Group Blog
 
<<
พฤษภาคม 2559
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
5 พฤษภาคม 2559
 
All Blogs
 

ระเบิด “เพดานความคิด” ด้วยพลังจาก จิตร ภูมิศักดิ์




ปกหนังสือ “ความเป็นมาของคำสยาม, ไทย, ลาว และขอม และลักษณะทางสังคมของชื่อชนชาติ” ของ จิตร ภูมิศักดิ์ ฉบับพิมพ์ครั้งแรก พ.ศ. 2519


=================================
ผู้เขียน ... สุจิตต์ วงษ์เทศ
ที่มา ... มติชนออนไลน์
เผยแพร่ ... 4 พ.ค. 59
//www.matichon.co.th/news/126380
=================================


ความเป็นมาของคำสยาม, ไทย ลาว และขอม และลักษณะทางสังคมของชื่อชนชาติ โดย จิตร ภูมิศักดิ์ พิมพ์เผยแพร่สู่สาธารณะครั้งแรก พ.ศ. 2519 เป็นหนังสือคลาสสิคสุดๆ มีส่วนสำคัญผลักดันให้มีนิตยสารศิลปวัฒนธรรมเมื่อ พ.ศ. 2522

ก่อน พ.ศ. 2519 ผมทิ้งแล้ววิชาความรู้ทางประวัติศาสตร์โบราณคดี โดยตัดสินใจสมัครเข้าทำงานเป็นนักข่าวนักหนังสือพิมพ์รายวัน (ตั้งแต่ พ.ศ. 2513) ซึ่งเป็นช่วงเวลาสถานการณ์ตึงเครียดและเข้มข้นทางการเมืองทั้งภายในและภายนอก ที่จะนำไปสู่เหตุการณ์ 14 ตุลาคม 2516 กับ 6 ตุลาคม 2519

หนังสือความเป็นมาของคำสยามฯ ระเบิด “เพดานความคิด” ของผมให้ทะลุหลุดพ้นจากประวัติศาสตร์แห่งชาติ รัฐสุโขทัยราชธานีแห่งแรกของไทย
แล้วเห็นคนนานาชาติพันธุ์ ยังไม่มีชื่อชนชาติ (ยังไม่มีเรียกตัวเองว่าคนไทย) ตั้งชมรมกระจัดกระจายตามหุบเขาและทุ่งราบ ซึ่งล้วนเป็นบรรพชนชุดแรกสุดของคนสุวรรณภูมิในอุษาคเนย์ปัจจุบัน รวมคนไทยทุกวันนี้ด้วย

คนเหล่านั้นตั้งหลักแหล่งบริเวณมีตาน้ำ เรียกน้ำพุน้ำผุด หรือ น้ำซึมน้ำซับน้ำซำ (ซัม)

ซำ หรือ ซัม (มีใช้แพร่หลายทางอีสานและลาว) นานเข้าก็กลายคำเป็น สยาม ต้นเค้าของ เสียมกุก ที่ปราสาทนครวัด และต้นทางของชื่อราชอาณาจักรสยาม
ตรงนี้เป็นรอยต่อสำคัญมากๆ ที่จะทะลุเพดานความคิดทางประวัติศาสตร์ไทย ถ้าไม่ทะลุตรงนี้ก็ไปไหนไม่รอด ต้องวนเวียนอยู่บนเขาวงกตชื่ออัลไต

เมื่อพิมพ์ครั้งแรก อ. ชาญวิทย์ เกษตรศิริ ยกหนังสือความเป็นมาของคำสยามฯ 5 เล่ม ให้ผมช่วยเขียนประชาสัมพันธ์

ผมถือเป็นเกียรติอย่างยิ่ง แล้วอ่านอย่างหิวกระหายจนจบเล่ม แล้วอ่านทวนอีกเพราะอ่านยาก แม้เข้าใจไม่มากแต่มันระเบิดเพดานความคิด เลยเขียนลงประชาชาติรายวันสรุปว่าหลังพระนิพนธ์สมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ก็งานนิพนธ์ของ จิตร ภูมิศักดิ์ นี้แหละมีคุณค่าสูงยิ่งต่อประวัติศาสตร์โบราณคดีของไทย
พวกโบราณคดีคลั่งเจ้าพากันด่าเพียบทั้งต่อหน้าและลับหลัง ผมไม่ได้ตอบโต้ใดใด จึงได้แต่เวทนา เพราะโลกก้าวหน้าหาทางอยู่ร่วมกันอย่างสันติภาพกับความคิดต่าง แต่สังคมล้าหลังหาทางกำจัดคนคิดต่างจากตน

จากนั้นเอาหนังสือที่เหลือเที่ยวแจกจ่ายพรรคพวกที่ควรอ่าน และที่อยากให้อ่าน แต่หนังสือไม่พอแจก ผมซื้อเพิ่มเอาไปแจกอีกราว 10 เล่ม หมดกระเป๋า เลยหยุดแจก

