
Mountain Level 6
Performance Index 290

elevation gain จาก ITRA ได้ 5239 m (104.4 km)
elevation gain จาก official website ได้ 5800 m (103 km)



@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@

CP1 Chi Ma Wan (1h)

Distance (from the start) 6.1 km
Elevation gain (from the start) 162 m

บรรยาย: ง่วง และ ร้อนมาก
-------------------------------------
CP2 Chi Ma Wan (3.36h)
Cut off 4.30h

Distance (from the start) 19.4 km
Distance (from CP1) 13.3 km
Elevation gain (from the start) 775 m
Elevation gain (from CP1) 613 m

บรรยาย: ร้อน / เร่งพอสมควรแต่มาถึงก่อน cut off ชั่วโมงเดียว



credit photo: Tommy Yuen
ขอขอบคุณช่างภาพที่ทำให้นักวิ่งมีภาพประทับใจเก็บไว้ค่ะ
-------------------------------------
CP3 Pak Kung Au (6.02h)
Cut off 6.45h

Distance (from the start) 29.5 km
Distance (from CP2) 10.2 km
Elevation gain (from the start) 1363 m
Elevation gain (from CP2) 588 m

บรรยาย: ร้อน / เร่งพอสมควรแต่มาถึงก่อน cut off 40 นาที
ที่ cp นี้ ของกินอุดมสมบูรณ์ และเน้นอัด coke ให้ชื่นใจ (เพราะ CP2 ไม่มี coke)
ต่อจากนี้ต้องปีนขึ้น Lantau Peak (934m)  และคาดว่าถึงยอดตอนสว่าง

ระหว่างปีนขึ้น Lantau Peak ลมแรง และมีแต่ละอองน้ำเลยแว่นมัว มองทางไม่ชัด ขนาดมีไฟที่หัว แต่ระยะการมองเห็นเบื้องหน้าไม่เกิน 3m
หัวเปียกเป็นลูกหมาตกน้ำเลย แถมขนตาก็เปียก ขนตาหนักมาก กระพริบตาที หยดน้ำหยดติ๋งๆจากขนตาเลยจ้าาาาาา

แต่ขอบอกว่า กาวติดขนตายี่ห้อ D.U.P ของเขาดีจริง...เอาอยู่ค่ะ





ถึงยอดตอนสว่าง เรื่องวิวไม่ต้องหวัง เพราะมองไม่เห็นใดๆทั้งสิ้น มีแต่หมอก
ที่สำคัญ เมื่อเห็นแสงสว่าง ความง่วงก็หายไป
-------------------------------------
CP4 Ngong Ping (8.13h)
Cut off 9.30h

Distance (from the start) 34.6 km
Distance (from CP3) 5.1 km
Elevation gain (from the start) 1985 m
Elevation gain (from CP3) 622 m

บรรยาย: ร้อนเช่นเคย



นักวิ่งต้องพก personal cup มาเอง (เป็นอุปกรณ์บังคับ)

เน้นอัด coke ให้ชื่นใจ ...หญิงพลัง coke ค่ะ

(ของกินที่แต่ละ CP หญิงจะเน้น ก็จะเป็นขนมปังทาแยมหรือนูเทลลา1-2 แผ่น / Coke และบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปบางโอกาส.....เป็นความชอบส่วนตัว 555 )




4 รูปด้านล่าง เป็นรูปจากช่างภาพงานค่ะ .....









ขอขอบคุณช่างภาพที่ทำให้นักวิ่งมีภาพประทับใจเก็บไว้ค่ะ

-------------------------------------
CP5 Kau Ling Chung (เวลาไม่ขึ้่น...งง...)
Cut off 12.30h

Distance (from the start) 45.1 km
Distance (from CP4) 10.5 km
Elevation gain (from the start) 2439 m
Elevation gain (from CP4) 454 m

บรรยาย: ออกจาก CP4 จะมีวิ่งลงเนินถนนแบบยาวๆ เราทั้งคู่ก็เริ่มชาร์จนาฬิกาวิ่ง
ช่วงก่อนปีนขึ้นเขา จะมีจุดตรวจ Gear check (ตรวจ survival blanket และ มือถือ)
เห็นนักวิ่งบางราย เหมือนรู้มาก่อนว่าเจ้าหน้าที่ต้องตรวจอะไร ก็เตรียมหยิบขึ้นมาโชว์เลยอย่างรวดเร็วไม่ต้องเสียเวลาหา...ดีจัง
แต่เราทั้งคู่ไม่รู้ว่าเขาจะขอตรวจอะไร ก็เลยเสียเวลาพอสมควร  ก็ของมันเยอะ 5555 พกทั้งกระจก แว่นสายตาสำรอง ตลับเลนส์ กาวติดขนตา lip และอื่นๆอีกมากมาย.... ขำตัวเอง

