Bloggang.com : weblog for you and your gang
sansook
Location :
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 40 คน [
?
]
โค้ดนี้เป็นภาพพื้นหลังนำไปวางที่ช่อง Script Area ค่ะ https://youtu.be/K2vg5yDgVX4
Group Blog
สรุป พ.ร.บ.
ความรู้ทั่วไป
ทักทาย
นานาสาระ
วิเคราะห์นะจ๊ะ
ดูดวงกันเถอะ
เก็บมาฝาก
สรุปภาษาไทย
ความรักแม่เอ๊ย
แนวข้อสอบ
แบบทดสอบจิตวิทยา
แนวคิด และมุมมอง
เรื่องเล่า
เคล็ดลับความสวย
เรียงร้อยเรื่องราว
กฎหมายน่ารู้
งาน งาน งาน
รักษาสุขภาพกันเถอะ
เคล็ดลับดีๆ
สรุปแนวข้อสอบหลักสูตรประถมศึกษา
เชิญชวนสู่ธรรมมะ
ฮวงจุ้ยน่ารู้
เมื่อจิตนาการบังเกิด
อสูรพ่ายรัก
แนะนำผลงาน
เรือนรัก - นางรอ
เงาแปร
บรรยากาศสละคาน
คลังข้อสอบ
ดวงไฟในมือมาร
เหลี่ยมรักทรชน
ยั่วรักพยัคฆ์ร้าย
สามนารี
นิยายชุด ภารกิจรัก เรื่องเหนี่ยวหัวใจสุดไกปืน
เกี่ยวกับบริหารงานบุคคลท้องถิ่น
เล่ห์วิวาห์มาเฟีย
ละครเหนี่ยวหัวใจสุดไกปืน
ทวงใจสุดปลายฟ้า
อีบุคสุดแซ่บ
<<
ธันวาคม 2554
>>
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
15 ธันวาคม 2554
ตอนที่ ๒ ถนนสายอุดมการณ์
All Blogs
ตอนที่ ๒๔ คืนอำนาจ
ตอนที่ ๒๓ กับดัก
ตอนที่ ๒๒ วัดใจ
ตอนที่ ๒๑ หนอนบ่อนไส้
ตอนที่ ๒๐ ทางเลือกเพื่อทางรอด
ตอนที่ ๑๙ ผู้นำสาร
ตอนที่ ๑๘ ทีใครทีมัน
ตอนที่ ๑๗ คู่วิวาท
ตอนที่ ๑๖ ความเห็นที่แตกต่าง
ตอนที่ ๑๕ ส่งสาร
ตอนที่ ๑๔ โยนหินถามทาง
ตอนที่ ๑๓ ขิงก็ราข่าก็แรง
ตอนที่ ๑๒ เผชิญหน้า
ตอนที่ ๑๑ แทรกซึมสู่เป้าหมาย
ตอนที่ ๑๐ ข้อต่อรอง
ตอนที่ ๙ เดินหน้า
ตอนที่ ๘ ภารกิจ
ตอนที่ ๗ มารผจญ
ตอนที่ ๖ สายใยครอบครัว
ตอนที่ ๕ ทางตัน
ตอนที่ ๔ ชิงตัว
ตอนที่ ๓ หน้าที่กับความขัดแย้ง
ตอนที่ ๒ ถนนสายอุดมการณ์
ตอนที่ ๑ ทางเส้นขนาน
Friends' blogs
sansook
Chulapinan
baby_15
ไร่ปลายตะวัน
lovers
ge-or-ge
โมกสีเงิน
tingnoy
พลังชีวิต
Mr.Terran
hangclub
nirin_18
คนผ่านทางมาเจอ
patra_vet
ซ่อนรอยยิ้ม
นิยายฝันหวาน
ป้ามด
รำเพย
นิชนันท์
วัตตรา
Insignia_Museum
Baan_Bualoy
ooseabubbleoo
literature
bigger
ใยไหมเจ้าค่ะ
super novel
