☆ แปลงผักสวนครัว (เดือน มิ.ย. - ต.ค. 2550) ☆
สวัสดีค่ะ....เพื่อน ๆ ที่แวะเข้ามาเยี่ยมเยียนและเยี่ยมชมทุกท่าน
เอิ๊ก....กว่าจะได้มาอัพบล๊อคกลุ่มนี้ (การปลูกผัก)....ก็ได้เก็บผักกิน สมใจ+อยาก คุ้มค่ากับการรอคอยและลงแรง ถึงแม้ว่าหน้าร้อนของปีนี้...จะได้พืชผลไม่เป็นที่น่าพอใจ เพราะฝนตกไม่ถูกเดือน คือตามปกติที่ญี่ปุ่น ในเดือนมิถุนายนนั้น....จะเป็นช่วงฝนตกชุก ที่เค้าเรียกกันว่า "ทสึยุ" แต่ปีนี้กลับไม่มีฝน ต้นไม้ขาดน้ำ พืชผักให้ผลได้น้อย ทำให้ผักมีราคาแพงมากผิดปกติ (เพื่อนคนญี่ปุ่นหลายคนบ่นให้ฟัง) โดยปกติที่จริงแล้วของทุกปี หน้านี้...จะเป็นช่วงที่ผักมีราคาถูกมาก ๆ แต่ก็ยังถือเต่ายังพอโชคดีอยู่บ้างว่า...ผักต่าง ๆ ที่ปลูกเอาไว้นั้น ออกดอกออกผลพอให้ได้เก็บกินบ้าง ถึงจะได้น้อยหน่อย แต่ก็พอทานกันในครัวเรือน (มีเหลือแจกบ้างแต่ไม่มากเท่าปีที่แล้ว) เลยไม่ต้องไปเสียตังค์ซื้อเค้า
ขอบ่นเรื่องสภาพอากาศต่ออีกนิ๊ดเถอะค่ะ.....ว่าปีนี้มันเป็นอะไรของมันก็ไม่รู้ อากาศแปรปรวนจริง ๆ ซึ่งโดยปกติพอเริ่มเข้าเดือนกันยายน (ฤดูใบไม้ร่วง พืชผักส่วนใหญ่...จะเริ่มเฉา ใบเปลี่ยนสี แห้ง และร่วง ) อากาศจะค่อย ๆ เริ่มหนาวขึ้น แต่ปีนี้กลับยังร้อนอยู่ ผักบางอย่างยังอุตส่าห์ออกดอก มีลูกมาให้เก็บกินต่อได้อีก...จะถอนมันทิ้ง...ก็สงสาร+เสียดาย แต่ก็ต้องตัดใจเลือกถอนออกทิ้งเหมือนกัน เหลือไว้แค่อย่างละ 1-2 ต้น (แค่พอกิน) ไม่งั้น...ไม่มีที่และไม่ทันเพราะต้องปรับดินเตรียมเอาไว้ปลูกผักสำหรับหน้าหนาวต่อ เดี๋ยวไม่มีผักกินอีก...อิอิ
ผักส่วนใหญ่....ก็ปลูกคล้าย ๆ กับปีที่แล้ว....เพื่อเป็นการประหยัดพื้นที่ (ที่จริงก็เวลาของคนโพสมากกว่า...อิอิ)) เต่าก็เลยจะไม่นำรูปมาโพสอีก จะเลือกเอาแต่ที่ปลูกเพิ่มใหม่ ๆ เท่านั้นนะคะ
เรามาดูความเจริญเติบโตของผักต่าง ๆ ที่ปลูกเอาไว้ตั้งแต่คราวที่แล้วกันก่อนนะคะ.....จากกระทู้เดิมที่ได้เคยโพสเอาไว้แล้ว แปลงผักสวนครัว (เดือน ม.ค. - พ.ค. 2550)
หน่อไม้ฝรั่ง - แอสปารากัส....ถ้าออกเสียงแบบญี่ปุ๊นญี่ปุ่น...ก็จะเรียกว่า "อะซึปะระกัสซึ - Asuparagasu"..... ตอนที่มันขึ้นใหม่ ๆ ต้นมันเล็กขนาดไม้จิ้มฟัน ก็ทำใจว่าต้องรออีก 3 ปีข้างหน้าค่อยกินกัน...อิอิ
1). ช่วงประมาณเดือนส.ค. เนี่ยมันโตเอา ๆ แถมสูงขึ้นท่วมหัวเต่าเชียวค่ะ บางต้นก็เริ่มแห้ง เปลี่ยนสี
2). มีอยู่กอหนึ่ง ที่โตที่สุด ออกดอก จนกลายเป็นเมล็ด เมื่อต้นเดือนตุลาคม เต่าเห็นต้นที่มันแห้งสนิท ก็เลยตัดทิ้ง แต่ก็เอาเม็ดที่มันแก่จัดสุกเป็นสีแดง โรยลงใกล้ ๆ บริเวณเดิมของมัน...ยังไม่รู้ว่ามันจะขึ้นหรือเปล่าคะ?
