Group Blog
 
<<
ธันวาคม 2557
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
31 ธันวาคม 2557
 
All Blogs
 
Pharmacy study in Monash

.





นี่คือ ranking ทางด้านเภสัชศาสตร์ระดับโลกของปี 2014 ที่ผ่านมา
.
.
.
ได้มีโอกาสรับรู้รูปแบบการเรียนของนักศึกษาด้านหมอยา ในมหาวิทยาลัย Monash ออสเตรเลีย .. เห็นว่าเป็นรูปแบบที่น่าสนใจ และไม่น่าแปลกใจที่มี ranking อันดับ 8 ของโลก

เริ่มตั้งแต่เด็กปี 1 .. ที่นักศึกษาจะต้องจับกลุ่มกันกลุ่มละ 4-5 คน เพื่อร่วมทำงานกลุ่ม
เป็นต้นว่า ยาฆ่าเชื้อในกระเพาะอาหาร

ทั้งกลุ่มต้องหาข้อมูลมาให้ได้ว่า ..
ในท้องตลาดมีตัวยาใดคุณภาพดีที่สุด ตัวยานี้จะเป็นโจทย์ให้ทั้งกลุ่มทำการค้นคว้าหาตัวยาที่ดีกว่า พร้อมข้อมูลชี้แจงอย่างครบถ้วนเพื่อทำ presentation ต่อเพื่อนทั้ง class ประมาณร้อยกว่าคน ..

แต่ละกลุ่ม ก็จะมีโจทย์ตัวยาที่ต่างกัน ..

การทำ presentation จำต้องพูดถึง ..
1. สาเหตุแห่งอาการ อย่างครอบคลุมครบถ้วน
2. ตัวยาที่ดีที่สุดที่มีขายในท้องตลาด ส่วนผสม ประสิทธิภาพ
3. ตัวยาที่ทางกลุ่มเสนอต่อ class พร้อมส่วนผสม กรรมวิธีการผลิต การควบคุมเชิงปริมาณ เวลา เครื่องจักรในการผลิต

แต่ละกลุ่มจะรู้ดีที่สุดเฉพาะในส่วนที่ตนค้นคว้า ..
แต่เวลาฟัง present แต่ละวัน จะได้ฟังประมาณ 10 กลุ่ม ก็จะได้ความรู้พื้นฐานของโรคแต่ละอย่างของกลุ่มอื่นไปด้วย

เสร็จแล้วทั้งคลาสจะร่วมกัน rating กลุ่มที่ present ได้ดีที่สุด

อาจารย์จะไม่พูดถึงความถูกต้องหรือผิดพลาดของข้อมูล .. แต่จะให้คะแนนระบบคิดอย่างเป็นขั้นตอน ลำดับการทำงานอย่างมีเหตุผล เป็นหลักใหญ่ใจความ

เหตุผลคือ ..

หากนักศึกษาดีหมดทุกด้าน ทั้งความรู้ด้านตัวยา ก็คงไม่ต้องมาเรียน แต่ไปทำงานกับบริษัทยาได้เลย ..

ในความเป็นจริง ความถูกผิดของข้อมูล เป็นสิ่งที่ครูจะนำไปพิจารณาในการสอนเด็กต่อไป

และเขาเรียนกันแค่ 3 ปี ! ก็จบปริญญาตรีแล้ว

ขณะที่ของ จุฬา รวมทั้ง มหิดล เข้าใจว่าเคยเรียน 5 ปี แต่ปัจจุบันกลายเป็น 6 ปีไปแล้ว
แล้ว ranking ระดับโลก

มหิดล อันดับ 49
จุฬา อันดับ 105

ที่มา ..
//www.topuniversities.com/university-rankings/university-subject-rankings/2014/pharmacy#sorting=rank+region=+country=+faculty=+stars=false+search=





Create Date : 31 ธันวาคม 2557
Last Update : 31 ธันวาคม 2557 17:33:35 น. 2 comments
Counter : 1609 Pageviews.

 
Interesting information!

To my understanding, the issue(s) cited above is not rested merely on the education sector in any one particular country. Rather, it's dependent on some other factors, e.g. tangible and/or intangible supports rendered by the concerned business sector/industry, the government policy, etc.

All in all, what matters most, in my viewpoint, is the vision of a person or a group of people who plays a major part or a lead role in running any particular system or sector. Actually, a number of stringent measures to support the education should be come out from the government sector. Also included in those measures are incentives given for those who support or penalties for those (whether it be a person/people or an institution/institutions) who do not follow the regulations. Again, what matters most must be "No exceptions or excuses taken!".



