Bloggang.com : weblog for you and your gang
sansook
Location :
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 40 คน [
?
]
โค้ดนี้เป็นภาพพื้นหลังนำไปวางที่ช่อง Script Area ค่ะ https://youtu.be/K2vg5yDgVX4
Group Blog
สรุป พ.ร.บ.
ความรู้ทั่วไป
ทักทาย
นานาสาระ
วิเคราะห์นะจ๊ะ
ดูดวงกันเถอะ
เก็บมาฝาก
สรุปภาษาไทย
ความรักแม่เอ๊ย
แนวข้อสอบ
แบบทดสอบจิตวิทยา
แนวคิด และมุมมอง
เรื่องเล่า
เคล็ดลับความสวย
เรียงร้อยเรื่องราว
กฎหมายน่ารู้
งาน งาน งาน
รักษาสุขภาพกันเถอะ
เคล็ดลับดีๆ
สรุปแนวข้อสอบหลักสูตรประถมศึกษา
เชิญชวนสู่ธรรมมะ
ฮวงจุ้ยน่ารู้
เมื่อจิตนาการบังเกิด
อสูรพ่ายรัก
แนะนำผลงาน
เรือนรัก - นางรอ
เงาแปร
บรรยากาศสละคาน
คลังข้อสอบ
ดวงไฟในมือมาร
เหลี่ยมรักทรชน
ยั่วรักพยัคฆ์ร้าย
สามนารี
นิยายชุด ภารกิจรัก เรื่องเหนี่ยวหัวใจสุดไกปืน
เกี่ยวกับบริหารงานบุคคลท้องถิ่น
เล่ห์วิวาห์มาเฟีย
ละครเหนี่ยวหัวใจสุดไกปืน
ทวงใจสุดปลายฟ้า
อีบุคสุดแซ่บ
<<
มกราคม 2555
>>
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
2 มกราคม 2555
ตอนที่ ๑๗ คู่วิวาท
ตอนที่ ๑๖ ความเห็นที่แตกต่าง
All Blogs
ตอนที่ ๒๔ คืนอำนาจ
ตอนที่ ๒๓ กับดัก
ตอนที่ ๒๒ วัดใจ
ตอนที่ ๒๑ หนอนบ่อนไส้
ตอนที่ ๒๐ ทางเลือกเพื่อทางรอด
ตอนที่ ๑๙ ผู้นำสาร
ตอนที่ ๑๘ ทีใครทีมัน
ตอนที่ ๑๗ คู่วิวาท
ตอนที่ ๑๖ ความเห็นที่แตกต่าง
ตอนที่ ๑๕ ส่งสาร
ตอนที่ ๑๔ โยนหินถามทาง
ตอนที่ ๑๓ ขิงก็ราข่าก็แรง
ตอนที่ ๑๒ เผชิญหน้า
ตอนที่ ๑๑ แทรกซึมสู่เป้าหมาย
ตอนที่ ๑๐ ข้อต่อรอง
ตอนที่ ๙ เดินหน้า
ตอนที่ ๘ ภารกิจ
ตอนที่ ๗ มารผจญ
ตอนที่ ๖ สายใยครอบครัว
ตอนที่ ๕ ทางตัน
ตอนที่ ๔ ชิงตัว
ตอนที่ ๓ หน้าที่กับความขัดแย้ง
ตอนที่ ๒ ถนนสายอุดมการณ์
ตอนที่ ๑ ทางเส้นขนาน
Friends' blogs
sansook
Chulapinan
baby_15
ไร่ปลายตะวัน
lovers
ge-or-ge
โมกสีเงิน
tingnoy
พลังชีวิต
Mr.Terran
hangclub
nirin_18
คนผ่านทางมาเจอ
patra_vet
ซ่อนรอยยิ้ม
นิยายฝันหวาน
ป้ามด
รำเพย
นิชนันท์
วัตตรา
