|
ถนนสายนี้มีตะพาบโครงการ 15: หลอน

ตึกแถวเก่าๆสูงสี่ชั้นลึกเข้าไปในซอยตัน หลายคูหาถูกทิ้งร้างไร้ผู้อยู่อาศัย ป้ายประกาศขายประกาศเช่าติดเกลื่อนกลาด ถัดจากคูหาหัวมุมทางขวามาคูหาที่สามสี่คือสถานที่แห่งเรื่องราวอันน่าหวาดสะพรึง ค่าเช่าราคาถูกทำให้สองคูหาติดกันนี้ถูกปรับปรุงต่อเติมเป็นออฟฟิศทำงาน บริษัทเล็กๆพนักงานไม่ถึงสิบคนพอเหมาะกับสถานที่ แต่ด้วยบรรยากาศโดยรอบที่เงียบเหงาวังเวง เปลี่ยวร้างไร้ผู้คนพลุกพล่าน การอยู่เวรเฝ้าออฟฟิศจึงถูกจัดตาราง
ผมเป็นพนักงานชาย หนึ่งในสี่ของบริษัท ตารางเวรถูกจัดให้อยู่เวรถัดไปในสัปดาห์ที่สอง ระยะเวลาคือหนึ่งอาทิตย์ของการนอนเฝ้าออฟฟิศ กับรปภ.ชราที่นั่งเฝ้าด้านหน้าของอาคาร หนึ่งวันก่อนถึงเวลาหน้าที่เข้าเวรของผม
เป็นไง นอนออฟฟิศสบายเปล่า ผมตบไหล่เพื่อนเบาๆก่อนเอ่ยถาม อือ ก็ดีว่ะเงียบดี เพื่อนตอบโดยสายตายังจ้องหน้าจอตรงหน้า ไม่เจออะไรๆน่ากลัวๆบ้างรึ ผมเอามือโอบไหล่สายตาจ้องไปที่หน้าจอ ไม่นะไม่เห็นมีอะไร มีก็แต่...ผีอำแมร่งทุกคืน ชินเลย เพื่อนตอบพร้อมหันมายิ้มแบบมีเลศนัย ไอ้ห่า พูดเป็นเล่นไปได้ ผมสบถเบาๆก่อนเดินจากมา
ค่ำคืนของการนอนเฝ้าออฟฟิศตามตารางเวรมาถึง ผมเตรียมหมอนที่นอนผ้าห่ม และที่ขาดไม่ได้ สร้อยคอพร้อมหลวงพ่อองค์เล็กที่ใส่ไว้ตลอดเวลาแม้ตอนอาบน้ำ รปภ.ชราเป็นเพื่อนคุยฆ่าเวลาพอให้ถึงเวลาง่วง เลยผ่านสองยามไปเพียงเล็กน้อยหนังตาที่เริ่มปิดไม่อาจทนทานขืนขันต่อไปได้ ผมลาจากรปภ.ชรา ขึ้นไปยังห้องนอนชั้นสาม
ห้องโล่งๆไม่มีสิ่งของอะไรให้รกลูกตา สีขาวซีดกระดำกระด่างของฝาผนังและเพดานยังคงเดิมไม่ได้ถูกทาสีใหม่เหมือนชั้นล่าง ด้านตรงข้ามประตูทางเข้าเป็นประตูกระจกสีชาหมองสามารถเปิดออกไปยังระเบียงด้านนอกได้ ไม่มีม่านไม่มีมู่ลี่สำหรับบังแดดแสง พัดลมตั้งพื้นหนึ่งตัววางแอบอยู่มุมห้องใกล้ๆกับกองที่นอนหมอนของเพื่อนเฝ้าเวรคนก่อน ผมจัดแจงปูผืนที่นอนที่เตรียมมาและเปิดพัดลม เอนตัวลงนอนหลังจากปิดไฟ เงียบจริงๆอย่างที่เพื่อนว่า มีเพียงเสียงหึ่งๆเคร้งๆของพัดลมที่ส่ายไปส่ายมาเท่านั้น แสงจันทร์สาดเข้ามาทางประตูระเบียงทำให้ในห้องไม่ได้มืดสนิท สามารถมองเห็นทั้งห้องได้รางๆ แม้จะง่วงหนักมาจากข้างล่าง แต่ผมกลับไม่ได้หลับอย่างที่ตั้งใจ หัวใจเต้นตูมตลอดเวลา คิดถึงคำพูดของเพื่อนเรื่องโดนผีอำ จินตนาการเริ่มเตลิดเปิดเปิง
นับแกะๆ ผมคิดในใจ เริ่มต้นนับ แกะตัวที่หนึ่ง แกะตัวที่สอง........ ถึงตัวที่เท่าไหร่แล้ว สภาวะจิตกำลังเคลิ้ม พลัน! ป๊อกๆๆๆ.... เสียงเหมือนใครสักคนเคาะกระจกประตูระเบียง ผมสะดุ้งขว้าผ้าห่มคลุมโปงทันที นะโม นะโม นะโม....... เสียงสวดมนต์ มือไม้สั่นเหงื่อซึมฉาบฝ่ามือ กุมองค์พระที่ห้อยคอไว้แน่น เงียบงันในบรรยากาศมีเพียงเสียงลมหายใจแข่งกับเสียงพัดลมที่ยังส่ายไปมาไม่รู้ร้อนรู้หนาว เป็นเวลาของการตั้งสติ ตัดสินใจ
เอาไงดีว่ะ เอาไงดี ผมคิดตัดสินใจ เอ้า...เป็นไงเป็นกัน รวบรวมสติ พลิกตัวหันหน้าไปทางระเบียง ก่อนค่อยๆแง้มผ้าห่มที่คลุมโปง เพ่งสายตาไปยังประตูกระจกทางระเบียงนั้น แสงจันทร์ทาบฉาบบริเวณโดยทั่ว เงาตะคุ่มๆนิ่งงันสนิทเงียบอยู่ในมุมหนึ่งของประตู ผมพยายามเพ่งสายตา
โธ่เอ้ย ไอ้นกพิราบบ้า ผมสบถเบาๆ
เป็นไงวะ หลับดีป่าวเมื่อคืน เพื่อนคนเดิมทักในตอนเช้าวันทำงาน อือ ก็ดี ผมตอบเบาๆ เพื่อนเพียงมองหน้าที่อิดโรยของผม พลางตบไหล่และยิ้มบางๆ คืนสองสามสี่ผ่านไปโดยมีนกพิราบตัวนั้นเป็นเพื่อนนอนทุกคืน ผมได้หลับมากขึ้นแม้ในห้วงลึกยังหวั่นกลัวในสิ่งที่มองไม่เห็น แต่เรื่องผีอำในคำพูดของเพื่อนผมแทบลืมมันไปแล้ว
คืนสุดท้ายมาถึงก่อนที่จะโยนห้องนี้ไปให้เวรคนต่อไป ก่อนถึงเวลาเข้านอนผมลงไปนั่งคุยกับรปภ.ชราเช่นเดิมเหมือนทุกคืน
เป็นไงบ้างครับ นอนเจออะไรดีๆบ้างเปล่าครับ ลุงรปภ.เอ่ยปากถาม อะไรดีๆ นี่คืออะไรหละลุง ผมถามปนสงสัย ก็แบบ ผมยาวๆสวยๆ ลอยไปลอยมาหรือมายืนให้เห็น อะไรอย่างเนี๊ย ลุงรปภ.พยายามอธิบาย อ๋อ ผีหนะรึ ไม่นะ เจอแต่ผีนกพิราบตรงระเบียง เดี๋ยวนี้เป็นเพื่อนกันแล้วนอนด้วยกันทุกคืน ผมตอบ
อือ ดีแล้วครับที่ไม่เจอ นี่นะคุณ เมื่อคืนวานตอนคุณเข้านอนแล้วหนะ รปภ.ฝั่งหมู่บ้านโน้นแกเดินมาคุยกับผม แกเล่าให้ฟังว่า ตอนสร้างตึกแถวคูหานี้หนะ กว่าจะสร้างเสร็จใช้เวลาตั้งหลายปี ผู้รับเหมาเจ้าแรกมีคนงานผู้หญิงตกนั่งร้านตายที่นี่แหละ จากนั้นผู้รับเหมาเจ้านั้นก็หนีเลยไม่ยอมทำต่อ เอาเจ้าที่สองมาทำ อยู่ได้ไม่ถึงอาทิตย์ก็ไปอีก เจ้าของเลยทิ้งปล่อยร้างอยู่ตั้งปีสองปี