The journey is my life

Travel Animal
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 8 คน [?]




เป็นคุณแม่มือใหม่ที่รักการท่องเที่ยวเป็นชีวิตจิตใจ เคยเป็นคนโสดที่รักอิสระและชอบเที่ยว ไปได้ทั้งแบบแบ็คแพ็ค ลุย จนถึงแบบชิลด์ ชิลด์ จิบกาแฟ

แม้ช่วงนี้จะสนใจเรื่องครอบครัวและการเลี้ยงดูลูกเพื่อให้เติบโตเป็นคนดีในอนาคต คุณแม่มือใหม่คนนี้ก็ยังพยายามหาเวลาว่าง ให้ตัวเองสามารถมีกิจกรรมร่วมกับเพื่อนที่มีครอบครัวและเพื่อนสาวโสดอยู่ตลอดเวลา

งานอดิเรก รักการเดินทาง อ่านหนังสือ ดังนั้นไม่ต้องแปลกใจหากบล๊อกนี้จะเน้นเรื่องเที่ยวและเรื่องกิน
New Comments
Group Blog
 
 
มีนาคม 2557
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
6 มีนาคม 2557
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add Travel Animal's blog to your web]
Links
 

 

เมื่อคิดจะพาแม่เที่ยวญี่ปุ่น

เมื่อแรกที่แม่บอกว่า อยากไปญี่ปุ่นเราก็ยังอิดออดอยู่ค่ะ ก็มาจากหลายสาเหตุค่ะ ทั้งเรื่องงบ เรื่องสถานที่เที่ยว เรื่องคนไปด้วย อื่น ๆ อีกมากมาย (แต่หลัก ๆ ก็เรื่องเงินเนี่ยแหละ) แถมเวลาก็ไม่ค่อยมีเพราะปีนี้งานยุ่งมาก (แต่เงินเดือนไม่ขึ้นนะจ๊ะ ก็เศรษฐกิจมันไม่ค่อยดี) แต่ท้ายสุดเราก็มานั่งคิดว่า เมื่ออยากพาแม่เที่ยวก็ไปเลยดีกว่า จะมัวนั่งรออะไร (เงินไม่ค่อยมี ก็จัดไปตามที่มี) ไว้แกชอบค่อยไปใหม่ ไม่ต้องมานั่งผลัดวันประกันพรุ่ง แต่ความรู้สึกช้าไปนิด ตั๋วเต็มเกือบหมด ไอ้ที่ไม่เต็มก็แสนแพง ไอ้ที่ไม่แพงก็หลายต่อ ประมาณว่าไปถึงญี่ปุ่นก็คงหมดแรงเที่ยว แถมคุณนายแม่ขอว่า อยากไปทัวร์เนื่องจาก she ภาษาอังกฤษไม่แข็งแรงและไม่อยากเจอแต่คนญี่ปุ่นเพื่อนลูกตลอดทริป อยากมีเพื่อนภาษาเดียวกันเม้าท์ไประหว่างทาง ก็เลยสรุปว่าไปกับทัวร์แล้วกัน (ราคาถูกกว่าไปเองอีก สำหรับช่วงนี้และสำหรับเราผู้ซึ่งจองตั๋วช้า)

จริง ๆ อีกสาเหตุที่ตัดสินใจว่าจะพาแม่ไปญี่ปุ่นใน season นี้เลย ก็เนื่องมาจากน้องที่ออฟฟิศ ก็พาไปแม่เค้าไปเหมือนกัน เหมือนจุดประกาย เพราะแม่เราก็ร่ำร้องอยากไปญี่ปุ่นมานานแล้ว ขนาดว่าเราเสนอพาไปฝรั่งเศสก่อน she ก็ไม่ยอม

