ดำน้ำที่ South Andaman: Day 4

เช้าวันนี้ตั้งนาฬิกาปลุกไว้ตอน 5.30 am เพราะมีนัด morning dive ตอน 5.45 am แต่พอตื่นมาได้ยินเสียงฝน แนนก็บอกว่าไม่ได้ลงแน่เลย กระนั้นเราสองคนก็ยังเดินออกมาดูว่ามีใครตื่นบ้าง ออกมาเจอพี่ขุน พี่ขุนไล่กลับให้ไปนอน เพราะฝนตกเลยลงไม่ได้ ...พลาด ๆ

ตื่นมาอีกทีตอนเกือบ ๆ 8 am ค่ะ ((ตื่นสาย hahaha)) เราหลับเป็นตายอะค่ะ ไม่ได้ยินอะไรเลย แนนบอกว่าได้ยินเสียงนาฬิกาปลุกนานมาก ๆ แนนก็แปลกใจว่าทำไมพี่นุ่นไม่ตื่นสักที แล้วก็ถามว่าเมื่อคืนได้ยินเสียงคนโวยวาย ๆ แล้วก็โดดน้ำกันไหม เราก็บอกว่าไม่ได้ยิน ไม่ได้ยินเสียงอะไรเลย ตอนที่ได้ยินเสียงนาฬิกาปลุกก็คิดว่ามันเพิ่งปลุก ...แหะ แหะ

วันนี้เราลงได้แค่ dive เดียวตอนเช้าค่ะ ต้อง skip 2 dives สุดท้าย เพราะต้องขึ้นเครื่องกลับตอน 11.00 pm คืนนี้ ซึ่งตามกฎของการดำน้ำควรพักน้ำก่อนขึ้นเครื่องอย่างน้อย 12 hrs อะค่ะ ...เสียดายยยยยย >_<

จริง ๆ เมื่อคืนตอนอยู่บนเกาะพีพี เราก็คิดแล้วคิดอีกนะคะว่าจะโดดงานวันจันทร์ดีหรือเปล่า แล้วก็เปลี่ยน flight มากลับพร้อมพี่อาร์ต พี่ไน้ พี่ขุน พี่จุ๋ม ตูน ทั้งนี้เพราะไม่อยาก skip dives อะค่ะ พอนึกได้ว่าเปลี่ยน flight คงไม่ได้ เพราะต้องแจ้งล่วงหน้า 2 วัน ก็คิดว่าเอ๊ะ หรือจะยอมลงทุนนั่งรถทัวร์กลับดี จนพี่ไน้ส่ายหน้าบอกว่า "นุ่นหมกมุ่นสุด ๆ" ส่วนพี่อาร์ตก็บอกว่า "อย่าเลย เปลืองเงินเปล่า ๆ ไว้คราวหน้ามาอีกก็ได้" ช่วยกันปลอบใจเราสุดฤทธิ์ แต่ไม่วายหยอดว่า "แต่ก็ไม่แน่นะ ลง 2 dives สุดท้ายอาจเจอ Whale shark ก็ได้" ...ฮึ่ม ฮึ่ม

โดยส่วนตัวแล้วเราก็ไม่อยากลาต่ออะค่ะ เพราะอย่างที่บอกตอนแรกว่าเรายังลาพักผ่อนไม่ได้ ที่สำคัญถ้าจะลาต่อคงต้องอ้างว่าป่วย ซึ่งมันน่าเกลียด หยุดไปตั้งแต่วันพฤหัสฯ แล้ววันจันทร์มันยังจะป่วยอีกแน่ะ hahaha แถมใบลากิจที่ลาวันศุกร์ เรายังอ้างว่าไปทำธุระที่จังหวัดเลยซะงั้น - -' ((จุ๊ ๆ รู้แล้วอย่าเอ็ดไปนะคะ ))