ช่วงนั้นนะ มอซงมอไซค์ที่วิ่งผ่านตึกนี้โดนกันทั้งนั้น พวกขี้ยานี่เข็ดขยาดไปเลย ไม่กล้าแอบเข้ามาเล่นยาเลยหละ มีคนนึงขับวินเข้าไปส่งลูกค้าข้างในแค่สี่ห้าทุ่มเอง ขากลับเขาเห็นผู้หญิงผมยาวใส่ชุดสีขาวทั้งตัวยืนยิ้มโบกมืออยู่บนระเบียงชั้นสาม โบกแบบโบกรถหนะ เขาตกใจขับรถชนเสาไฟสลบไปเลยหนะ กว่าคนจะมาเจอก็ตอนเช้า ดีไม่ตายนอนอยู่โรงบาลตั้งหลายวัน เลิกขับวินไปเลย ลุงรปภ.เล่าความเป็นมาของตึกหลังนี้ให้ฟังจนผมขนแขนตั้งชัน
ผมรีบขอตัวแกเข้านอนไม่รอให้ดึกมากกว่านี้ ปิดไฟล้มตัวลงนอน คืนนี้แสงเดือนเงียบสนิทมืดมิดมองอะไรแทบไม่เห็น แต่กระนั้นก็ยังพอมีแสงเงาจากความสว่างที่ลอดผ่านประตูกระจกมาจากข้างนอก พัดลมส่งเสียงหึ่งๆเคร้งๆเหมือนเดิมเช่นทุกคืน เงาของนกพิราบตรงระเบียงยังอยู่ที่เดิมไม่ได้ไปไหน ผมกระสับกระส่ายพยายามหลับเปลือกตา นับแกะก็แล้ว ท่องนะโมก็แล้ว แต่ใจกลับคิดวนเวียนเกี่ยวกับเรื่องที่รปภ.เล่า
เวลาผ่านเลยไปไม่รู้เท่าไหร่ ผมรู้แต่เพียงว่ามันนานเหลือเกินและผมก็ข่มใจให้หลับลงไม่ได้เลย ก่อนแกะตัวที่สี่ร้อยสิบจะกระโดยข้ามรั้ว เสียงหนึ่งดังแว่วเข้ามา
ซู่ๆๆๆๆ เสียงเหมือนน้ำที่ไหลจากก็อกดังมาจากประตูทางเข้า ผมพยายามเงี่ยหูฟัง ใช่มันต้องมาจากทางประตูทางเข้า ใครหละจะมาเปิดน้ำตอนนี้ รปภ.รึ! คงไม่ใช่แน่ห้องน้ำชั้นหนึ่งก็มี เรื่องอะไรแกจะต้องมาเข้าห้องน้ำชั้นสาม ผมควานหาโทรศัพท์มือถือที่วางไว้หัวนอนเปิดดูเวลา ตีสองกว่าแล้ว ใครจะมาทำงานตอนนี้ เสียงของมันดังอยู่สักพักก่อนเงียบสนิทไป ผมตาสว่างแล้วตอนนี้ พยายามหลับยังไงมันก็ไม่ยอมแล้ว เรื่องลี้ลับต่างๆผุดขึ้นมาในสมองตลอดเวลา
ซู่ๆๆๆๆ มันมาอีกแล้วเสียงน้ำไหลจากก๊อก ผมขยับใช้นิ้วโป้งเท้ากดปิดปุ่มสวิทช์พัดลมเพื่อเงียบเสียง เสี่ยงแผ่วเบาของน้ำไหลดังชัดเจนขึ้น มันยังดังต่อเนื่อง เอาไงดีหละทีนี้ผมคลุมโปงเงียบนิ่ง หัวใจเต้นตึกแรงกว่าเดิม เหงื่อซึมทั่วตัวขนแขนลุกตั้งชูชันสองมือประสาน องค์พระย้ายเข้าไปอยู่ในปาก เป็นไงเป็นกันผมตัดสินใจอีกครั้ง คราวนี้รวบรวมสติทั้งหมด ลุกขึ้นควานหาสวิทช์ไฟ พรึบๆๆ ผมสดุ้งสุดตัวหลังจากไฟสว่าง ที่ระเบียงนกพิราบมันคงตกใจในแสงไฟกางปีกออกบิน
เงียบเสียงปีกนกเงียบเสียงน้ำไหล อะไรกัน!
