"กลิ่นลมทะเลที่เมืองกระบี่ ๑๐ :: เหมือนจะหลงรัก...ท่าปอมคลองสองน้ำ "
แล้วน้องออสก็พาพวกเรามาถึงจุดหมาย "ท่าปอมคลองสองน้ำ" Unseen Thailand
ที่นี่ตั้งอยู่ที่ตำบลเขาครามห่างจากตัวเมืองประมาณ 34 กิโลกว่าๆ หลังจากจ่ายกระตังค์ค่าเข้าชมเรียบร้อยแล้ว..จะเห็นทางเดินศึกษาธรรมชาติ....ไปกันเลยไหมคะ
เรามาเกือบจะ 4 โมงเย็นแล้ว...ดีนะเค้ายังให้เข้าชม ตอนนี้....เงียบมาก....มีเรากํบนักท่องเที่ยวหนุ่มหัวทอง 2 คนเดินตามมาเป็นเพื่อนกัน
เดินมาแบบหวาดๆ กลัวๆ เพราะวังเวงเหลือใจ แต่ไม่ทันไรพอเห็นภาพป่าพรุท่าปอมตรงหน้า.......
อยากตะโกน...."โอวววววแม่เจ้า.....รักเธอประเทศไทยยยยยย" สวยป่าล้ำป่าเหลือ...อแม๊ซซิ่งแต้ๆ....
ชั่วแค่ไม่กี่ก้าวที่เราเดินเข้ามาตามทาง ผ่านป่าชายเลนที่มีต้นโกงกางอวดรากระโยงระยาง
มาจนสุดทางมีบันไดลงไปที่สายน้ำ... แต่ดันมีป้ายห้ามว่าห้ามเล่นน้ำ.....ง่ะ
เดินดูน้ำใสๆ ก็ได้...สะพานศึกษาระบบนิเวศ ยาวประมาณ 700 เมตรนะคะ เดินเล่นชิวๆ ..สบายๆ
โซนที่เห็นเริ่มอเปลี่ยนจากป่าชายเลนเข้ามาสู่ "ป่าพรุน้ำจืด" ที่เค้าว่าหาดูยากนักหนา
แถมป่าพรุท่าปอมดันพิเศษกว่าป่าพรุอื่นอีก ตรงมองดูเป็นพื้นดินเปียกๆ ไม่ท่วมขังเหมือนที่เราเห็นตรงป่าพรุท่าเตียว สระมรกต
รากไม้หงิกงออันเป็นเสนห์ของที่นี่ มีทั้งต้นตังหนใบเล็ก และชมพู่น้ำ ที่กลายเป็นพระเอกของป่าพรุท่าปอม
นอกจากรากไม้ที่แผ่ขึ้นมาเพื่อหายใจเอาอากาศ รีวิวมาบอกว่ามีพูพอนหรือส่วนของต้นไม้ที่แผ่กว้างออกจากโคนต้น.... ไหนน้อ...
มองดูเหมือนหัวเขาที่แช่ลงไปในน้ำ.... เอิ๊กกกก....ว่าแล้วดันนั้น..แฮ่ๆ...แอบเอาขาแช่ลงไปติ๊ดนึงมีใครว่าไหมเนี้ยะ (เลียนแบบฝรั่ง 555)
บรรยากาศตอนนี้...อยากนั่งแช่ขาอยู่ที่นี่นานๆ จัง ลืมบอกไปว่าที่นี่บริหารจัดการโดยองค์การบริหารส่วนตำบลเขาครามนะคะ
น่าชื่นชมที่จัดการได้ดีมาก สะอาดสะอ้าน แต่ถ้าเปลี่ยนไม้ระแนงพื้นสะพานเป็นไม้จริงแทนไม่เทียม..คงจะดูแข็งแรงปลอดภัยทนทานมากกว่าที่เห็นอะ ฝากบอกนะคะ!!