นัทธ์
Webmaster - BlogGang
[Add sansook's blog to your web]
Links
BlogGang.com
ตอนที่ ๒ ถนนสายอุดมการณ์
ตอนที่ ๒ ถนนสายอุดมการณ์
หลังจากเดินเท้าตัดสุมทุมพุ่มไม้มาตลอดคืนจนถึงรุ่งสาง พวกกลุ่มทหารยังคงเดินไปเรื่อยๆ จะหยุดพักบ้างก็ต่อเมื่อได้เวลาอาหารและพวกเขาจะใช้เวลาพักนั้นเพียงครู่เดียว ก่อนออกเดินทางต่อโดยแทบไม่หยุดพักอีกนอกจากสับเปลี่ยนกันแบกเปลสนาม
พวกเขาเดินผ่านป่ารกชัฏและหมู่บ้านน้อยใหญ่มาได้ครึ่งค่อนวันจนบ่ายคล้อย ในที่สุดกลุ่มทหารก็พาคนเจ็บที่ยังนอนนิ่งอยู่บนเปลสนามโผล่มายืน ณ ที่ตั้งฐานทัพขนาดย่อมของกลุ่มคนไม่ปรากฏสัญชาติ ซึ่งโอบล้อมไปด้วยบ้านเรือนของชาวกะเหรี่ยงนับร้อยหลังคาเรือน
เมื่อถึงบริเวณทางเข้ามีทหารเฝ้าอยู่อย่างแข็งขัน ซาเยร์เดินนำกลุ่มทหารผ่านแนวไม้เข้าสู่ถนนลูกรังมุ่งตรงไปยังกระท่อมหลังใหญ่
เกิดอะไรขึ้นหรือซาเยร์...นั่นผู้กองนี่ คำถามของใครคนหนึ่งดังขึ้นขณะผลุนผลันลงจากกระท่อมเมื่อเห็นว่าใครนอนอยู่ในเปลสนาม
จาปอคืนนี้สั่งทหารให้ขยายเขตลาดตระเวนออกไปอีก ส่วนพวกแกรีบพาผู้กองขึ้นไปพักที่ห้อง ซาเยร์ไม่ได้ตอบคำถามนอกจากออกคำสั่งที่เขาคิดว่ามีความสำคัญมากกว่า
ซาเยร์ฉันถามแกไม่ได้ยินเรอะ...มันเกิดอะไรขึ้น น้ำเสียงคนถามบ่งบอกชัดว่ากำลังไม่พอใจ
เราถูกซุ่มโจมตีตรงรอยต่อชายแดนฝั่งไทย ระหว่างเดินทางกลับฐาน
อะไรนะ! ถูกซุ่มโจมตี...มันเป็นพวกไหน...ทหารไทยหรือเปล่า
ไม่ใช่...ทหารไทยไม่เคยจู่โจมแบบกองโจร...คุณก็รู้นี่เตโชว่าทางการไทยไม่มีทางเข้าแทรกแซงนอกจากตรึงกำลังอยู่ฝั่งของตัวเองเท่านั้น ซาเยร์ตอบไปตามสถานการณ์
ถ้าอย่างนั้นพวกมันคงเป็นคนของนายพลลอซู เราเสียกำลังคนไปมากน้อยแค่ไหนทำไมผู้กองถึงถูกยิงได้...แล้วหมอล่ะ เตโชถามอย่างร้อนใจเมื่อกวาดตามองไปรอบๆ แล้วไม่พบคนที่กำลังรอคอย
เราเสียคนไปสาม ส่วนหมอถูกยิงอาการสาหัสเราพยายามพากลับมาแต่เขาทนพิษบาดแผลไม่ไหวอีกอย่างพวกนั้นรุกหนักมาก กว่าผู้กองจะพาพวกเราตีฝ่าออกมาได้ก็ร่อแร่อย่างที่เห็น
ให้ตายเถอะ...นายก็รู้ว่าหมอสำคัญกับเรามากแค่ไหน...ทำไมไม่ปกป้องหมอแล้วพากลับมาอย่างปลอดภัย...