Insignia_Museum
Baan_Bualoy
ooseabubbleoo
literature
bigger
ใยไหมเจ้าค่ะ
super novel
นัทธ์
Webmaster - BlogGang
[Add sansook's blog to your web]
Links
BlogGang.com
ตอนที่ ๑๗ คู่วิวาท
ขณะสองพี่น้องกำลังงัดเหตุผลของตนขึ้นมาอ้าง เพื่อหวังให้คนที่มีความเห็นแตกต่างเบนความคิดมาอยู่ในทิศทางเดียวกับตน อีกฟากหนึ่งคนที่กำลังอยู่ในประเด็นกลับนั่งกระดิกเท้าร้องเพลงและเด็ดดอกเล็บมือนางทิ้งลงน้ำเล่นอย่างสบายอารมณ์
ณภัสชลนั่งซักผ้าอยู่ข้างโขดหินดวงตาคู่สวยเหลือบมองดอกไม้ดอกเล็กลอยผ่านหน้าไปและอีกหลายดอกลอยวนอยู่ตรงหน้าด้วยความรำคาญใจ ข้างๆ วริสากำลังเป่าฟองผงซักฟอกเล่นอย่างสนุกสนาน อีกฟากมีผู้หญิงในหมู่บ้านนั่งซักผ้าอยู่ตามโขดหิน และตรงกลางแม่น้ำมีหญิงสาววัยกระเตาะกำลังแหวกว่ายส่งเสียงหยอกล้อกันอย่างเริงร่า
นายไม่คิดจะไปไหนบ้างเลยเหรอ เมื่อทนไม่ไหวนภัสชลจึงเงยหน้าขึ้นมองศิลปินเดี่ยวที่กำลังแหกปากร้องเพลงอยู่ด้านบนแล้วโพล่งคำถามสกัดดาวรุ่งออกไป
จะให้ผมไปไหนล่ะคุณหมอ ภูริชหยุดร้องเพลงหันไปทางต้นเสียงค้างมือที่กำลังทิ้งดอกไม้ลงน้ำ ยิ้มกวนใจคนมองตามแบบฉบับแล้วถามอย่างอารมณ์ดี
จะไปไหนก็ไปสิฉันรำคาญ
ตอนนี้ยังไม่อยากไปไหน...แล้วคุณหมอมารำคาญอะไรผม
ฉันรำคาญดอกไม้ที่นายทิ้งลงมา...รำคาญเสียงบ้าๆ ของนายด้วย
พอได้คำตอบชายหนุ่มจึงยกช่อเล็บมือนางขึ้นพิศดู หันไปมองใบหน้าบูดบึ้งของคุณหมอขี้รำคาญแล้วพยักหน้าก่อนจะช่วยไขข้อข้องใจ
การที่ผมโปรยดอกไม้ลงไปเพื่อทำให้คุณสบายใจว่าผมอยู่แถวๆ นี้จะได้ไม่กลัวอันตราย แถมยังร้องเพลงให้ฟังคุณกลับบอกว่ามันน่ารำคาญงั้นเหรอ
คำตอบของชายหนุ่มทำเอาคนที่กำลังเป่าฟองผงซักฟอกเล่นต้องหันไปเลิกคิ้วกับเพื่อนแล้วหัวเราะเบาๆ เมื่อเห็นประกายตาขุ่นเขียวของคนขี้โวยวายและประกายตาท้าทายของพ่อหนุ่มอารมณ์ศิลปิน
แต่ดอกไม้นั่นมันกำลังรบกวนการซักผ้าของฉัน...นายไม่เห็นหรือไงว่ามันเกะกะเวลาฉันจะล้างผ้า เธอบอกพร้อมกับชี้มือไปยังกลีบดอกไม้ที่ลอยวนไปวนมาอยู่ตรงหน้า