3). อุ๊ยๆๆๆๆ....เห็นต้นที่มันแทงขึ้นมา มีอยู่ 3-4 ต้น อวบอ้วน ขนาดกำลังดี กินได้แน่นอน ดีใจมาก ๆ เชียวค้า...คิดว่าคงจะได้กินฉลองการปลูกปีแรกเสียหน่อย....หน่อยแน่...อากาศไม่เป็นใจ ฝนตกติดต่อกัน 3 วันติด ๆ ไปที่แปลงผักไม่ได้ โห....พอแวะเข้าไป ช๊อคเล็ก ๆ... ไหงมันกลายเป็นต้นไม้ แข็งโป๊กเสียแล้วละ เป็นอันว่าอดกินปาย
4). เพิ่งได้เก็บมาจริง ๆ ก็ต้นนี้...ต้นเดียวเท่านั้น (ดูขนาดเทียบกับนิ้วซิค้า) เอานะ...เอาไปลวกประดับอาหารหน่อยก็ยังดีกว่าไม่ลิ้มรสนิ
เมียวกะ (Myouga).... ก็ขึ้นมาบ้าง แต่คิดว่าคงไม่หมด เพราะตอนที่เอารากไปปลูกนั้น....มันน่าจะขึ้นได้เยอะกว่านี้ ต้นที่ขึ้นมาก็ดูไม่ค่อยจะแข็งแรงเท่าไหร่ ยิ่งช่วงที่ฝนไม่ตก...ใบงี้แห้งกรอบ เห็นแล้วก็สงสารมันเหมือนกัน แต่ก็หมดปัญญาที่จะหิ้วน้ำไปรดให้มัน ก็ต้องปล่อยมันตามยถากรรม (รูปด้านซ้าย) มีหน่อแตกขึ้นมาเหมือนกัน ไปคุ้ยดู เห็นมันเล็กมาก ก็เลยไม่เก็บมา ปล่อยให้มันโตขึ้นเป็นต้นไปก่อน มีได้เก็บหน่อที่ขนาดกำลังกินได้ ครั้งหนึ่งก็ 1-2 หน่อ (รูปด้านขวา) แค่ 3 ครั้งเองค่ะ ตอนแรกก็นึกว่าจะเก็บได้เยอะ พอเอามาดองเก็บไว้กินได้ แต่คงต้องรอปีหน้าฟ้าใหม่ก็แล้วกัน ที่เก็บมาแต่ละครั้ง ก็เอามาซอยฝอย ๆ โรยหน้าเต้าหู้อ่อนใส่โชหยุหน่อย...ที่เรียกว่า "เฮียยาโกะ" หรือบางทีก็นำไปใส่ในซุปเต้าเจี้ยว (มิโซะชิหรุ)
แตงกวาฝรั่ง - ซุกินิ ( Zukini )....ปีนี้...ดีใจมาก ๆ เพราะเมล็ดที่เพาะเอาไว้ ขึ้นเป็นต้นให้ชื่นใจตั้งหลายต้น พอโตพอสมควรก็เอาไปปลูกที่แปลง ตอนแรกก็ออกดอก เห็นลูกหลายลูกเชียวค้า แหมหลงดีใจยกใหญ่....แต่โชคไม่เข้าข้าง ฝนไม่ตก ขาดน้ำ ((ขนาดพยายามเอาน้ำไปรดให้มันแล้วนะ) เหี่ยวแห้งตายคาที่ ไปเสียก่อนตั้งแต่ปลายเดือน มิ.ย. ได้มีเก็บลูกมันมาแกงเลียง ( 2 ครั้ง) ได้แค่ไม่กี่ลูก ต้องขอบอกว่า...อ้ายเจ้านี่ เพาะจากเมล็ดก็ยาก แถมเอาใจมันยากแหะ น้ำมากก็เน่า น้ำน้อยก็แห้งตาย ใจมันเสาะจริง ๆ แต่เต่าไม่ยอมแพ้หรอกค่ะ ปีหน้า....ลองใหม่
กุ๋ยช่าย (นิระ - Nira)....กินจนหน้าจะเป็นใบกุ๋ยช่ายเสียแล้วละค้า....ทำขนมกุ๋ยช่าย และอีกหลายหลายเมนูที่ต้องหาทางกำจัด อยากให้เพื่อน ๆ ลองปลูกเอาไว้ทานกันเองบ้างจัง หว่านเมล็ดอาจจะต้องคอยลุ้นหน่อย แต่ถ้าหาซื้อต้นกล้าได้แนะนำให้ปลูกเลยค่ะ ปลูกครั้งเดียว...กินจนลืมเลยค่ะ ไม่ต้องดูแลมาก แมลงก็ไม่กวน แถมมันทนอากาศหนาวได้ด้วย ปลูกในกระถางก็ได้นะคะ
รูปด้านขวา....ตัดออกมาแค่ 1/3 ของที่ปลูกเท่านั้น....แบ่งแจกได้ตั้ง 3 บ้าน
รูปด้านซ้าย...ความที่มันมีหลายกอ ...พอออกดอกมา ไม่กล้าปล่อยให้มันเป็นเมล็ด....อิอิ แค่นี้ก็กินไม่ทันแย้ว....รีบเก็บเอามาผัดกับตับหมูทานได้ตั้ง 2-3 รอบเชียวค่ะ อ๋อ...คุณลุงที่อยู่แปลงข้าง ๆ เค้าเห็นเราตัดดอกมัน...เค้าถามว่าเอาไปทำอะไร พอบอกว่าเอาไปผัดทาน เค้าทำหน้าแบบว่า...มันกินได้ด้วยหรือ? โธ๋ๆๆๆ...ลุงช่างไม่รู้นิ ว่ามานอาหร่อย และมีประโยชน์แค่ไหน