น้ำที่ใสแจ๋ว....ก็เกิดจากกระบวนการตกตะกอน เนื่องจากปูนแคลไซด์ไล่จับสารแขวนลอยในน้ำแล้วกอดพากันไปใต้คุ้งน้ำ....แบบที่สระมรกตเปี้ยบ
นั่งสักพักนึกได้ว่า..เราน่าจะลองถ่ายสายน้ำพริ้วๆ แบบโปรกล้องเค้าดูบ้าง เอ้า..เอาก็เอาลองดูๆ....ขาตั้งกล้องก็ไม่มี...แช่ะๆๆๆ โอเครป่ะคร๊าบบบ
ถ่ายไปก็นึกเสียดายที่มาไม่ตรงเวลาที่ดอกชมพู่น้ำบาน ว่ากันว่าร่วงลอยตามสายน้ำใสๆ ..แค่จินตนาการก็..โรแมนติกข่าหนาดเน๊อะ ^^
คลองท่าปอมที่เห็นมีความยาวประมาณ 5 กิโลเมตร ไหลลงมาจากต้นน้ำผุดบนเขาช่องพระแก้วผ่านป่าท่าปอมแล้วจึงลงสู่ทะเลอันดามัน
ป่าท่าปอมจึงเป็นรอยต่อระหว่างจืดกับน้ำเค็ม ยามน้ำทะเลขึ้น ช่วงขึ้น 12 ค่ำ ถึง แรม 5 ค่ำน้ำในคลองจะเป็นน้ำกร่อย แต่เมื่อน้ำทะเลลงน้ำจืดจากป่าก็จะผลักน้ำเค็มออกทะเล กลายเป็นป่าพรุท่าปอม คลองสองน้ำ..ตามชื่อที่ตั้งนั่นเองอะก๊าบบบบ
ในช่วงน้ำทะเลหนุนเข้ามาในคลองท่าปอม ชาวบ้านเรียกกันว่า“น้ำใหญ่” น้ำคลองท่าปอมจะมีสีฟ้าค่อนข้างขุ่น พอน้ำทะเลลงน้ำจืดที่ใสแจ๋วก็เข้ามาแทนที่ คงเป็นแบบที่เห็น...
ท่าปอมคลองสองน้ำ เลยเป็นระบบนิเวศพิศดาร ที่มีป่า 3 ประเภท ทั้งป่าชายเลนในระบบนิเวศน้ำกร่อย ป่าพรุในระบบนิเวศที่น้ำท่วมขัง และป่าดิบชื้น....หลากหลายจริงๆ
ความหลากหลายทางชีวภาพของทั้งไม้ที่พบ สัตว์น้ำที่เจอ...มากมายไปหมด ทั้งน้ำจืดน้ำกร่อย
เราเดินตามสะพานศึกษาธรรมชาติลัดเลาะริมคลองท่าปอมไปเรื่อยๆ เจอเวิ้งน้ำกว้าง...และต้นโกงกาง...อีกรอบ
เขาที่เห็นข้างหลังคงเป็นเขาพระแก้ว ที่ส่งน้ำใสๆ ลงมาที่คลองท่าปอม
ส่วนนี่ป่าด้านซ้ายมือของสะพาน.. เอ..แล้วสภาพแบบนี้...เป้นป่าพรุรึป่าว...
ต่างจากด้านขวามือที่มีคลองท่าปอมไหลเลียบ เลยเห็นเจ้าโกงกางขึ้นตรึม
ในป่าพรุสภาพดินจะมีความเป็นกรด ทำให้ต้นไม้ธรรมดาๆ ทนไม่ได้ตายหมด.. เราเลยจะเห็นเจ้าชมพู่น้ำเยอะมาก...
แต่ในรูปไม่ใช่นะค่ะ เป็นต้นโกงกาง ส่วนด้านล่างเป็นไม้น้ำระดับล่าง....สวยอะ..เชื่อไม๊..ไม่เชื่อตามมาดูเลยค่ะ
ไม้น้ำพวกนี้เวลาจมอยู่ในน้ำ ใบจะโบกไปมาตามคลื่นน้ำ....พริ้วๆ สวยมากกก
นี่ไงค่ะชัดๆ.....ดูเหมือนสาหร่ายไงไม่รู้บอกไม่ถูก นึกถึงฉากใน Little mermaid อะ...