คุณก็ขยับไปล้างตรงนั้นสิ...หรือจะเป็นตรงโน้นก็ได้...น้ำตรงนี้มันตื้นล้างผ้าแป๊บๆ เดี๋ยวก็ขุ่น เขาแนะนำพร้อมกับโยนดอกไม้ในมือลงน้ำ แล้วร้องเพลงต่อโดยไม่สนใจกับดวงตาคมวาวเอาเรื่องของหญิงสาว
และท่าทางราวกับว่าปัญหาที่มีได้ถูกแก้ไขไปเรียบร้อยแล้ว ของคนที่นั่งอยู่ด้านบนก็ทำเอาคนที่นั่งหน้าบึ้งอยู่ข้างล่างอดขุ่นเคืองไม่ได้ เมื่อออกปากไล่แต่อีกฝ่ายยังไม่ขยับหนำซ้ำจำนวนดอกไม้ที่โปรยปรายเป็นระยะชักจะถี่กว่าเดิม หญิงสาวจึงยกกะละมังแล้วขยับไปนั่งซักอีกทาง โดยมีสายตาคมกล้าเหลือบมองเป็นระยะๆ พร้อมกับเสียงร้องเพลงที่ดังขึ้นทุกที
คนบ้า...ร้องเพลงไม่เป็นภาษาแถมเสียงห่วยอย่างกับควายออกลูกยังมีหน้าแหกปากโชว์อีก เมื่อออกปากไล่แล้วไม่ได้ผลนภัสชลจึงบ่นพึมพำกับตัวเอง
คุณอยากขอเพลงไหม
และเสียงดีเจก็ตะโกนขึ้นเมื่อเห็นริมฝีปากของหญิงสาวขยับเหมือนกำลังพูดอะไร แต่พอเห็นเธอถลึงตาใส่ พ่อศิลปินใหญ่จึงทำไม่รู้ไม่ชี้แล้วทู่ซี้ร้องเพลงด้วยระดับเสียที่นภัสชะลอยากโยนหินใส่ปากคนร้องเต็มที
วริสาหันไปเลิกคิ้วกับชายหนุ่มแล้วลงมือซักผ้าที่เหลือต่อ ริมฝีปากบางฉีกยิ้มออกทีละนิดๆ จนเปลี่ยนเป็นยิ้มกว้างเมื่อได้ยินเพลงบทใหม่ซึ่งเธอไม่รู้ความหมายกำลังขับขานขึ้น พร้อมกับเสียงร้องที่เธอบอกได้คำเดียวว่ามันจะหลอนอยู่ในโสตประสาทไปอีกนานแสนนาน
ภูริชยังคงนั่งร้องเพลงอยู่บนโขดหินอย่างสบายอารมณ์ จวบจนหญิงสาวทั้งสองซักผ้าเสร็จเขาจึงลุกขึ้นโยนช่อดอกไม้ในมือลงน้ำแล้วยื่นมือออกไปรับกะละมังของนภัสชลที่เดินนำมาก่อนอย่างมีน้ำใจ แต่ก็ต้องผิดหวังเพราะหญิงสาวทำเป็นมองไม่เห็นและเลี่ยงเดินไปอีกทาง
พอเห็นคนตัวใหญ่ยืดตัวขึ้นยกมือข้างหนึ่งลูบผมแก้เก้อพลางส่งสายตาละห้อยมาที่เธอวริสาจึงอดยิ้มไม่ได้ ก่อนยื่นกะละมังของตัวเองไปให้เมื่ออีกฝ่ายแสดงน้ำใจ
คุณหมอช่างเป็นคนปราดเปรื่องจริงๆ
เมื่อความช่วยเหลือได้รับการยอมรับคนที่เพิ่งถูกหักหน้ามาหมาดๆ ก็เริ่มแกว่งปากหาเรื่อง
ฉันไปปราดเปรื่องเรื่องอะไรงั้นเหรอ วริสาหันไปถาม
ก็คนฉลาดเขาต้องรู้จักแบ่งความลำบากมาให้คนอื่นน่ะสิ...