Banana Piman ....เห็นต้นกล้าที่เค้าขาย...ชื่อมันตลกดี (อีกชื่อเค้าเขียนว่า "คัลเลอร์ฟูลพิมัน")...อยากรู้ว่ารสชาดเป็นอย่างไร ก็เลยซื้อมาลองปลูกแค่ต้นเดียว 148 เยน จะว่าเป็นพริกหยวกแบบบ้านเราก็ไม่ใช่ เพราะมันไม่อวบอ้วนขนาดนั้น มีกลิ่นแบบพริกระฆัง (พิมาน) แต่ไม่มีรสเผ็ดเลย.... ตอนที่มันเริ่มโตได้ที่จะเป็นสีเขียวอ่อน (รูปที่ 4) พอปล่อยเอาไว้จะค่อย ๆ กลายเป็นสีเหลือง , สีส้ม และสุดท้ายก็เป็นสีแดง เรียกว่าต้นเดียวเกินคุ้มเชียวค่ะ ได้สีสรรต่าง ๆ เก็บเอามาประกอบตกแต่งอาหารหลายหลายชนิด เช่น ผัดกระเพรา , โรยหน้าแกง ฯลฯ
ขมิ้น - อุคอง (U-kon)......ตอนที่กลับไปเมืองไทย ก็ได้แอบซุกซ่อนเอาหัวขมิ้นชัน (ที่ทำอาหาร)..มาลองปลูกเหมือนกัน มันขึ้นอยู่แค่ต้นเดียว แถมจิ๊ดเดียวอีก พอดีไปเจอหัวพันธุ์ที่เค้าขาย ก็เลยคว้ามาลองปลูกดูก่อน แต่ไม่แน่ใจเหมือนกันว่า....มันจะเป็นพันธุ์เดียวกับของเมืองไทยหรือเปล่า? เพราะที่ญี่ปุ่นเค้ามีแบ่งสายพันธุ์ด้วย เป็น พันธุ์ของฤดูใบไม้ผลิ (ฮารุ - Haru) ที่เต่าซื้อมาปลูก และ พันธุ์ของฤดูใบไม้ร่วง (อะกิ - Aki) คงต้องลุ้นดูว่าใช่แบบที่เอามาทำอาหารได้หรือเปล่า? ถ้าไม่ใช่ คงได้ถอนทิ้งเหมือนกัน เพราะมันเกะกะจริง ๆ ถ้าเพื่อน ๆ ท่านใดเคยปลูกหรือเคยเห็นขมิ้นชันของไทยเรา รบกวนช่วยบอกด้วยนะคะ ว่ามันใช่แบบเดียวกันหรือเปล่า?
รูปซ้าย...หัวของขมิ้น รูปขวา....ปลูกแรก ๆ เริ่มโตขึ้นมา
รูปซ้าย...สูงเอาสูงเอา เริ่มเกะกะแล้วค้า
รูปขวา....ออกดอกแล้วค้า....มีอยู่ 2 ช่อ ก็เพราะไปพรวนดิน ตัดใบแห้ง ๆ ออก แล้วแหวก ๆ ดู โอ๊ย....ดีใจจัง....ตั้งแต่เกิดมาก็เพิ่งเคยดอกของขมิ้นเนี่ยแระค้า
โมโระเฮอิยะ - Moroheiya....ปลูกแค่ไม่กี่ต้น ตอนแรกก็กลัวว่าจะไม่ได้กินเหมือนกัน เพราะมันไม่ค่อยโต พอบทที่มันจะโต มันก็สูงขึ้นพรวด ๆ เชียวค่ะ ต้องคอยตัดออกทิ้งบ้าง ขนาดนี้ยังสูงท่วมหัวคนปลูกแล้ว ตัดเอาแต่ยอดที่มีใบอ่อน ๆ แล้วเด็ดเอาแต่ใบ ล้างน้ำสะอาดเสร็จแล้วนำไปลวกด้วยน้ำร้อนแป๊ปเดียว นำมาแช่น้ำเย็น ผึ่งทิ้งไว้หรือบีบให้น้ำแห้งสนิท นำมาทานเป็น "โอฮิตาชิ - ผักลวกโรยหน้าด้วยคัตทสึโอะบูชิราดโชหยุหน่อย" ลักษณะของใบที่ลวกแล้ว จะมีเมือกลื่น ๆ คล้ายลูกกระเจี๊ยบค่ะ เอามาทำ น้ำซุปแบบใสใส่ไข่ หรือใส่ "อุเมะโมชิ - บ๊วยดอง" ลงไปด้วย ซดคล่องคอ อร่อยเชียวค่ะ...ได้แต่แปลกใจว่า...หลายคน (คนญี่ปุ่นด้วยน้า) ไม่เคยกินและไม่รู้วิธีที่จะกินมันด้วย ตามซุปเปอร์มีขาย ถุงจิ๊ดเดียว เห็นราคาแล้วตกกะจาย
ถั่วแขก (อินเง็นมะเมะ)......เต่าปลูกแบบถั่วพุ่ม...ปีนี้ปลูกเยอะกว่าปีที่แล้ว ช่วงที่ได้เก็บกิน (เดือนกว่า ๆ )....โอ๊ย...เก็บกันมือเป็นระวิงเชียวค่ะ 2-3 วัน เก็บได้เป็นกะละมังย่อม ๆ ทั้งที่บ้าน + บ้านน้องใกล้ ๆ กัน กินอาหารถั่วกันจนเบื่อเชียวค้า ...แต่ก็ยังดีที่ได้เจ้าเนี่ย...มากินชดเชย เพราะถั่วฝักยาวของไทย ปีนี้...เก็บนับฝักได้ เซ็งจริง ๆ
ผักชีฝรั่ง (พาเซลลี)....ปลูกเอาไว้แค่ 2 ต้น เพื่อไว้ใช้ตกแต่งอาหาร เวลาไปซื้อเค้าที โอ๊ย...มันถุงเบ้อเร้อ ใช้ไม่เคยหมด ปลูกเองทุกปี จะใช้เมื่อไหร่ ก็ไปเด็ดมากิ่ง 2 กิ่งก็พอแล้ว อ๋อ....ต้นมันแอบอยู่ข้าง ๆ กอถั่วด้านซ้ายมือค่ะ
ต้นหอมญี่ปุ่น (เนงิ)......ตอนที่ปรับดินคราวที่แล้ว....แยกไปแยกมา กลายเป็น 4 แถวยาว ๆ ไปได้อย่างไงก็ไม่รุ เอิ๊ก...กินไม่ทัน ตอนนี้...ก็มองหาวิธีกำจัดมันอยู่เหมือนกันค้า เพื่อนที่แวะมาเที่ยวที่แปลงผัก ยังถามเลยว่า....เธอจะปลูกไปขายหรือ???