พอบอกทุกคนว่าเราเขียนใบลากิจว่าไปจังหวัดเลย ก็โดนแซวว่า น่าเชื่อมากเลย กลับไปตัวดำ แถมรูปก็มีแต่รูปทะเล อย่างนี้ห้ามซื้อของฝากกลับไปนะ เดี๋ยวความลับแตก เราก็ยังคิดได้ว่า ก็บอกที่ทำงานว่าไปเลยวันศุกร์แล้วพอกลับมากรุงเทพ ก็มาภูเก็ตต่อไงคะ ...ไอ้เรื่องแบบนี้น่ะ ฉลาดดดด - -'

แต่สุดท้ายก็กลับตามกำหนดเดิมค่ะ ฮือ ฮือ


วันนี้ครึ้ม ๆ ค่ะ ฝนลงเม็ดด้วย




^
^
วิวที่บิดะในค่ะ

ระหว่างรอคนอื่น ๆ ตื่น ฝนก็เริ่มลงเม็ดปรอย ๆ จนสุดท้ายเลยตัดสินใจว่าตื่นกี่คนก็ลงเท่านั้นละกัน เพราะถ้ามัวรอให้ครบ เกิดฝนตกหนักขึ้นก็ต้อง skip dive นี้อีก จะกลายเป็นว่าส่วนใหญ่จะไม่ได้ดำเลยวันนี้ ...ไม่อาวว เค้าไม่ยอมมม...

เวลาที่ลงคือ 8.20 am ค่ะ


มีลอดช่องด้วยค่ะ ((ไม่ใช่สิงคโปร์นะคะ))

ตอนที่ว่ายมาจะถึงช่องนี้ เจอ Bluespotted stingray ribbon tail (ปลากระเบนนั่นแหละค่ะ) ว่ายสวนมาจากช่องค่ะ ชี้ให้ครูโอ๋ดูใหญ่เลย แล้วก็นึกได้ว่าครูโอ๋คงเห็นมาเยอะจนเบื่อแล้วอะ แหะ แหะ


Trumpetfish ค่ะ ...เราว่ารูปร่างคล้ายดาบมากกว่านะ ทำไมไม่ให้ชื่อว่า swordfish ก็ไม่รู้

ก่อนจะเจอ Trumpetfish ก็เจอ Cornetfish
v
v


แล้วก็เจอฝูง Barracuda และฝูง Batfish ค่ะ ว่ายสวนทางกันเป็นฉากประกอบด้านหลังแนวปะการังและปลาเล็กปลาน้อย สวยมาก ๆ เลย


เราไม่เห็นปูตัวนี้ค่ะ ฮือ ฮือ


ปลาเยอะมาก ๆ ค่ะ


ฝูงปลากระรอก


ปะการังเขากวางค่ะ ที่นี่เยอะมาก ๆ

เจองูทะเลด้วยค่ะ แต่ไม่มีรูป เพราะพี่ซาไม่ได้ถ่ายมา

...จริง ๆ เจอนู่นเจอนี่เยอะค่ะ แต่ไม่มีรูป เดี๋ยวเพื่อน ๆ จะไม่รู้ว่าลักษณะยังไงอะค่ะ แหะ แหะ เช่น Moon wrasse ที่ dive หลัง ๆ เราเจอมันมาตอด mask อะค่ะ ไม่ได้กลัวเราเล้ย ว่ายมาตอด ๆ ซะงั้น นอกจากนั้นก็มีปลาผีเสื้อหลากชนิด, Moorish idol งี้, Twoline threadfin bream งี้... โอ๊วววว >_<

พอขึ้นมา เราก็อาบน้ำใส่ชุดพร้อมเดินทางกลับคืนนี้เลยค่ะ ลืมคิดไปว่าอาจจะได้ snorkling หรือขึ้นเกาะ และอาจจะเปียกได้ แหะ แหะ