นับแต่นั้น ผมกลับคืนสู่โลกประวัติศาสตร์โบราณคดี ที่ไม่มีรัฐสุโขทัยราชธานีแห่งแรกเป็น “เพดานความคิด” ให้หนักกบาล แล้วชักธงรบกับพวกนั่งทับ “เพดานความคิด” ทางประวัติศาสตร์ไทย

เริ่มออกนิตยสารศิลปวัฒนธรรมฉบับปฐมฤกษ์ พฤศจิกายน พ.ศ. 2522 โดยเจตนาให้ตรงกับงานลอยกระทงของนางนพมาศ สนมพระร่วง ที่กรุงสุโขทัย
แล้วขนไปขายในงานด้วยตัวเอง เล่มละ 10 บาท แบ่งให้คนเร่ขาย 50% เหลือคืนเล่มละ 5 บาท ขายดีโคตรๆ ได้เงินเท่าไรเลี้ยงเหล้าพวกโบราณคดีที่จัดงานเผาเทียนเล่นไฟจนหมด

อีกหลายปีต่อมา จึงมีหนังสือของ จิตร ภูมิศักดิ์ ทยอยพิมพ์มาขายหลายเล่ม แต่เล่มระดับคัมภีร์ คือ โองการแช่งน้ำ (พิมพ์ครั้งแรก พ.ศ. 2524) ตามด้วย สังคมไทยลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา ก่อนสมัยศรีอยุธยา (พิมพ์ครั้งแรก พ.ศ. 2526)

ทุกเล่มระเบิด “เพดานความคิด” ให้ผมใช้เขียนเรื่องต่างๆ สืบจนทุกวันนี้





 

Create Date : 05 พฤษภาคม 2559
0 comments
Last Update : 5 พฤษภาคม 2559 8:14:55 น.
Counter : 1265 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


สดายุ...
Location :
France

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 151 คน [?]









O ใช่แน่หรือ ? .. O






O หรือธรรมชาติผ่านเวียน .. คอยเปลี่ยนโลก ?
ทั้งสุขโศกเร่งรุดยากหยุดไหว
หรือกำหนดยุดยื้อจากมือใด
จัดการให้แปลกแยกได้แทรกตัว
O หรือพบกันครั้งแรก, ความแตกต่าง
ถูกบ่มสร้างเหมาะควรอย่างถ้วนทั่ว
แต่ตา-รูป .. สบกัน, ที่สั่นรัว-
แรกที่หัวใจคน .. เริ่มอลเวง
O ละห้อยเห็นในยามห่างนามรูป
แต่ละวูบเนรมิตคอยพิศเพ่ง
งามทุกงามจารจรดเยี่ยงบทเพลง
พร้องบรรเลงด้วยมือช่วยยื้อยุด
O ย่อมเป็นมือสร้างเหตุแทรกเจตนา
ผ่านรูปหน้าอำนวยเข้าฉวยฉุด
ร้างไร้ความกริ่งเกรง, หากเร่งรุด
แทรกลงสุดหัวใจเพื่อไขว่คว้า
O แน่นอนว่ายากเว้น .. อยากเห็นรูป
และชั่ววูบวาบเดียวที่เหลียวหา
หวังทุกหอมรินไหลผ่านไปมา
ทั้งหางตาที่ชม้อยเหลือบคอยปราย
O โลกย่อมงามพร่างแพร้วเมื่อแผ้วผ่าน
ด้วยอ่อนหวานอ่อนโยนที่โชนฉาย
แม้นมิอาจโยกคลอนให้ผ่อนคลาย
ก็อย่าหมายโยกคลอนให้ผ่อนลง
O จะกี่ครั้งกี่ครา, ความอาวรณ์
เวียนรอบตอนจับจูงจนสูงส่ง
ด้วยรูปนามเทียบถวัลย์อย่างบรรจง
แตะแต้มลงผ่านจริตจนติดตรึง
O ความรู้สึกในอกย่อมยกตัว
หวานถ้วนทั่ว, รสประทิ่น, ถวิลถึง
เหมือนรุมล้อมหยอดย้ำลงคำนึง
ให้เสพซึ้งรสงามของ .. ความรัก
O วัฏฏจักรแห่งธรรม .. ย่อมย่ำผ่าน
เข้าขัด-คาน จับจูงความสูงศักดิ์
ของอาวรณ์หลบเร้น เพื่อเว้นวรรค
ที่เข้าทักทายทั่วทั้งหัวใจ
O หรือแท้จริงตัวตนถูกค้นพบ
การบรรจบ .. รูป-จริต แล้วพิสมัย
ปรารมภ์ของฝั่งฝ่าย .. นั้น-ฝ่ายใด
เพิ่งยอมให้เรื่องเฉลย .. ยอมเผยความ ?



Friends' blogs
[Add สดายุ...'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.