J.F.K. (1991) :the first Roman Catholic President
ตอนเด็กๆๆ ดูเรื่อง J.F.K บอกได้เลย หลับ เค้าไปดูกันก็ไปดูตามเค้า เห็นผู้ใหญ่เค้าชอบกันจัง
คำพูดที่กินใจของเค้าคือ "Ask not what your country can do for you--ask what you can do for your country."
จงอย่าถามว่าประเทศชาติจะให้อะไรแก่ท่าน แต่จงถามตัวท่านเองว่าท่านจะทำอะไรให้ประเทศชาติ"
แต่สิ่งที่เราจะพูดถึงเค้าคือ Speech การหาเสียงของเค้าประเด็นที่ร้อนแรงในสมัยนั้นเหลือเกิน 'I Believe in an America Where the Separation of Church and State is Absolute'
ทำไมแคนนาดี้ ถึงยกประเด็นนี้หาเสียง และได้รับvote เป็นประธานาธิบดี ในยุคของเค้า เป็นยุค สงครามเย็นพร้อมที่จะระเบิดได้ตลอดเวลา รัสเซียมีอำนาจมากสมัยนั้น ยุคลัทธิคอมมิวนิตย์ครอบครองระบาดไปทั่ว เป็นยุคแห่งFREE หนุ่มสาวออกจากบ้าน นิยมกัญชา ยาเสพติด ล่องลอยตามถนน ฟังเพลง The bittle สี่เต่าทอง ลัทธิต่างๆๆเกิดขึ้นเต็มมั่วไปหมด แสวงหาความจริงกันทั้งน้านน
ประเด็นที่ร้อน คือ แคนนาดี้ท้าทายวาติกัน เอามาเป็นเครื่องมือในการหาเสียงของเค้า
อันนี้เข้าใจในวิถีการเมือง และอาชีพของเค้า (ความเห็นส่วนตัว)
I believe in an America that is officially neither Catholic, Protestant nor Jewish--where no public official either requests or accepts instructions on public policy from the Pope,
ผมเชื่อว่า ในอเมริกา ไม่ว่าคาทอลิก โปรแตสแตนท์ ยิว ไม่ต้องการรัฐบาลอย่างเป็นทางการ ที่ยอมรับรับโครงสร้างนโยบายทางการเมืองจาก โป๊บ
the National Council of Churches or any other ecclesiastical source--where no religious body seeks to impose its will directly or indirectly upon the general populace or the public acts of its officials--and where religious liberty is so indivisible that an act against one church is treated as an act against all.
ท่าที่ในSpeedของเค้า
I believe in an America where the separation of church and state is absolute--where no Catholic prelate would tell the President (should he be Catholic) how to act, ผมเชื่อว่าอเมริกนและโบส์ถแยกจากกันแน่นอน อย่างแท้จริง พระราชาคณะบาทหลวงจะสั่งบอกอะไรประธานาธิบดีไม่ได้ (ขนาดเค้าเป็นคาทอลิกน๊ะ)นี้คือสิ่งที่แคนนาดี้แสดงออก
and no Protestant minister would tell his parishioners for whom to vote--where no church or church school is granted any public funds or political preference--and where no man is denied public office merely because his religion differs from the President who might appoint him or the people who might elect him.
For while this year it may be a Catholic against whom the finger of suspicion is pointed, in other years it has been, and may someday be again, a Jew--or a Quaker--or a Unitarian--or a Baptist. It was Virginia's harassment of Baptist preachers, for example, that helped lead to Jefferson's statute of religious freedom. Today I may be the victim--but tomorrow it may be you--until the whole fabric of our harmonious society is ripped at a time of great national peril.
Finally, I believe in an America where religious intolerance will someday end--where all men and all churches are treated as equal--where every man has the same right to attend or not attend the church of his choice--where there is no Catholic vote, no anti-Catholic vote, no bloc voting of any kind--and where Catholics, Protestants and Jews, at both the lay and pastoral level, will refrain from those attitudes of disdain and division which have so often marred their works in the past, and promote instead the American ideal of brotherhood.
