Bloggang.com : weblog for you and your gang
sansook
Location :
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 40 คน [
?
]
โค้ดนี้เป็นภาพพื้นหลังนำไปวางที่ช่อง Script Area ค่ะ https://youtu.be/K2vg5yDgVX4
Group Blog
สรุป พ.ร.บ.
ความรู้ทั่วไป
ทักทาย
นานาสาระ
วิเคราะห์นะจ๊ะ
ดูดวงกันเถอะ
เก็บมาฝาก
สรุปภาษาไทย
ความรักแม่เอ๊ย
แนวข้อสอบ
แบบทดสอบจิตวิทยา
แนวคิด และมุมมอง
เรื่องเล่า
เคล็ดลับความสวย
เรียงร้อยเรื่องราว
กฎหมายน่ารู้
งาน งาน งาน
รักษาสุขภาพกันเถอะ
เคล็ดลับดีๆ
สรุปแนวข้อสอบหลักสูตรประถมศึกษา
เชิญชวนสู่ธรรมมะ
ฮวงจุ้ยน่ารู้
เมื่อจิตนาการบังเกิด
อสูรพ่ายรัก
แนะนำผลงาน
เรือนรัก - นางรอ
เงาแปร
บรรยากาศสละคาน
คลังข้อสอบ
ดวงไฟในมือมาร
เหลี่ยมรักทรชน
ยั่วรักพยัคฆ์ร้าย
สามนารี
นิยายชุด ภารกิจรัก เรื่องเหนี่ยวหัวใจสุดไกปืน
เกี่ยวกับบริหารงานบุคคลท้องถิ่น
เล่ห์วิวาห์มาเฟีย
ละครเหนี่ยวหัวใจสุดไกปืน
ทวงใจสุดปลายฟ้า
อีบุคสุดแซ่บ
<<
ธันวาคม 2554
>>
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
28 ธันวาคม 2554
ตอนที่ ๑๔ โยนหินถามทาง
ตอนที่ ๑๓ ขิงก็ราข่าก็แรง
ตอนที่ ๑๒ เผชิญหน้า
ตอนที่ ๑๑ แทรกซึมสู่เป้าหมาย
All Blogs
ตอนที่ ๒๔ คืนอำนาจ
ตอนที่ ๒๓ กับดัก
ตอนที่ ๒๒ วัดใจ
ตอนที่ ๒๑ หนอนบ่อนไส้
ตอนที่ ๒๐ ทางเลือกเพื่อทางรอด
ตอนที่ ๑๙ ผู้นำสาร
ตอนที่ ๑๘ ทีใครทีมัน
ตอนที่ ๑๗ คู่วิวาท
ตอนที่ ๑๖ ความเห็นที่แตกต่าง
ตอนที่ ๑๕ ส่งสาร
ตอนที่ ๑๔ โยนหินถามทาง
ตอนที่ ๑๓ ขิงก็ราข่าก็แรง
ตอนที่ ๑๒ เผชิญหน้า
ตอนที่ ๑๑ แทรกซึมสู่เป้าหมาย
ตอนที่ ๑๐ ข้อต่อรอง
ตอนที่ ๙ เดินหน้า
ตอนที่ ๘ ภารกิจ
ตอนที่ ๗ มารผจญ
ตอนที่ ๖ สายใยครอบครัว
ตอนที่ ๕ ทางตัน
ตอนที่ ๔ ชิงตัว
ตอนที่ ๓ หน้าที่กับความขัดแย้ง
ตอนที่ ๒ ถนนสายอุดมการณ์
ตอนที่ ๑ ทางเส้นขนาน
Friends' blogs
sansook
Chulapinan
baby_15
ไร่ปลายตะวัน
lovers
ge-or-ge
โมกสีเงิน
tingnoy
พลังชีวิต
Mr.Terran
hangclub
nirin_18
คนผ่านทางมาเจอ
patra_vet
ซ่อนรอยยิ้ม
นิยายฝันหวาน
ป้ามด
รำเพย
นิชนันท์
วัตตรา
Insignia_Museum
Baan_Bualoy
ooseabubbleoo
literature
bigger
ใยไหมเจ้าค่ะ
super novel
นัทธ์
Webmaster - BlogGang
[Add sansook's blog to your web]
Links