ระหว่างพวกเราทานอาหารเช้า เรือก็แล่นมาที่อ่าวมาหยา ให้พวกเราได้ขึ้นไปพักผ่อนตามอัธยาศัยค่ะ


Maya Bay ที่เลื่องชื่อ


จุดที่ดำ night dive เมื่อคืนค่ะ


อีกมุมนึงของมาหยา




^
^
ห้องกัปตันและลูกเรือค่ะ


ครูโอ๋เรียกให้ถ่ายให้ ตอนเราลงไปยืนถ่ายรูปอยู่ข้างล่างค่ะ ...ตอนนี้แหละที่เรารู้สึกว่าเราเริ่มจะติดใช้สัญญาณมือแล้ว เพราะพอถ่ายเสร็จ เราก็ทำมือบอกว่า ok ครูโอ๋ก็ทำมือตอบกลับมาว่า ok ถ้าดำบ่อย ๆ อีกหน่อยไม่ต้องพูดกัน ใช้สัญญาณมือคุยกันยังได้ hahaha


ทำไมมีแต่พวกเราที่ชอบขึ้นเกาะก็ไม่รู้ hahaha... หน้าเดิม ๆ


มาหยาบีช


น้ำใสมาก ๆ


ซะหน่อย ๆ (เก็บค่าขึ้นเกาะคนละ 20 บาทด้วยค่ะ)

มาถึงตอนนี้เราเริ่มสำนึกว่าไม่ควรรีบเปลี่ยนชุดเลย เพราะขากางเกงเปียกหมด hahaha


ร่องผนังหินค่ะ


หินงอกหินย้อยค่ะ มีน้ำหยดด้วย อาจเป็นเพราะฝนตกก่อนหน้านี้อะค่ะ


อีกมุมนึงของหาดค่ะ

เดินไปจนเกือบสุดแล้วก็ชวนกันเดินกลับไปอีกมุมนึงค่ะ


เห็นทางไปสุขาแล้วสยอง ๆ


เด็กฝรั่งน่ารักค่ะ ...ตอนแรกเค้าอยู่กับแม่อะค่ะ แต่พอพวกเราขอถ่ายรูป พ่อเค้าก็เดินมาแซวว่า "50 บาท" ...โห สุดยอด ปรับตัวได้เข้ากับเมืองไทยสุดฤทธิ์ hahaha


ฝีมือพี่ซาค่ะ ((รูปเด็กฝรั่งก็ฝีมือพี่ซาเช่นกัน))

พอพวกเรากลับขึ้นเรือได้สักพัก เรือก็ออกเดินทางไป dive site บิดะนอกค่ะ

ตั้งแต่ dive นี้เรา แนน พี่ซา แล้วก็กลุ่มพี่รุตไม่ได้ลงแล้วค่ะ ฮือ ฮือ จะลง snorkling ก็ไม่ได้ เพราะน้ำลึก มองอะไรก็คงไม่เห็น T T


บรรยากาศเหงามากเลยค่ะ ...เมฆก้อนนี้เรามองแล้วเหมือนฝูงม้ากำลังวิ่งอะค่ะ

dive นี้ตูนไม่ยอมเอากล้องแนนลงค่ะ เพราะพี่ขุนบอกว่าเกะกะ ที่สำคัญได้เจอ ghost pipefish และสัตว์อื่น ๆ เยอะด้วย ตูนเลยรู้สึกผิดมาก ๆ ที่ไม่ได้เอากล้องลงไปถ่าย

ส่วนพวกเรา พอรู้ว่าเค้าเจอสัตว์กันเยอะก็เริ่มเสียใจที่ตัวเองไม่ได้ลง โฮ โฮ


ระหว่างทางที่เรือแล่นไปเกาะดอกไม้ ที่ดำ dive สุดท้ายของ trip นี้ค่ะ จะเห็นว่าทะเลวันนี้มีคลื่นพอสมควร


เกาะดอกไม้ ค่ะ


พี่ขุน act ท่าให้ถ่ายรูปค่ะ ...บริเวณท้ายเรือที่ให้ก้าวลงน้ำอะค่ะ...