คำตอบที่ลอยออกมาทำเอาณภัสชลแทบสะดุดเท้าตัวเอง...หน็อยแน่อีตากะเหรี่ยงไร้อารยธรรมกล้ามาว่าเธอโง่ซึ่งๆ หน้าเลยเหรอเนี่ย...หญิงสาวหันไปถลึงตาใส่คนปากร้าย...แล้วเข่นเขี้ยวในใจอย่างอาฆาต...ฮึถ้าอีตานี่ถูกลูกกระสุนเจาะลงบนร่างเธอสาบานว่าจะไม่เหลียวแลเด็ดขาด
แม้อยากจะเอากะละมังในมือลอยหวือใสหน้าอีกฝ่ายแต่เพราะทำอะไรไม่ได้เธอจึงสะบัดหน้ากลับและก้าวฉับๆ นำหน้าไปก่อน
อ้าว...เพื่อนคุณหมอเป็นอะไรไป
พอเห็นท่าทางปั้นปึงของณภัสชลชายหนุ่มจึงหันไปถามหญิงสาวที่เดินยิ้มอยู่ข้างๆ ด้วยประกายตาใสซื่อ
คงเคืองที่นายไปว่าเขาน่ะสิ
ผมไปว่าอะไรเธอตอนไหน...อย่าใส่ร้ายกันสิหมอ
วริสาจ้องดวงตาของคนพูดแล้วอมยิ้มเมื่อเห็นประกายใสซื่อผุดพรายออกมา...
เธอว่าคนฉลาดต้องรู้จักแบ่งปันความลำบากให้คนอื่น...รู้ไหมคำพูดเมื่อกี้มันไปกระทบกับณภัสเพราะเขาไม่ยอมให้นายช่วยไง
โอ๊ย...ผมเปล่าว่าเพื่อนคุณหมอนะ... ชายหนุ่มทำเป็นโวยวายพลางลอบมองหญิงสาวอีกคนที่เดินปั้นปึ่งอยู่เบื้องหน้า
ไม่ว่าก็เหมือนว่านั่นแหละเพราะถ้านายบอกว่าคนฉลาดต้องทำแบบไหนหากอีกคนทำตรงกันข้ามก็เท่ากับนายพูดกระทบเขา
ภูริชหันไปมองคนที่กำลังไขข้อข้องใจของตนแล้วร้องอ๋อออกมา
อ้อ...มันเป็นแบบนี้เอง...แต่ให้ฟ้าผ่าตายเถอะหมอผมไม่ได้ตั้งใจว่าใครจริงๆ ไอ้ผมมันก็คนป่าคนดอยคิดอะไรก็พูดไปตามประสาซื่อ...อย่าถือสาเลย
แม้รู้อยู่เต็มอกว่าคำพูดของตนจะต้องกระทบใจอีกคน แต่ภูริชก็ยังทำหน้าใสซื่อจนวริสาเชื่อสนิทใจ
คราวหน้าจะพูดอะไรก็คิดๆ หน่อยสิเห็นไหมเพื่อนฉันเดินฉับๆ ไม่เหลียวหลังแล้ว หญิงสาวเตือนพร้อมกับโบ้ยปากไปข้างหน้าแล้วหันไปยิ้มกับคนป่าหน้าซื่อ ในขณะตัวต้นเหตุมองตามร่างเพรียวบางไปอย่างขบขันแล้วภาวนาอยู่ในใจ...หวังว่าเธอคงจะไม่เจ้าคิดเจ้าแค้น และอาฆาตจนทำให้เขาถูกเพื่อนรักกระหน่ำด้วยฝ่าเท้าเมื่อพาเธอไปส่งจนปลอดภัย...