ผักป๊วยเล้ง (โฮเรนโซ)......พยายามศึกษาอยู่เหมือน เพราะปลูกมา 2 รุ่น ไม่ค่อยได้ผลเท่าไหร่ งวดนี้...เริ่มรู้ใจมันแล้วค้า แปลงที่จะหว่านเมล็ดเจ้าเนี่ย....ต้องใส่ปูนขาว (เซ็กกัย) มาก ๆ หน่อย พอมันขึ้นต้นอ่อนมาได้ประมาณ 1-2 นิ้ว ก็เอาพรวนดินมากลบช่วงรากของมัน เสร็จแล้วก็เอาปูนขาวไปโรยเพิ่มให้มันอีกหน่อย พอต้นมันโตสักคืบ ก็เริ่มถอนต้นที่เบียดกันออกมากินก่อน (รูปด้านขวา) ใส่ปุ๋ยให้มัน ทำแบบนี้....อู๊ย...มันงอกงาม โตวันโตคืน เก็บกินกันแบบอ่อน ๆ ชื่นจาย หายเหนื่อยเลยค้า
โรสแมรี่ ....ถ้าออกเสียงแบบญี่ปุ่นจะเรียกว่า " โรสซึมะรี - Rozumari "....โตขึ้นมากแล้ว ตอนนี้เริ่มออกดอกเล็ก ๆ กระจุ๋มกระจิ๋ม สีม่วง น่ารักเชียวค่ะ ยังไม่เคยตัดเอาไปใช้ทำอาหารอะไรทานเลยค้า ได้แต่ตัดทิ้ง เพราะบางกิ่งงอกยาวออกมาเกะกะทางเดิน แต่เจ้าเนี่ย...ทนอากาศหนาวได้ ก็ปล่อยเค้าทิ้งไว้อย่างนั้นแระ
โหระพาฝรั่ง (Basil)...แต่ออกเสียงแบบญี่ปุ่นก็จะเป็น..."บาจิรุ - Bajiru"....หว่านเมล็ดพร้อม ๆ กับโหระพาของไทย แต่เจ้าเนี่ย....แตกเป็นต้นก่อน ก็ได้ใช้ประโยชน์จากมันพอควร ทำทั้งอาหารไทย และอาหารอิตาเลี่ยน พอโหระพาไทยเก็บกินได้ ก็แทบจะไม่ใช้ประโยชน์จากมันเลยค่ะ ไหน ๆ ก็ลงทุนลงแรงปลูกเอาไว้แล้ว ก็เลยลองดัดแปลงเอามาทำ "ซอสน้ำมันโหระพา (Basil Sauce - Pesto)" ชิมดูแล้วอร่อย ก็เลยได้ทำเพิ่มเองอีก 2-3 ครั้ง ตัดไปให้เพื่อนทำบ้าง (ทำเองก็แล้วกันนิ...ฉานเริ่มขี้เกียจทำแจกแล้ววุ๊ย)
ถอนทิ้งไปตั้งหลายต้นแล้ว รูปที่เห็นเนี่ยคือต้นที่ยังเหลืออยู่ค่ะ
คึ่นช่ายฝรั่ง (เซลอรี่ - Serori).....ซื้อต้นกล้าเค้ามาแค่ 3 ต้น โดนหนอนผีเสื้อมากินแต่ใบจนเหลือแต่ก้าน ก็เลยตายไป 2 ต้น ตอนนี้เหลืออยู่แค่ต้นเดียวเองค่ะ เลยทำให้ไม่กล้าไปตัดเค้ามากินเต็มที่....ได้แต่เล็ม ๆ เอา ครือว่า....ค่อย ๆ ตัดทีละก้านไงคะ
โอกะฮิจิกิ (Okahijiki)......ปีที่แล้ว..คุณป้าแปลงข้าง ๆ กันเค้าถามว่าเคยกินหรือเปล่า?....ก็ตอบว่า...ไม่เคยกินเลยค้า ป้าก็บอกว่า...ป้าเพิ่งลองปีที่แล้วเหมือนกัน ลุงอีกคน (ก็แปลงติด ๆ กันนั่นแระ เต่าก็เห็นเจ้าต้นนี้ตอนเล็ก ๆ เหมือนกัน ยังถามลุงเค้าว่ามันชื่ออะไร หลังจากนั้น...ก็ลืมมันไปเลย) เค้าแบ่งให้ชิม ป้าติดใจปีนี้เลยซื้อเมล็ดมาเพาะปลูกเอง แหม....ป้าหาพวกปลูกนิ...อิอิ เค้าเลยตัดมาให้ลองชิมดู แล้วบอกวิธีการกินให้เสร็จสรรพ ลองเอามาทำ อืมม...เข้าท่าเหมือนกัน หาอ่านจากเนทดู...เอ้อ...มันมีประโยชน์หลายอย่าง...มีวิตามิน A ,C และ D มีแคลเซี่ยม , แคโรทีน สูงด้วย ปีนี้...ก็เลยจัดการปลูกเองกะเค้าหน่อยดีกว่า จะไปจ้องกินของเค้าอย่างเดียว ชักเขิลลลล
