โลกที่หมุนไป กับใจดวงเดิม
Group Blog
 
<<
สิงหาคม 2550
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
13 สิงหาคม 2550
 
All Blogs
 
เขียนถึงแม่ของฉัน เนื่องในวันแม่ปีนี้

ธรรมดาสำหรับที่บ้านของฉันแล้ว
เรามองว่าความสำคัญของวันที่ 12 สิงหาคม คือวันเฉลิมพระชนมพรรษาของสมเด็จพระนางเจ้าฯ
แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าบ้านเราต่อต้านสังคมหรืออะไร
เราจะกระตือรือร้นจะจุดเทียนถวายพระพรพระองค์ท่าน
มากกว่าการซื้อมะลิมากราบแม่

อาจจะเป็นเพราะสมัยที่เริ่มมีวันแม่ใหม่ๆ เราได้เห็นคนแถวๆ บ้าน ลุกขึ้นมาทะเลากับพ่อแม่เสียงดังล้งเล้งเป็นประจำแทบไม่เว้นแต่ละวัน ไม่ลูกคนนั้น ก็ลูกคนนี้ (ป้าคนนี้แกมีลูกหลายคน)
แต่พอถึงวันแม่ก็ไปหาดอกมะลิมากราบแม่ร้องห่มร้องไห้กอดกันทั้งแม่ทั้งลูก
แต่วันอื่นๆ ที่เหลือก็เข้าอีหรอบเดิม ด่ากันปาวๆๆๆ

คงเพราะบ้านของเราเชื่อว่าวันไหนๆ คนเราก็รักแม่อยู่ดี
และแม่เองก็ไม่เคยเรียกร้องให้ทำกิจกรรมอะไรในวันแม่
หรือจะเป็นเพราะพวกเราค่อนข้างจะอยู่กับแม่ตลอดด้วยกระมัง

ระยะหลังมานี้พี่ๆ น้องๆ ของฉันกระจัดกระจายไปตามหน้าที่การงานและครอบครัวของเขา
ก็คงยังมีฉันน่ะแหละที่อยู่บ้านกับพ่อแม่เป็นประจำ

ปีนี้
แม่ของฉันไม่สามารถทำกิจวัตรบางอย่าง
หรืออาจจะเรียกว่าหลายๆ อย่างก็ได้ด้วยตัวของแม่เอง

ฉันเรียกแม่ว่า "นางกระต่าย" เพราะแม่ของฉันต้องกระโดดกระต่ายขาเดียวเป็นระยะสั้นๆ แทนการเดินปกติในบริเวณที่รถเข็นเข็นเข้าไปให้ไม่ได้

ใช่แล้ว
แม่ของฉันต้องนั่งรถเข็น
ขาซ้ายของแม่ถูกตัดออกไปครึ่งแข้งเมื่อต้นปีนี้เอง
สาเหตุจากโรคเบาหวานที่กัดกินมานาน
มันไม่ได้กินไปแค่ขาของแม่
มันกินหัวใจของเราไปด้วย

แผลที่เท้าจากโรคเบาหวาน
ที่ฉันเคยคิดว่ามันเป็นเรื่องไกลตัว คงไม่เกิดกับแม่ฉันหรอก
โรคนี้มันเคยอาละวาดที่เท้าซ้ายมาครั้งหนึ่งเมื่อ 2-3 ปีก่อน
คราวนั้นเราสยบมันอยู่ด้วยยาฆ่าเชื้อแสนแพง
(ยังล้อกันเล่นๆ ว่าเป็นยาชนิดเดียวกับที่เอามารักษาบิ๊กดีทูบีหรือเปล่าที่ว่าหลอดละเป็นแสน--แต่ยาแม่ แค่หลักหมื่น ฮึฮึ หัวเราะประชดจ้ะ)