พอตัดสินใจได้ว่าไปทัวร์ ก็เอาหละสิไปทัวร์ไหนดี ทัวร์ผลไม้ก็เต็มหมดแล้ว แล้วมันเหลืออะไรอีก กลัวมาก กลัวว่าจ่ายเงินไปแล้วไม่ได้ดังที่จ่าย เพราะญี่ปุ่นเราก็ไปบ่อย เรื่องราคาเราก็พอรู้ ดังนั้นมันก็เลยเกิดอคติว่า ถ้าทัวร์ไปไม่ดีสมเงินที่จ่ายเราก็จะเสียใจ (เรียกได้ว่า คิดมากเกินไป กลัวเกินเหตุ) ก็นะพาแม่ไปทั้งทีไม่อยากให้ผิดหวังและอยากให้เค้าประทับใจญี่ปุ่นเหมือนที่เรารู้สึก (หวังมากไปเปล่าเนี่ย) เลือกไปเลือกมา (แบบมั่ว ๆ เพราะความรู้เรื่องนี้เป็นศูนย์) ได้มาบริษัทหนึ่ง ชื่อ Compax World ลองโทรไปขอดูโปรแกรมก็ตอบมาเร็วมากมาย สุดท้ายจองโปรแกรมที่ไม่ค่อยมีคนพาไป ก็คือ Ise Peninsula, Hamanako, Kawaguchiko, Tokyo, Nikko.... เพราะเราก็ไม่เคยไป Ise Shrine และ Hamanako ส่วนแม่ก็ยังไงก็ได้ ไปไหนก็ได้ แต่สิ่งที่แม่อยากเห็น คือ หิมะ ซากุระ และภูเขาไฟฟูจิ (แหม !!! แต่ละอย่างยากจริงวุ้ย ไปเองก็ไม่ไป แล้วทัวร์ไหนเค้าจะจัดให้ท่านได้ดังประสงค์หละเนี่ย)

ตอนแรกพยายามเลื่อนตั๋วกลับ เพราะดูระยะหลังซากุระไม่ยอมบานซักที วัน ๆ ไม่ค่อยได้ทำงาน มัวแต่เครียดเรื่องซากุระกับอากาศ ท้ายสุดทำใจดีกว่า ได้ไงก็งั้นแหละ สภาพอากาศเรากำหนดไม่ได้ ส่วนบริษัททัวร์ก็ช่วยเหลือเราดีมากเลยค่ะ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องวีซ่า (อย่างที่บอกว่า รู้ตัวช้าคนอื่นเค้าได้วีซ่ากรุ๊ปจะเดินทางแล้ว เรายังไม่ได้ทำไร) แต่เรื่องวีซ่าก็ไม่ยากเท่าไหร่ เราไม่ต้องใช้เอกสารอะไรเลย ส่วนของแม่เรารับรองเอง แล้วบริํษัททัวร์ก็ยังมีเจ้าหน้าที่คอยบริการที่สถานทูตด้วย ประทับใจ จนในที่สุดก็ได้วีซ่ามา หรือแม้แต่ตั๋วเครื่องบินที่เค้าก็พยายามหาให้เรา แม้กระทั่งจะเปลี่ยนไปซื้อตั๋วปรกติ (มันก็นะ ยังไม่ได้) แต่ก็ต้องยอมรับว่าเค้าเต็มที่กับเรามาก ๆ

โปรแกรมการเดินทางของเรา คือ 24-29 มีนาคม 2553 โดย JAL สถานที่ท่องเที่ยวเป็นดังนี้
วันแรก - สวนดอกไม้ Nabana Garden, Ise Shrine, หินคู่ตำนานของการกำเนิดประเทศญี่ปุ่น
วันที่สอง - นั่งรถไป Hamanako, แวะกินปลาไหล ไป Kawaguchiko
วันที่สาม - นั่งรถเข้าโตเกียว ไป Asakusa, Shinjuku
วันที่สีี่ - Nikko, Tobu World
วันที่ห้า - ดูซากุระที่ Ueno Park, Shopping ปิดท้ายที่ Aeon ห้างดังที่ทัวร์ไหน ๆ ก็ต้องไป ก่อนกลับเมืองไทย


พอเราตกลงใจไปกับ Compax Wolrd เราก็รีบเข้าไปดูข้อมูลกับการท่องเที่ยวญี่ปุ่น ว่าบริษัทนี้มีการขึ้นทะเบียนจริง มีตัวตนจริง จัดไปญี่ปุ่นจริง แบบว่าไม่หลอกลูกทัวร์ไปลอยแพแน่นอน คือเรื่องลอยแพไม่กลัว เรากลัวเงินสูญมากกว่า พอเช็คแล้วไม่มีประวัติอะไรให้เป็นกังวล เราก็ติดต่อทำจองและให้ทางบริษัททัวร์จัดการเรื่องตั๋ว ส่วนวีซ่าเราพาแม่ไปทำเอง เพราะทัวร์ค่อนข้างช้า และอีกอย่างสถานทูตญี่ปุ่นก็อยู่ไม่ไกลจากออฟฟิศเราอยู่แล้ว
ทัวร์นี้ค่อนข้างมืออาชีพนะ (ในความคิดเรา คือจริง ๆ ก็ครั้งแรกไม่รู้เรื่องหรอกว่าเค้าต้องทำอะไรบ้าง คุณแม่ซะอีกที่บอกว่า เค้าต้องอย่างนั้นอย่างนี้)