ใช้เมล็ดหว่านเพาะเอาค่ะ....ขึ้นมาใหม่ ๆ (รูปซ้าย) มันเป็นไม้ราบติดดิน สูงเต็มที่ไม่เกิน 10 ซม. ตัดเอาแต่ยอดอ่อน ๆ กลับมา (รูปขวา)
พอล้างสะอาดแล้ว ก็นำไปลวกด้วยน้ำร้อน จับแช่น้ำเย็น เทใส่กระชอน บีบน้ำให้แห้งสนิท....ใส่โชหยุ ราดลงไปหน่อย (รูปซ้าย - จากวิธีการกินที่ป้าเค้าบอกมา) แต่หลังจากนั้น....เต่าลองเอามัตสตาดเหลือง (คาราชิ) เพิ่มใส่ลงไปด้วย ได้ความเผ็ดฉุนขึ้น...หอมอร่อยกว่า (รูปขวา)
คุณพ่อบ้านนี้....เป็นเบาหวานมาได้ 4-5 ปีแล้ว เลยต้องหาเมนูที่ไม่ใช้น้ำมัน อีกอย่างเค้าก็ชอบทานผักด้วย (แต่ช่วงปีที่ผ่านมานี้...อุปกรณ์ขบเคี้ยวหร่อยหรอ...อิอิ) ก็เลยเปลี่ยนมาทำผักลวกมากขึ้น ซึ่งคนญี่ปุ่นจะเรียกว่าอาหารประเภทนี้ว่า "โอฮิตาชิ" ก็จำเป็นที่จะต้องสับเปลี่ยนหมุนเวียนผักหลากหลายชนิด เพื่อจะได้ไม่เบื่อ การปรุงรสก็เปลี่ยนไปเรื่อย ๆ เช่น.... อาจจะราดด้วยโชหยุอย่างเดียว ,ผสมพวกวาซาบิ , คาราชิ เพิ่มลงไปอีกนิด , โรยหน้าด้วยปลาโออบแห้งไสเป็นฝอย (คัตทสึโอะบูชิ) หรืออาจจะคลุกด้วยซอสงา ที่เรียกว่า "โกะมะอาเอะ"
พริกชิชิโต (Shishitou).....ซื้อต้นกล้าเค้ามาแค่ต้นเดียว เพราะคิดว่า...คงใช้ประโยชน์ได้ไม่มาก เพราะมันไม่เผ็ดเลยละค้า.....ส่วนใหญ่คนญี่ปุ่นเค้านิยมนำมาย่างไฟ พอสุกนิ่ม เหลืองเกรียมนิดหน่อย โรยหน้าด้วยคัตทสึโอะบูชิ ราดด้วยซีอิ้วญี่ปุ่นนิด ทานเป็นของแกล้ม หรือ นำไปชุปแป้งเทมปุระทอด ฯลฯ ช่วงที่พริกชี้ฟ้าไทย.....ยังไม่โตพอ เต่าก็ได้ใช้เจ้าเนี่ย นำมาผ่าแล้วซอยเป็นเส้น โรยตกแต่งหน้าอาหารแทนหลายมื้อเชียวค้า
ทงงะราชิ (Tougarashi).....พริกขี้หนูญี่ปุ่น ซื้อต้นกล้ามาปลูกแค่ 2 ต้นเท่านั้น แบบว่า....กันเหนียวไว้ก่อน...อิอิ เพราะตอนที่เพาะเมล็ดพริกของไทยเรานั้น....มันไม่มีวี่แววว่าจะงอก กลัวไม่มีพริกเก็บไว้กินนะค้า พอพริกไทยเราออกดอกให้ผล เจ้าเนี่ย...ก็ถูกเมินอีกเช่นกัน ตอนนี้...ก็ปล่อยให้เม็ดมันสุกแห้งคาต้น เก็บเป็นพริกแห้ง
พวกนี้...ไม่ได้ถ่ายรูปต้นเก็บเอาไว้ เพราะก็เหมือน ๆ กับกระทู้แรกที่เคยทำไปแล้ว เอาแต่ผลตอนที่เก็บได้ใหม่ ๆ แหมมม....มันตื่นเต้นดีใจ...ก็เลยถ่ายรูปเค้าไว้หน่อย พอหลัง ๆ ก็ไม่ได้ถ่ายรูปอีกเลยค้า
ชิโสะ....ตอนแรกปลูกแค่ 3 ต้น โห...มันโตเร็วจริง ๆ จนต้องถอนทิ้งเพราะกินไม่ทันจริง ๆ ลองตัดเอาใบมาผัดกับเต้าเจี้ยว (มิโซะ) ปรุงรสด้วยน้ำตาล คุณฝาละมีชิมแล้วชมว่าอาหร่อย แหม...เรางี้หน้าบานเชียว ก็รายนี้...ไม่ค่อยจะชมเชยศรีภรรยาเท่าไหร่...อิอิ ก็เลยทำแล้วไล่แจกเพื่อนฝูงกันทั่วหน้า ไว้มีเวลาจะนำสูตรมาฝากกันนะคะ...มีถ่ายรูปทำอาหารเก็บสะสมเอาไว้เพียบ แต่ยังหาเวลาเขียนไม่ได้