เราพยายามแล้ว... คนที่เพิ่งฝ่าดงกระสุนบอกด้วยน้ำเสียงที่แสดงชัดว่าพวกเขาได้กระทำการทุกอย่างเต็มความสามารถแล้ว
ถ้าไม่มีหมอแล้วใครจะรักษาทหารของเราที่กำลังนอนเจ็บอยู่ล่ะ
คงต้องขอไปที่หน่วยเหนือ ซาเยร์ตอบแบบไม่ต้องหยุดคิด
กว่าหน่วยเหนือจะส่งหมอมาฉันว่าไอ้ที่ร้องโอดโอยอยู่โน่นคงลงหลุมกันหมด ฉันบอกแล้วว่าอย่าพาหมอไป ถ้ามีใครเชื่อฉันบ้างเราคงไม่สูญเสียหมอ เตโชชี้มือไปทางเรือนพยาบาลอย่างมีอารมณ์
คนของเราที่ฐานทางโน้นก็ต้องการหมอเหมือนกัน เมื่อถูกตำหนิซาเยร์จึงแสดงเหตุผลออกไปบ้าง
แล้วผู้กองเป็นยังไงบ้าง เมื่อไม่รู้จะกล่าวโทษอีกฝ่ายอย่างไร คนที่อารมณ์ยังขุ่นเคืองก็วกกลับมาถามถึงอาการของคนเจ็บที่หายลับเข้าไปในกระท่อม
ปลอดภัยแล้ว เราพาไปให้หมอที่ฝั่งไทยช่วยรักษาก่อนพากลับมา คำตอบของอีกฝ่ายทำเอาดวงตากร้าวดุของคนฟังเบิกขึ้นอีกเท่าตัว
แกว่าอะไรนะ!...อย่าบอกนะซาเยร์ว่าพวกแกบุกไปจี้โรงพยาบาลที่ฝั่งไทย
ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกน่า...เราแค่เอ่อ...
แค่อะไร พออีกฝ่ายอึกอักน้ำเสียงกร้าวดุจึงตวาดขึ้นอีกครั้ง
เรา...เอ่อบุกไปบ้านหมอ
อะไรนะ!...ให้ตายเถอะ!.... และคำตอบที่โพล่งกลับมาก็ทำเอาคนฟังถึงกับอุทานเสียงดังลั่น
ไม่มีใครตายหรอกน่า...
พวกแกบุกไปบ้านหมอแบบนั้นป่านนี้ไม่ใช่พวกทหารไทยแตกรังแล้วเรอะ แกก็รู้นี่ซาเยร์ว่าเราสู้สองทางไม่ไหวเกิดพวกนายพลลอซูรู้แล้วยืมมือทางการไทยเข้าแทรกแซงพวกเราไม่แย่เหรอ
เราไม่มีทางเลือกหรือคุณจะปล่อยให้ผู้กองตาย... ซาเยร์ตอบกลับไปทันควัน
พูดบ้าๆ ใครจะอยากให้ตาย...ผู้กองเป็นพี่ชายฉันนะ เอาเถอะไหนๆ เรื่องมันก็เกิดขึ้นแล้วยังไงค่อยว่ากัน เดี๋ยวฉันจะเข้าไปดูอาการของผู้กอง ส่วนแกไปพักได้แล้ว
เขาบอกเสียงห้วนก่อนจะหมุนตัวเดินกลับขึ้นกระท่อม ซาเยร์มองตามร่างสูงปราดเปรียวกระฉับกระเฉงสมวัยหนุ่มเดินหายเข้าไปในกระท่อมแล้วพ่นลมหายใจออกมา เตโชแม้ไม่ได้เป็นชายชาติทหารไม่เก่งและแกร่งเท่ากับพี่ชาย แต่ก็มีความสำคัญไม่น้อยเพราะชายหนุ่มมีสามารถในการวางแผน โดยใช้ความรู้ทางด้านวิชาการที่เคยร่ำเรียนมาจากมหาวิทยาลัยในอังกฤษคอยช่วยพวกเขาอีกทาง
เวลาเดือนเศษร่างสูงใหญ่สมชายฉกรรจ์เดินลัดแนวไม้เข้าสู่เขตเรือนพยาบาลซึ่งเป็นกระท่อมหลังใหญ่ปลูกสร้างอยู่กลางลานในที่โล่งกว้าง ด้านในมีแคร่ไม้ไผ่นับ 20 วางเรียงรายอย่างเป็นระเบียบ บนแคร่มีคนเจ็บนอนอยู่เต็มทุกแคร่
ผู้กองมีอะไรหรือเปล่าทำไมสีหน้าไม่ค่อยดีเลย... คนที่กำลังสาละวนยู่กับการรักษาบาดแผลของทหารนายหนึ่งเอ่ยทักทายเมื่อเห็นสีหน้าของคนที่เพิ่งเดินเข้ามา
ท่านนายพลเรียกตัวฉันกลับกองทัพ ชายหนุ่มตอบพลางเดินไปยืนอยู่ข้างคนเจ็บก่อนจะวางมือลงบนหัวไหล่ผึ่งผายแล้วตบเบาๆ คล้ายให้กำลังใจ
อะไรนะผู้กอง!