คราวนี้ เจ้าขาซ้ายผู้อ่อนแอ ก็เพลี่ยงพล้ำต่อเชื้ออื่น
กว่าที่เราจะตระหนักว่า อาการไข้สูงและเพ้อของแม่ตั้งแต่ก่อนคริสต์มาสที่แล้วที่ทำให้แม่ต้องระเห็จไปนอนไอซียูอยู่ 4 คืนในตอนนั้น ไม่ใช่แค่กรวยไตอักเสบ หรือติดเชื้อในกระแสเลือด
กว่าที่เราจะรู้ว่าต้นสายปลายเหตุมาจากเท้าที่บวมจนหมอคิดว่าเป็นเกาท์
อาการปวดแปล๊บปล๊าบจนแม่ร้องไห้อยู่บ่อยๆ ไม่ได้มาจากแค่ปลายประสาทอักเสบอย่างที่คนเป็นเบาหวานเขาเป็นกัน ก็กินเวลาเป็นแรมเดือนซึ่งมันสายเกินแก้แล้ว
แม่กลับไปเข้าโรงพยาบาลอีกครั้งหลังจากออกมาได้ประมาณ 2 สัปดาห์ พวกเราก็คิดว่าคงเป็นเรื่องติดเชื้อจากทางเดินปัสสาวะอีกตามเคย
(คนที่เป็นเบาหวาน จะมีจุดอ่อนกับระบบปัสสาวะ อาจจะมีกระเพาะปัสสาวะอักเสบอยู่ประปราย หากไม่รักษาให้หายเชื้อจะลุกลามทำให้ถึงขั้นกรวยไตอักเสบได้ - อาการคือไข้สูง เพ้อ พูดจาไม่รู้เรื่อง)
แม่นอนอยู่ประมาณ 2-3 วันได้ ไข้ก็ลดลง พยาบาลก็บอกว่าแผลที่เท้าก็ดีนะ แห้งดี
ฉันก็แปลกใจว่าแผลที่เท้า? ก็เดิมไม่มีนี่นา
แต่ความที่พยาบาลทำแผลและพันผ้าให้แล้ว ฉันก็ไม่อยากไปเปิดดู
ฉันไปนอนเฝ้าแม่ที่โรงพยาบาลเอกชนย่านประตูููููน้ำแล้วเช้าวันรุ่งขึ้นก็ไปทำงานที่สมุทรปราการ น้องสาวมาต่อเวรจากฉันตอนสาย เพราะคิดว่าคงจะได้พาแม่กลับบ้าน

ฉันนั่งทำงานอยู่จนกระทั่งตอนสายๆ น้องก็โทรเข้ามาร้องไห้สะอึกสะอื้น ฉันเริ่มใจเสียว่าเกิดอะไรขึ้น เพราะก่อนออกมาฉันยังไปกอดแม่เพื่อลาไปทำงานอยู่เลย
ฉันวิ่งออกไปพูดโทรศัพท์นอกห้องทำงาน หากมีเรื่องร้ายแรง หากฉันต้องร้องห่มร้องไห้ ก็ไม่อยากให้เพื่อนร่วมงานต้องมาแตกตื่น
น้องบอกว่าก็คิดว่าจะได้พาแม่กลับ แต่หมอกระดูกจับแม่ไปเอ็กซ์เรย์เท้า แล้วแจ้งว่าเท้าซ้ายเจ้าปัญหาของแม่ ถูกเชื้อโรคที่ัยังไม่ทราบว่าเป็นเชื้ออะไร กัดกินจนเสียสภาพ โดยเฉพาะกระดูกแตกป่นไปหมดแล้ว และหมอมีความเห็นให้ตัดเท้าซ้ายทิ้งในเย็นวันนั้นก่อนเชื้อจะลุกลามไปที่อื่น

เบื้องต้นฉันเองก็ไม่อยากเชื่อ คิดตามประสาที่เคยเจอโรงพยาบาลเอกชนแบบพาณิชย์หาเรื่องลากคนไข้เข้าแล็บไปตรวจโน่นตรวจนี่โดยไม่จำเป็น แล้วก็ยัดโรคอะไรสักโรคมาสันนิษบานให้เราเป็น
พี่น้องฉันสั่งให้ฉันสแตนด์บาย ไม่ต้องไปโรงพยาบาล เพราะเราคาดกันว่าหากต้องตัดจริงๆ เรื่องจะต้องยาวแน่นอน เราจะต้องสลับผลัดเปลี่ยนกันไปทำธุระ ดังนั้นอย่าเฮละโลหยุดพร้อมๆ กัน

ฉันนั่งกระวนกระวายใจอยู่ที่ทำงานโดยมีน้องที่อยู่ฝ่ายเดียวกันแค่ 2 คนเท่านั้นที่รู้เรื่อง
ฉันก็อยากจะร้องไห้แต่ตอนนั้นก็ไม่รู้เกิดทิฐิอะไรเหมือนกัน จึงไม่มีน้ำตาสักหยด