รูปนี้....เป็นใบอ่อน ๆ ที่เหลือเก็บเอาไว้ทานแบบสด ๆ ส่วนใบแก่หน่อย ก็นำไปผัดกับมิโซะ เรียกว่า...ไม่มีการทิ้งเลยละค้า
มะเขือ (นัทสึ - Nasu).....ปลูกหลายพันธุ์ แต่อย่างละ 2-3 ต้นเท่านั้น...อ๊าว...ทำไปทำมา ไหงแถวมะเขือถึงยาวเหยียดปานนั้น...นึกว่าเดือดร้อนต้องวิ่งไล่แจกเค้าซะแล้วละค่ะ...อากาศไม่ดี...มะเขือเลยเป็นใจ...ออกดอกติดลูกเป็นระยะ ๆ ได้พอเก็บกินกันที่บ้าน พอชักเริ่มเบื่อ (ทุกวันเมนูมะเขือก็ไม่ไหวจ้า) ก็ได้นำไปแจกเค้าบ้างนิดหน่อย
รูปซ้าย.....มะเขือม่วง แบบลูกป้อมสั้น เจ้าพวกนี้....ได้กินก่อนเพื่อน แต่อยู่ไม่ทนตอนนี้...เต่าถอนต้นมันทิ้งไปหมดแล้ว ตอนนี้ยังเหลือแต่มะเขือม่วงแบบลูกยาว....และยาวมาก (ขนาดมะเขือยาวบ้านเรา)...อย่างละต้นเท่านั้นเอง
รูปขวา.....มะเขือฝรั่งเศส (เค้าเขียนอย่างงี้)...ปีที่แล้วลองปลูกแค่ต้นเดียว เอามาแกงเขียวหวานเนี่ย หวาน กรอบ อร่อยมาก ๆ ต้มนานหน่อยก็ไม่เละ (ซุปเปอร์ไม่มีขายด้วย) ปีนี้ปลูก 3 ต้น นึกว่าจะได้กินสบายอารมณ์สักกะหน่อย...เห้อ...ได้ลูกติ๊ดเดียว แต่ก็ยังดีที่มันยอมออกลูกมาทยอยให้เก็บกินได้ ถอนต้นไปหมดแล้วค่ะ
มะเขือม่วงยาว (นางัยนัทสึ - Nagai Nasu).....ปลูกแค่ต้นเดียว....ได้ผลช้ากว่าแบบลูกป้อม (คำนวนเวลาเอาไว้แล้วค่ะ) พอแบบนั้น....เริ่มไม่มีลูก ก็ได้กินเจ้าเนี่ยต่อ ตอนนี้ (ต้นเดือนต.ค.)...มันก็ยังออกดอกให้อยู่เลยค่ะ
ถั่วแขกแบบฝักใหญ่ (รูปซ้าย)....เพิ่งลองปลูกเป็นปีแรก ตอนไปซื้อเมล็ดผัก เห็นมันแปลกดี ก็เลยลองซื้อเมล็ดถุงเล็กที่สุดมา อ๋อ...เต่าเลือกแบบพันธุ์ที่มันเลื้อยต้องทำค้าง เพราะมันจะเก็บได้นานกว่าแบบพุ่มค่ะ แบ่งเป็น 4 กอ ๆ ละ 5 เมล็ด พอเป็นต้นอ่อน ก็เลือกเก็บไว้แต่ต้นที่ดูแข็งแรง เหลือไว้แค่กอละ 3 ต้น แต่คุ้มจริง ๆ ค่ะ พอถั่วแขก (อินเง็น)....เริ่มออกผลน้อยลง ก็ได้เก็บเจ้าเนี่ยมากินต่อ เก็บทีหนึ่งได้ขนาดรูปที่เห็น กินกันไม่หวาดไม่ไหว คิดถูกแล้วที่ปลูกเจ้าเนี่ย เพราะปีนี้..ถั่วฝักยาวของไทย ได้ผลน้อยนับฝักได้เลยค่ะ
มะระ ( "โคยะ" หรือบางทีก็เรียก "นิงาวอุริ" ) รูปขวา.....ปลูกแค่ 2 ต้น สงสัยเอาต้นมันไปปลูกใกล้กับกอตะไคร้...มันก็เลยไม่ค่อยงาม+โตเท่าไหร่ เก็บลูกได้ไม่มาก แต่ก็ดีแล้วละค้า...เพราะไม่ค่อยชอบจะกินมันเสียเท่าไหร่
