1 2 3
4 5 6 7 8 9 10
11 12 13 14 15 16 17
18 19 20 21 22 23 24
25 26 27 28 29 30
การรู้เสียงวรรณยุกต์โดยไม่ต้องเทียบเสียง
"โอ๊ย ! ทำอย่างไรหนอ เวลาสอบจึงจะผันวรรณยุกต์ให้ได้เร็ว ๆ นะ ข้อสอบแต่ละข้อก็ยาว ๆ ทั้งนั้นเลย กว่าจะผันได้แต่ละข้อ ก็เกือบ 5 นาทีเข้าไปละ เฮ้อ! กลุ้มใจจัง" นักเรียนทุกคน คงมีความรู้สึกเป็นเช่นนี้เหมือน ๆ กันในเวลาที่สอบวิชาภาษาไทย และมีข้อสอบที่เกี่ยวกับเรื่องของวรรณยุกต์ เช่น อาจจะยกคำมา แล้วถามว่า คำนั้น เป็นเสียงวรรณยุกต์อะไร หรือ อาจจะยกประโยคมา 1 ประโยค แล้วถามว่า ประโยคที่ยกมามีเสียงวรรณยุกต์อะไรบ้าง หรือ ถามว่า ข้อใดมีเสียงวรรณยุกต์ครบ 5 เสียง เป็นต้น จากประสบการณ์การสอนนักเรียนมา 35-36 ปี รู้สึกว่าเรื่องของวรรณยุกต์ของไทยนั้นยากมากพอสมควร สมัยเป็นนักเรียน เมื่อทำข้อสอบเกี่ยวกับเรื่องของวรรณยุกต์ ฉันก็ใช้วิธีเทียบเสียงของวรรณยุกต์ที่ต้องการรู้ด้วยวิธีเทียบเสียงกับหมู่อักษรกลาง ซึ่งเป็นอักษรหมู่เดียวที่สามารถผันได้ครบ 5 เสียง พอมาเป็นครูสอนภาษาไทย จึงได้มาคิดหาวิธีการช่วยนักเรียนให้ผันเสียงหรือสามารถบอกเสียงของคำที่ต้องการทราบว่าเป็นเสียงวรรณยุกต์อะไร โดยไม่ต้องเทียบเสียงซึ่งเป็นวิธีที่เสียเวลามากพอสมควร ดังจะนำมาเผยแพร่เป็นความรู้แก่ผู้อ่าน ดังนี้นะคะ ภาษาไทย เป็นภาษาที่มีคุณสมบัติพิเศษอยู่อย่างหนึ่ง คือ มีระดับเสียงสูงต่ำ คล้ายเสียงดนตรี เราเรียกเสียงสูงต่ำเหล่านี้ว่า "วรรณยุกต์" เมื่อเสียงของวรรณยุกต์เปลี่ยนไป ความหมายของคำนั้น ๆ ก็จะเปลี่ยนไปด้วย เช่น ไข ไข่ ไข้ ความหมายของทั้ง 3 คำ นี้ จะแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง ดังนั้นการใช้วรรณยุกต์ในภาษาไทย จึงเป็นสิ่งสำคัญมาก ถ้าใช้ผิด ความหมายก็จะพลอยผิดไปด้วยนั่นเอง วรรณยุกต์ในภาษาไทยเรานั้น แบ่งออกเป็น 4 รูป แต่มี 5 เสียง พวกที่ไม่รูปวรรณยุกต์กำกับ เราเรียกว่า เป็นคำพื้นเสียงของอักษรแต่ละหมู่ ซึ่งแบ่งออกเป็น สามหมู่ ที่เรียกว่า ไตรยางศ์ ฉันขอสรุปกฎเกณฑ์ในการรู้หรือบอกเสียงของวรรณยุกต์ของคำ โดยไม่ต้องเทียบเสียงจากอักษรกลาง ดังนี้ ค่ะ 1. นักเรียนทุกคนต้องจำอักษรสามหมู่ หรือ ไตรยางศ์ ให้ได้ เพราะอักษรสามหมู่จะต้องนำมาใช้ในการสังเกตเสียงวรรณยุกต์ของคำที่เราต้องการทราบว่าเป็นเสียงวรรณยุกต์อะไร อักษรกลาง มีทั้งหมด 9 ตัว คือ ก จ ฎ ฏ ต ด บ ป อ อักษรสูง มีทั้งหมด 11 ตัว คือ ข ฃ ฉ ฐ ถ ผ ฝ ศส ษห ส่วนอักษรต่ำ นักเรียนไม่ต้องจำค่ะ เพราะอะไรคะ ก็เพราะว่า เมื่อจำ อักษรกลางและอักษรสูงได้หมดแล้ว ที่เหลือ ก็จะเป็นอักษรต่ำทั้งหมด นั่นเอง 2. เหตุผลที่ต้องให้นักเรียนจำอักษรกลางและอักษรสูงให้ได้ เพราะว่า หมู่อักษรสูงและอักษรกลาง จะมีรูปและเสียงวรรณยุกต์ตรงกัน กล่าวคือ เมื่อนักเรียนเห็นรูปวรรณยุกต์อยู่บนหัวของอักษรสูงหรือกลางเป็นรูปวรรณยุกต์อะไร ก็จะมีเสียงวรรณยุกต์ตามรูปนั้น เช่น เมื่อเห็นคำว่า "จ่าย" นักเรียนก็บอกได้ว่า คำว่า "จ่าย" มีเสียงวรรณยุกต์ เอก เพราะว่า "จ" เป็นอักษรกลาง ตามกฎ จะมีรูปและเสียงวรรณยุกต์ ตรงกับรูป หรือ ตัวอย่างคำว่า "ไข้" นักเรียนก็บอกได้ว่า คำว่า "ไข้" เป็นเสียงวรรณยุกต์ "โท"เพราะว่า ตามกฎ "ข" เป็นอักษรสูง มีรูปและเสียงวรรณยุกต์ตรงกัน นักเรียนคงเห็นแล้วใช่ไหมคะว่า เรื่องของวรรณยุกต์ ถ้าเรารู้ถึง หล้กการสังเกตตามกฎที่กล่าวมาแล้วมันไม่ใช่เรื่องยากสำหรับเราเลยใช่ไหมคะ นักเรียนคงสงสัยว่า เอ้า แล้วอักษรต่ำล่ะ รูปและเสียงวรรณยุกต์เป็นอย่างไร ไม่เห็นพูดถึงเลยไม่ต้องสงสัยค่ะกำลังจะให้เป็นกฎ ข้อที่ 3นะคะ 3 อักษรต่ำ คำเป็น เป็นอักษรหมู่เดียวที่รูปและเสียงวรรณยุกต์ไม่ตรงกัน ยกเว้นอักษรต่ำคำตาย ที่มีเสียงวรรณยุกต์ที่ตรงตามรูปและไม่ตรงตามรูปวรรณยุกต์ที่ปรากฏให้เห็น ดังจะอธิบายให้ชัดเจน ดังนี้ ถ้าเป็นอักษรต่ำคำเป็น เมื่อเห็นรูปวรรณยุกต์เอก เสียงของคำนั้นจะเป็นเสียงวรรณยุกต์โท เช่น คำว่า "ค่า" จะเป็นเสียงวรรณยุกต์โท เพราะว่า "ค" เป็นอักษรต่ำ คำเป็น เมื่อเห็นรูปวรรณยุกต์เอกบนหัว "ค" จะมีเสียงวรรณยุกต์โท แต่เมื่อเห็นรูปวรรณยุกต์โท บนหัวของอักษรต่ำ เสียงวรรณยุกต์ของคำนั้นจะเป็นเสียง ตรี ตัวอย่างเช่นคำว่า "ท้าย" จะมีเสียงวรรณยุกต์ ตรี เพราะว่า "ท" เป็นอักษรต่ำ ตามกฎ เมื่อเห็นรูปวรรณยุกต์โท เสียงวรรณยุกต์จะเป็นเสียงตรี สำหรับอักษรต่ำคำตาย จะมีทั้งรูปวรรณยุกต์ตรงกับเสียงและไม่ตรงกับเสียง คือ เสียงจัตวาจะตรงกับรูปจัตวาเท่านั้น เช่น คำว่า ม๋ด โค๋ก เป็นต้น จะมีเสียง จัตวาเมื่อมีรูปวรรณยุกต์จัตวากำกับอยู่ แต่คำเหล่านั้น มักไม่ค่อยใช้ในภาษาเขียน ก่อนอื่นขออธิบายเกี่ยวกับ คำเป็น คำตาย ซึ่งจะต้องใช้เกี่ยวข้องกับเรื่องของวรรณยุกต์ คือ คำเป็น กับคำตาย จะผันเสียงวรรณยุกต์ได้ไม่เท่ากัน ลักษณะที่เราจะสังเกตได้ว่าเป็นคำเป็น คือ 1.ต้องประสมกับสระเสียงยาว เช่น อีกา รูปู โอ่อ่า จำ ไม่ ใต้ เอา เป็นต้น 2.