ตราบใดที่เรือยังไม่จอดให้ลง พวกเราก็ต้องแบก tank และอุปกรณ์ต่าง ๆ น้ำหนักรวมประมาณ 20 kg. ไว้อย่างนั้นอะค่ะ มีอยู่ dive นึงที่หินม่วง หินแดง พวกเราแต่งตัวกันเสร็จนานมาก ๆ เราก็ไปยืนอยู่ท้ายเรืออย่างนี้เหมือนกัน หนักก็หนัก ครูโอ๋ก็ยื่นเชือกมาให้เราโหน เหมือนที่พี่ขุนโหนในรูปอะค่ะ ไอ้เราก็นึกว่าครูโอ๋หวังดี ที่ไหนได้ ตัวครูโอ๋เองไปนั่งอยู่ตรงถังน้ำใกล้ ๆ ที่วาง tank ซะงั้นน่ะ เราเลยบอกว่า "ดีเนอะ ให้ลูกศิษย์ยืนแบก tank หนัก ๆ ส่วนตัวเองนั่งสบาย ไอ้เราเห็นยื่นเชือกมาให้นึกว่าหวังดี" - -'


ลงน้ำกันเรียบร้อย

dive นี้ตูนยอมเอากล้องลงไปด้วยค่ะ hahaha พอขึ้นมาตูนบอกว่าเป็นฟาร์ม Nudy ชัด ๆ Nudy เยอะมากกกกกก


เจ้า 2 ตัวนี้คาดว่ากำลังผสมพันธุ์กัน


เห็นตัวสีขาวขอบฟ้าที่อยู่ทางด้านขวาของภาพไหมคะ นี่ก็คือ Nudy พันธุ์นึงค่ะ แล้วที่เห็นเป็นวงรูปหัวใจก็คือไข่ที่เค้าวางอะค่ะ ((วางไข่ได้ศิลป์มาก ๆ ให้ตายสิ >_<))






ตัวนี้เหมือนหนอนทะเล แต่เราไม่รู้ว่าคือตัวอะไรค่ะ




นี่ก็ Nudy

จบจาก dive นี้ ระหว่างพวกเราทานอาหารกลางวัน เรือก็มุ่งหน้ากลับภูเก็ตค่ะ

ระหว่างนั้นเราก็เอา Postcard ที่ซื้อมาจากเกาะพีพีขึ้นมานั่งเขียน พี่อาร์ตกับพี่ไน้เลยถือโอกาสสัมภาษณ์ความรู้สึกของเราในฐานะที่เป็น Diver มือใหม่ว่ามา trip คราวนี้รู้สึกว่าขาดอะไรไหม หลังจากคิดแล้วเราก็ตอบว่า... ไม่ค่ะ ไม่รู้สึกว่าขาดอะไร (ก็กินอิ่ม นอนหลับ ได้ดำน้ำเห็นโลกใต้ทะเลสวย ๆ ดีออก)

พี่อาร์ต: "แต่พี่ว่านุ่นขาดไปอย่างนึงนะ"

เรา: "???" (ขาดอะไรหว่า)

พี่อาร์ต: "ขาดคนรู้ใจไง ออกทริปคราวหน้าก็พาคนรู้ใจมาดำด้วย"

เรา: "..." (โอ๊ววววววววววววว พูดยังกับนุ่นหาได้ง่าย ๆ เลย)

พี่อาร์ต: "พี่ว่ายังทันนะ นุ่นยังมีเวลาหาอีกเดือนครึ่งแน่ะ" (ทั้งนี้เพราะพี่อาร์ตกับพี่ไน้แนะนำให้เราไปดำน้ำแถวเกาะเต่า เกาะนางยวน ประมาณเดือนมิถุนายนน่ะค่ะ)