ระหว่างทางไป CP5 พี่จุ่นมีตะคริวขึ้นนิ้วเท้า ต้องมีการหยุดพักชั่วคราว พอลองคลายเชือกรองเท้าแล้วอาการดีขึ้น ทำให้วิ่งต่อได้ สรุปว่า พี่จุ่นผูกเชือกรองเท้าแน่นไปเนื่องจากกลัวเล็บชนหัวรองเท้าตอนวิ่งลงเขา ก็เลยทำให้เป็นตะคริว






ที่ CP นี้ ตกแต่งน่ารัก มีลูกโป่งหลากสี และ ธงหลายประเทศ




-------------------------------------
CP6 Tai O (13.57h)
Cut off 17h

Distance (from the start) 58.2 km
Distance (from CP5) 13.1 km
Elevation gain (from the start) 3126 m
Elevation gain (from CP5) 687 m

บรรยาย: ร้อนมากๆ
ช่วงออกจากเขาก็เริ่มเข้าหมู่บ้านชาวประมง จะเป็นถนนปูนคนเดินมีเนินยาวๆขึ้นๆลงๆสลับกันไป พอมาถึงจุดที่เป็นสะพานยาวๆข้ามทะเล ก็ร้อนมากๆๆๆๆ แต่โชคดีมีลมพัดให้พอชื่นใจ
ออกจากสะพานจะเจอเหมือนจุดจอดรถบัส ป้ายรถประจำทาง ก็จะงงหน่อย เพราะไม่มีป้ายบอกชัดเจนว่าจะให้นักวิ่งไปทางไหน ริบบิ้นก็ไม่มี ต้องอาศัยมองหานักวิ่งคนอื่นๆ แถมมีปิดทำถนนด้วย เลยทำให้งงๆ

จุด CP6 ดีงามมาก พักผ่อนได้เต็มที่ มีที่ให้นั่งเหลือเฟือ ห้องน้ำสะอาด มีกระจกให้แวะเติมlipปากได้ด้วย   เห็นมีห้องอาบน้ำด้วยน้าาาาาาา ใครอยากจะเปลี่ยนเสื้อก็ที่ CP นี้ได้เลย
จุดนี้มีผู้ติดตามนักวิ่งมาคอย support อย่างคึกคัก น่าจะเดินทางสะดวกมีป้ายรถประจำทาง และไม่ได้อยู่บนภูเขาเข้าป่าเหมือน CP อื่นๆ

ณ จุดนี้ได้หม่ำบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปไป 1 ถ้วย ชื่นใจสุดๆ อิ่มสบายท้อง แถมเติมพลัง Coke ไปอีกหลายแก้ว

จาก CP นี้ ไป CP7  กับระยะทางอีก 18 km ต้องมีปีนเขาหนักๆเขาที่สองก็คือขึ้น Ngong Ping ได้เห็นพระใหญ่(ไกลๆ)แบบไม่ต้องขึ้นกระเช้า แต่ต้องปีนขึ้นแทน ใครที่ขาขึ้นแล้วต้องกินน้ำเปลือง(เหมือนหญิง) ที่จุด CP6 ก็เติมน้ำเต็มๆไปเลยนะคะ เหลือดีกว่าขาด ไม่เช่นนั้นอีกยาวกว่าจะเจอ CP ต่อไป

ออกจาก Tai O  ก็ต้องเจอถนนร้อนๆไม่มีร่มเงาบังหัวเลย  มันร้อนมากๆๆๆ เจอแดดช่วงบ่ายไปเต็มๆ




6 รูปด้านล่าง เป็นรูปจากช่างภาพงานค่ะ .....