ผมยืนนิ่งแสงไฟในห้องสว่าง แต่ข้างนอกที่มองไม่เห็นเกิดอะไรขึ้น ผมยังนิ่งรอ หากมีคนข้างนอกคงมีการเคลื่อนไหว แต่ทุกอย่างเงียบสนิท เกิดอะไรขึ้นเนี่ย ผมคิด ก่อนเดินไปคว้าโทรศัพท์มือถือ กดหน้าจอให้สว่าง เดินไปเปิดประตู ค่อยๆแง้มประตูออก มืดสนิทไร้การเคลื่อนไหว ผมค่อยๆคลำไปหาสวิทย์ไฟ ก่อนเปิดให้แสงสว่าง เงียบไม่มีอะไรเกิดขึ้น แม้ในห้องน้ำ
ฮาโหลลลล รปภ ครับ เสียงลุงรปภ.งัวเงีย
ลุง ลุงขึ้นมาเข้าห้องน้ำข้างบนรึปล่าว ผมกรอกเสียงไปในโทรศัพท์
เปล่านี่ครับคุณ ผมยังไม่ได้ไปไหนเลย มีอะไรเปล่าครับ ลุง รปภ.ปฏิเสธ
เอ่อ ไม่มีอะไรหลอกครับลุง ขอบคุณมาก ผมกดวางสายโทรศัพท์ ปิดไฟและเปิดประตูเดินเข้าห้องนอน ความกลัวผสมปนเปกับความงงงวย ปล่อยให้ทั้งห้องสว่างโล่ง ขณะล้มตัวลงนอนหัวพาดกับหมอน
ซู่ๆๆๆ มันมาอีกแล้ว ผมสะดุ้งลุกขึ้นนั่งทันที ลืมคิดถึงความกลัวชั่วขณะ เดินดุ่มๆออกไปพร้อมเปิดประตู
ฉับพลันนั้นหัวใจแทบหล่นลงพื้น ขนแขนลุกตั้งชูชันมือไม้อ่อนแรง เสียงน้ำไหลเมื่อครู่เงียบทันทีที่ผมเปิดประตู จะอยู่ทำไมหละตอนนี้ ผมวิ่งพรวดลงบันไดทันที จุดหมายคือชายแก่รปภ.ด้านล่าง ลุงรปภ.ทำท่าตกใจสะดุ้งตื่นเลิ่กลั่ก ถามผมเกิดอะไรขึ้น
ขอนอนด้วยคนนะลุง ผมไม่ตอบแต่เปลี่ยนเป็นขอความเอื้อเฟื้อแทน หึๆ สงสัยเจอดี แกหัวเราะเบา
เจ็ดโมงเช้าลุงรปภ.กลับไปแล้วเปลี่ยนเวรกับรปภ.คนใหม่ ผมยังไม่กล้าขึ้นไปชั้นสามเพื่ออาบน้ำแต่งตัวทำงาน นั่งจิบกาแฟร้อนอยู่บนโต๊ะทำงาน โห วันนี้ตื่นเช้าเชียวนะมึง เพื่อนคนเดิมเปิดประตูเข้ามาทักทาย อย่างแปลกใจ อือ แล้วมึงมาทำไรแต่เช้า ผมถามกลับ มาซ่อมห้องน้ำหน่อยหว่ะ แล้วมึงเป็นไรตาโหลๆ ท่าทางซึมๆ เพื่อนถามผมเมื่อเดินเข้ามาใกล้ๆ เมื่อคืนเจอดีหนะสิ แมร่งไม่ได้นอนสักงีบ ผมอธิบาย เฮ้ย จริงเหรอเป็นไงวะ เล่าให้ฟังสิ เพื่อนทำท่าตกใจ ก่อนลากเก้าอี้อีกตัวมานั่งใกล้ เออ นี่นะโว้ย เมื่อคืน..............