เรา: "เอ่อ...คงไม่หาแล้วอะค่ะ นุ่นตั้งใจโสด" ... - -'

พอเราเขียน Postcard เสร็จ พี่อาร์ตกับพี่ไน้ก็ลงชื่อใน Postcard ที่เราส่งถึงตัวเองด้วย ...เป็นพี่ที่น่ารักมาก ๆ เลยค่ะ


มองเห็นฝั่งซะที ((ตอน 5.30 pm ค่ะ))




^
^
เรือที่จอดอยู่ในท่าเรือค่ะ เรือในรูปล่างที่จอดติดกับ Rina ชื่อ MV Koon ค่ะ เห็นเครื่องกดน้ำของเค้าทางมุมซ้ายของรูปไหมคะ เค้าให้เราชิมชาเย็นด้วย แถมสักพักยังยก Blueberry Cheese Pie มาให้อีกครึ่งถาด ซึ่งพวกเรากินกันหมดในเวลาอันรวดเร็ว hahaha พี่ ๆ ทุกคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าเรือ Koon นี่ขึ้นชื่อเรื่องอาหารอร่อย ลูกเรือบริการเยี่ยมค่ะ เราเลยคิดว่า 'ต้องลองมาใช้บริการสักครั้ง ถ้ามีโอกาส'

พอเรือเทียบท่า ก็เริ่มแยกย้ายกันค่ะ พี่ขุน ตูน พี่จุ๋ม พี่อาร์ต พี่ไน้ ค้างที่ภูเก็ต 1 คืน ครูโอ๋จัดรถตู้มารับไปก่อนกลุ่มแรกเลย ส่วนพวกเรา รอรถตู้มารับตอน 8.00 pm ค่ะ ก็ทานอาหารเย็นบนเรืออีกมื้อ


ยืนรอขึ้นรถตู้


อีกกลุ่มนึงที่จะไป airport เพิ่งขึ้นมาจากดิงกี้ที่มาส่งค่ะ

แบ่งขึ้นรถตู้ 2 คัน ครูโอ๋บอกว่าถ้าใครอยากซื้อของฝากให้บอกคนขับรถตู้ให้แวะร้านขายของฝากกลางทางได้ แต่พอพวกเราไปถึงร้าน ปรากฏว่าร้านปิดตอน 7.00 pm อะค่ะ ...อด... แต่รถตู้อีกคันเค้าพาไปแวะอีกร้านนึง พวกที่นั่งรถตู้คันนั้นก็เลยได้ซื้อของฝาก ...คิดในแง่ดี พวกเราไม่ต้องเสียตังค์ hahaha...

พอมาถึงสนามบิน เราถึงนึกได้ว่าลืมกระเป๋าสีชมพูที่ใส่หนังสือไว้บนเรือ เลยโทรเข้ามือถือครูโอ๋ให้ช่วยเก็บและฝากใครที่จะกลับวันรุ่งขึ้นกลับมาให้หน่อย ตอนแรกครูโอ๋บอกว่าจะส่ง EMS ให้อะค่ะ แต่เราคิดว่าหิ้วกลับมาให้สะดวกกว่า เร็วกว่าด้วย ...คือในกระเป๋านั้นมีเอกสารเกี่ยวกับงานด้วยอะค่ะ แหะ แหะ... ครูโอ๋ก็เลยบอกว่าถ้าฝากใครหิ้วมาจะให้เบอร์เราให้เค้าติดต่อไป แล้วครูโอ๋จะโทรมาบอกเราว่าใครเป็นคนหิ้วกลับให้ (ขอบคุณค้าบบบ )

คราวนี้เครื่องบินไม่ delay ค่ะ hahaha มาถึงกรุงเทพฯ ตอน 11.30 pm โดยประมาณ ออกมายืนรอ Taxi ก็ไม่มีสักคัน แถวคนรอขึ้นก็ยาว สุดท้ายพี่รุต โอ๋ เอ เราเลยชวนกันเดินลากกระเป๋าออกมาขึ้น Taxi ที่ประตูหน้าสนามบินอะค่ะ