เดินผ่ากลางหมู่บ้านชาวประมงกันเลย









แดดร้อนสุดๆ จะดำก็ช่วงนี้แหละ



---------
2 ภาพด้านล่าง ......มุ่งหน้าสู่ Tung Chung

credit photo: Free bird







ขอขอบคุณช่างภาพที่ทำให้นักวิ่งมีภาพประทับใจเก็บไว้ค่ะ

-------

เราคาดว่า จะถึง CP7 ค่ำแน่นอน 
ก่อนถึง Tung Chung จุดปีนขึ้นพระใหญ่จะมีถนนปูนสำหรับคนเดินยาวๆ   เราก็ชาร์จนาฬิกาวิ่งอีกรอบ และเริ่มเปลี่ยนแบตไฟคาดหัว เตรียมไฟคาดหัวจะได้หยิบง่ายๆ ไม่ต้องมาควานหาตอนมืดๆ

ถึง Tung Chung ก็ปีนบันไดกันยาวๆๆๆๆๆ ไม่จบไม่สิ้น




วิวสวยๆ




กระเช้าขึ้นพระใหญ่ อยู่ใกล้แค่เอื้อม




พอขาลง เป็นบันไดก้อนหิน หญิงเริ่มเจ็บเข่าขวา ทำให้ลงไม่สะดวกเลย ต้องเดินลงก้าวต่อก้าว นับจากจุดนี้ไป ทำเวลาไม่ได้เลย ถือว่าเดินก็ว่าได้ เสียเวลาไปมากโข
-------------------------------------
CP7 Ngong Ping (19.21h)
Cut off 22h

Distance (from the start) 76.3 km
Distance (from CP6) 18.1 km
Elevation gain (from the start) 3967 m
Elevation gain (from CP6) 841 m

บรรยาย:  ถึงCP นี้ก็มืดตามคาด ห้องน้ำที่ CP นี้สะอาด แวะล้างไม้ล้างมือ เติมlip อีกรอบ
จุดนี้หม่ำบะหมี่สำเร็จรูปไปอีก 1 ถ้วย /ขนมปังทาแยม และเติมพลัง Coke
จุดนี้คึกคักเพราะมีเพื่อนๆนักวิ่งชาวไทยเติมพลังกันอยู่ ทำให้สดชื่นขึ้นจากการทักทายพูดคุย

เราไม่เสียเวลาอยู่ที่ CP นาน เลยออกจาก CP มาก่อนเพื่อนๆคนไทย เพราะรู้ว่าหลังจากนี้ทำเวลาไม่ได้ เพราะหญิงเจ็บเข่าขวา วิ่งไม่ได้ และ มีปัญหาตอนขาลง ดังนั้นจะไม่นั่งเฉยๆให้เสียเวลาไปเปล่าๆ เดินฆ่าเวลาไปเรื่อยๆดีกว่า โชคดีที่ยังเดินเร็วๆได้อยู่ และกลัวไม่ทัน Cut off ด้วย

ออกจาก CP ใช้เดินจ้ำๆๆๆตอนลงเขา ไม่วิ่งเพราะวิ่งไม่ได้ พอลงจากเขาก็เจอถนนปูนทางราบยาวๆ ยาวมากๆ เหมือนเดินวนเป็นวงกลมยังไงก็ไม่รู้ แถมแถวๆนั้นเหมือนมีจัดคอนเสิร์ต เพราะได้ยินเสียงมาจากไกลๆ   อยากบอกว่าง่วงมาก หัวมึนตึ้บ เห็นนักวิ่งคนหนึ่งเดินเซไปมา คาดว่าคงเดินไปหลับไป 555
เราก็เกือบจะหลับ เดินขาขวิดแล้ว อาศัยใช้ยาดมช่วย ยัดจมูกไปรูหนึ่ง สูดทีเย็นถึงกลีบสมอง ก็ทำให้ตาเปิดได้เป็นพักๆ

ระหว่างทางในความมืด ตั้งแต่ลงเขา จนเดินถนนปูนก็หลายโลอยู่ ก็มีนักวิ่งพูดจีนผ่านเราไปไม่เกิน 5 คน เพราะนักวิ่งเริ่มห่างกันแล้ว นานๆจะผ่านมาสักคน ก็มีแต่นักวิ่งที่เดินไปหลับไปคนนั้นคนเดียวที่เดินอยู่หน้าเราตลอดถนนปูนอันยาวไกล เหมือนเป็นเพื่อนร่วมทาง

พอถึงจุดเก้าอี้พักผ่อน ก่อนปีนขึ้นไป Pak Kung Au ก็ได้เจอเพื่อนๆนักวิ่งคนไทย(ที่นั่งพักเก็บแรงก่อนปีนขึ้น)อีกครั้งหลังจากเราเดินอออกมาก่อนจากจุด CP
ทำให้เราทั้งคู๋ตื่นจากความง่วงได้จากการทักทายพูดคุย.....เสียดาย! น่าจะเจอตอนระหว่างเดินถนนปูนมืดๆที่เดินกันยาวๆ  จะได้ไม่ง่วง ไม่รู้เราทั้งคู่เดินหลับไปตอนไหน ไม่เห็นเพื่อนๆผ่านเราไปเลย

