อารมณ์ที่นึกไม่ออกว่าอารมณ์ไหน
จริงๆ อารมณ์ที่เขียน blog วันนี้คือ อารมณ์ไม่มีอารมณ์อ่านหนังสือ
แต่อารมณ์ที่เป็นอยู่เนี่ย ไม่รู้มันคืออะไร อารมณ์พลาด + อารมณ์ดีแล้ว + อารมณ์แล้วไงต่อดีหละ + ... เป็นอารมณ์ที่งงๆ ว่างั้นเหอะ
ซึ่ง เด๋วมันก็ผ่านไป แต่ ก็จดไว้หน่อยแล้วกัน (แต่จะจดยังไงดีหละ ยังนึกไม่ออกว่ามันเป็นไงเลย)
เล่าดีไหมน้า การเมืองไม่เข้าใครออกใคร เป็นเรื่องอจินไตย จริงๆ แต่นี่ไม่ใช่เรื่องการเมืองในประเทศหรอกนะ แต่เป็นเรื่องการเมืองในคณะ ต่างหาก การเมืองระดับเล็ก ไม่น่ามีการโกงกันนะ และการเมืองดูแล้วก็ไม่น่าพิสมัยสำหรับเราเท่าไร แต่แล้ว เราก็ลองลงสมัครหาตำแหน่งดู ครั้งแรกเลยนะเนี่ย ไม่รู้ตอนนั้นคิดยังไง มาตอนนี้ยังรู้สึก ตอนทำตอนนั้นเราคิดเยอะพอแล้วเหรอ
เราก็เป็นคนเคยทำงานมาเยอะนะ แต่ทั้งหมด เราเป็นหัวหน้าคนอื่นด้วย เค้ายกให้ เราไม่เข้าใจว่าเค้ายกให้เนี่ย ยกให้จริงๆ หรือยกให้เพราะเรายึดเอาอำนาจนั้นมาแล้วโดยไม่รู้ตัว แต่งานทั้งหลาย เป็นเรื่องที่เราเกี่ยวข้อง คลุกคลีกับมันมา จนคนอื่นเค้าก็ยกให้หนะแหละ (รู้สึกไม่ค่อยดีเท่าไรนักนะ เพราะไม่รู้คนอื่นจะคิดยังไงกับที่เราเป็นแบบนี้ บางทีมันทำให้คนอื่นไม่กล้าทำอะไร) แต่ก็เอาเหอะ เราก็ทำได้ และก็เต็มใจทำด้วยหละ คนอื่นจะคิดไงก็บอกๆ มามั่งแล้วกัน ไม่งั้นยกมาแล้วก็ช่วยไม่ได้นะฮับ
แต่ครั้งนี้สิ มันเป็นเรื่องที่อยากเปลี่ยนแปลง อยากให้อะไรๆ ดีขึ้น ในเรื่องที่เราไม่เคยเข้าไปเกี่ยวข้องมากนัก จริงๆ แล้วก็คือ กรรมการนิสิตคณะ นั่นเอง ซึ่งแต่เดิมความรู้สึกของคนแทบจะทั้งรุ่น คิดว่า มันเป็นอะไรที่ดูแบ่งแยก ไม่ใช่ส่วนหนึ่งของสังคมโดยรวม เหมือนว่าไม่ใช่ตัวแทนของพวกเราว่างั้น ที่เป็นอย่างงั้นไม่รู้เพราะอะไร เพราะด้วยความยุ่งวุ่นวาย ด้วยความว่ามีอำนาจ ด้วยความว่าไม่กระจายอำนาจออกอย่างถูกวิธี ด้วยความดูเทาดำ ไม่เปิดเผย ไม่รู้ ไม่ว่าด้วยอะไรก็ตาม มีคนไม่อยากยุ่ง มากมาย
ด้วยความเพื่อนที่เรารู้สึกดีด้วย แบบว่าคุยๆ กันมาเรื่อง กรรมการนี้ เรื่องอะไรต่างๆ ในคณะ มาพอควร มันทำงานดี และก็โดนทาบทามให้ทำ ทั้งจากฝ่ายคณะรัฐมนตรี และ ฝ่ายคณะปฏิวัติ แม้ตอนจนกระทั่งตอนนี้มันก็ค่อนข้างสับสนระหว่างความ ไม่อยากยุ่ง กับความ อยากเปลี่ยนแปลง