แตงกวา (คิวริ)....รูปซ้าย.....ปีนี้ได้น้อยมาก เมื่อเทียบกับจำนวนต้นที่ปลูกไว้ ( 6 ต้น) แต่ก็ยังพอได้เอาไปแจกจ่ายเพื่อนฝูงบ้างนิดหน่อย อ๋อ...ที่ได้แจกน้อย ก็เพราะเจ้าจิโกะ (ลูกหมา) ชอบกินค้า อย่างน้อยวันละครึ่งลูก (ถ้าอยู่บ้าน) อาหารมื้อเย็นเป็นต้องขอแจมด้วยทุกวัน แต่ถ้าวันไหนที่พาไปที่แปลงผักด้วย...ตาจะจ้องอยู่ที่ลูกแตงกวา จนต้องตัดแล้วส่งให้ แป๊ปเดียวหมดเป็นลูกเลยค้า บางช่วงที่งานยุ่ง หรือฝนตกติดต่อกัน...ไม่ได้แวะเข้าไปดู อู๊ย...ลูกมันโตเอา ๆ หญ่ายจริง ๆ
ปิมัน (Piman)......พริกระฆัง มีปลูกทั้งแบบลูกสีเขียว ซึ่งตอนแรกก็ซื้อต้นกล้ามาแค่ 2 ต้นเอง พอไปเดินอีกที่ อ๊าว...ดันขายถูกกว่า แผงหนึ่งมี 4 ต้น ก็เลยคว้าเอามาปลูกเพิ่มอีก ความที่มีหลายต้นก็เลยไม่ขาดแคลน มีให้เก็บมาทำอาหารทานได้ตลอด อีกแบบที่ปลูกก็คือแบบสีส้ม กับสีเหลือง อย่างละต้น ที่ญี่ปุ่นเค้าเรียก "ปาปริก้า" ...พอได้เก็บมาประดับอาหารบ้าง แต่ไม่มาก แถมลูกก็ไม่ค่อยโตเท่าไหร่
มะเขือเทศ......เลือกปลูกแบบ "ฟรุ๊ตโตะมะโตะ" 2 ต้น เพราะเวลาไปซื้อเค้า มันแพง...อิอิ แล้วก็แบบลูกใหญ่ธรรดาอีกแค่ต้นเดียว....เพราะกลัวว่าจะกินไม่ทันเวลาที่มันพร้อมใจกันออกลูก และก็กินกันแบบสด ๆ ไม่ทันจริง ๆ ค้า แต่แหม....มันหวาน กรอบ อร่อยมากเชียวค่ะ เก็บทีได้ตระกร้าใหญ่พอควร เหลือมากเข้าก็ต้องหาทางกำจัด เอามาทำอาหารหลากหลายอย่าง...เช่น น้ำพริกอ่อง , น้ำพริกมะเขือ , น้ำเงี้ยว , ซอสมะเขือเทศ และอีกสาระพัดเมนูที่ต้องใช้มะเขือเทศเป็นส่วนผสม ก็ยังพอมีเหลือพอที่จะเอาไปฝากให้เค้าอีกด้วยนะค้า คุ้มเจรง ๆ
คราวนี้....มาดูผักไทย ๆ เราบ้างดีกว่าค่ะ...ปีนี้...คงเป็นเพราะอาการปรวนแปรเลยทำให้ผักไทยแทบทุกอย่างให้ผลชื่นใจ ยกเว้น...เจ้าถั่วฝักยาว...
ผักคะน้า......อู๊ย...เป็นปลื้มมากจ้า...ทยอยหว่านเมล็ดทีละชุด...2 อาทิตย์ครั้ง หลายรอบเหมือนกัน หวังว่า...จะได้มีเอาไว้กินตลอดหน้าร้อน
กลายเป็นว่ามันพร้อมใจกันขึ้น.....เบียดแน่นเชียวค่ะ ....ก็ต้องถอนออกมาเพื่อให้มันโตขึ้น....ทำให้ได้กินยอดคะน้าอ่อน...เอามาผัดบ้าง ทำก๋วยเตี๋ยวทานบ้าง
มะเขือเปราะ .....หว่านเมล็ดปลูกพร้อม ๆ กัน 2 พันธุ์ คือ "มะเขือเสวย" กับ มะเขือลูกสีขาว ที่เห็นขายกันตามตลาด ไม่ค่อยขึ้น แต่ก็ยังดีที่มันยังยอมเกิดเป็นต้นมาให้หน่อย มะเขือเสวย...ได้ 3 ต้น เจ้าเนี่ย...โตเร็วกว่าอีกแบบ ซึ่งเกิดมาให้แค่ 2 ต้นเอง (อ๋อ....เพิ่งได้กินลูกของพันธุ์ลูกขาว แค่ 3 ลูกเองค้า ) ยังดี...ที่ได้เจ้ามะเขือเสวย.....เค้าโตเร็วกว่า ก็เลยออกดอกเป็นลูกก่อน พอได้เก็บเอามาผัด , แกง กินอยู่บ้าง แต่พันธุ์นี้....สำหรับเต่าว่า...เอามากินดิบไม่ค่อยอร่อย เม็ดมันแข็งมาก แถมเนื้อก็เหนียว....เอ๋...หรือมานจะเป็นที่คนปลูกหว่า??