ถ่ายจากบนเครื่องบิน เหนือกรุงเทพฯ ค่ะ

กลับถึงบ้าน กว่าจะเคลียร์กระเป๋า อาบน้ำ นอนก็ปาเข้าไปเกือบ 1 am เหนื่อยนิดหน่อย แต่มีความสุขค่ะ
__________________________________________

เก็บตก 1 - กลับมาจากทะเลได้ประมาณ 2 weeks ก็นัดทานข้าว ดูหนังกับแนนค่ะ แนนถามว่า "พี่นุ่นไม่รู้สึกบ้างเหรอว่าพี่โอ๋ว่ายเร็ว"

เรา: "ไม่นี่"

แนน: "พี่โอ๋ว่ายเร็วนะพี่ แล้วเค้าว่ายไม่ตรงด้วย เดี๋ยวก็แว๊บไปทางนั้น เดี๋ยวก็แว๊บไปทางนี้ ((ทำมือประกอบว่าซิกแซก)) แล้วพี่นุ่นก็ว่ายตามติด ๆ แนนเห็นแนนยังขำเลย พี่นุ่นไม่สังเกตบ้างเหรอ แล้วนะ ลงไปพร้อม ๆ กัน พอหยุดดูอะไรนิดนึง หันกลับมาอีกที อ้าว ไรอะ พี่โอ๋กับพี่นุ่นหายไปไหนแล้ว"

เรา: ((- -')) "มิน่าขึ้นมาพี่ขุนถามว่านุ่นว่ายทันครูโอ๋ ด้วยเหรอ แต่พี่ไม่รู้สึกนะว่าครูโอ๋ว่ายเร็ว"

หลังจากนั้นอีกประมาณอาทิตย์นึงเราก็ได้คุยกับพี่จุ๋มค่ะ พี่จุ๋มถามว่า "นุ่นเคยไปดำน้ำที่ไหนมาบ้าง"

เรา: "trip ที่ไปคราวนี้เป็น trip แรกค่ะ"

พี่จุ๋ม: "จริงเหรอ โห งั้นเธอเก่งมาก ๆ เลยนะ ว่ายตามโอ๋ทันเนี่ย พี่เห็นพี่ยังนึกเลยว่าไอ้นุ่นมันจะเห็นอะไรบ้างไหม (วะ) นอกจากฟิน (ไอ้) โอ๋"

เรา: "เห็นสิคะ เห็น แหมม" ((ขนาดนั้นเลยเนี่ยตรู - -'))

เก็บตก 2 - trip นี้ตอนแรกเราไปแบบข้ามาคนเดียว แต่ขากลับได้เพื่อน ๆ พี่ ๆ กลับมาเพียบเลยค่ะ ^ ^ ...ยินดีที่ได้รู้จักทุกคนเลยค่ะ

เก็บตก 3 - มีเรื่องคาใจอยู่เรื่องนึงอะค่ะ คือ ตอนอยู่บนเรือ คิดว่าโอ๋น่าจะเป็นพี่ เลยเรียก พี่โอ๋ แต่พอขากลับ ได้ยินแว่ว ๆ ว่าโอ๋อายุ 28 ...ใช่ไหมเอ่ย... เลยคิดว่า เอ๊ะ จะเรียกพี่ดีไหมนะ แต่ไหน ๆ ก็เคยเรียก เวลาคุยกันก็เลยเรียกตลอดค่ะ แต่พอเอามาลง blog ไม่ได้เรียก เพราะเผื่อโอ๋ไม่อยากแก่ hahaha (เอาไว้ถ้ามีโอกาสจะถามอายุให้แน่ ๆ ละกัน)