ทางกองทัพกำลังส่งฮอมาไม่น่าเกินสองชั่วโมงคงถึง นายจะไปกับฉันไหมซาเยร์
แล้วคนทางนี้ล่ะผู้กอง อีกอย่างเวลานี้ฝ่ายโน้นมันบุกขนาบเราทั้งซ้ายและขวาขืนทิ้งฐานไปตอนนี้มันก็เท่ากับปล่อยให้คนของเราเสี่ยงกับอันตราย ซาเยร์ลุกขึ้นกวาดตามองไปรอบๆ อย่างหนักใจ
ท่านนายพลแจ้งว่าที่มั่นตรงนี้ไม่ใช่จุดสำคัญนักบางทีอาจให้เราทิ้งฐานแล้วเคลื่อนย้ายคนเจ็บออกไปก่อน หรือไม่กองทัพอาจส่งคนมาแทนฉันชั่วคราว
คนพวกนั้นเสียสติไปแล้วหรือยังไง ถึงพูดออกมาได้ว่าฐานตรงนี้ไม่ใช่จุดสำคัญทั้งๆ ที่เราก็รู้ว่ามันมีความสำคัญต่อภูมิประเทศมากขนาดไหน ถ้าเราทิ้งฐานแล้วถูกพวกนั้นยึดเห็นทีช่องทางสัญจรเส้นสำคัญๆ คงถูกตัดขาดไม่มีเหลือ คนพูดบอกอย่างมีอารมณ์
ฉันส่งเอกสารอธิบายถึงความสำคัญของฐานที่มั่นให้ท่านนายพลทราบแล้ว รวมถึงผลการวิเคราะห์ของเตโช แต่ทางโน้นยืนยันว่ามีแผนที่ดีกว่าถ้านายจะไปกับฉันก็เตรียมตัวเถอะ ชายหนุ่มตัดบทพร้อมกับหมุนร่างเดินกลับออกไป
แล้วหมอล่ะผู้กอง... คำถามที่ดังขึ้นหยุดเท้าที่กำลังจะก้าวไปข้างหน้าให้หยุดชะงัก
คงกำลังเดินทางมาพร้อมกับฮอฉันแจ้งท่านนายพลไปแล้ว เขาบอกแค่นั้นก่อนผลักบานประตูแล้วก้าวผ่านออกไป ทิ้งให้หมอจำเป็นมองตามร่างสูงใหญ่อย่างปลงไม่ตกว่าจะติดตามหัวหน้าหรืออยู่สู้กับผู้รุกรานที่รุกคืบเข้ามาทุกที
ซาเยร์ทรุดนั่งลงข้างทหารที่บาดเจ็บแล้วลงมือรักษาบาดแผลไปเงียบๆ ในขณะความคิดเริ่มแตกแขนง ชายหนุ่มมองเพื่อนร่วมอุดมการณ์ที่ร่วมรบเคียงบ่าเคียงไหล่กันมานานด้วยประกายตายุ่งยากใจ
ซาเยร์ไปกับผู้กองเถอะพวกเราจะรักษาฐานไว้ให้มั่นไม่ให้ใครล่วงล้ำเข้ามาเด็ดขาด เสียงแหบพร่าของคนเจ็บดังขึ้นเบาๆ เมื่อเห็นสีหน้าหนักใจของคนที่ยังหาทางออกให้ตัวเองไม่ได้
ฉันกลัวว่าถ้าผู้กองต้องไปจริงๆ คนของเราจะยิ่งเสียกำลังใจน่ะสิ