BlogGang.com
ตอนที่ ๑๒ เผชิญหน้า
ภาพคนเจ็บที่ถูกหามเข้ามาโดยชายฉกรรจ์กลุ่มใหญ่หยุดสายตาของทหารที่เฝ้าอยู่บริเวณทางเข้า ก่อนพวกเขาจะขยับอาวุธในลักษณะเตรียมพร้อมแล้วเดินลงจากเนิน
ภูริชมองอาวุธในมือและทีท่าของทหารที่กำลังเดินตรงเข้ามาประกายตาเรียบเฉย ชายหนุ่มกวาดตามองไปรอบๆ พร้อมกับส่ายหน้าน้อยๆ เชิงเตือนคนของตนเมื่อเห็นแต่ละคนขยับอาวุธในมือตามสัญชาติญาณ
ไปบอกผู้กองชยินว่าฉันมองเทร์มาถึงแล้ว
เขาเอ่ยเสียงกังวานเมื่อกลุ่มทหารเดินมาใกล้พอที่จะสื่อสารกันได้ พอสิ้นเสียงทหารนายหนึ่งจึงหมุนตัววิ่งกลับขึ้นไปบนเนิน ในขณะทหารอีกสี่นายเดินมาหยุดเผชิญหน้ากับพวกเขา ก่อนหนึ่งในสี่จะพยักหน้าถามน้ำเสียงวางอำนาจ
นายคือมองเทร์งั้นเรอะ
ผู้กองหน้าเข้มเงยขึ้นสบตากับคนถามก่อนเหลือบมองไปที่ต้นแขนของอีกฝ่าย พอเห็นยศที่ติดอยู่บนนั้นดูสูงกว่าคนอื่น แต่ด้อยกว่าตนชายหนุ่มจึงตบมือลงบันหัวไหล่คล้ายกำลังเมื่อยขบเสียเต็มประดา และมันได้ผลเมื่อคนที่ทำท่าวางกล้ามแต่แรกเริ่มมีทีท่าอ่อนลงเมื่อเห็นว่าอะไรเป็นอะไร
ฉันมีคนเจ็บมาด้วย เขาบอกเมื่อเห็นว่าคนตรงหน้าเริ่มให้ความเกรงใจ
พวกเราจะพาคนเจ็บไปให้หมอรักษาเอง ส่วนคุณคงต้องไปพบผู้กองชยินก่อน
คงไม่ได้ฉันจะพาพวกเขาไปเอง นายแค่บอกว่าโรงหมอไปทางไหน
ชายหนุ่มบอกพลางส่งสัญญาณมือไปยังลูกทีม แล้วเดินนำเข้าไปในค่ายโดยไม่รอให้อีกฝ่ายตอบรับหรือปฏิเสธ พอร่างสูงใหญ่เดินพ้นทางเข้าไม่ถึง 5 ก้าว ขบวนของชยินก็เดินเลี้ยวตัดกระท่อมเข้ามา
นั่นพวกนายจะไปไหน
คำถามห้วนสั้นแสดงอำนาจที่ดังขึ้นหยุดฝีเท้าของทุกคนให้ตรึงอยู่กับที่ ภูริชหมุนตัวหันไปเผชิญหน้ากับคนถาม ดวงตาคมกล้าสบนิ่งกับดวงตาคมกริบราวมีดโกนของอีกคนแล้วเลิกขึ้นเพราะพอเดาได้ว่าอีกฝ่ายเป็นใคร
ฉันจะพาคนเจ็บไปให้หมอรักษา ชายหนุ่มตอบน้ำเสียงราบเรียบแต่ถือดีอยู่ในที
แค่คนเจ็บให้คนของฉันพาไปก็ได้ นายควรไปพบฉันก่อนไม่ใช่หรือ
ผู้กองชยินจ้องคนตรงหน้าประกายตาเอาเชิง เพราะรู้กิตติศัพท์ของอีกฝ่ายมาบ้างว่าอยู่ในระดับหัวดื้อและค่อนข้างไม่เกรงใจใคร
คนเจ็บเป็นคนของฉันมันจะยุ่งยากอะไรหากคนที่จะพาไปให้หมอรักษาเป็นฉัน เรื่องคุยกันเดี๋ยวเสร็จจากนี่ค่อยคุยก็ได้นายอย่าทำให้ทุกอย่างมันมากเรื่องไปหน่อยเลย