เนื้อหาSpeech เต็มๆๆ //www.beliefnet.com/story/40/story_4080_1.html
คุณความดีของเค้าคือ
ที่ 25 พฤษภาคม ค.ศ. 1961 เขาแถลงต่อสภาคองเกรสว่าอเมริกากำลังเผชิญหน้ากับความท้าทายที่ไม่ธรรมดา ให้สภาอนุมัติงบประมาณเพื่อจุดมุ่งหมายของชาติคือ การส่งมนุษย์ไปลงบนดวงจันทร์ และเดินทางกลับอย่างปลอดภัย
ด้านการต่างประเทศ เคนเนดียุติวิกฤตการณ์ต่าง ๆ ทางการเมืองด้วยการยื่นคำขาดให้สหภาพโซเวียตถอนฐานยิงขีปนาวุธในประเทศคิวบา ความสำเร็จอีกประการหนึ่งคือ สนธิสัญญาระหว่างประเทศในการห้ามทดสอบอาวุธนิวเคลียร์ อย่างไรก็ตามนโยบายที่ผิดพลาดก็มีเช่นกัน การให้ความช่วยเหลือทางทหารแก่เวียดนามใต้ เป็นจุดเริ่มต้นสงครามเวียดนามที่โหดร้ายรุนแรง
แรกทีเดียวประธานาธิบดีเชื่อข้อมูลฝ่ายทหารและนักค้าอาวุธสงคราม ว่าสหรัฐจะสามารถชนะกองกำลังคอมมิวนิสต์ในเวียดนามได้ไม่ยาก เพราะแสนยานุภาพทางทหารเหนือกว่า เฉพาะอย่างยิ่งกองกำลังทางอากาศที่ใช้เฮลิคอปเตอร์เป็นหลัก แต่นั่นไม่จริง สงครามเวียดนามยืดเยื้อ ทหารอเมริกันเข้าสมรภูมิเป็นจำนวนมหาศาล ความสูญเสียเกินบรรยาย ช่วงเวลาที่จะหมดวาระ เตรียมชิงเก้าอี้ผู้นำสมัยที่ 2 เขาตัดสินใจใช้การเจรจาทางการทูตยุติสงคราม
แต่จากนั้นไม่นานเคนเนดีก็ถูกยิงเสียชีวิตที่เมืองแดลลัส รัฐเทกซัส เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน ค.ศ. 1963 ประวัติศาสตร์บันทึกถึงประธานาธิบดีผู้มีอายุน้อยที่สุดของสหรัฐอเมริกา ผู้มีผลงานโดดเด่นมากมายท่ามกลางวิกฤตการณ์หลังสงครามโลกครั้งที่สอง รอยต่อของยุคก้าวสู่สงครามเย็น
ความเห็นส่วนตัว : ประเด็นที่โดนลอบสังหารคือ ทางการเมืองด้วยการยื่นคำขาดให้สหภาพโซเวียตถอนฐานยิงขีปนาวุธในประเทศคิวบา
แต่คดีนี้ ก็กลายเป็น THE X FILES ไม่มีใครทราบผู้ลอบสังหารจนถึงปัจจุบัน และก็เป็นแรงบันดาลใจให้เกิดทฤษฎีการลอบสังหาร ภาพยนต์ สารคดีต่างๆๆมากมาย
Source : //th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%88%E0%B8%AD%E0%B8%AB%E0%B9%8C%E0%B8%99_%E0%B9%80%E0%B8%AD%E0%B8%9F._%E0%B9%80%E0%B8%84%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%99%E0%B8%94%E0%B8%B5
//www.millercenter.virginia.edu/academic/americanpresident/kennedy
//www.whitehouse.gov/history/presidents/jk35.html
//laura-knight-jadczyk.blogspot.com/2006_11_01_archive.html
Create Date : 18 กรกฎาคม 2550 |
|
9 comments |
Last Update : 18 กรกฎาคม 2550 12:38:29 น. |
Counter : 1916 Pageviews. |
|
|
|
แต่ความเห็นส่วนตัวของเรา
พาคนไปตายที่สงครามเวียดนาม เป็นการเจ็บช้ำของชาวอเมริกาและ ชาวเวียดนามมากที่สุด มีแต่การสูญเสีย
จนมาถึงทุกวันนี้