ครบรอบ ๑ ปีกับ “น้องกิ่ง” ของแม่ (ตอนแจ๋วหลบ - จบแล้ว)
ระหว่างที่แม่นอนกลางวัน พี่เลี้ยงก็เริ่มแสดงอาการไม่รู้จักเกรงใจด้วยการทะเลาะกับแฟนทางโทรศัพท์เสียงดังสนั่นขนาดที่ว่าพ่อของฉันที่หู ฟังอะไรไม่ค่อยได้ยินยังเดินหน้าเหรอหรามาหาฉันว่าเกิดอะไรขึ้น
ตกบ่ายแม่เริ่มตัวอุ่นๆ อย่างเป็นไข้มองไปที่ผ้าพันแผลมีรอยเปื้อนสีน้ำตาลปื้นหนึ่ง ฉันก็ยังอุตส่าห์คิดไปว่าคงไปเลอะอะไรมากระมัง แต่ฉันก็ยังเข้าใจว่าที่แม่ทำท่าจะเป็นไข้นั้นเป็นผลมาจากอาการติดเชื้อที่เจอก่อนออกจากโรงพยาบาล ซึ่งหมอสั่งไว้แล้วว่าถ้ามีไข้ให้พากลับมาหาหมอด่วนเลย ฉันโทรไปบอกหมอว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างและขอคำแนะนำหมอเองก็ตกใจและยืนยันคำเดิมคือให้พามาหาหมอด่วนเลย ฉันโทรบอกพี่สาวให้รีบมาพาแม่ไปหาหมอ แต่หมอไม่สามารถอยู่รอได้เกิน ๔ โมงเย็นเนื่องจากมีธุระที่อื่นต่อ แต่ก็ฝากเรื่องไว้กับพยาบาลในแผนก
พี่สาวโทรกลับมาบอกว่าแม่ต้องนอนโรงพยาบาลอีกเนื่องจากที่หกล้มทำให้แผลฉีก รอยสีน้ำตาลที่ฉันเห็นนั้นคือเลือดที่ซึมออกมาจากด้านใน เมื่อแกะผ้าพันแผลที่พันอยู่หลายทบออกมามีเลือดเต็มไปหมดหมอต้องเปิดแผลไว้เพื่อล้างแผล ดูสิกลัวอะไร ก็ได้อย่างนั้น
คราวนี้ฉันที่เข้มแข็งมาตลอดเป็นฝ่ายสติแตกร้องไห้แบบถล่มทลายกลายเป็นพายุทรายถล่มไปเลยจะกอบจะโกยอย่างไรก็กองอยู่กับพื้นเพราะมันเกินจะทนแล้ว เล่นเอาเพื่อนฝูงญาติพี่น้องที่โทรมาเยี่ยมอึ้งกันไปหมด น้องสาวฉันขับรถกลับมาจากชลบุรีพร้อมแฟนตรงไปโรงพยาบาล เมื่อกลับมาถึงบ้านต้องกลายเป็นฝ่ายปลอบฉัน แม้กระทั่งพ่อก็ต้องมาปลอบฉัน - ก็บอกแล้วว่าอย่าให้ฉันร้อง
พี่สาวฉันเป็นอาสาของร่วมกตัญญู เมื่อคุณเธอพิจารณาหน่วยก้านและความสามารถของพี่เลี้ยงแล้วเห็นว่าไม่น่าจะสามารถดูแลแม่ได้ อีกทั้งถ้านอนโรงพยาบาลเอกชนก็ไม่น่าจะต้องใช้พี่เลี้ยงเพราะไม่น่าจะเรียกใช้ได้ถูกใจเท่าลูก เราก็แจ้งศูนย์ขอคืนยายคนนี้ไป
อย่างไรก็ดีขอขอบพระคุณคุณหมอจตุพร ปรารถนาดี ศัลยแพทย์กระดูก ที่กำจัดไอ้เจ้าตัวต้นเหตุที่ทำให้แม่ทรมานอยู่หลายเดือน โดยที่เราหาสาเหตุกันไม่เจอสักที แม้ว่าตอนแรกพวกเราจะระแวงว่าเป็นการยัดเยียดหรือมัดมือชกคนไข้อย่างที่เราเจอบ่อยๆ ในโรงพยาบาลเอกชนหรือเปล่า (จะบอกตรงๆ ว่าขอบคุณที่ตัดขา ก็ฟังทะแม่งๆ อยู่) และทำให้น้องกิ่งเกิดมาพร้อมกับความเข้มแข็งของแม่ ตลอดเวลาที่อยู่ในความดูแลของคุณหมอท่านนี้ คุณหมอได้มาดูแลและทำแผลให้ด้วยตัวเองทุกวัน (บางแห่งผ่าตัดเสร็จก็ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของพยาบาลทำแผลให้รายวัน) และยังไปคอยสังเกตุการณ์และให้กำลังใจตอนทำกายภาพด้วย แม้กระทั่งในวันที่แม่หกล้มจนต้องกลับไปเข้าโรงพยาบาลอีกรอบในเวลาที่คุณหมอออกเวรไปทำธุระที่อื่นแล้ว เมื่อเสร็จธุระก็ยังย้อนกลับมาดูอาการแม่ และสุดท้ายช่วยทำเรื่องส่งต่อเคสไปยังโรงพยาบาลรัฐบาลให้ทั้งๆที่คุณหมอเป็นหมอประจำเต็มเวลาของโรงพยาบาลเอกชน ก่อนที่เราจะไส้แห้ง – อันนี้สำคัญกับปากท้องของพวกเรา อย่างที่รู้ๆกันอยู่ว่าเอกชนนั้นบริการดีและแพง ส่วนโรงพยาบาลรัฐนั้นราคายุติธรรมแต่เข้ายากหากไร้เส้น ก็ขออวยพรให้คุณหมอและครอบครัวประสบแต่สิ่งดีๆ สมกับความ “ปรารถนาดี” ที่หมอมีให้กับคนไข้
ช่วงแรกๆ ที่แม่กลับมาบ้าน น้องกิ่งจึงถูกพี่ๆ รุมดุอยู่เสมอว่าถ้าแอบไปซนแล้วเกิดหกล้ม จะต้องนอนปากอ้าเลือดกบปากอย่างคราวก่อน เข็ดรึยัง
ที่เล่ามานี้ เกิดขึ้นเมื่อปีที่แล้วค่ะ นางไม้ฯ มารำลึกถึงความหลังครั้งระทึกใจ ช่วงนั้นเป็นฝันร้ายนานนับเดือน แต่เผลอแป๊บๆ ก็ผ่านไปแล้ว นั่นหมายความว่า เราสามารถผ่านบททดสอบแห่งโชคชะตามาได้ แม้ว่ามันจะหนักอย่างไร หากชีวิตเรายังไม่สิ้น ก็คงต้องดิ้นกันต่อไปจริงๆอย่างที่เขาว่าน่ะแหละ
ขอขอบคุณทุกแรงใจนะคะ ตอนนี้ก็แค่ลุ้นว่าที่หมอนัดสิ้นเดือนนี้เพื่อไปส่องกล้องลำไส้จะไม่มีอะไรร้ายแรง เนื่องจากก่อนหน้านี้คุณนายเธอไม่ค่อยสบาย เลยไม่ได้ออกมาเดิน พอไม่เดินลำไส้ก็พาลไม่ได้เคลื่อนไหว ท้องไส้เลยไม่ทำงาน ระบบต่างๆ รวนไปเยอะ ความจริงเสาร์-อาทิตย์เป็นเวลาที่น่าจะเข้าบล็อกได้สะดวก เพราะเป็นเครื่องที่บ้าน สปีดเครื่องและสปีดเน็ตไม่ช้า แต่ก็นั่นแหละค่ะ มาอยู่บ้านก็มีอะไรต่อมิอะไรต้องทำไม่น้อยหน้าที่ทำงาน
นี่ก็เพิ่งจะงาบคุณตาไปเหวอะหวะ ฐานเอาแต่ใจ เราเองก็ลูกพ่อ เอาแต่ใจเหมือนกัน จะยอมกันง่ายๆ ได้ไง ขอตัวไปนอนก่อนดีกว่า แล้วค่อยทะยอยไปทักทายอีกที พร้อมดวงชุดใหม่ (คราวนี้ชุดเล็ก)
ขอบคุณ bg สวยๆ จากคุณดอกคูณริมฝั่งโขง อีกแล้วค่ะ (หยิบเขามาอย่างเมามัน)
Create Date : 27 มกราคม 2551 |
|
10 comments |
Last Update : 27 มกราคม 2551 22:57:54 น. |
Counter : 831 Pageviews. |
|
|
|
ที่บ้านคุณพี่อบอุ่นและห่วงใยกัน น่ารักจังค่ะ
เด็กๆยุคใหม่ต้องเอาเป็นเยี่ยงอย่างจริงๆ
ผ่านเรื่องหนักๆมาแล้วในปีก่อน ปีนี้ก็ขอให้มีแต่สิ่งดีๆนะคะ