พริกชี้ฟ้า.....ไม่ได้ลงทุนเลยละค้า...อิอิ ตอนกลับไปเมืองไทยซื้อพริกชี้ฟ้าแห้งที่ตลาดนัดแถวบ้าน แค่ 10 บาท ถุงเบ้อเร้อ ตอนที่จะทำพริกแกง ก็ผ่าเอาเมล็ดออก ลองเอาไปเพาะดู อู๊ย...มันขึ้นให้ด้วยตั้งเยอะเชียวค้า ที่ว่างชักเหลือน้อยแล้ว เพราะคิดว่า...คงใช้ไม่มากเท่าไหร่ ก็เลยเลือกเอาแต่ต้นที่แข็งแรงที่สุด เอาไปปลูกที่แปลง 3 ต้น เวลามันพร้อมใจกันออกดอกเป็นเม็ดให้.....เก็บกันทีได้เกือบครึ่งกิโล....อิอิ ถึงจะไม่ใช่พริกหนุ่ม แต่เลือกเม็ดที่อ่อน (หนุ่ม) ที่สุด ลองเอามาทำน้ำพริกหนุ่มทานดู อู๊ย....มานเผ็ดจนกินแล้วแทบกระโดดเชียวละค้า
พริกขี้หนู.....แบบเม็ดใหญ่ เจ้าเนี่ยก็ไม่ได้ลงทุนเหมือนกานค้า เพราะที่ปลูกเมื่อปีที่แล้ว เหลือจากการจับแช่แข็ง (พื้นที่ในช่องแข็งหมด) ก็นำมาตากแห้ง เก็บเป็นพริกแห้งเอาไว้ทำน้ำพริกแกงต่าง ๆ ลองเพาะดู...มันก็ขึ้น จับแยกใส่กระปุกเล็ก ๆ แบ่งไปให้เพื่อน ๆ หลายคนช่วยกันปลูก ส่วนของตัวเอง...เอาไปปลูกแค่ 3 ต้นเองค่ะ ส่วนพริกขี้หนูสวน...ใช้เมล็ดพันธุ์ที่ซื้อเค้ามาเพาะ ได้แค่ไม่กี่ต้น แต่ก็พอได้เก็บมาทำอาหาร + แช่แข็งเอาไว้เหมือนกัน
พริกขี้หนู...ที่เหลือจากการแช่แข็ง (ตู้เต็ม) ปีที่แล้วเต่า...ลองเอามาโขลกกับกระเทียม ผัดน้ำมันจนหอม ใส่ใบกระเพรา , โหระพา เก็บใส่ขวดแล้วแช่ตู้เย็นช่องธรรมดาเอาไว้ เวลาจะทานผัดกระเพรา , โหระพา หลังจากผัดเนื้อสุกแล้ว ก็ตักใส่ลงไป พอใช้ได้ในช่วงที่ไม่มีผักสด ๆ ทาน แถมเก็บไว้ได้นานหลายเดือนเชียวค่ะ ปีนี้...ก็เลยมีทำเก็บไว้อย่างละหลายขวดเหมือนกัน ส่วนที่เหลือรวมทั้งพริกชี้ฟ้าด้วย ก็นำมาดองน้ำส้มเก็บเอาไว้
กระเพรา....หว่านเมล็ดหมดซองเลยค้า เพราะกลัวว่าจะไม่ขึ้น เพราะเจ้าเนี่ย...ขึ้นยาก ทำไปทำมา....กลายเป็นเยอะเยอะมากเชียว ได้แบ่งต้นไปให้เพื่อน ๆ ช่วยกันปลูกหลายคน เอาไปลงที่แปลงไว้เป็น 10 ต้น กลัวไม่พอทาน....อิอิ โอ้ย.... พอมันโตขึ้นมา ก็ต้องถอนทิ้งออกไปตั้งหลายต้น เพราะกินไม่ทันจริง ๆ
โหระพา.....ตอนแรกก็หลายต้นเหมือนกัน พอต้องปรับดินเพื่อปลูกผักใหม่ ก็ถอนทิ้งไปบ้าง เหลือไว้แค่ 2 ต้น
แมงรัก....โตเร็วมาก ๆ เรียกว่าตัดทิ้ง...มากกว่ากินเสียอีกซิค้า เนี่ยแค่ 2 ต้นเองนะคะ พุ่มมันใหญ่จริง ๆ
พวกใบกระเพรา , โหระพา , แมงลัก.....ลองเก็บถนอมเอาไว้ใช้ยามขาดแคลนแล้วหลายวิธี....พบว่า....วิธีที่ดีที่สุดก็คือ....เอาไปผัดกับพริก+กระเทียม ส่วนอีกแบบก็คือ....นำไปลวกในน้ำเดือดแค่พอผักสลบเท่านั้น เทใส่กระชอน ราดด้วยน้ำเย็นจัด ๆ ทิ้งไว้ให้สะเด็ดน้ำ เสร็จแล้วก็นำมาห่อด้วยแผ่นพลาสติกใส (บีบน้ำให้แห้ง) กะปริมาณพอทำอาหารแต่ละครั้ง จับเรียงใส่กล่องปิดฝาให้แน่น นำแช่เข้าช่องแข็งเก็บเอาไว้ได้ เวลาทำอาหารก็นำมาใส่ทั้งที่ยังแข็ง ๆ อยู่ กลิ่นอาจจะหายไปหน่อย แต่ใช้ได้เลยละค้า
กระทู้ยาวมากแล้ว...เริ่มโหลดช้าขึ้น ที่จริงยังมีผักที่ปลูกไว้อีกหลายอย่าง อย่างละนิดละหน่อยเอาไว้แค่พอกินกันในครอบครัว และที่ระเบียงบ้านอีกก็หลายอย่าง แต่เอาเป็นว่า....ขอยกยอดไปกระทู้หน้าดีกว่าค่ะ
ลากันที่ภาพนี้....ดอกตาเสือ....ลองเพาะเมล็ดดูแค่นิ๊ดเดียว พอโตเอาไปปลูกแค่ไม่กี่ต้น โห....มันโตวันโตคืน ขึ้นเป็นพุ่มสูงใหญ่ เที่ยวไประรานผักอย่างอื่นเค้า ก็เลยได้ถอนยกกอทิ้งไป...อิอิ
***ขอปิดการให้ Comment ในกระทู้นี้ไว้แค่นี้ก่อน***
หากเพื่อน ๆ ท่านใดมีความประสงค์ อยากเพิ่มเติม , ติ ชม หรือมีคำถามใด ๆ กรุณาแวะไปฝากข้อความไว้ได้ที่นี่ค่ะ
Guest Book
ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมเยียน และขออภัยในความไม่สะดวก ไว้ ณ ที่นี้ด้วยนะคะ
Create Date : 11 ตุลาคม 2550 |
|
29 comments |
Last Update : 20 พฤษภาคม 2552 7:52:28 น. |
Counter : 11037 Pageviews. |
|
|
|
สวัสดียามเช้าค่ะ