Group Blog
 
<<
พฤษภาคม 2559
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
12 พฤษภาคม 2559
 
All Blogs
 
สิงค์โปร์ซิวมัธยมปลายเลิศที่สุดในโลก เวียดนามแซงโค้ง ไทยหล่นอยู่ที่ 47


========================================
ที่มา .. มติชนออนไลน์
//www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1447844372
========================================





(18 พ.ย.58) นายภาวิช ทองโรจน์ อดีตเลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา (กกอ.)อดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงศึกษาธิการ(ศธ.) เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆนี้ Organisation for Economic Co-operation and Development (OECD) ได้เปิดเผยข้อมูลจากรายงาน Universal Basic Skills What Countries Stand To Gain ซึ่งได้วิเคราะห์และจัดลำดับการจัดการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ใน 76 ประเทศทั่วโลกพบว่า 20 ประเทศที่จัดการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนปลายได้ดีที่สุดได้แก่

1. ประเทศสิงคโปร์
2. ฮ่องกง
3. เกาหลี
4. ญี่ปุ่น
5. ไต้หวัน
6. ฟินแลนด์
7. เอสโตเนีย
8. สวิตเซอร์แลนด์
9. เนเธอร์แลนด์
10. แคนาดา
11. โปแลนด์
12. เวียดนาม
13. เยอรมนี
14. ออสเตรเลีย
15.ไอร์แลนด์
16. เบลเยียม
17. นิวซีแลนด์
18.สโลวีเนีย
19. ออสเตรีย
20. อังกฤษ

โดยที่น่าจับตามองคือประเทศเวียดนาม ที่อยู่ในอันดับที่ 12 ขณะที่ประเทศไทย ตกไปอยู่อันดับที่ 47 ดีกว่าประเทศมาเลเซียอยู่ไม่มากนักและเชื่อว่า อีกไม่นาน ประเทศมาเลเซียจะพัฒนาการศึกษาขึ้นมาได้เทียบเท่ากับประเทศไทย เพราะขณะนี้ประเทศมาเลเซียอยู่ระหว่างเร่งปฏิรูปการศึกษาอย่างเร่งด่วนเพื่อให้การศึกษาเป็นพื้นฐานสำคัญในการพัฒนาประเทศ

นายภาวิช กล่าวต่อว่าผลการจัดอันดับดังกล่าวเป็นการนำข้อมูลการทดสอบทั้ง โครงการประเมินผลนักเรียนร่วมกับนานาชาติ (Programme for International Student Assessment หรือ PISA) และการสอบภายในประเทศ อาทิ การทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน หรือโอเน็ต มาวิเคราะห์ และนำมาจัดอันดับ

ทั้งนี้ผลที่ออกมาไม่เป็นที่น่าแปลกใจนัก เมื่อเปรียบเทียบกับการจัดอันดับการจัดการศึกษาในระดับนานาชาติของหน่วยงานอื่น ก็พบว่าไทยอยู่ในอันดับรั้งท้ายเท่ากับว่าการพัฒนาของเราหยุดนิ่งขณะที่ประเทศอื่น ๆ กำลังเดินไปข้างหน้า ซึ่งจะส่งผลต่อความเชื่อมั่น ทางเศรษฐกิจ ทั่วโลกจะมองข้ามประเทศไทย

โดยปัจจุบันจะเห็นได้ว่าภาคอุตสาหกรรมหลักหลายประเภทที่เคยมีฐานการผลิตในประเทศไทย เริ่มย้ายฐานการผลิตไปในประเทศเพื่อนบ้านมากขึ้น ดังนั้นจึงควรหันกลับมาเร่งพัฒนาการจัดการศึกษาอย่างจริงจัง โดยเฉพาะนโยบายการลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้ ของพล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ที่ค่อนข้างน่าเป็นห่วง ไม่ว่ารัฐบาลจะบอกว่า ประชาชนเห็นด้วยกับนโยบายดังกล่าว แต่ถ้าไปสอบครูในพื้นที่ จะพบว่าส่วนใหญ่ยังไม่มีความพร้อม เพราะยังเน้นจัดการเรียนการสอนตามเนื้อหาวิชาเป็นหลัก

“โดยหลักการแล้ว เราเห็นด้วยว่า เด็กไทยทุกวันนี้เรียนมากเกินไป แต่การลดเวลาเรียนต้องทำอย่างเป็นระบบ แบบค่อยเป็นค่อยไป เพราะหลักสูตรปัจจุบันจัดการเรียนการสอนโดยเน้นเนื้อหาสาระเป็นหลัก