ยืนพักเอาแรงสักแป๊ป ก่อนปีนขึ้นไปสู่ CP8

-------------------------------------
CP8 Pak Kung Au (23.05h)
Cut off 26.30h

Distance (from the start) 89.1 km
Distance (from CP7) 12.8 km
Elevation gain (from the start) 4388 m
Elevation gain (from CP7) 421 m

บรรยาย: ถึงจุดนี้เริ่มกินไม่ค่อยลง  กินได้แต่ Coke ไป 1 แก้ว
เตรียมใส่ Jacket กันลมกันน้ำ ขึ้น Sunset Peak (854m)

ตอนนี้เจ็บเข่าทั้งขาขึ้นและลง เดินอย่างเดียวจ้าาาาาา

ข้อยากของสนามนี้ก็คือ ต้องปีนขึ้น Sunset Peak เขาลูกที่ 3 ในช่วงหลัง ตอนโลที่ 90 ตอนที่ขาล้า และ แรงเริ่มหมดแล้ว

ขึ้น Sunset Peak ลมแรง เย็น และ มืดมาก โชคดีที่เสื่้อ X-bionic รุ่น Accumulator  เอาอยู่เพราะเป็นรุ่นที่ให้ความอบอุ่น ละอองน้ำเยอะมาก แว่นมัวเพราะมีแต่ละอองน้ำ หัวเปียก ขนตาเปียกและขนตาอุ้มน้ำเลยหนักมาก กระพริบตาทีหยดน้ำหยดติ๋งๆที่ปลายขนตาเลยจ้าาาา  โชคดีที่ขนตายังติดอยู่ดีที่หนังตาไม่ปลิวตกเขา

หมอกและละอองน้ำเยอะมาก ระยะการมองเห็นไม่เกิน 3 เมตร ไม่ต้องพูดถึงวิวนะคะ ไม่เห็นค่ะ

มาวิ่ง Trans Lantau 3 รอบ ขึ้น Sunset Peak ทั้ง 3 รอบ เจออากาศเดิมๆค่ะ ไม่ว่าจะขิ้นตอนพระอาทิตย์ขึ้นหรือตก ก็ไม่เห็นวิวใดๆ มีแต่หมอก ละอองน้ำ ลมแรง หัวเปียก แว่นมัว และ ขนตาเปียก

เราถึงยอด Sunset Peak ตอนไหนก็มิอาจรู้ได้ เพราะไม่เห็นวิวข้างทางใดๆ เห็นแต่ทางข้างหน้าในระยะ 3m และมองหาแต่ ribbon บอกทาง ยิ่งมืด ลมแรง ยิ่งมองไม่ชัด แถมแต่ละ ribbon ก็นานๆติดที อยู่ห่างกันจนลืมไปเลยว่าเห็นอันก่อนหน้านี้ตอนไหน
วิ่งไปก็เริ่มกังวลว่าหลงทางหรือเปล่า ต้องคอยเช็คเส้นทางจากนาฬิกาตลอดเวลาว่ายังวิ่งอยู่บนเส้นทางหรือไม่

ขาลงจาก Sunset Peak เป็นช่วงที่ทรมานสุดแล้ว มืดก็มืด ทางก็ technical สุดๆ ต้องมีปีนป่ายก้อนหินที่ลื่นๆเพราะมีละอองฝน ที่สำคัญขาลงมีแต่บันไดก้อนหิน ทำให้ปวดเข่าขวามากตอนลง ต้องเดินก้าวต่อก้าวเลย ทำให้เสียเวลาไปอย่างมาก เอาจริงๆแล้วขาลงทางไม่ได้ยากอะไรเลย แต่เนื่องจากเจ็บเข่า อะไรที่ง่ายๆก็กลายเป็นยาก ได้แต่เดิน และลงช้าๆ

-------------------------------------
CP9 Pak Mong (28.04h)
Cut off 30.30h

Distance (from the start) 99.6 km
Distance (from CP8) 10.4 km
Elevation gain (from the start) 5035 m
Elevation gain (from CP8) 647 m

บรรยาย: ถึงจุดนี้ แวะเข้าห้องน้ำอีกรอบ ห้องน้ำสะอาดดี มีกระจกให้ด้วย ชอบๆๆๆ
ถึงตอนนี้สบายใจว่าอีกไม่ถึง 5 โลก็ถึงเส้นชัยแล้ว เดินไปเรื่อยๆก็ทัน cut off ไม่เครียดแล้ว