อีกคนที่เพิ่งมาคาใจไม่นาน คือ ตูน ค่ะ ตอนอยู่บนเรือ เรามองแล้วว่าอายุน่าจะเท่า ๆ กัน เลยเรียกตูนเฉย ๆ แต่เมื่อไม่นานมานี้ พี่ซาที่รู้อายุเรา คุยกับเราแล้วถามถึงตูน พี่ซาใช้คำว่า คุยกับพี่ตูนหรือยัง ทำให้เรางงค่ะว่าตกลงตูนอายุเท่าไหร่เหรอเนี่ย - -' จะว่าไปตอนตูนคุยกับพี่ซาก็เรียกชื่อ ซา เฉย ๆ นะ ...ทำไมชั้นเป็นคนอย่างนี้ (วะ) เนี่ย >_<
__________________________________________

เช้าวันต่อมา ตื่นตามเวลาปกติ 6.30 am เพื่อลุกขึ้นอาบน้ำ แต่งตัวไปทำงาน ระหว่างขับรถก็โทรรายงานตัวกับมารดาท่านซะหน่อย เพราะตอนออกทะเลไม่ได้โทรหาเลย - -' พอดีจอดรถเติมน้ำมันที่ปั๊มเชลล์ ตรงวิภาวดีขาเข้า เลยแยกเกษตรไปหน่อยอะค่ะ ไอ้เราก็รีบ ๆ คุย จะได้รีบวาง เพลินไปหน่อย ลงมาจากรถ เพื่อจะไปซื้อชาเย็นใน Select ดันลืมกุญแจรถไว้ในรถซะงั้น - -'

ก็บอกเด็กปั๊มให้ช่วยไปตามช่างมางัดให้หน่อย เค้าก็ไปตามมาให้ค่ะ แต่ช่างลองงัดดูแล้วก็บอกว่าต้องเลาะยางขอบกระจกออก แต่เราบอกว่าไม่ต้องเลาะ เพราะเราเคยไปลืมกุญแจรถไว้ที่ site ก่อสร้างแถวสุวรรณภูมิอะค่ะ แล้วคนงานก่อสร้างงัดให้เราได้ง่ายมาก ๆ จนตอนนั้นเรานึกกลัวเลยว่ารถเรางัดง่ายขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย - -'

พอเราบอกว่าไม่ต้องเลาะ ช่างก็บอกว่า "งั้นพี่ก็ไปตามช่างกุญแจมาเองละกัน ผมทำไม่ได้หรอก" แล้วก็เดินหนีไปเลยค่ะ โมโหมาก ๆ เราก็เลยโทรหาพี่ต้นให้มาช่วยงัดให้หน่อย ยืนรออยู่นาน จนเลย 8.30 am แล้ว ก็เลยโทรไปบอกพี่ ย. หัวหน้าว่าวันนี้จะเข้าสาย เพราะลืมกุญแจรถไว้ในปั๊มน้ำมัน พี่ ย. กลับพูดว่า "อ้าว วันนี้นุ่นมาทำงานเหรอคะ พี่นึกว่านุ่นลาซะอีก" ...กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด แล้วอย่างนี้ชั้นจะรีบกลับมาทำไมล่ะเนี่ย >_< สู้อยู่ต่อแล้วกลับวันนี้ ไม่ต้อง skip dives ด้วย T T

ระหว่างรอพี่ต้นก็โทรคุยกับเติ้ลที่ลาพักผ่อนกลับบ้านที่อุทัยธานีค่ะ ยืนรออยู่เกือบครึ่งชั่วโมงได้ พี่ต้นก็มาพร้อมกับหนึ่ง ((คู่นี้ก็หอบหิ้วกันดีจัง ไปไหนไปด้วยกันตลอด)) มีอุปกรณ์มาด้วย 1 อย่างคือฟุตเหล็กค่ะ มาถึงก็ช่วยกันงัด ช่วยกันแหย่อยู่ 2 คน ส่วนเราก็ยืนให้กำลังใจ