เจอกับคุณไกด์ที่สนามบิน แล้วเช็คอิน เข้าไปเดินซื้อของ แล้วก็ไปนั่งรอขึ้นเครื่อง ระหว่างนั้นก็ได้รู้จักกลุ่มที่จะเดินทางไปกับเราซึ่งมาจากชลบุรี ระยอง เป็นคู่แม่ลูกสามคู่ (ดีจัง ได้เพื่อนตั้งแต่เครื่องยังไม่ออกเลยวุ้ย)

นั่งเครื่องแป๊บเดียว แถมกินข้าวเช้าตั้งแต่ 1.30 น. เวลาประเทศไทย ด้วยเหตุผลที่ว่า เมื่อใกล้ถึงเมืองนาโกย่า สภาพอากาศจะไม่ดี ทำให้แอร์เสิร์ฟอาหารลำบาก เค้าก็เลยขอเสิร์ฟอาหารเลยเพื่อความปลอดภัย

ถึง Nagoya เจ็ดโมงเช้า คุณไกด์พาผ่าน ตม. และออกมาขึ้นรถในที่สุด ต้องขอชมคุณพี่ไกด์มาก ๆ ค่ะ คงเพราะแกทำมานานแล้ว สังเกตทุกครั้งแกจะรีบวิ่งไปยืนรอพวกเราในทุกจุด และแกก็จะเป็นคนสุดท้าย (เพื่อตามนับว่าลูกทัวร์ตัวน้อยครบหรือเปล่า นอกจากนี้คุณพี่เค้ายังมีน้ำใจมาก คือไม่ใช่เฉพาะกับกลุ่มเรานะคะ กับกลุ่มคนไทยที่มาทัวร์อื่นเค้าก็ไปช่วย) ในไฟล์ทเดียวกันกับเรามีคนไทยสองคนไปกับทัวร์แล้วทำพาสปอร์ตหายค่ะ หายระหว่างทาง จากสุวรรณภูมิมาที่สนามบินนาโงย่านั่นแหละ น่าสงสารเค้าจังและสงสารคนไปกับเค้าด้วย เพราะสงสัยว่า คงต้องเสียเวลาอยู่ที่สนามบินนานมากเลยทีเดียว


พร้อมแล้วออกเดินทาง สถานที่แรกสวนดอกไม้ nabana เลยค่ะ สวนสวยมาก แต่ฝนตกตลอดทำให้ถ่ายรูปก็ไม่สวย แถมหนาวมาก สรุปไม่ค่อยมีอารมณ์กดชัตเตอร์เลย


Nabana Garden หรือ Nabana No Sato อยู่ในเมือง Kuwana ในจังหวัด Mie วิธีการไปไม่ยาก หากใครไม่ได้มาักับทัวร์ก็สามารถนั่ง JR มาได้ โดยลงที่ Kuwana Station แล้วก็นั่งรถเมล์ต่อมา ค่าเข้าคนละ 1500 เยน ถ้าใครชอบดอกไม้นะคะ เราแนะนำค่ะ สวยมากกกกกกกก แล้วที่นี่ก็มีต้นซากุระเก่าแก่อายุหลายร้อยปี (เสียดายว่ามันยังไม่บาน ไม่งั้นคงได้ถ่ายรูปมาให้ชมกัน)

ใครสนใจหาข้อมูลเพิ่มได้ที่
//tourismmiejapan.com/search/spot.php?act=dtl&id=22


เดินไปทางไหนก็มีแต่ดอกไม้ เนี่ยถ้าแดดออกคงถ่ายรูปได้สนุกกว่านี้

ดงทิวลิปสุดลูกหูลูกตา

เดินเที่ยวสวนจนได้เวลาอาหารเที่ยง อาหารมื้อแรกผ่านไปด้วยดี เรากลัวมากเลยค่ะ ว่าแม่จะกินอาหารอะไรไม่ได้ ปรากฎว่าผิดคาดมาก แม่กินได้ทุกมื้อแถมติดใจอีกต่างหาก (สงสัยโบนัสปีหน้าถ้ามี คงต้องพาแม่มาเที่ยวญี่ปุ่นอีก)

อาหารเที่ยงวันนี้เห็นคุณไกด์บอกว่า เราจะได้ชิม Ise Ebi หรือกุ้งอิเสะนั่นเอง อร่อยสมชื่อค่ะ ถ้าใครได้ไปแถว Ise ต้องไปลองนะคะ