ฮ่าๆๆๆๆ เสียงเพื่อนระเบิดหัวเราะทันทีที่ผมเล่าจบ ผมทำท่างงๆกับการกระทำของมัน เฮ้ย กูไม่ได้กุเรื่องหลอกมึงนะโว้ย กลัวจนฉี่จะราดเลยเมื่อคืน เออๆ กูรู้มึงไม่ได้โกหก เอานี่ถือไว้เดี๋ยวกูไปเอากระเป๋าเครื่องมือก่อน มันยื่นถุงพลาสติคใส่ของให้ผมถือ ก่อนลุกเดินเข้าไปเอาเครื่องมือในห้องเก็บของใต้บันได ผมเปิดถุงดูพบสายฉีดน้ำล้างก้นอยู่ในแพ็ค อะไรของมันว่ะ
ไปเดี๋ยวกูพาไปดูผีก๊อกน้ำ เพื่อนหันมาเรียกก่อนเดินขึ้นบันไดไป ผมลุกเดินตามนึกหวั่นๆผสมงงๆกับการกระทำของเพื่อน
ซู่ๆๆๆ เสียงน้ำไหลดังมาจากห้องน้ำ เพื่อนชี้ให้ดูจุดที่น้ำไหลพร้อมหัวเราะ นั่นไงผีก็อกน้ำของมึง ฮ่าๆๆๆๆ ผมยืนงงกับสายฉีดที่ถูกงอปลายสายแล้วเอาสายยางรัดไว้ อะไรว่ะ แล้วมันไหลๆหยุดๆได้ไง ผมยังงงอยู่
ก็นี่ไง มึงคอยดูนะ ตอนนี้มันไหลเพราะแรงดันน้ำมันเยอะเต็มสายมันก็ดันออกมาทางรอยแตกของสาย เดี๋ยวพอแรงดันมันลดลงรอยแตกมันก็สนิทกันน้ำมันก็ไม่ดันออกมา แต่พอน้ำมันไหลมาสะสมแรงดันเยอะขึ้น มันก็ดันออกมาทางรอยแตกอีก
ฮ่าๆๆๆๆ เออว่ะ แมร่งผีก๊อกน้ำเล่นซะกูไม่ได้นอนทั้งคืน ผมหัวเราะพร้อมหันหลังเดินหนีเข้าห้องนอน
สะดุ้งหยุดยืนนิ่งงันฉับพลันที่เปิดประตู นกพิราบตัวนั้นยืนนิ่งไม่ไหวติงอยู่บนขอบระเบียงด้านนอก มันหันหน้าจ้องมองมาทางผม
ดวงตาแดงก่ำสบสายตาและแสยะยิ้ม
Create Date : 08 กันยายน 2553 |
|
43 comments |
Last Update : 26 ตุลาคม 2553 15:38:43 น. |
Counter : 1723 Pageviews. |
|
 |
|
|
| |
โดย: kapeak 8 กันยายน 2553 9:41:54 น. |
|
|
|
| |
โดย: กะว่าก๋า 8 กันยายน 2553 11:09:58 น. |
|
|
|
| |
โดย: กลิ่นดอย 8 กันยายน 2553 13:05:35 น. |
|
|
|
| |
โดย: ภายใต้ 8 กันยายน 2553 14:34:47 น. |
|
|
|
| |
โดย: มนุษย์ต่างดาว..ผมยาว..ปากหวาน... (เป็ดสวรรค์ ) 8 กันยายน 2553 16:01:14 น. |
|
|
|
| |
โดย: ดอกหญ้า บนทางดิน IP: 116.58.231.242 8 กันยายน 2553 19:04:03 น. |
|
|
|
| |
โดย: ฝนโปรย 8 กันยายน 2553 22:41:26 น. |
|
|
|
| |
โดย: คล้ายดาว 9 กันยายน 2553 10:56:37 น. |
|
|
|
| |
โดย: kapeak 9 กันยายน 2553 12:03:46 น. |
|
|
|
| |
โดย: ภายใต้ 9 กันยายน 2553 16:46:54 น. |
|
|
|
| |
โดย: teansri 10 กันยายน 2553 6:34:04 น. |
|
|
|
| |
โดย: กะว่าก๋า 10 กันยายน 2553 8:00:17 น. |
|
|
|
| |
โดย: กะว่าก๋า 10 กันยายน 2553 10:20:13 น. |
|
|
|
| |
โดย: กะว่าก๋า 10 กันยายน 2553 14:46:53 น. |
|
|
|
| |
โดย: ภายใต้ 10 กันยายน 2553 16:33:39 น. |
|
|
|
| |
โดย: ชายผู้หล่อเหลา...กว่าแย้นิดนึง. (เป็ดสวรรค์ ) 10 กันยายน 2553 18:22:16 น. |
|
|
|
| |
โดย: กลิ่นดอย 10 กันยายน 2553 22:41:58 น. |
|
|
|
| |
โดย: กะว่าก๋า 11 กันยายน 2553 8:09:42 น. |
|
|
|
| |
โดย: kapeak 11 กันยายน 2553 13:01:11 น. |
|
|
|
| |
โดย: teansri 11 กันยายน 2553 18:02:22 น. |
|
|
|
| |
โดย: kapeak 12 กันยายน 2553 9:09:46 น. |
|
|
|
|
|
|
|