พอเห็นสีหน้าของอีกฝ่ายแสดงชัดว่ากำลังไม่พอใจ ผู้กองแห่งกองทัพไทยจึงลองแหย่เสือตาดุเล่นเอาเชิง พร้อมกระตุกต่อมโมโหของอีกคนด้วยท่าทางยียวนตามแบบฉบับของมองเทร์ ที่เขาได้รับการถ่ายทอดจากลูกทีมในระหว่างเดินทาง
อ้อ..ถ้านายไม่อยากเสียเวลา...รบกวนช่วยนำทางฉันไปหน่อยสิ เราจะได้จัดการทุกอย่างให้เสร็จๆ ไปในคราวเดียว พอคนของฉันถึงมือหมอระหว่างรอรับการรักษานายอยากคุยอะไรกับฉันก็คุยได้เลย...ว่าไง
ชยินจ้องท่าทางยียวนของคนพูดสีหน้าไม่พอใจ แต่เพราะไม่อยากมีเรื่องเขาจึงหันไปทางคนติดตามแล้วพยักหน้าให้เดินนำทางแต่โดยดี
ฉันรู้ว่านายได้ตัวหมอมาจากเมืองไทย
หมอเรามีอย่ามากเรื่อง เพราะเกรงว่ามองเทร์จะมองแพทย์หญิงทั้งสองเป็นเหยื่อชยินจึงบอกปัดเพื่อป้องกันปัญหาที่อาจตามมา
เฮ้...ไม่เอาน่าหมอของเรามีหรือจะสู้หมอที่มาจากฝั่งโน้น...ไม่รู้ล่ะฉันไม่ไว้ใจหมอของนาย ให้ใครไปพามาสิ...หรือถ้านายอยากให้ฉันบุกไปลากพวกหล่อนมาก็ตามใจ
ผู้กองหน้าหล่อถึงกับกัดกรามดังกรอดเมื่อเห็นประกายตาท้าทายของคนพูด
นายควรรู้ว่าใครมีอำนาจสูงสุดและควรให้ความเคารพกันบ้างที่โน่นนายอาจจะมีอำนาจในการสั่งการ แต่ที่นี่ฉันเป็นผู้บังคับบัญชาสิ่งไหนควรทำหรือไม่ควรทำฉันจะเป็นคนตัดสินใจเอง
ภูริชจ้องท่าทางทรงอำนาจของผู้กองหน้าหล่อประกายตาเรียบเฉย ในขณะชยินมองท่าทางนิ่งสงบแต่รอยยิ้มที่ผุดออกมาจากมุมปากของอีกฝ่ายกลับไม่ได้สงบนิ่งอย่างที่ควรเป็นด้วยความไม่สบายใจ ทั้งสองยังคงยืนมองเชิงกันและกันอยู่เงียบๆ จนคนรอบข้างเริ่มอึดอัดกับความไม่ลงรอยของหัวหน้าตน
พอเห็นท่าทางเตรียมฟัดกันของเสือสองตัวที่ติดยศร้อยเอกด้วยกันทั้งคู่ บรรดาลูกสมุนที่ยืนอยู่คนละฟากก็ได้แต่นึกเชียร์ผู้นำของตนอยู่ในใจ ลองเสือสองตัวมาอยู่ถ้ำเดียวกันเห็นทีคงจะกัดกันไม่เลิก ดูท่ามวยคู่นี้จะมันไม่หยอก
พวกนายจะยืนอยู่ตรงนี้กันอีกนานไหม และกรรมการที่ไม่มีใครทันนึกถึงก็โผล่เข้ามาตีระฆังให้พักยก
แล้วมันเกี่ยวอะไรกับนายเรอะเตโช เสือหล่อฝ่ายแดงหันไปตะคอกใส่กรรมการโดยไม่หวั่นกับคะแนนที่อาจจะร่วงผล็อย
มันคงไม่ใช่เรื่องของฉันหรอก แต่ที่อยากเกี่ยวก็เพราะถ้าพวกนายยังยืนเอาเชิงกันอยู่แบบนี้เห็นที ไอ้สองคนนั่นคงตายก่อนที่หมอจะทันได้รักษา เตโชชี้มือไปทางคนเจ็บ
พูดแบบนี้มันค่อยน่าคบขึ้นมาหน่อย... และเสือหน้าเข้มฝ่ายน้ำเงินที่หล่อเหลาไม่เกินกันก็ขยับปากทำคะแนนบ้าง