ฝืนกิน Coke ไป 1 แก้ว เพราะกินอะไรไม่ลง

ต่อจากนี้ เป็นทางปูน 2 km เป็นทาง trail อีก 2 km
ช่วงไหนปีนขึ้น รู้สึกผะอืดผะอม ช่วงไหนเป็นขาลง รู้สึกหิวขนมปังทานูเทลล่าและ Cokeขึ้นมาทันที ...แปลกดี เพราะหิวแบบระบุชนิดอาหารเลยทีเดียว ในหัวอยากกินแต่ 2 อย่างนี้
-------------------------------------
Finish line ; Mui Wo (29.28h)
Cut off 33h

Distance (from the start) 104.4 km
Distance (from CP9) 4.8 km
Elevation gain (from the start) 5239 m
Elevation gain (from CP9) 204 m

 เย้ เย้! เราทั้งคู่ทำได้ สำเร็จสนาม Trans Lantau 100 km แบบไม่ใช้ Trekking pole จ้าาาาาาาาา

ใช้เวลาไป 29.28 h กับระยะ 104 km

ปล่อยตัวค่ำวันศุกร์ที่ 2 / เข้าเส้นชัยเช้ามืดของวันอาทิตย์ที่ 4 ...มาวิ่งสนามนี้ ไม่ได้นอน 2 คืนเต็มๆ





ที่สำคัญปีนี้มีเสื้อ Finisher สำหรับนักวิ่ง 100 km ด้วย (ปีอื่นๆแจกแต่เหรียญ)



----------------------------

มีนักวิ่ง Strater ทั้งหมด 677 คน
Finish ทั้งหมด 441 คน (หญิงลำดับที่ 342 / พี่จุ่นลำดับที่ 343)



@@@@@ ผลของพี่จุ่น

นักวิ่งชายที่ finish 362 คน พี่จุ่นลำดับที่ 286
ในรุ่น  senior (40ปี +) ที่ finish 217 คน พี่จุ่นลำดับที่ 164





(update 23/3/18)


@@@@@@  ผลของหญิง

นักวิ่งหญิงที่ finish 79 คน หญิงลำดับที่ 57
ในรุ่น open(18-39 ปี) ที่ finish 34 คน หญิงลำดับที่ 23







(update 23/3/18)

@@@@@@@@@@@@

ระยะทางจากนาฬิกา

Suunto ambit peak3:
104.8km 29.28h  elevation 4953m+/4947m-

Suunto Spartan Ultra
104.2km 29.28h  elevation 4793m+/4794m-











************ช่วง Before & After**************

ก่อนวิ่ง




หลังวิ่ง



วิ่งมา 100 km ใช้เวลาไป 29 ชั่วโมงกว่าๆ แถมไม่ได้นอนมา 2 คืน
หน้ายังแจ่ม ขนตายังเด้ง ปากยังแดงนะเจ้าคะ ......เจ๋งป่ะ!