เมื่อกี้ผู้กองบอกนายไม่ใช่เหรอว่ากองทัพมีแผนที่ดีกว่า...เวลานี้พวกเราทุกคนต่างก็รู้ว่ากำลังพลของทางโน้นแข็งแกร่งกว่าหลายเท่า อาวุธของพวกเขาก็ล้ำหน้ากว่ามาก ถ้าเราสู้แบบเดิมคงไม่มีทางชนะแน่
ซาเยร์นิ่งคิดอยู่ชั่วครู่เมื่อเห็นว่าคำพูดของคนเจ็บมีส่วนถูกอยู่มาก เขาจึงพ่นลมหายใจออกมาแล้วพยักหน้าน้อยๆ
หลังเท้าแตะกับผืนดินชยินเดินตรงดิ่งเข้าไปในตัวตึกตระหง่านอยู่เบื้องหน้า เมื่อก้าวเข้าไปด้านในจึงเดินลิ่วเข้าไปยังห้องประชุมทันที พอร่างสูงโผล่พ้นประตูเดินเข้าไปทรุดนั่งลงบนเก้าอี้ข้างผู้นำสูงสุดของกองทัพ บุคคลอื่นๆ จึงเริ่มขยับตัว ส่วนซาเยร์ขยับไปยืนชิดกับผนังห้องอีกด้านในฐานะผู้ติดตาม
ตามระยะเวลาที่กำหนดแกควรมาถึงเมื่อหนึ่งชั่วโมงที่แล้วไม่ใช่หรือ...ทำไมถึงเพิ่งมา... คำถามแรกจากผู้นำสูงสุดของหน่วยเอ่ยคล้ายตำหนิกลายๆ
คนของเราบาดเจ็บไม่น้อยในฐานะผู้บังคับบัญชา ผมจำเป็นต้องอยู่ดูอาการของทหารที่ได้รับบาดเจ็บ และมอบหมายงานให้กับคนที่ท่านส่งไป ชายหนุ่มตอบเสียงเรียบ
ผู้พันเกซาร์รายงานมาว่าฐานทัพนั่นมันไม่ได้มีความสำคัญอะไรความจริงน่าจะทิ้งฐานแล้วมุ่งหน้าไปรวมกับกองกำลังทางเหนือ
ผู้พันทราบได้ยังไงว่าฐานทัพนั่นไม่มีความสำคัญ ผู้กองหนุ่มถามพร้อมกับหันไปทางผู้พันเกซาร์
จากรายงานนี่ไง ชายวัยกลางคนหยิบปึกเอกสารตรงหน้ายื่นให้ มือหนายื่นมือออกไปรับรายงานจากอีกฝ่าย แล้วเปิดอ่านอยู่ชั่วครู่ก่อนจะวางลงเงยหน้าขึ้นสบตากับเจ้าของรายงานแล้วเหยียดริมฝีปากเหมือนจะยิ้มแต่ไม่ใช่
ถ้านี่เป็นรายงานจากสายของผู้พัน ผมคิดว่าเจ้าสายคนนี้มันคงจะนั่งเทียนเขียนเป็นแน่ ท่านนายพลอ่านผลวิเคราะห์ของเตโชหรือยัง ชายหนุ่มปรายตามองเจ้าของรายงานพร้อมกับหันไปตั้งคำถามผู้นำสูงสุด
ผลวิเคราะห์อะไร? คนถูกถามจ้องอีกฝ่ายสีหน้าฉงน