ณภัสชลปาดเหงื่อที่เริ่มผุดซึมออกมาตามไรผม จนนึกอยากเอากะละมังไปวางในมือของคนปากเสียให้รู้แล้วรู้รอด แต่เพราะทิฐิจึงทำให้เธอยอมกัดฟันแบกกะละมังเดินข้ามเนินจนถึงทางเข้าค่าย
อ้าวมองเทร์ทำไมนายไม่ช่วยคุณหมอถือกะละมัง
พอเท้าก้าวเข้าเขตค่ายเสียงตำหนิของใครคนหนึ่งก็ดังขึ้น
แล้วไอ้นี่เขาเรียกอะไรเรอะ ภูริชชูของในมือให้อีกฝ่ายดูแล้วถามกลับเสียงขุ่น
นายนี่แย่จริงๆ สุภาพสตรีมีสองคนแต่เลือกช่วยแค่หนึ่งจะไม่เป็นการเลือกปฏิบัติไปหน่อยหรือ...คุณหมอส่งกะละมังมาสิครับเดี๋ยวผมช่วยถือให้
เตโชต่อว่าก่อนจะยื่นมือออกไปรับกะละมังจากนภัสชล พอเห็นอีกฝ่ายหยิบยื่นน้ำใจมาให้คนที่แบกทิฐิมาพักใหญ่จึงไม่ลังเลที่จะรับความช่วยเหลือ หญิงสาวกล่าวขอบคุณพร้อมกับยื่นสิ่งของในมือไปให้ ก่อนจะเหลือบไปมองตัวต้นเหตุของความเหนื่อยแล้วเผลอยิ้มออกมาชั่วแวบเมื่อเห็นสีหน้าของคนที่ถูกตำหนิ
ภูริชหันไปทำหน้าเหวอกับวริสาแม้อยากจะแก้ต่างให้ตัวเอง แต่เพราะไม่อยากให้คุณหมอขี้รำคาญเสียหน้าเขาจึงทำเฉยเสีย
นายมาก็ดีแล้วเตโช ร้อยเอกหน้าเข้มเอ่ยขึ้นหลังวางกะละมังลงบนแคร่ข้างราวไม้ไผ่ใช้สำหรับตากผ้า
มีอะไรงั้นหรือ
เตโชวางกะละมังในมือลงข้างกันเงยหน้าขึ้นถาม ก่อนจะถอยออกไปยืนอีกด้านเพื่อเปิดทางให้หญิงสาวทั้งสอง
ฉันว่าเราน่าจะหัดคุณหมอให้ยิงปืน
อะไรนะ!
คำพูดของภูริชไม่ได้มีแค่เตโชเท่านั้นที่ตื่นตระหนก เพราะคนที่กำลังตากเสื้อผ้าอยู่ใกล้ๆ ต่างก็สะดุ้งไปกับความคิดแผลงๆ ของเขาไม่ต่างกัน
พวกคุณยิงปืนเป็นไหมล่ะ ชายหนุ่มหันไปถามหญิงสาวทั้งสองโดยสายตาจับนิ่งอยู่ที่นภัสชล ขณะคนถูถามได้แต่มองหน้ากัน
อ้าว...ว่าไงเป็นหรือไม่เป็น เขาถามซ้ำอีกครั้งด้วยน้ำเสียงที่แสดงถึงความรำคาญอย่างเห็นได้ชัด
จะเป็นหรือไม่เป็นแล้วมันเกี่ยวอะไรกับนาย เมื่ออดไม่ได้นภัสชลจึงตอบสวนกลับไป
ก็เกี่ยวน่ะสิถ้าไม่เกี่ยวผมจะถามให้เมื่อยปากทำไม
และคำตอบที่สวนกลับมาก็ทำเอาริมฝีปากของหญิงสาวถึงกับอ้าค้างเพราะไม่คาดคิดว่าอีกฝ่ายจะใช้ถ้อยคำชนิดที่เรียกได้ว่าขวานผ่าซาก
เฮ้...มองเทร์ทำไมนายถึงพูดกับคุณหมอแบบนั้น เตโชที่ถนัดเป็นคนไกล่เกลี่ยหันไปตำหนินายทหารผ่าซากน้ำเสียงจริงจัง
ฉันก็พูดไปตามที่รู้สึก...อีกอย่างที่ถามก็เพราะหวังดีแต่นายดูหล่อนสิเห็นความหวังดีของฉันไหม
นายถามพวกเธอดีๆ ก็ได้...