จะรักษาก็ได้แต่ต้องเป็นหมอของเราเท่านั้น ชยินหันไปบอกคู่ปรับหมาดๆ น้ำเสียงจริงจัง
เอาน่าพี่จะหมอคนไหนมันก็หมออย่าเรื่องมากเลย ซาเยร์พาพวกเขาไปด้านโน้นเดี๋ยวฉันจะตามหมอมาให้
เพราะไม่อยากให้คนทั้งสองซดเกาเหลาจนพุงกาง เตโชจึงอาสาเป็นผู้ทำทางพร้อมจัดทีมแพทย์ให้เสร็จสรรพ
ขอบใจ...นายนี่ดูท่าจะพูดรู้เรื่องมากกว่าใครนะเนี่ย...ไม่ต้องห่วงว่าจะเกิดปัญหาที่ฉันต้องการหมอจากฝั่งโน้นรักษาให้ก็เพราะต้องการความมั่นใจ นายก็รู้นี่ว่าหมอของเราที่ถูกส่งมาส่วนใหญ่ไม่ได้มีใบปริญญาเป็นหลักประกัน...และเพื่อความปลอดภัยมันคงไม่ผิดถ้าจะเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับชีวิตคนของฉัน
เมื่อเห็นท่าทางของกรรมการเอนเอียงมาทางตน ภูริชจึงหาเหตุผลที่คิดว่าเข้าท่าที่สุดขึ้นประกอบ
เตโชเรื่องนี้นายไม่ควรเข้ามายุ่ง
ขณะทุกคนกำลังจะหมุนตัวมุ่งหน้าไปยังกระท่อมหลังใหญ่สามหลังปลูกติดกันเป็นแถวยาวมุงด้วยหญ้าคา ชยินที่ไม่เห็นด้วยกับน้องชายก็ตะคอกขึ้น
เวลานี้มันไม่ใช่เวลาที่เราจะมาทะเลาะกัน...ฉันเห็นด้วยกับมองเทร์ที่จะให้คุณหมอทั้งสองมารักษาเจ้าสองคนนั่น พี่ก็รู้นี่ว่าหมอของเราเหน็ดเหนื่อยกับการรักษาคนเจ็บมาทั้งวัน ตอนนี้มันก็ค่ำมืดน่าจะให้เขาได้พักบ้าง เตโชแสดงความคิดเห็นออกไปตามใจคิด
แต่มันไม่ใช่เรื่องที่จะต้องรบกวนพวกเธอ ชยินตอบน้องชายแต่สายตาจ้องเขม็งไปยังคู่ปรับหมาดๆ
รบกงรบกวนที่ไหน...หมอมีหน้าที่รักษาคนเจ็บไข้ได้ป่วย...ตกลงนายจะมายืนเถียงฉันให้มันได้อะไรขึ้นมา กีซาพาสองคนนั่นไปที่โรงหมอก่อน ถ้ามีปัญหานักเดี๋ยวฉันจะไปลากพวกหล่อนมาเอง...ให้มันรู้ไปสิว่าใครหน้าไหนจะกล้าขวาง
พอเห็นว่าชยินไม่ยอมทำตามความต้องการของตน ภูริชในคราบของมองเทร์ที่ถนัดกับการขัดใจใครก็ได้ที่มีความคิดไม่ลงรอยก็เริ่มออกคำสั่ง
และคำสั่งนั้นก็ทำให้คนของมองเทร์ชักลังเลว่าจะทำอย่างไรกับท่าทางไม่ยอมลงให้ใครของหัวหน้า แม้ทุกคนจะทราบดีว่าตำแหน่งของมองเทร์ไม่ได้ด้อยไปกว่าชยิน แต่เมื่ออยู่ในค่ายภายใต้การนำของอีกฝ่ายแล้วอย่างไรฐานอำนาจของเขาก็นับว่ายังด้อยกว่าอยู่ดี
ซาเยร์นายพาคนเจ็บไปที่หน่วยพยาบาล...ส่วนหมอเดี๋ยวฉันจะไปตามมาให้เอง