แต่หัวยุ่งนิดหน่อยเนื่องจากเจอกิ่งไม้เกี่ยวหัวไปหลายรอบ 5555







เหรียญแห่งความภาคภูมิใจ






เสื้อ Finisher
จบ Lantau 100 แบบไม่ใช้ trekking pole 



สรุปคร่าวๆสำหรับสนามนี้

- ปีนี้ เริ่มมีการจับสลากนักวิ่ง ดวงดีได้วิ่ง ดวงไม่ดีก็อด (ปีอื่นๆ ก็แย่งกันสมัคร ใครเร็วได้ ใครช้าอด)
- ทีมงานน่ารัก งานจัดดี
- น้ำพร้อม ของกินพร้อม ไม่ต้องเตรียมของกินไปเยอะก็ได้ จะได้ไม่หนัก เพราะสนามนี้ต้องแบกของไปเองหมด ไม่มี drop bag อาศัยกินจาก CP ก็ดีอยู่ ของอร่อยๆเยอะ
- ปล่อยตัวกลางคืนตอน 5 ทุ่มครึ่ง อาจทำให้อดนอนถึง 2 คืน
- พื้นผิวค่อนข้างลื่น หารองเท้าที่พื่้นเกาะดีๆ หญิงใช้ Salomon sense ride ก็เอาอยู่
- เสื้อ X-bionic รุ่น Accumulator ช่วงกลางคืนขึ้น Sunset Peak อากาศเย็นๆ เอาอยู่ ให้ความอบอุ่นได้ดี แต่โชคร้ายที่ปีนี้อากาศร้อนกว่าทุกปี ตอนกลางวันเลยร้อนอบอ้าวมาก อยากจะฉีกเสื้อทิ้งเลยทีเดียว
- สนามนี้ ต้องเผชิญกับบันไดยาวๆๆๆๆ ทั้งขึ้นยาวๆๆๆ และ ลงยาวๆๆๆๆ มีทั้งบันไดหินคนประดิษฐ์ และ บันไดหินธรรมชาติแบบแต่ละขั้นต้องก้าวสูงๆ ทำให้เปลืองแรงมาก  และยังมีบันไดไม้ชันๆ (มือราวจับบางช่วงเสี่ยงเสี้ยนตำมือ) ช่วงขึ้นพระใหญ่ และ บันไดดินอัดแน่นแบบมีกรอบปูน ทำให้หาจุดวางเท้าลำบาก หลังจากจบสนามนี้ เชื่อว่า นักวิ่งจะเกลียดบันไดกันไปนาน 5555
- ไฟคาดหัวและแบตสำรองจำเป็น เพราะต้องวิ่งช่วงกลางคืนมากกว่ากลางวัน
- จาก Tai O เป็นต้นไปก่อนถึง Tung Chung อาจมีร้านค้าให้แวะซื้อของกินได้บ้างเล็กๆน้อยๆ เช่นน้ำอัดลม เห็นนักวิ่งHK บางคนสั่งอาหารเป็นจานนั่งกินก็มี 
- ห้องน้ำ ที่ CP4 /6/9 สะอาด เป็นโถชักโครกเรียบร้อย กดน้ำได้ มีกระจกและอ่างล้างมือ
, ส่วนห้องน้ำแบบ stand alone ที่เป็นซุ้มเล็กๆ ก็ต้องทำใจเพราะเป็นแบบส้วมซึม ไม่มีการกดน้ำ ถ่ายทับถมกันเข้าไป เห็นหมดอะไรเป็นอะไร , ส่วนห้องน้ำสาธารณะแบบแยกชายหญิงข้างทางก็มี น่าจะ Ok แต่หญิงไม่ได้เข้าไปใช้ก็เลยไม่รู้ว่าดีหรือไม่


ข้อเสียคือ;

- จุดติด ribbon ห่างกันมาก นานๆมีที แถมจุดทางแยก ก็มี ribbon บอกทางไม่ชัดเจน  ต้องมองหา

- ปีนี้มีการแกล้งจากผู้ไม่หวังดีในพื้นที่ มีการเปลี่ยนจุดผูก ribbon เพื่อให้บอกทางผิด มีนักวิ่งวิ่งหลงทางไปหลายคน

ดังนั้น นักวิ่งควรโหลด map เส้นทางวิ่งลงนาฬิกาไว้ จะได้คอยเช็คว่าเรายังวิ่งอยู่ในเส้นทางหรือเปล่า
หญิงก็ต้องเช็คกับนาฬิกาเกือบตลอดเวลาตอนกลางคืน เพราะ ribbon ไม่ชัดเจน บางทีหายไปเลย บางทางแยกก็ไม่มี ribbon ก็มี อาศัยแสงไฟจากนักวิ่งที่วิ่งนำหน้า เกือบไปผิดทางหลายรอบ

*************** ช่วง...ใช้แล้วอยากบอกต่อ***********

- รอบนี้หญิงใช้รัดน่องของ SKIN ซึ่งการตัดเย็บแบบมีตะเข็บเพราะมีการตัดต่อผ้า
ทำให้เวลาวิ่งใช้ระยะนาน 100 km แบบนี้ ทำให้น่องบวมบ้างอะไรบ้าง แต่พอบวมแล้วทำให้ปลอกรัดน่องมันรัดมากขึ้นจนเส้นตะเข็บผ้า มันจิกเข้าไปที่เนื่้อน่องเลย เป็นรอยบาดรอบน่องตามรอยตะเข็บ  ทำให้แสบมากเพราะโดนเหงื่อ
ครั้งต่อไปจะใช้รัดน่องแบบที่ทอเต็มตัว ไม่มีรอยตะเข็บตัดต่อ จะได้ไม่จิกเนื้อตอนขาบวม

- เวลาจะฉิ่งฉ่อง หญิงจะใช้กรวยฉี่สำหรับผู้หญิง ทำให้เรายืนฉี่ได้เหมือนผู้ชาย
สะดวกสบายมาก วิ่งมาเยอะๆมีปวดตึงขาก็ไม่ต้องย่อนั่ง squat แบบก่อนๆ ยืนฉี่แบบผู้ชายมันดีอย่างนี้นี่เอง 5555 (กรวยยืนฉี่สำหรับผู้หญิงซื้อได้จาก internet ค่ะ ...เป็นกรวยกระดาษ พกพาง่าย ใช้แล้วทิ้งได้เลย ดีงาม....)