ท่าปอมมีเรื่องเล่านะค่ะว่าเป็นดินแดนอาถรรพ์ ที่ชาวบ้านเกรงกลัว จนมีชาวบ้านผู้กล้า“โต๊ะปอม” “โต๊ะหมัน” และ “นายกาแมะ” เป็นผู้นำเข้ามาอาศัยในป่าแห่งนี้
เชื่อกันว่าป่าท่าปอมมีจระเข้ขาวคอยดูแลคุ้มครองอยู่ และจะไม่ลงเล่นน้ำในวันเสาร์และอังคารเพราะจะทำให้เกิดเหตุร้ายในหมู่บ้าน
ภาพข้างหน้า...ทำให้รู้สึกคุ้มค่าจริงๆ กับการตัดสินใจไม่ไปพีพี..แต่เลือกขับรถตะเวนเที่ยวในตัวจังหวัด...
จริงๆ ทางอบต. อนุญาตให้เล่นน้ำได้ในบ้างช่วงเวลา แต่ตอนเราไปได้ยินเสียงเล่นน้ำอยู่ไกลๆ...ไม่รู้ตรงไหนยังไปไม่ถึง
รู้มาอีกด้วยว่ามีเรือแคนนูบริการนักท่องเที่ยว พายชื่นชมธรรมชาติในลำคลองท่าปอม
เสียดายที่มาถึงซะเย็น...เลยอด แต่ตั้งใจไว้แล้วว่าเมื่อไหร่ ได้กลับมาอีกครั้งจะไม่พลาดเป็นครั้งที่ 2
เดินเข้ามาถึงช่วงที่ริมทางเดิน มีต้นไม้ดอกสีม่วงๆ ขึ้นเป็นกอ...สวยอีกแระ
น่าจะต้นเหงือกปลาหมอ คุณสมบัติทางยาเยอะแยะเลยอะ
เดินไปต่อ สภาพป่าเริ่มกลางเป็นป่าดิบชื้น คลองท่าปอมไหลเอื่อยๆ กลางป่าทึบ..
เสียงหัวเราะ...เสียงคนเล่นน้ำนี่นา... ใกล้ๆ นี่เอง..ตรงไหนน้า...เดินไปดู
ตรงนี้นี่เอง...ก่อนที่จะเลี้ยงไปปากคลอง เป็นบริเวณที่ทาง อบต.อนุญาตให้ลงเล่นน้ำได้ รากไม้สวยๆ เลยกลายเป็นที่เกาะยึดไปซะแระ
เรายังคงเดินไปตามทางเรื่อยๆ โดยมีฝรั่งรูปหล่อ 2 คนเดินเป็นเพื่อน
เพราะพยายามอธิบายเรื่องราวของพรุ... ของป่าเมืองไทยให้เค้าฟัง.....พยายามจนเหนื่อยนิ
บริเวณนี้ดูน้ำไม่ใสสะอาดเหมือนด้านใน แถมมีขยะเครื่องใช้ของ"คน" ปะปนเป็นพักๆ
คงใกล้ชุมชน...ใกล้ที่พัก.. ใกล้สังคม..ใกล้พวกเรา.....
เห็นเรือหาปลาจอดนิ่ง...รอเวลาออกเรือ.. ใกล้ชุมชนแล้วจริงๆ....
เราใช้เวลาเดินเกือบ 2 ชั่วโมง... พอออกไปเจอร้านค้าชาวบ้านขายเจ้านี่ที่เค้าเรียกว่า "มะมุด" คนขายบรรยายว่าเหมือนมะม่วงแต่กลิ่นแรง...แถมไม่ยอมขายให้เราอีก เพราะว่ากลัวเราทำกลิ่นรบกวนคนอื่น เอ..งงนะ
เหลือบไปเห็นเปลือกหอยชักบาทาวางอยู่ใกล้ๆ ถามดูเผื่อไม่ขายอีก...แต่เฮ้ย..ขายแฮ่ะ..แต่เราไม่ซื้อ 555 ไม่รู้จะเอาไปทำไรนี่นา
ว่าแล้วก็เกือบลืมทานหอยชักตรีนนนนน อาหารประจำถิ่นเมืองกระบี่....ไปตระเวนหากันดีกว่า...ฟิ้ววววว
ด้านหน้าท่าปอมคลองสองน้ำมีสวนปาล์มให้บริการดูแลน้องออสของเราด้วยค่ะ ^^
ต้องขอบคุณสำหรับคะแนนโหวตที่ทำให้กระบี่ที่รักขึ้น Top blog of the week นะคะ ถ้าอยากตามไปกอดเมืองกระบี่ให้หนำใจ แล้วไปเดินเล่นชิวๆ ที่เกาะภูเก็ตต่อกับมัจฉานุก็ทางนี้เลยนะคะ ...