เตโชสั่งคนสนิทของชยินพร้อมกับหันไปบอกคนที่เขาเข้าใจว่าคือมองเทร์ แล้วจะปรายตาปรามพี่ชายก่อนเดินแยกตัวไปอีกทางกับทหารติดตามอีกสองนาย เมื่อสถานการณ์ถูกแก้ไขหลายคนที่กำลังอึดอัดกับความขัดแย้งของเสือสองตัวลอบถอนใจอย่างโล่งอกให้กับภาวะตึงเครียดที่มีเริ่มผ่อนคลาย
เสียงคนพูดดังจากหน้ากระท่อมหยุดบทสนทนาของสองสาวให้ยุติลงโดยพลัน ทั้งสองหันมองหน้ากันเมื่อได้ยินเสียงกุกกักดังอยู่หน้าประตู แต่ก่อนที่พวกเธอจะทันหยิบฉวยอะไรขึ้นป้องกันตัวบานประตูนั่นก็เปิดผัวะออก
เมื่อเห็นมีคนโผล่เข้ามาทั้งสองจึงขยับเข้าหากันโดยอัตโนมัติ ก่อนจะถอยร่นไปยืนชิดกับฝากระท่อมสร้างจากไม้ไผ่ สายตาทั้งสองคู่จ้องเขม็งไปยังผู้บุกรุกประกายตื่นตระหนก
ไม่ต้องตกใจคุณหมอ
เตโชมองท่าทางประหวั่นพรั่นพรึงของหญิงสาวทั้งสองอย่างเห็นใจ ชายหนุ่มจ้องดวงหน้าหวานละไมของนภัสชลประกายตาอ่อนลง ก่อนจะเบนไปมองหญิงสาวอีกคนด้วยประกายตาแบบเดียวกัน
คุณต้องการอะไร? วริสาถามอีกฝ่ายน้ำเสียงหวาดหวั่น
ผมอยากรบกวนคุณหมอช่วยไปรักษาคนเจ็บให้ที
พอได้คำตอบวริสาจึงหันไปมองหน้าเพื่อนแล้ววกกลับไปมองผู้ชายตัวโตตรงหน้าอีกครั้ง หญิงสาวนิ่วหน้าอย่างใช้ความคิดแล้วบอกตัวเองว่า อย่าได้วางใจกับท่าทางของเขาแม้มันจะสุภาพไม่มีท่าทีเป็นอันตรายก็ตามที
หมอของคุณก็มีไม่ใช่หรือ นภัสชลเป็นฝ่ายถามกลับไปบ้างเมื่อแน่ใจว่ามันไม่มีเหตุผลอะไรที่คนพวกนี้จะต้องพึ่งพาหมอซึ่งเป็นเชลยอย่างพวกเธอ
จริงอยู่ที่เรามีหมอแต่คนเจ็บเพิ่งมาถึง และหมอของเราก็เหนื่อยมาทั้งวันเห็นแก่มนุษยธรรมได้ไหมช่วยพวกเขาที
สองสาวถึงกับเลิกคิ้วขึ้นคล้ายประหลาดใจกับคำของร้องของอีกฝ่ายที่ยกคำว่ามนุษยธรรมขึ้นมาอ้าง
เวลานี้ค่ำมืดเกินกว่าที่พวกเราจะออกไปข้างนอก อีกอย่างมันคงไม่ปลอดภัยนักหากพวกเราจะออกไปกับคุณ วริสาหยิบยกเรื่องความปลอดภัยขึ้นมาอ้าง
เรื่องนั้นคุณหมอไม่ต้องกังวลผมรับรองความปลอดภัยได้ขอให้วางใจ ขอเชิญที่เรือนพยาบาลสักครู่เถอะหมอ รักษาพวกเขาเสร็จผมจะรีบพากลับมาส่งทันที
ชายหนุ่มให้คำรับรองก่อนจะขยับเปิดทางให้ หญิงสาวทั้งสองหันมองหน้ากันชั่วครู่เมื่อไม่รู้จะปฏิเสธอย่างไร พวกเธอจึงทำได้แค่ถอนใจแล้วเดินตามคนตัวใหญ่ออกไปอย่างเสียไม่ได้