- อยากบอกว่า กาวติดขนตาของ D.U.P ดีมาก
รับประกันจากการปีนขึ้นทั้ง Lantau Peak และ Sunset Peak ลมแรงมาก ขนาดขนตาสั่นระริกดิ๊กๆๆ แถมละอองน้ำเยอะจัด เกาะจนขนตาหนักน้ำ เวลากระพริบตาที ละอองน้ำหยดจากขนตาเลยทีเดียว
 ขนตาก็ยังอยู่ทนเคียงคู่ตาตี่ๆของหญิงไปจนถึง Finish line โดยที่ขนตาไม่ปลิวตกเขาไปเสียก่อน...แนะนำเลยจ้าาาาาาาา ....ใช้ดีจึงบอกต่อ.....

***************************
เช้าเส้นชัยเช้ามืดของวันอาทิตย์ที่ 4 มีนาคม...พระอาทิตย์ยังไม่ขึ้น

กลับมาถึงห้อง ก็ตากของ ตากเป้ กินขนมนิดๆหน่อยๆ อาบน้ำล้างหน้าล้างตา แล้วนอนพักผ่อน กะจะตื่นมากินอาหารเช้าของโรงแรม แต่ตื่นไม่ทัน ตื่นสาย 10 โมงกว่าๆ
เลยรวบยอดกินมื้อเที่ยงทีเดียวเลยละกัน


Out fit of the day เตรียมชุดมาให้เข้ากันกับเสื้อ Finisher
เพราะตั้งใจว่าจะเอาเสื้อ Finisher  กลับบ้านให้ได้



เดินไปขึ้นเรือข้ามไปเกาะฮ่องกง...กะจะไปหม่ำบะหมี่ให้หนำใจซะหน่อย จะเบิ้ล 2 ถ้วยเลย !



เช้าวันจันทร์ที่ 5 มีนาคม เดินทางกลับไทย



ขอบคุณที่ติดตามนะคะ
เจอกันทริปหน้า จุ๊บๆๆๆๆ


@@@@@@@@@@@@@@@


If it's a nod from society you're looking for, run a marathon.
But if it's a life-changing experience of personal strength and perseverance that you want, finish an ultra.
                                               @@Vanessa Runs, writer,ultra runner,and spoiled pets.
                                                  Author "The Summit Seeker"



If you can't run,then walk. And if you can't walk,then crawl. Do what you have to do. Just keep moving forward and never,ever give up.
                                                  @@Dean Karnazes


Only those who will risk going too far can possibly find out how far they can go.
                                                  @@T.S. Eliot

 After climbing a great hill, one only finds that there are many more hills to climb.
                                                 @@Nelson Mandela


Vision without action is a daydream. Action without vision is a nightmare.
                                                 @@Japanese Proverb


There are only two days in a year that nothing can be done .
One is called ...yesterday.. and the other is called ...tomorrow.
                                                @@The Dalai Lama


You can hurt more than you ever thought possible, then continue until you discover that hurting isn't that big a deal.
                                       @@ Scott Jurek ,seven-time Western States 100 mile winner



Long distance running is not separate from the rest of life. It will affect your overall vitality, endurance, and patience,and may also affect your relationships and worldview. You will very likely becomed less complacent, more questioning, more adventurous, and more reconnected with your youth.
                                       @@ The Longest Race



Most runners run not because they want to live longer, but because they want to live life to the fullest.
                                      @@Haruki Murakami






 




 

Create Date : 22 มีนาคม 2561
2 comments
Last Update : 23 พฤศจิกายน 2562 19:11:21 น.
Counter : 3255 Pageviews.

 

พี่หญิงคะ มิลค์กายภาพนะคะ ไม่ทราบว่าพี่ใส่เป้น้ำไซค์ไหนคะ หนูซื้อมาดูเหมือนเล็กสุดยังหลวม หนูซื้อรุ่นsolomon adv skin 12set size xs-sแกว่งมากค่ อยากส่งภาพให้ดูทำไงดีคะ

 

โดย: มิลค์ IP: 58.11.111.234 1 กันยายน 2561 6:08:50 น.  

 

สวัสดีค่ะ น้องมิลค์ PTคนสวย

สบายดีไหมคนสวย คิดถึงนะคะ

ตอบเรื่องเป้...