หลังจากนั้นเราก็ไป Ise Shrine กันเลยค่ะ

ิศาลเจ้าอิเสะ เป็นหนึ่งในสี่ศาลเจ้าสำคัญของคนญี่ปุ่นนะคะ (ศาลเจ้าทั้งสี่คือ ศาลเจ้าเมจิที่โตเกียว ศาลเจ้าโทโชขุที่นิกโก้ ศาลเจ้าอิเสะ และอีกศาลเจ้า จำไม่ได้ค่ะ)

ศาลเจ้าอิเสะ จริง ๆ ไม่ใช่แค่ศาลเจ้าแต่เป็นกลุ่มศาลเจ้า ซึ่งมีศาลเจ้าหลักสองแห่ง และมีศาลเจ้าเล็ก ๆ หรือศาลเจ้าบริวารรายล้อม เสียดายว่าฝนตกและเรามีเวลาน้อยได้เดินแค่ชั่วโมงกว่า ถ้ามีโอกาสเราคงต้องมาเที่ยวใหม่ค่ะ กลุ่มศาลเจ้าเหล่านี้จะอยู่ในเขต Ise-Shima National Park

อย่างที่บอกว่า บริเวณศาลเจ้าเป็นป่าสน เห็นคุณไกด์บอกว่าเป็นสนขาว บรรยากาศดีมาก ๆ อยากมีเวลาอยู่แถวนี้ซักวันเต็ม ๆ

ตามธรรมเนียม ไปศาลเจ้าไหน ๆ ก็ต้องล้างมือ

ด้านหลังร้านเห็นสะพานข้ามแม่น้ำ (รู้สึกว่าจะชื่อแม่น้ำอิเสะนะ---- เรื่องข้อมูล ชื่อสถานที่อย่ามาเอาแน่เอานอนมากค่ะ สำหรับคราวนี้ เพราะเราไปแบบไม่ได้เตรียมตัวอะไรเลย กะว่าชีวิตนี้ฝากไว้กับไกด์ ถ้าไม่ดีอะไรก็โทษไกด์ อะ ไม่ใช่นะ 555)
ศาลเจ้าอิเสะเป็นศาลเจ้าที่มีความสำคัญมาก ดังนั้น Highest priest ต้องเป็นคนในราชวงศ์นะคะ และสถานที่ที่เค้าอนุญาตให้เดินเข้าชมได้ก็มีน้อย เพราะว่าที่นี่เป็นที่เก็บเครื่องราชกกุธภัณฑ์ (ไม่รู้สะกดถูกหรือเปล่า) แต่บรรยากาศรอบ ๆ สวยมาก ภายในมีต้นไม้ใหญ่อายุหลายร้อยปี

สะพานที่เชื่อมเข้าสู่ศาลเจ้าจากบริเวณร้านค้าด้านนอก

ไปเดินเล่นด้านหน้ากันดีกว่า มีของขายเยอะแยะ เดินแล้วนึกถึงหนังญี่ปุ่นเรื่องโอชิน สมัยนั้นบ้านเมืองเค้าเป็นแบบนี้หรือเปล่าน้า
บ้านแบบโบราณเนี่ยดูดีจัง เห็นแล้วอยากใส่ยูกาตะ หรือกิิโมโนแขนสั้นไปเดินช๊อปปิ้ง

ใครมาย่านนี้แนะนำให้ซื้อซุปกุ้งมังกรไปชิมค่ะ อร่อยมาก เราซื้อมาห่อเดียวแบบว่าเสียดายตังค์แล้วกลัวไม่อร่อย ตอนนี้อยากซื้อมาตุนไว้ซักสิบห่อ (หนึ่งห่อมี 6 ซอง) ใส่สาหร่ายและเต้าหู้ด้วยยิ่งเริ่ดมาก ๆ

เดินนาน เหนื่อยไปดื่มชากันดีกว่า

ร้านชานี้ คุณแม่เลือกเองค่ะ ประมาณว่า อยากได้ประสบการณ์การนั่งจิบชายามฝนตกท่ามกลางคนญี่ปุ่น 5555 ชาและขนมอร่อยมาก เราจ่ายไป 280 เยน

ด้านหลังร้านเห็นสะพานข้ามแม่น้ำ (รู้สึกว่าจะชื่อแม่น้ำอิเสะนะ---- เรื่องข้อมูล ชื่อสถานที่อย่ามาเอาแน่เอานอนมากค่ะ สำหรับคราวนี้ เพราะเราไปแบบไม่ได้เตรียมตัวอะไรเลย กะว่าชีวิตนี้ฝากไว้กับไกด์ ถ้าไม่ดีอะไรก็โทษไกด์ อะ ไม่ใช่นะ 555)