อ้าวแล้วที่ฉันถามไปเมื่อกี้มันไม่ดีตรงไหน
เตโชแทบหมดคำโต้เถียงเมื่อเห็นประกายตาใสซื่อของคนตรงหน้า...เฮ้อ...เจ้ามองเทร์มันดิบเถื่อนสมกับคำร่ำลือจริงๆ
รีบตากผ้าเข้าสิแม่คุณเสร็จแล้วจะได้ไปหัดยิงปืนกัน
พอเตโชไม่พูดอะไร คนเจ้าความคิดก็หันไปเร่งลูกศิษย์น้ำเสียงจริงจัง
ฉันบอกแล้วเหรอว่าจะไปทำเรื่องบ้าๆ นั่นกับนาย นภัสชลที่ตากผ้าใกล้เสร็จหันไปถาม
ก็ตามใจถ้าคิดว่ามันไม่สำคัญ แต่ขอเตือนด้วยความหวังดีว่าอยู่ที่นี่ไม่มีใครเขาดูแลคุณได้ดีเท่ากับตัวเองหรอกนะ คุณลองมองไปรอบๆ สิ ที่นี่ไม่ใช่โรงพยาบาลและที่สำคัญมันไม่ใช่ประเทศของคุณ ทุกย่างก้าวมีอันตรายทั้งนั้น
แม้ไม่เข้าใจว่าทำไมเขาถึงอยากให้พวกเธอไปฝึกยิงปืน แต่พอได้ยินเหตุผลคนที่ทำท่าดึงดันแต่แรกก็อดคล้อยตามไม่ได้
ความจริงเราก็มีทหารคอยดูแลคุณหมออยู่แล้ว ถ้าเธอไม่อยากฝึกเราก็อย่าฝืนใจเลย เตโชช่วยพูดเพราะเกรงว่าหญิงสาวทั้งสองอาจจะลำบากใจ
ฉันจะลองหัดดูก็ได้...ไปกันนะนภัส วริสาเอ่ยขึ้นพร้อมกับหันไปชวนเพื่อนเมื่อวางผ้าชิ้นสุดท้ายลงบนราว
แต่...จะดีเหรอลี...พวกเราไม่เคยจับปืนไม่รู้ว่าจะเผลอทำมันลั่นหรือเปล่า บอกตรงๆ ว่าเรากลัว หญิงสาวบอกเพื่อนเสียงอ่อย
คุณก็คิดว่ามันเป็นเข็มฉีดยาสิ...หรือไม่ก็เป็นมีดที่ใช้เฉือนเนื้อคนในยามที่ลงมือผ่าตัดเป็นไง
และคำแนะนำที่ลอยมาก็ทำเอาแพทย์สาวทั้งสองแทบสำลักน้ำลายที่กำลังกลืนลงคอ...ให้ตายเถอะพ่อคุณไปเอาความคิดบ้าๆ นั่นมาจากไหน...คิดว่าปืนเป็นเข็มฉีดยาเนี่ยนะ...ช่างกล้าแนะนำ
เอาล่ะตากผ้าเสร็จแล้วก็รีบตามมา...เตโชนายมีปืนพกขนาดกำลังดีที่พวกผู้หญิงเขามีปัญญาใช้หรือเปล่าล่ะ
ก็พอมีเดี๋ยวจะไปเอามาให้
เออ...นายช่วยสั่งคนไปจัดเป้าให้สักสองจุดตรงใต้ต้นไม้นั่นด้วยก็แล้วกัน...ว่าแต่พวกคุณอยากลองยิงคนเป็นๆ ดูไหมเล็งเป้านิ่งมันไม่ถึงใจหรอก ถ้าจะให้มันสมจริงต้องยิงเป้าดิ้นได้ ภูริชชี้มือไปยังต้นไม้ใหญ่ถัดออกไปราว 50 เมตรก่อนจะหันไปทางนภัสชลแล้วแนะนำ
ถ้าเป้าที่ว่าเป็นนายฉันก็อยากลองดูเหมือนกัน
และคำตอบที่ได้กลับมาก็ทำเอาคนนำเสนอถึงกับเบรกอาการห่ามดังเอี๊ยด...พอเห็นสีหน้าของคนพูดดูจริงจังนายทหารหน้าเข้มจึงยิ้มแหยๆ ในขณะเตโชหันไปยิ้มกว้างกับนภัสชลเพราะถูกใจกับคำตอบนั่นจนอยากปรบมือให้กับความรู้เท่าทันของเธอ
href="//www.bloggang.com/data/s/sansook/picture/1325485249.jpg" target=_blank>
Create Date : 02 มกราคม 2555
Last Update : 2 มกราคม 2555 19:19:05 น.
0 comments
Counter : 592 Pageviews.
Share
Tweet
ชื่อ :
Comment :
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
Pantip.com
|
PantipMarket.com
|
Pantown.com
| © 2004
BlogGang.com
allrights reserved.