ดังนั้นการปรับลำดับแรกจึงควรสร้างหลักสูตรใหม่ ที่ลดความซ้ำซ้อนของเนื้อหา และจัดกิจกรรมที่สอดคล้องกับเนื้อหาวิชาที่เรียน โดยบางวิชาที่เคยเรียนในห้องเรียน ก็สามารถนำมาจัดกิจกรรมนอกห้องเรียนได้ อาทิ การทดลองทางวิทยาศาสตร์ เป็นต้น โดยที่ผ่านมาผมได้จัดทำหลักสูตรใหม่ ที่ลดเวลาเรียนลงเหลือ 660 ชั่วโมงต่อปี รวมถึงมีตัวอย่างกิจกรรมที่สอดคล้องกับเนื้อหาวิชาเรียน เสนอให้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) เพื่อนำมาปรับใช้แล้ว

แต่คิดว่า ขณะนี้สพฐ.เองคงยังไม่กล้านำหลักสูตรที่ผมเสนอไปมาดำเนินการ” นายภาวิช กล่าว




Create Date : 12 พฤษภาคม 2559
Last Update : 12 พฤษภาคม 2559 18:11:12 น. 0 comments
Counter : 741 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

สดายุ...
Location :
France

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 151 คน [?]









O ใช่แน่หรือ ? .. O






O หรือธรรมชาติผ่านเวียน .. คอยเปลี่ยนโลก ?
ทั้งสุขโศกเร่งรุดยากหยุดไหว
หรือกำหนดยุดยื้อจากมือใด
จัดการให้แปลกแยกได้แทรกตัว
O หรือพบกันครั้งแรก, ความแตกต่าง
ถูกบ่มสร้างเหมาะควรอย่างถ้วนทั่ว
แต่ตา-รูป .. สบกัน, ที่สั่นรัว-
แรกที่หัวใจคน .. เริ่มอลเวง
O ละห้อยเห็นในยามห่างนามรูป
แต่ละวูบเนรมิตคอยพิศเพ่ง
งามทุกงามจารจรดเยี่ยงบทเพลง
พร้องบรรเลงด้วยมือช่วยยื้อยุด
O ย่อมเป็นมือสร้างเหตุแทรกเจตนา
ผ่านรูปหน้าอำนวยเข้าฉวยฉุด
ร้างไร้ความกริ่งเกรง, หากเร่งรุด
แทรกลงสุดหัวใจเพื่อไขว่คว้า
O แน่นอนว่ายากเว้น .. อยากเห็นรูป
และชั่ววูบวาบเดียวที่เหลียวหา
หวังทุกหอมรินไหลผ่านไปมา
ทั้งหางตาที่ชม้อยเหลือบคอยปราย
O โลกย่อมงามพร่างแพร้วเมื่อแผ้วผ่าน
ด้วยอ่อนหวานอ่อนโยนที่โชนฉาย
แม้นมิอาจโยกคลอนให้ผ่อนคลาย
ก็อย่าหมายโยกคลอนให้ผ่อนลง
O จะกี่ครั้งกี่ครา, ความอาวรณ์
เวียนรอบตอนจับจูงจนสูงส่ง
ด้วยรูปนามเทียบถวัลย์อย่างบรรจง
แตะแต้มลงผ่านจริตจนติดตรึง
O ความรู้สึกในอกย่อมยกตัว
หวานถ้วนทั่ว, รสประทิ่น, ถวิลถึง
เหมือนรุมล้อมหยอดย้ำลงคำนึง
ให้เสพซึ้งรสงามของ .. ความรัก
O วัฏฏจักรแห่งธรรม .. ย่อมย่ำผ่าน
เข้าขัด-คาน จับจูงความสูงศักดิ์
ของอาวรณ์หลบเร้น เพื่อเว้นวรรค
ที่เข้าทักทายทั่วทั้งหัวใจ
O หรือแท้จริงตัวตนถูกค้นพบ
การบรรจบ .. รูป-จริต แล้วพิสมัย
ปรารมภ์ของฝั่งฝ่าย .. นั้น-ฝ่ายใด
เพิ่งยอมให้เรื่องเฉลย .. ยอมเผยความ ?



Friends' blogs
[Add สดายุ...'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.