:::::::::::::::
"วันที่เท้าถึงดินแดนที่ชื่อกระบี่ ไปกินโรตีที่คิดถึงกัน" "ไปแหวกทะเลที่ทะเลแหวก" "ลอยคอดูปลาทะเล" "ไร่เลย์...เค้าปลูก snack กันเป็นไร่เหรอ?" "หน้าผาสูงใหญ่..ยืนอยู่ใกล้ๆ คลื่นลมที่ไร่เลย์" "วิถีชุมชน คนกระบี่" "เดินผ่าป่าพรุ ไปทะลุสระมรกต" "ลมหายใจสะดุดที่สระน้ำผุด...เมืองกระบี่" "ดูลูกปัดหิน..แล้วบินไปพักใจเงียบๆ ที่ท่าเรือ" "เหมือนจะหลงรัก...ท่าปอมคลองสองน้ำ " "ชะโงกดูเขาขนาบน้ำบนฝั่งน้ำกระบี่ " "กอดลากระบี่มาต่อที่เกาะภูเก็ต " "เดินเล่นเย็นๆ ใจในเกาะภูเก็ต ๑ :: สี่เหลี่ยมปริศนาถนนกระบี่ - ถนนเยาวราช - ถนนดีบุกและถนนสตูล " "เดินเล่นเย็นๆ ใจในเกาะภูเก็ต ๒ :: อังหมอเหลาบนถนนกระบี่ - ของกินถิ่นๆ ที่สุ่นอุทิศ "
ปล.๑ กระบี่ทริปนี้ดองไว้ไม่พอเค็มเท่าไหร่ เพราะเพิ่งไปเมื่อมีนาที่ผ่านมา หวังว่าจะเข้าท่าเข้าทางคนชมนะคะ ปล.๒ อะ..ลืมบอกว่าทริปนี้เป้นทริปฟรีๆ แอบทำตัวเป้นกลุ่มแม่บ้านตามเค้าไป แต่ตอนจบดันไม่ฟรีซะงั้น เดี๋ยวมาเล่าต่อละกัน 555 ปล.๓ เป็นครั้งแรกที่ไปเหยียบเมืองกระบี่ ... ประทับใจซะละสิ...คงต้องหาทางไปสำรวจให้พรุนอีกสักครั้ง ^^ ปล.๔ ลิงค์บทความ "ปลาสลิดหินบั้งเขียวเหลือง"นะคะ ลองเข้าไปอ่านกันดู ปล.๕ ลิงค์เรื่องเล่า "ถ้ำพระนาง " จร้าาา ปล.๖ ลิงค์ข้อมูลดีและคำอธิบาย "เรื่องราวสระมรกต " จร้าาา ปล.๗ ลิงค์เรื่องราว "ควนลูกปัด...คลองท่อม " ปล.๘ ท่าปอมคลองสองน้ำ อยู่ห่างจากตัวเมืองประมาณ 34 กิโลกว่าๆ ตามรายละเอียดทางนี้นะคะ "ท่าปอมคลองสองน้ำ" ปล.๙ คุยกันเรื่องโรตี...เราเห็นที่นี่มีเจ้าดังในเมือง 2 เจ้า ที่หน้าแบงค์กรุงเทพฯ กะแถวสี่แยกมนุษย์โบราณ ส่วนตัวเราว่าหน้าแบงค์หร่อยกว่าค่ะ ปล.๑๐ ขอบคุณเมโลดี้น่ารักจาก ??? (Jeon Su Yeon) ชื่อเพลง Smile Smile Smile กับเด็กๆ น่ารักจากบ้านคุณยายกุ๊กไก่นะคะ
|