พอเดินออกจากกระท่อมร่างบอบบางทั้งสองก็ขยับชิดกันอีกครั้งเมื่อเหลือบมองไปรอบๆ แล้วเห็นแต่ความมืดมิด แม้จะมีแสงโชติช่วงของใต้วางเป็นแนวตลอดเส้นทาง แต่หากมองเลยออกไปก็พบเพียงความมืดมิดแม้จะมีแสงสลัวจากตะเกียงซึ่งแขวนอยู่ตามบ้านเรือนส่องอยู่วับแวมก็ตาม แต่ความทะมึนของห้วงรัตติกาลและร่างกายบึกบึนของชายฉกรรจ์ที่ยืนอยู่ตามจุดต่างๆ ก็ชวนให้หวาดผวาอยู่ดี
ไม่ต้องกลัว...อยู่ที่นี่ไม่มีใครทำอะไรหมอหรอก เตโชที่เดินตามหลังปลอบเมื่อเห็นท่าทางตื่นๆ ของหญิงสาวทั้งสอง
เมื่อเดินเข้าใกล้เขตเรือนพยาบาลอาการหวาดกลัวของทั้งสองก็ยิ่งเพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณ เพราะจากแสงสว่างของไฟฟ้าที่น่าจะมาจากเครื่องปั่นไฟ ทำให้พวกเธอมองเห็นคนที่ยืนอยู่ด้านในค่อนข้างชัดเจน
ภูริชหันไปมองทางเข้าแทบจะทันทีที่ได้ยินเสียงฝีเท้า ชายหนุ่มมองดวงตาตื่นตระหนกราวลูกกวางยามเผชิญกับภยันตรายกวาดมองไปรอบๆ แล้วหยุดอยู่ที่เขาด้วยความตื่นตะลึง
เขาไม่ต้องใช้เวลานึกว่าเจ้าของดวงตานั่นเป็นใคร เพราะเวลานี้แม้หลับตาภาพใบหน้าหวานละมุนก็เข้ามาวุ่นวายอยู่ในมโนสำนึกแทบจะทุกๆ วินาที
ชายหนุ่มคลายวงแขนออกแล้วยืดตัวขึ้นเต็มความสูงอย่างลืมตัว เมื่อดวงตาคู่นั้นยังจับอยู่ที่เขา ร่างสูงใหญ่ยืนนิ่งเหมือนถูกตรึงเหมือนกับห้วงเวลาที่กำลังดำเนินอยู่หยุดหมุนไปชั่วขณะ จนรู้สึกราวกับว่า ณ เวลานี้ทั้งบริเวณมีเพียงเขาและเธอยืนอยู่เพียงลำพัง
ห้วงเวลาที่เผชิญหน้ากันเหมือนนานนับชั่วโมง หากในความเป็นจริงเข็มนาฬิกาที่กำลังเดินอยู่นั้นนับได้เพียงเศษเสี้ยววินาที ภูริชพยายามระงับความยินดีที่กำลังจะเปิดเปลือยออกมากับสีหน้าด้วยท่าทางเรียบเฉย เขาข่มใจเบนสายตาไปทางคนเจ็บที่นอนอยู่ข้างๆ ขยับลุกคล้ายเปิดทางให้เธอเข้ารักษาด้วยท่าทางนิ่งสงบแม้ภายในจะเดือดพล่านเพราะความลิงโลดก็ตามที
ชยินลอบมองท่าทีของคู่ปรับด้วยความโล่งใจ เมื่อเห็นอีกฝ่ายแสดงออกชัดเจนว่าต้องการให้หมอรักษาคนเจ็บมากกว่านึกคึกคะนองอย่างที่เขากังวล ชายหนุ่มไล่สายตาไปตามเรือนร่างระหงอย่างเผลอไผลก่อนจะพ่นลมหายใจเมื่อสำนึกได้ว่าเขาเป็นใครและเธอเป็นใคร...
Create Date : 28 ธันวาคม 2554
Last Update : 28 ธันวาคม 2554 13:56:23 น.
0 comments
Counter : 454 Pageviews.
Share
Tweet
ชื่อ :
Comment :
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
Pantip.com
|
PantipMarket.com
|
Pantown.com
| © 2004
BlogGang.com
allrights reserved.