ทันทีที่ีเพื่อนซี้ของฉันรู้เรื่องก็กำชับให้ฉันไปขอประวิงเวลาหมอ เพราะเขาไม่อยากเชื่อเหมือนกันแถมเพิ่งจะมาเยี่ยมแ่ม่ก่อนจะเข้าโรงพยาบาลไม่นาน
แต่สุดท้ายพี่ชายฉันซึ่งเป็นคนที่คิดจะย้ายโรงพยาบาลเมื่อรู้ข่าว ก็ี่วิ่งไปหาแม่ที่่โรงพยาบาล พอได้เห็นฟิลม์และฟังคำอธิบายจากหมอ ก็ต้องยอมจำนน และเห็นด้วยกับหมอที่จะตัดขึ้นไปจนถึงครึ่งหน้าแข้งเพื่อป้องกันการลุกลาม ดีกว่าที่จะตัดแค่ข้อเท้า

การผ่าตัดขาที่ให้ผลประการหลังคือ "ตัด" นั้นกินเวลาไปเกือบๆ 3ชั่วโมงได้
ตัดขาแล้วต้องอยู่ห้องไอซียูเพื่อสังเกตอาการ พี่ๆ น้องๆ มอบหมายให้ฉันกลับไปอยู่ดูแลพ่อ - เปล่าหรอก พ่อไม่ได้ป่วยเพียงแต่พ่ออายุมากแล้ว ทิ้งไว้ที่บ้านคนเดียวคงไม่ดี

ฉันต้องกลับไปอยู่กับพ่อ กินข้าวเย็นกับพ่อ โดยปิดเรื่องแม่เป็นความลับเพราะกลัวพ่อจะช็อคไป
(พ่อมารู้เอาเมื่อแม่ออกจากโรงพยาบาลหลังจากตัดไปอีกครึ่งเดือนโน่น)
แม้ว่าน้องสาวจะตาบวมกลับบ้านมา เราก็ไม่มีเวลาจะมานั่งเศร้ากัน

เพื่อนของฉันบอกฉันว่าทึ่งกับความอดทนและเข้มแข็งของฉันมากที่ฉันไม่ฟูมฟายเลยแม้แต่น้อย
้เหตุผลง่ายๆ ของฉันคือ
ฉันยังไม่ได้เจอแม่เลยจนกว่าจะถึงสุดสัปดาห์นั้น ไม่รู้จะตีโพยตีพายไปทำไม ไอ้การจะไปร้องห่มร้องไห้ให้ผู้คนแตกตื่นกันไปนั้น ก็คงไม่มีประโยชน์อะไรทั้งต่อตัวเองและผู้อื่น ในเมื่อฉันต้องไม่"หลุด"เรื่องนี้ไปถึงพ่อ แถมความรู้สึกว่าเพื่อนร่วมงานจะต้องมาคอยถามว่า เกิดอะไรขึ้น ทำไม อะไร ยังไง ฯลฯ รวมทั้งคำปลอบใจที่ฉันเชื่อว่า มันเป็นด้วยมารยาทมากกว่านั้นรังแต่จะทำให้ฉันรู้สึกแย่

เพื่อนชื่นชมว่าฉันแข็งแกร่งมาก
แต่ฉันบอกว่าฉันคงเป็นไ้ด้แค่กำแพงทราย
ใครมาสัมผัสฉันเพียงนิดเดียว ฉันจะถล่มทะลายลงมาใ่ส่หน้าเขา
ฉันเองก็กลัวมากว่าหากมีใครมาปลอบโยนแสดงความเห็นใจฉันตอนนั้น
ฉันคงร้องไห้จนไม่เป็นอันทำการณ์ใดๆ ได้สักสิ่งเดียว

ตอนนั้นคิดมากไปหรือเปล่่าก็ไม่ทราบ แต่เอาเป็นว่าไม่อยากบอกใครที่ไม่ได้สนิทสนมเลย
แม้แต่เพื่อนสนิท ถ้าไม่ได้บังเอิญติดต่อเข้ามาในช่วงนั้น ก็ไม่มีโอกาสได้รู้ความจริงจากฉัน
จนทุกวันนี้เพื่อนร่วมงานนอกฝ่ายก็รู้แค่เพียงว่าแม่ของฉันไม่สบายมากเมื่อต้นปี

วันแรกที่ไปเยี่ยมแม่ เห็นแม่นั่งอยู่บนเตียงสีหน้าปกติดีทุกอย่าง มีเพียงใต้หัวเข่าที่มีผ้าพันดูเหมือนเป็นก้อนกลมๆ
ฉันเข้าไปกอดแม่ วินาทีนั้นกำแพงทรายของฉันก็ทะลายลงมาอย่างหมดท่า
แม่เป็นฝ่ายต้องมาลูบหลังปลอบฉันอีกต่างหาก
พี่น้องโห่ฉันว่าเขาเฮฮากันอยู่ มาร้องไห้อะไรตอนนี้ เสีียบรรยากาศ

ฉันจึงรีบกลับลำเงยหน้าขึ้นมาถามแม่ทั้งที่น้ำตายังไม่่แห้งว่า


"แล้วอย่างนี้ คราวหน้าพาแม่ไปนวดฝ่าเท้า เค้าจะคิดเงินเรายังไงล่ะแม่"








Create Date : 13 สิงหาคม 2550
Last Update : 14 สิงหาคม 2550 11:22:57 น. 17 comments
Counter : 670 Pageviews.