แหย่ ๆ กันอยู่พักนึง พี่ต้นก็เริ่มบ่นว่าไม้บรรทัดมันสั้น พร้อมกับวัดความลึกที่ต้องแหย่ลงไป เราก็เลยบอกว่าขอลองทำหน่อย (ในฐานะที่เคยเห็นคนงานงัดมาแล้ว) เราแหย่ไปครั้งเดียวก็โดนแง่งเลยค่ะ พี่ต้นบอกว่า "โห แม่นนะเนี่ย" โฮะ โฮะ โฮะ

แต่ทำยังไงล็อคก็ไม่ขึ้นค่ะ พี่ต้นกับหนึ่งก็เปลี่ยนมาลองอีกรอบ จนเริ่มหมดแรงกัน พี่ต้นก็ให้เราโทรหาเพื่อนพี่ต้นให้เพื่อที่จะถามว่าจะงัดยังไง เราก็กดเบอร์แล้วก็ยื่นให้พี่ต้นไปคุยค่ะ แต่ระหว่างที่พี่ต้นรอสาย เราก็ลองทำเองดูบ้าง ก็แหย่ ๆ ไปตรงที่เราโดนแง่งมันอะค่ะ สักพัก เอ๊ะ ทำไมมันไม่ติดแล้ว พอดูที่ล็อค ปรากฏกว่ามันเด้งขึ้นแล้ว เย้ เย้ เลยบอกพี่ต้นที่กำลังถามวิธีกับเพื่อนว่าไม่ต้องแล้ว นุ่นงัดได้แล้ว พี่ต้นก็บอกว่า "แมนจริง ๆ ตกลงโทรตามให้พี่เอาฟุตเหล็กมาให้เท่านั้นใช่ไหมเนี่ย" ...เอ่อ ชมหรือว่าอะไรคะ - -'

วันนั้นไปถึงที่ทำงานเกือบ 10.30 am อะค่ะ แถมพอสาย ๆ หน่อย พี่ขุนโทรมาบอกว่าครูโอ๋ฝากกระเป๋าหนังสือให้พี่หิ้วกลับมาให้ แล้วก็ถามว่านุ่นจะสะดวกไปรับได้ที่ไหน หลังจากคิดสะระตะแล้วก็เลยบอกพี่ขุนว่าเดี๋ยวเราไปรับที่ดอนเมือง ตอนที่เครื่องพี่ขุน landed ละกัน งานนี้ก็รบกวนพี่ต้นให้ช่วยขี่มอเตอร์ไซค์พาไปดอนเมืองค่ะ ((ไม่ขับรถไป เพราะจะใช้เวลานาน และรถอาจติดได้))

ก็หัวกระเซิงไปรับกระเป๋าที่ดอนเมืองตอนบ่าย ๆ อะค่ะ hahaha (ขอบคุณพี่ขุน พี่อาร์ต พี่จุ๋ม พี่ไน้ ตูนมากนะคะที่หิ้วกระเป๋ามาให้ )

พอตอนเย็นเลิกงาน พี่นิ พี่ต้น หนึ่ง ณัฐ เราก็ยกโขยงไปทานอาหารและดื่มแถวพระราม 5 อีก วันนั้นกว่าเราจะกลับถึงบ้านก็เกือบ 11 pm ...บ้าพลังสุด ๆ
_________________________________________

ป.ล. เดี๋ยวเดือนมิถุนายน เราจะไปออก trip ดำน้ำที่เกาะเต่า เกาะนางยวนค่ะ (พี่ซาโทรมาชวน หลังจากกลับมาจากภูเก็ตไม่นาน) ที่สำคัญไปเรือ Liveaboard ชื่อ Koon ซะด้วย กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดด >_<

Create Date : 30 เมษายน 2549 Last Update : 11 พฤษภาคม 2549 1:57:30 น. Counter : 1689 Pageviews.		15 comments
Share Tweet