พี่หญิงใช้solomon adv skin XS/S เหมือนน้องมิลค์
พี่หญิงมี 2 รุ่น คืือ แบบ 5 set และ 12 set ทั้งคู่ไซส์ XS/S

แบบ 5 set จะใบเล็กและกระชับกว่ารุ่น 12 set

พี่จะใช้ใบ 5 set ก็ต่อเมื่อเอาไปวิ่ง 50 km หรือ ระยะที่สั้นกว่า เพราะใส่ของไม่เยอะมาก วิ่งไม่เหวี่ยง

ส่วน 12 set พี่จะใช้ก็ตอนไปวิ่ง 100 km เพราะต้องใส่ของเยอะแน่นทุกช่อง รุ่นนี้ต้องใส่ของให้เต็มทั้งด้านหน้าและหลังและต้องมีน้ำหนักประมาณหนึ่งถึงวิ่งแล้วจะไม่เหวี่ยง
ถ้ารุ่น 12 set ใส่ของน้อยไปไม่เต็มทั้งหน้าและหลัง น้ำหนักเบาๆก็จะวิ่งแล้วเหวี่ยงค่ะ

น้องมิลค์อาจต้องซึ้อแบบรุ่น 5 set สำหรับบรรจุน้ำหนักไม่เยอะ จะได้ไม่เหวี่ยง
ส่วนอันที่มี (12 set) ก็เก็บไว้ใช้เมื่อน้องมิลค์วิ่ง 100km ซึ่งพี่เชื่อว่าอีกไม่นาน น้องก็ลงสมัคร 100kmแล้ว เพราะน้องวิ่งเก่ง/ แข็งแรง
แต่ถ้าไม่อยากซื้อใหม่ก็ต้องใส่ของเยอะๆ เพื่อให้วิ่งแล้วไม่แกว่ง แต่ก็เปลืองแรงโดยใช่เหตุเพราะต้องแบกของเยอะเกินที่จำเป็น

พี่หญิง



 

โดย: Yoja&Jiji 1 กันยายน 2561 12:32:21 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

 

Yoja&Jiji
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 560 คน [?]




***ขอแจ้งให้ทราบว่า สำหรับผู้ที่เข้ามาถามคำถามเกี่ยวกับการแก้ปัญหาพฤติกรรมสุนัข จะไม่มีการตอบแล้ว โปรดอ่านบทความในบล็อกให้ละเอียด ทำความเข้าใจทุกประโยค คำถามส่วนใหญ่ มีคนมาถามแล้ว ให้อ่านคำตอบที่เคยตอบปัญหาของคนที่เคยถามได้ในส่วน comment ก็จะช่วยให้ได้ความเข้าใจและได้คำตอบ***

บทความและรูปภาพในบล็อก Yoja&Jiji เป็นลิขสิทธิ์ของเจ้าของบล็อก แต่ยินดีที่จะให้นำบทความไปเผยแพร่ต่อที่ไม่ใช่เพื่อการค้าและธุรกิจ
ด้วยเงื่อนไขที่ต้องเขียนลิงค์ที่มาของบทความให้ชัดเจน ว่ามาจาก http://yojajiji.bloggang.com เพื่อที่หากมีผู้อ่านที่มีข้อสงสัย จะได้ตามลิงค์เข้าไปอ่านบทความอื่นๆที่เกี่ยวข้องเพื่อความเข้าใจที่ถูกต้อง ทั้งนี้เพื่อประโยชน์ของผู้รักสุนัขและสุนัข
--------------------------------------------------------
ผมโยจา พี่สาวผมชื่อจีจี้ และน้องสาวชื่อยูจิ
โปรดเข้ามาเยี่ยมชมบ่อยๆนะครับ
Blog นี้สำหรับช่วย คนรักหมา คนเลี้ยงหมา ให้มีความสุขกับน้องหมาในแนวทางของ Cesar Millan
ปัญหาพฤติกรรมสุนัขที่ไม่เหมาะสมกับครอบครัวเรา ไม่ว่าจะร้ายแรงมากหรือน้อย เป็นมานานแค่ไหน 1 วัน หรือ หลายปี คุณเองก็แก้ไขปรับได้ ด้วยหลักการเดียวกัน
เริ่มเลี้ยงสุนัข อยากให้ไม่มีปัญหาพฤติกรรมสุนัขต่างๆ เลี้ยงดูป้องกันไม่ให้มีปัญหาได้ด้วยตัวคุณเอง ด้วยหลักการเดียวกัน
ติดตามอ่านให้เข้าใจหลักจิตวิทยาสุนัข ตามแนวทางของ Cesar Millan
New Comments
[Add Yoja&Jiji's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com
pantip.com pantipmarket.com pantown.com