ต้องไม่มีตัวสะกดอยู่ในแม่ กก กบ กด (แม่ กบด) เช่น จาน มัมมี่ เวร กัน งง เฉย เทอญ เป็นต้น ลักษณะที่เราจะสังเกตได้ว่าเป็นคำตาย คือ 1.ต้องประสมกับสระเสียงสั้น เช่น กะทิ โอ๊ะ เลาะ ทะลุ 2.ต้องมีตัวสะกดในแม่ กก กบ กด ( แม่กบด) เช่น จับ กวาด ฉก ลบ นอกจากนี้ ยังมีอีกสองคำที่ต้องทำความเข้าใจ นั่นคือ คำว่า คำตายเสียงสั้น กับคำตายเสียงยาว เพราะจะเกี่ยวข้องกับการผันเสียงวรรณยุกต์ในอักษรต่ำคำตายในเรื่องคำพื้นเสียงด้วย 1.คำตายเสียงสั้น หมายถึง คำที่เป็นอักษรต่ำคำตายที่ประสมกับสระเสียงสั้น เช่น งก รถ ซบ เป็นต้น 2.คำตายเสียงยาว หมายถึง คำที่เป็นอักษรต่ำคำตายที่ประสมกับสระเสียงยาว เช่น โงก ชาติ ซีก เป็นต้น นักเรียนจะเห็นว่า กฎข้อ 1 ,2 และ 3 ที่กล่าวมาแล้ว เป็นการบอกเสียงวรรณยุกต์โดยมี รูปวรรณยุกต์ให้สังเกตได้ แต่คำในภาษาไทย ยังมีอีกพวกหนึ่งที่ไม่มีรูปวรรณยุกต์กำกับไว้ให้เราใช้สังเกตตามกฎที่ฉันให้ไว้ คำพวกนี้ จะเป็นคำพื้นเสียงของอักษรทั้ง 3 หมู่ ซึ่งจะมีคำพื้นเสียงทั้งหมด 7 เสียง ที่นักเรียนต้องจำให้ได้ว่าอักษรแต่ละหมู่ทั้งคำเป็นและคำตาย จะมีพื้นเสียงเป็นเสียงใดบ้าง ดังนี้ 4. คำที่ไม่มีรูปวรรณยุกต์ให้สังเกต ต้องจำเสียงวรรณยุกต์ของคำพื้นเสียงของอักษรทั้งสามหมู่ให้ได้ ดังนี้ อักษรกลาง คำเป็น มีพื้นเสียงเป็นเสียงสามัญ ผันวรรณยุกต์ได้ 5 เสียง เช่น กาน ก่าน ก้าน ก๊าน ก๋าน คำตาย มีพื้นเสียงเป็นเสียงเอก ผันวรรณยุกต์ได้ 4 เสียง เช่น ปัด ปั้ด ปั๊ด ปั๋ด อักษรสูง คำเป็น มีพื้นเสียงเป็นเสียงจัตวา ผันวรรณยุกต์ได้ 3 เสียง เช่น ขัน ขั่น ขั้น คำตาย มีพื้นเสียงเป็นเสียงเอก ผันวรรณยุกต์ได้ 2 เสียง เช่น ขด ข้ด อักษรต่ำ คำเป็น มีพื้นเสียงเป็นเสียงสามัญ ผันวรรณยุกต์ได้ 3 เสียง เช่น คาน ค่าน ค้าน คำตายเสียงยาว มีพื้นเสียงเป็นเสียงโท ผันวรรณยุกต์ได้ 3 เสียง เช่น โคก โค้ก โค๋ก คำตายเสียงสั้น มีพื้นเสียงเป็นเสียงตรี ผันวรรณยุกต์ได้ 3 เสียง เช่น มด ม่ด ม๋ด สรุปได้ว่า นักเรียนต้องจำคำพื้นเสียงของอักษรสามหมู่นี้ให้ได้ เพื่อที่จะบอกเสียงวรรณยุกต์ของคำที่ไม่มีรูปวรรณยุกต์กำกับให้สังเกต เช่น เมื่อเห็นคำว่า " ปด" นักเรียนก็บอกได้ว่า เป็นเสียงเอก เพราะว่า "ป" เป็นอักษรกลาง คำตาย มีพื้นเสียงเป็นเสียง เอก หรือเห็นคำว่า "สอย" นักเรียนบอกได้ทันทีว่า เป็นเสียง จัตวา เพราะว่า "ส" เป็นอักษรสูง คำเป็น มีพื้นเสียงเป็นเสียง จัตวา เป็นต้น นอกจากนี้ ฉันขอให้ข้อสังเกตในเรื่องการใช้วรรณยุกต์ไว้สังเกต เพื่อไม่ให้เขียนหนังสือผิด ดังนี้ 5. อักษรกลาง คำเป็น หมู่เดียวเท่านั้นที่สามารถผันเสียงวรรณยุกต์ได้ครบ 5 เสียง 6.