 
เป็นกำลังใจให้คุณแม่นะครับ



โดย: มิสเตอร์ฮอง วันที่: 13 สิงหาคม 2550 เวลา:3:46:06 น.  

 
เป็นกำลังใจให้ทุกคนครับ ดูแลคุณแม่ให้ดีดี นะครับ
ทั้งร่างกายและจิตใจ


โดย: เคน (kenjikung_9999 ) วันที่: 13 สิงหาคม 2550 เวลา:14:52:42 น.  

 
ขอให้มีความสุขนะจ๊า
ดูแลท่านดีๆน้า~
เพราะท่านดูแลเรามาตลอด
ทำเพื่อเรามาตลอด
ขอให้คุณและคุณแม่มีความสุขมากๆนะคะ
เบ๊บเอาใจช่วยนะคะ


โดย: BeBby (หนูหลงทางมา ) วันที่: 13 สิงหาคม 2550 เวลา:16:07:26 น.  

 


โดย: Jannyfer วันที่: 14 สิงหาคม 2550 เวลา:16:16:29 น.  

 
แอบมาดู "คุณนายของหนู" ของคุณนางไม้หน้า3 ค่ะ
เรียกแม่ว่านางกระต่ายอีกอย่างด้วยแฮะ
อ่านแล้วเกิดอารมณ์ร่วมตามอย่างจริงจัง
จนไม่รู้จะคอมเมนต์อะไรดี
จนกระทั่งมาอ่านประโยคสุดท้าย
"แล้วอย่างนี้ คราวหน้าพาแม่ไปนวดฝ่าเท้า เค้าจะคิดเงินเรายังไงล่ะแม่"


โดย: หมาเลี้ยงแกะ วันที่: 15 สิงหาคม 2550 เวลา:11:57:55 น.  

 
เข้ามารักแม่ด้วยคนค่ะ

เป็นกำลังใจให้นะค่ะ


โดย: yakyingnuk (yakyingnuk ) วันที่: 16 สิงหาคม 2550 เวลา:9:44:02 น.  

 
ขอบคุณมากนะครับที่มาอวยพรในวันเกิดผม
ต้องขอโทษด้วยนะครับที่ตอบช้าไปหน่อยครับ

เดี๋ยวผมจะแวะมาใหม่นะครับ....


โดย: skyteam วันที่: 18 สิงหาคม 2550 เวลา:0:52:49 น.  

 
เป็นกะลังใจให้เจ้าของบล็อกและคุณแม่ด้วยนะจ๊ะ
ยินดีที่ได้รู้จักค้าบ...


โดย: r k i วันที่: 20 สิงหาคม 2550 เวลา:11:26:10 น.  

 
สวัสดีครับ แวะมาเยี่ยมอีกครั้ง
คุณแม่กระต่าย สบายดีนะครับ ขอให้แข็งแรง แข็งแรง
ตลอดไป รวมถึงตัวลูกสาวเองด้วยนะครับ


โดย: ken (kenjikung_9999 ) วันที่: 20 สิงหาคม 2550 เวลา:14:42:56 น.  

 
ขอบคุณนะคะพี่ที่แวะไปเยี่ยมที่บล็อคของหนู
พอเข้าใจความรู้สึกค่ะ
ถึงจะไม่เข้าใจทั้งหมดแต่ก็เข้าใจ


กำแพงทราย ... ประโยคนี้โดนจริงๆ
เป็นกำลังใจให้คุณแม่ กับพี่นะคะ


ปล* ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ หนูชื่อขวัญ


โดย: a r i t s u m e m o o n วันที่: 21 สิงหาคม 2550 เวลา:17:41:32 น.  

 
น่ารักจังคะ มีเขียนถึงแม่ด้วย


โดย: littlebitlittlemore วันที่: 23 สิงหาคม 2550 เวลา:0:16:10 น.  