ผลวิเคราะห์ถึงความสำคัญของฐานทัพเราที่พวกนั้นพยายามบุกเข้ายึดครอง ถ้าท่านนายพลถูกปิดหูปิดตาโดยรายงานพวกนี้ ท่านคงไม่ทราบว่าฐานที่มั่นตรงนั้นนอกจากจะเป็นพื้นที่ที่อุดมไปด้วยทรัพยากรธรรมชาติแล้ว มันยังเชื่อมเส้นทางสำคัญของเราและประเทศไทย อีกทั้งเป็นเส้นทางคาราวานสินค้าจากไทยไปสู่พม่า และเป็นเส้นทางขนสินค้าต้องห้ามจากพม่าสู่ไทย พื้นที่แม้ดูเหมือนเป็นแค่เพียงสนามรบระหว่างกองกำลังกลุ่มชาติพันธุ์กับกองทัพของรัฐบาล แต่ในความเป็นจริงแล้วมันเป็นตลาดการค้าระหว่างประเทศที่สำคัญยิ่ง นับว่าเป็นแหล่งรายได้ที่สำคัญของกองกำลังของเราเลยก็ว่าได้
ชายหนุ่มอธิบายไปตามความชำนาญในพื้นที่และเอกสารที่ได้รับจากน้องชาย
มันมีผลวิเคราะห์นั่นด้วยหรือ...เกซาร์ทำไมฉันไม่เคยรู้ คำถามที่มาพร้อมกับสายตาเคลือบแคลงสงสัยของผู้เป็นนายกำลังทำให้คนที่ต้องตอบเริ่มอึกอัก
ผมไม่ทราบว่าผู้กองพูดถึงเรื่องอะไร อีกอย่างเส้นทางคาราวานสินค้าสายสำคัญใครๆ ก็รู้ว่ามันอยู่ทางตอนเหนือไม่ใช่ที่นั่น ผู้พันเกซาร์บอกปัดดื้อๆ
ถ้าผู้พันไม่ทราบว่าผมกำลังพูดถึงอะไรมันก็คงไม่จำเป็นที่จะอธิบาย แต่ถ้าท่านนายพลข้องใจอยากทราบว่ามันคืออะไร ผมมีรายงานจากผลวิเคราะห์ของเตโช
ผู้กองหนุ่มหันไปทางคนติดตามที่ยืนสงบนิ่งอยู่ในที่ของตนพลางพยักหน้า ซาเยร์โค้งศีรษะรับคำสั่งของเจ้านายพร้อมกับดึงซองสีน้ำตาลเข้มออกมา ก่อนจะทำความเคารพวางเอกสารลงตรงหน้าเจ้านายแล้วถอยออกมา
เวลาผ่านไปราว 15 นาทีทุกคนในห้องประชุมเริ่มขยับตัวไปมาอย่างอึดอัด เพราะความเงียบกำลังเข้าครอบงำ นายพลวัย 50 ปลายๆ ใช้เวลาอีกชั่วครู่กับข้อมูลที่อัดแน่นอยู่ในมือ เมื่อเข้าใจว่าอะไรเป็นอะไรใบหน้าเคร่งขรึมค่อยๆ เปลี่ยนเป็นเคร่งเครียดก่อนจะปรับเป็นเรียบเฉย
ถ้าข้อมูลของเตโชเป็นเรื่องจริงเห็นทีเราคงต้องส่งกำลังไปเสริมให้เร็วที่สุด...อย่าให้พวกนั้นยึดฐานที่มั่นได้เด็ดขาด
ผมควรกลับไป ชยินเอ่ยขึ้นแทบจะทันทีเมื่ออีกฝ่ายพูดจบ
แกได้รับบาดเจ็บไม่ใช่หรือชยิน... คำถามที่สวนออกมาทันควันมีความห่วงใยปะปนอย่างเห็นได้ชัด แต่คนถูกถามกลับทำเฉย
ตอนนี้หายดีแล้ว...