เราด้วยถ้าที ถ้าแกทำ เราจะช่วย มาตลอด ไม่คิดจะลงตำแหน่งอันใด คืนสุดท้ายที่เค้าส่งใบสมัครกัน ด้วยความต้องเอาของขึ้นไปให้ และด้วยความที่เพื่อนก็เครียดๆ อยู่พอควร ไม่ค่อยเห็นมันเครียดเอาขนาดนั้น เอามือตบขาทีนึงเบาๆ "แกลงเป็นเพื่อนชั้นนะ" ในเมื่อมันลง ไอ้เราก็จะช่วยอยู่แล้ว ก็เอาวะ ลงก็ลง เพราะคนลงขำๆ ก็เยอะอยู่ ไอ้เราก็ ลงขำๆ ก็ได้ฟะ (ในใจก็คิดว่า คงจะได้หละมั้ง ช่วยมันทำ) เขียนใบสมัครแบบว่า ไม่ใส่อะไรเลยเหลือเกิน ว่างๆ ไป ใจนึงก็กลัวได้อยู่ ใจนึงก็ถ้าไม่ได้ แล้วเพื่อนหละ แต่ตอนนี้ รู้สึกว่าไม่ได้เนี่ยหละดี คล่องตัว จะช่วยงานทำอะไรก็ง่าย เพราะอยู่ในฐานะ คนอยากจะช่วยทำ
แต่อีกตำแหน่งที่เพื่อนเราอีกคนลงสมัคร เป็นการต่อสู้ชิงชัยในสงครามเย็นอยู่เหมือนกัน ระหว่างรากหญ้า และ ผู้ดูแคลนว่าคนอื่นทำงานไม่เป็น(เพราะตัวเองทำงานมาก่อนในงานนั้นๆ) เราแน่นอน สนับสนุนรากหญ้า อยากเปลี่ยนแปลงให้ส่วนร่วมอยู่ในทุกแห่งของคณะ แต่สงครามเย็นอันนี้ ดูเป็นตัวแปรสำคัญสำหรับ คณะทำงานทั้งหมดเลยหนะสิ
ความคลางแคลงใจ อยู่ที่ ตำแหน่งนี้ พรรครากหญ้านำอยู่มาก อยู่ดีๆ ตอนจบ พรรครัฐบาลก็กลับมาชนะไปประมาณ 10 คะแนน เท่านั้น ซึ่งจริงๆ แล้ว ส่วนตัว ไม่คิดว่าจะมีการโกงหรอกนะ ถ้าจะโกงก็อย่ามาทำเลย เสียศักดิ์ศรี เรื่องแค่นี้จะโกง แต่เพื่อความสบายใจของทุกฝ่าย ของหัวคะแนน และของฝ่ายต่างๆ ก็อยากให้มีการนับคะแนนใหม่ ของตำแหน่งที่มีการสูสี ก็คงจะได้นับกันวันอังคาร เพราะหยุดไป 3 วัน แต่ก็คงไม่แน่ ถึงวันนั้นก็คง ไม่อยากจะนับใหม่กันแล้วก็เป็นได้
แต่ อย่ามานับใหม่ตำแหน่งชั้นหละ ไม่เอาแล้วนะ ไม่ได้ดีกว่า จริงๆ
ปัญหาอยู่ที่ว่า เพื่อนที่ได้แน่ๆ ไปแล้วเนี่ยสิ มันเครียดนะเนี่ย เป็นห่วงนะเนี่ย แล้วเด๋วจะเข้าไปช่วยนะ
เอาเป็นว่าปัญหาทั้งหลายคงไม่มีอะไร เขียนจบรู้หละว่าอารมณ์อะไร
อารมณ์อยากเมาท์ นั่นเอง ขึ้นไปห้องเพื่อนแล้วคุยแล้วเรียบร้อยไปหละ
ตอนนี้อารมณ์อยากนอน ไปดีกว่า อิอิ
Create Date : 10 ธันวาคม 2548 |
|
4 comments |
Last Update : 10 ธันวาคม 2548 2:51:19 น. |
Counter : 652 Pageviews. |
|
|
ฝันดีหละกันเนอะ