 
อ่านแล้วก็น้ำตาซึมด้วยความรู้สึกประทับใจและความเข้าใจครับ อ่านไปแล้วก็นึกว่าถ้าเป็นผม ผมจะรับเรื่องนี้ได้มั้ย..ผมเชื่อว่าผมคงทำไมได้อย่างที่คุณนางไม้หน้า3ทำได้อย่างเเน่นอนครับ


แม่ของคุณนางไม้หน้า3 ท่านเข้มเเข็งมาก คุณเองก็เข้มเเข็งไม่เเพ้กัน


อ่านแล้วโดนมาก เรื่องที่ลูกบางคน ในวันอื่นด่าแม่ทะเลาะกับแม่ แต่ในวันแม่แล้วมานั่งร้องห่มร้องไห้ สำนึกบุญคุณ กราบแม่...ผมเชื่อว่าวันเเม่มีได้ทุกวันครับ..


ปล. อ่านประโยคสุดท้ายแล้วก็อดอมยิ้มไม่ได้ ประโยคนี้เต็มไปด้วยความรัก ความอบอุ่นและกำลังใจซะจริงๆ


ขอเอาใจช่วยครับ และฝากเยี่ยมคุณแม่ของคุณนางไม้หน้า3ด้วยครับ



โดย: พ่อน้องโจ วันที่: 23 สิงหาคม 2550 เวลา:2:02:21 น.  

 


โดย: เจ้าเตี้ย วันที่: 23 สิงหาคม 2550 เวลา:9:35:20 น.  

 
แวะมาตอบเรื่องดัชชุนคะ ดัชชุนที่บ้านให้ทานเช้า-เย็น

ทานอาหารเม็ดนะคะ เพราะอาหารเม็ดจะช่วยขัดฟันคะ

และไม่ทำให้อ้วนง่ายคะถ้าเค้าเบื่อ ๆ ก็หาตับบดมาคลุก

กับอาหารเม็ดคะ ช่วยเพิ่มรสชาดคะ แต่อย่าทำบ่อยเดี๋ยว

เคยตัวคะ แล้วก็เล่นกับเค้าให้เค้าวิ่ง พาเค้าออกกำลังกาย

บ่อย ๆ คะ ดัชชุนที่บ้านอกจะตันมาก ลำตัวเค้าจะมีกล้าม

เนื้อเยอะคะ ส่วนที่บ้านคุณไม้หน้า 3 บอกว่าให้เค้าทาน

แต่เค้าไม่อ้วน อาจจะเป็นเพราะว่าเค้าป่วยหรือว่าเป็นโรค

อะไรอยู่รึเปล่าคะ ร่างกายเค้าอาจไม่สมบูรณ์เต็มร้อยคะ

ทางที่ดีไปพบสัตว์แพทย์คะ จะดีที่สุด


โดย: เจ้าเตี้ย วันที่: 23 สิงหาคม 2550 เวลา:14:11:19 น.  

 
สวัสดีนางไม้หน้าสาม

จบได้น่ารักมากค่ะ

"แล้วอย่างนี้ คราวหน้าพาแม่ไปนวดฝ่าเท้า เค้าจะคิดเงินเรายังไงล่ะแม่"



โดย: แพรจารุ วันที่: 23 สิงหาคม 2550 เวลา:22:42:42 น.  

 
"แล้วอย่างนี้ คราวหน้าพาแม่ไปนวดฝ่าเท้า เค้าจะคิดเงินเรายังไงล่ะแม่"


*+*+*+
ความรักและความผูกพัน ของคุณ กับแม่ ฟังจากประโยคนี้อย่างเดียวก็ชัดแล้วค่ะ

น้องแนนก็รักม๊าที่สุดเลย


โดย: nanny_nanny วันที่: 24 สิงหาคม 2550 เวลา:0:03:18 น.  

 
น่ารักมากครับ เป็นกำลังใจให้อีก 1 คนนะครับ


โดย: จากวันที่เธอไม่อยู่ วันที่: 26 สิงหาคม 2550 เวลา:23:14:01 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

นางไม้หน้า3
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




สาวน้อย*แสนร้าย นางไม้หน้า3
---------------------------------------
บล็อกนี้เป็นบล็อกของสาวน้อย
น้อยลง
น้อยลง
น้อยลง
ฮิฮิ
หุหุ มีผู้ตกค้างอยู่ในบล็อก ชีวิต
อยากบอกอะไรเราไหม?

ขอบคุณที่แวะมาอ่าน ขอให้มีความสุขกันทุกคนค่ะ โอมเพี้ยง..

Friends' blogs
[Add นางไม้หน้า3's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.