อักษรสูงและอักษรต่ำ ไม่มีรูปวรรณยุกต์ตรีใช้ ถ้านักเรียนเห็นมีรูปวรรณยุกต์ตรีอยู่บนหัวของอักษรทั้งสองหมู่นี้ แสดงว่าเขียนผิด ค่ะ ข้อนี้ไว้ใช้สังเกตข้อสอบที่ให้เลือกข้อใดใช้คำผิด ข้อใดใช้คำถูก ฉันหวังว่า กฎเหล่านี้ คงจะช่วยให้นักเรียนบอกเสียงวรรณยุกต์โดยไม่ต้องนับนิ้วในการผันวรรณยุกต์หรือเทียบเสียงวรรณยุกต์จากอักษรกลางอีกต่อไปแล้วนะคะ เพื่อทดสอบความเข้าใจในเรื่องการบอกเสียงวรรณยุกต์โดยไม่ต้องเทียบเสียงจากอักษรกลาง นักเรียนลองทำข้อสอบ ดังต่อไปนี้ ดูซิคะว่า ทำได้มากน้อยเท่าไร 1.วรรณยุกต์มีประโยชน์มากที่สุดในด้านใด ก.ทำให้เกิดเสียงสูงต่ำ มีความหมายแตกต่างกันไป ข.ทำให้ภาษามีความไพเราะ เพราะเกิดเสียงสูงต่ำเหมือนเสียงดนตรี ค.ทำให้มีคำใช้มากขึ้น สะดวกในการเลือกใช้คำ ง.เป็นเอกลักษณ์อย่างหนึ่งของภาษาไทย ภาษาอื่น ไม่มีวรรณยุกต์ใช้อย่างภาษาไทย 2.อักษร 3 หมู่ มีความหมายตรงกับข้อใด ก.วรรณยุกต์ ข. เสียงดนตรี ค.รูปและเสียงวรรณยุกต์ ง.ไตรยางศ์ 3.ข้อใดมีอักษรสูง กลาง ต่ำ อย่างละ 2 ตัว ก. ฉ ช ด ฎ พ ฌ ข. ผ ห จ ฎ ร ฮ ค.ข ฐ ณ น ฝ ก ง.ค ฆ ฑ ต ถ ธ 4. ข้อใดเป็นอักษรต่ำทุกตัว ก. ง ญ น ล ง ย ข. ฬ ส ต จ ช ฒ ค. ท ฟ ภ อ ฬ ฮ ง. ร ล ง ษ ป ม 5.พื้นเสียงของคำเป็นของหมู่อักษรกลาง สูง และ ต่ำ เรียงลำดับแล้ว คือ ข้อใด ก.เกลอฉันเอง ข.ชอบจังเลย ค.ปีกลายหรือ ง.เตรียมเข็มยา 6.พื้นเสียงคำตายของอักษรกลาง สูง ต่ำ เรียงตามลำดับคือข้อใด ก.ตบ เปะ เละ มาก ข.เด็กขับรถลาก ค.ตับผักฟักจาก ง.รักเขาชอบยาก 7.ข้อใดมีพื้นเสียงทั้งคำเป็นและคำตายของอักษรสูงและกลาง ก.ขันหมากเด็กดอย ข.ฝนตกแดดออก ค.จำปีสีขาว ง.นกกระจอกหดหัว 8. ข้อใดมีคำพื้นเสียงทั้งคำเป็นและคำตายของหมู่อักษรต่ำ ก.หงส์ปีกหัก ข.วัณโรค ค.รักเป็นพิษ ง.ลืมกันหมด 9. ข้อใดมีรูปและเสียงวรรณยุกต์ตรงกัน ก.ช้อนส้อมคู่นี้ ข.ได้ห้าแต้มค่ะ ค.ป้อมอุ้มหน่อยด้วย ง.ส้มเกลี้ยงหนึ่งชั่ง 10.ข้อใดมีเสียงวรรณยุกต์ครบห้าเสียง ก.ไหใบนั้นสวยค่ะ ข.หนูหน่อยแม่น้อยล่ะ ค.ปู่เทียมกลุ้มหรือจ๊ะ ง.น้ำท่วมจึงกลุ้มค่ะ 11.ข้อใดมีเสียงวรรณยุกต์และรูปวรรณยุกต์ไม่ตรงกัน ก.ให้เสื้อเอี้ยงหนึ่งตัว ข.ป่วยเป็นไข้จับสั่น ค.ตุ๋นไข่ไก่หรือป้า ง.น้าช้อยร้อยมาลัย 12.ข้อใดมีเสียงวรรณยุกต์โททั้งหมด ก.