หลังจากนั้นเราก็ไปดูหินคู่ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของ Izanami และ Izanagi เทพเจ้าผู้ให้กำเนิดประเทศญี่ปุ่น


ใกล้ ๆ กับหินคู่ซึ่งเป็นที่จอดรถ มีส่วนที่เป็นตลาดขายของประจำท้องถิ่น ดู ๆ ไปก็เหมือนตลาดบ้านเพติดแอร์เลย เพราะมีอาหารทะเลหลายอย่างค่ะ

จบทริปของวันนี้ด้วยการเข้าพักที่ Ise Shima Royal Hotel วิวรอบ ๆ โรงแรมสวยดีเห็นทั้งทะเลและภูเขา ออนเซ็นก็ใช้ได้ โดยเฉพาะในส่วนของออนเซ็นที่อยู่ด้านนอกเค้าทำเป็นแบบ rock bath ลงไปแช่น้ำร้อนตอนที่อากาศหนาวเนี่ยมันแสนสบาย เราพาแม่เราไปออนเซ็นตอนแรกคุณแม่ตกใจนิดหน่อยค่ะ แต่พอได้ลองติดใจ หลังจากนั้นไปออนเซ็นทุกวัน เรียกได้ว่า ห้องน้ำจะเล็กใหญ่ไม่ว่า ขอแค่มีออนเซ็นเป็นพอ

TIP:เรื่องเลือกทัวร์เราแนะนำว่าให้หาก่อนว่าทัวร์ไหนได้รับใบอนุญาตจากสถานทูตค่ะ หลังจากนั้นก็ลองดูโปรแกรม แต่ว่าเท่าที่เราสอบถามคนในกรุ๊ปเดียวกับเราที่เคยมาญี่ปุ่นนะคะ เค้าบอกว่าบางทีบริษัทดังก็ไม่ได้เป็นการการันตีว่าจะดี อย่างน้อยสิบคนในกลุ่มของเราบอกว่า การไปเที่ยวคราวนี้ดีกว่ามากมาย ส่วนหนึ่งต้องยกนิ้วให้กับคุณไกด์คนเก่งค่ะ เราว่าพี่เค้าเก่งมาก ๆ ดูแลทุกอย่าง เสนอแนะให้คำแนะนำ แก้ปัญหาได้ทุกอย่าง ๆ จริง ๆ แกก็บอกว่า มีปัญหาอะไร อยากได้อะไรให้บอก แกจะพยายามจัดให้ ขนาดว่ามีวันนึงว่างช่วงบ่าย ซึ่งจริง ๆ แกไม่ต้องทำอะไรก็ได้ค่ะ แต่แกก็เสนอตัวเองพาพวกเราไปเที่ยวชินจูกุโดยรถไฟ ทั้ง ๆ ที่เค้าจะเลือกไปนอนพักหรือไปทำอย่างอื่นก็ได้ ถ้ามีใครมาถาม เราก็จะแนะนำบริษัทที่เราไปเนี่ยแหละค่ะ บริการดี ประทับใจ และให้ข้อมูลลูกค้าเยี่ยมมาก ๆ

เรื่องราคาทัวร์นี้ก็ไม่แพงมาก ราคาทั่วไป แต่เท่าที่เราเช็ค รู้สึกว่าโรงแรมและอาหารดีมาก ๆ (มีอาหารให้ทุกมื้อ) และเป็นอาหารแบบเซ็ทกินเต็มที่ (เสียอย่างเดียว กินแต่ปลา แต่เราก็ชอบอยู่แล้วไม่มีปัญหา) เรื่องอาหารเนี่ย ถ้าใครไม่กินอะไรก็ต้องบอกทัวร์ล่วงหน้านะคะ เราเองก็ไม่ทราบมาก่อน แต่ในกลุ่มมีพี่คนนึงเค้าไม่กินปลาค่ะ แล้วเค้าก็ไม่บอกทัวร์ล่วงหน้า ทำให้เค้าไม่ค่อยสนุกกับการกินอาหารญี่ปุ่นเท่าไหร่ แต่สำหรับเราและแม่ สบม. (สบายมาก - กินได้ทุกอย่าง อร่อยทุกมื้อ)




 

Create Date : 06 มีนาคม 2557
0 comments
Last Update : 7 มีนาคม 2557 12:01:48 น.
Counter : 10006 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.