โดย: t IP: 124.122.168.63 วันที่: 1 มกราคม 2558 เวลา:3:13:22 น.  

 
สวัสดีครับ ..

เข้าใจว่าจะเป็น time เจ้าเก่า ที่สนใจเรื่องราวทางด้านการศึกษาตลอดมา ..

ผมยินดีทุกครั้งที่เห็นความเห็นที่เป็นตัวของตัวเองแบบนี้ .. ขณะที่มองเห็นความด้อยประสิทธิภาพของระบบการศึกษาไทยมาอย่างยาวนาน .. อย่างอึดอัดขัดข้องใจตลอดมา

ผมมองว่าการศึกษาที่ไม่เอาไหนของไทย มาจากระบบการปกครองที่ไม่เอาไหนเป็นปฐมเหตุ ..

หมายถึงอำนาจที่แท้จริงที่ควบคุมการเมืองไทยมาตลอดกาลเวลาอันยาวนานนั้นไร้วิสัยทัศน์โดยสิ้นเชิง หากเปรียบกับคนเช่น ลีกวนยู ของสิงคโปร์

อีก 100 ปีเมืองไทยก็คงอยู่กันแบบนี้ .. ถ้าหากไม่สถาปนาอำนาจรัฐ"ที่มีเหตุผล"ขึ้นมาจัดการบ้านเมืองในทุกด้าน ไม่เฉพาะการศึกษา


โดย: สดายุ... วันที่: 1 มกราคม 2558 เวลา:19:53:55 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

สดายุ...
Location :
France

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 151 คน [?]









O ใช่แน่หรือ ? .. O






O หรือธรรมชาติผ่านเวียน .. คอยเปลี่ยนโลก ?
ทั้งสุขโศกเร่งรุดยากหยุดไหว
หรือกำหนดยุดยื้อจากมือใด
จัดการให้แปลกแยกได้แทรกตัว
O หรือพบกันครั้งแรก, ความแตกต่าง
ถูกบ่มสร้างเหมาะควรอย่างถ้วนทั่ว
แต่ตา-รูป .. สบกัน, ที่สั่นรัว-
แรกที่หัวใจคน .. เริ่มอลเวง
O ละห้อยเห็นในยามห่างนามรูป
แต่ละวูบเนรมิตคอยพิศเพ่ง
งามทุกงามจารจรดเยี่ยงบทเพลง
พร้องบรรเลงด้วยมือช่วยยื้อยุด
O ย่อมเป็นมือสร้างเหตุแทรกเจตนา
ผ่านรูปหน้าอำนวยเข้าฉวยฉุด
ร้างไร้ความกริ่งเกรง, หากเร่งรุด
แทรกลงสุดหัวใจเพื่อไขว่คว้า
O แน่นอนว่ายากเว้น .. อยากเห็นรูป
และชั่ววูบวาบเดียวที่เหลียวหา
หวังทุกหอมรินไหลผ่านไปมา
ทั้งหางตาที่ชม้อยเหลือบคอยปราย
O โลกย่อมงามพร่างแพร้วเมื่อแผ้วผ่าน
ด้วยอ่อนหวานอ่อนโยนที่โชนฉาย
แม้นมิอาจโยกคลอนให้ผ่อนคลาย
ก็อย่าหมายโยกคลอนให้ผ่อนลง
O จะกี่ครั้งกี่ครา, ความอาวรณ์
เวียนรอบตอนจับจูงจนสูงส่ง
ด้วยรูปนามเทียบถวัลย์อย่างบรรจง
แตะแต้มลงผ่านจริตจนติดตรึง
O ความรู้สึกในอกย่อมยกตัว
หวานถ้วนทั่ว, รสประทิ่น, ถวิลถึง
เหมือนรุมล้อมหยอดย้ำลงคำนึง
ให้เสพซึ้งรสงามของ .. ความรัก
O วัฏฏจักรแห่งธรรม .. ย่อมย่ำผ่าน
เข้าขัด-คาน จับจูงความสูงศักดิ์
ของอาวรณ์หลบเร้น เพื่อเว้นวรรค
ที่เข้าทักทายทั่วทั้งหัวใจ
O หรือแท้จริงตัวตนถูกค้นพบ
การบรรจบ .. รูป-จริต แล้วพิสมัย
ปรารมภ์ของฝั่งฝ่าย .. นั้น-ฝ่ายใด
เพิ่งยอมให้เรื่องเฉลย .. ยอมเผยความ ?



Friends' blogs
[Add สดายุ...'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.