อย่าเที่ยวเล่นน้ำ ข.ปิ้งมากไม่ได้ ค.ช้ำจ้ะรู้แล้ว ง.น้องร้องไห้จ้า 13.ข้อใดมีเสียงวรรณยุกต์ตรีทั้งหมด ก.ปุ๊ ล้อช้างน้ำ ข.พลาดพลั้งเสียแล้ว ค.น้ำวุ้นกะทิ ง.ล้อต๊อกหัวล้าน 14.ข้อใดมีเสียงวรรณยุกต์จัตวาทั้งหมด ก.ป๋าเหลวไหลหรือ ข.หัวใสจริงนะ ค.เดี๋ยวฉันโกรธเขา ง.เหลียวจนหันหลัง 15.ข้อใดกล่าวผิดหลักความจริงของการผันวรรณยุกต์ ก.อักษรกลางคำตายพื้นเสียงเป็นเสียงเอก ข.อักษรกลางและอักษรสูงมีรูปและเสียงวรรณยุกต์ตรงกัน ค.อักษรต่ำคำตายเสียงสั้นพื้นเสียงเป็นเสียงโท ง.อักษรต่ำเมื่อผันด้วยรูปจัตวาจะมีเสียงเป็นจัตวา คำเฉลย 1.ค 2.ง 3.ข 4.ก 5.ง 6.ข 7.ก 8.ข 9.ค 10.ค 11.ง 12.ข 13.ก 14.ก 15.ค อย่าแอบดูคำตอบก่อนนะคะ เป็นอย่างไรบ้างคะ ทำถูกกี่ข้อคะ ถ้าได้ 14-15 ข้อ เก่งมากค่ะ
Create Date : 11 กันยายน 2554
20 comments
Last Update : 10 กรกฎาคม 2566 21:15:02 น.
Counter : 42435 Pageviews.
โดย: มุก IP: 171.7.235.37 14 กุมภาพันธ์ 2555 17:46:45 น.
โดย: เด็กเรียน IP: 110.168.114.78 7 เมษายน 2555 20:58:09 น.
โดย: ลูกหมี IP: 110.49.233.21 23 กรกฎาคม 2555 21:15:52 น.
โดย: qwertyormy IP: 118.174.92.71 26 ตุลาคม 2556 20:16:06 น.
โดย: เกม IP: 27.145.245.121 24 มิถุนายน 2557 18:09:37 น.
โดย: ชรินกร IP: 110.77.210.92 13 ธันวาคม 2557 13:07:17 น.
โดย: สก็อต เป็นเสียงวรรณยุกต์อะไร IP: 192.99.14.36 24 เมษายน 2558 21:22:53 น.
โดย: สก็อต เป็นเสียงวรรณยุกต์อะไร IP: 192.99.14.34 24 เมษายน 2558 21:23:07 น.
โดย: pavielin 26 เมษายน 2558 23:56:20 น.
โดย: ศรัณยา IP: 180.183.27.226 30 พฤษภาคม 2558 12:37:30 น.
โดย: ศรัณยา IP: 180.183.27.226 30 พฤษภาคม 2558 12:37:46 น.
โดย: แม่ที่กำลังงงภาษาไทย IP: 203.157.30.1 16 กรกฎาคม 2558 14:13:42 น.
โดย: แจน IP: 203.185.134.237 10 กันยายน 2558 11:10:33 น.
โดย: Mookkuki IP: 1.4.245.26 17 พฤษภาคม 2559 1:43:09 น.
โดย: Ezzy jet IP: 223.207.248.39 19 กุมภาพันธ์ 2560 1:52:26 น.
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 46 คน [? ]
เป็นครูสอนภาษาไทยที่เกษียณอายุราชการแล้ว สนใจเรื่องการเขียนหนังสือให้ความรู้ ชอบการท่องเที่ยว หากท่านที่เข้ามาชมและอ่านแล้ว มีความสนใจและต้องการสอบถามเรื่องความรู้ด้านภาษาไทย ถ้ามีความสามารถจะให้ความรู้ได้ ก็ยินดีค่ะ
http://i697.photobucket.com/albums/vv337/dd6728/color_line17.gif