เวลาแค่เดือนกว่าๆ แผลมันคงหายไม่สนิท เท่าที่รู้อาการของแกมันหนักไม่ใช่เล่นนี่ เอาเถอะอย่างไรจะส่งคนที่ไว้ใจได้ไปแทน ตอนนี้พ่อมีงานสำคัญให้แกไปจัดการ ขอเข้าเรื่องเลยก็แล้วกัน พอประเด็นสำคัญถูกหยิบยกบรรยากาศในห้องประชุมจึงกลับมาเงียบเชียบอีกครั้ง
สายของเรารายงานว่าฝ่ายนายพลลอซูกำลังมีแผนการใหญ่ เจ้านั่นสั่งอาวุธจากอเมริกาและนัดส่งของผ่านนายหน้าที่เป็นคนไทยโดยจะลำเลียงขนอาวุธตรงชายแดนไทย - พม่าแต่ยังไม่รู้จุดชัดเจน ถ้าอาวุธพวกนั้นถึงมือพวกมันเหตุการณ์คงนองเลือดมากกว่านี้
รายงานจากสายนั่นมันน่าเชื่อถือได้แค่ไหน เพราะผมคิดว่าการลำเลียงอาวุธผ่านชายแดนไทยมันไม่สามารถทำได้ง่ายๆ เพราะแน่ใจว่าเจ้าหน้าที่บ้านเมืองของทางการไทยตั้งด่านตรวจค้นสิ่งผิดกฎหมายอย่างเคร่งครัดในทุกเส้นทางผู้กองหนุ่มจึงแสดงความคิดเห็นออกไป
สายของเรารายงานว่านายหน้าคนนั้นมีอิทธิพลพอสมควร และที่สำคัญพวกนั้นยังคิดใช้ชื่อลูกสาวซึ่งอยู่ในพื้นที่เป็นใบเบิกทางในการเคลื่อนย้ายของ...น่าเสียดายที่ยังทันไม่รู้ว่าเธอชื่ออะไรสายคนนั้นก็ถูกเก็บเสียก่อน แต่ก็นับว่ายังเป็นโชคที่เจ้านั่นส่งรูปถ่ายของเธอมาก่อนจึงทำให้เรารู้ที่อยู่ของเป้าหมาย
มันหมายความว่ายังไง ชยินมองคนพูดสีหน้าไม่เข้าใจ
จากรายงานที่พอจับใจความได้ ทราบว่ามีหมอคนหนึ่งในพื้นที่เป็นลูกสาวของนายหน้าค้าอาวุธคนนั้น
แล้วมันเกี่ยวกันยังไง... นายพลสูงวัยปรายตามองใบหน้าคนถามแล้วเหยียดยิ้มก่อนจะเอ่ยเพียงสั้นๆ ว่า
เราจะใช้เธอเป็นตัวต่อรอง
ใช้ผู้หญิงเป็นตัวประกันเพื่อต่อรองมันไม่ใช่วิสัยของทหารหาญ...และยิ่งเธอเป็นหมอของไทยผมยิ่งไม่เห็นด้วย เพราะไม่อยากให้เราต้องเสี่ยงกับการแทรกแซงของกองทัพฝ่ายไทย ชยินมองหน้าผู้นำสูงสุดของหน่วยด้วยประกายตาเยือกเย็น
ก่อนแกมาถึงพวกเราได้มีมติเกี่ยวกับเรื่องนี้เรียบร้อยแล้ว ในที่ประชุมเห็นด้วยกับแผนนี้ทุกประการ และทุกคนให้ความเห็นว่าคนที่ต้องไปพาตัวเธอมาต่อรองกับอาวุธพวกนั้นก็คือแก คำพูดของนายพลสูงวัยแม้จะฟังดูเนิบๆ แต่ในกระแสเสียงกลับบ่งบอกถึงความเด็ดขาดเอาจริง
แต่... ผู้กองหนุ่มพูดได้แค่นั้นเพราะคำสั่งที่ตามมาติดๆ ไม่เปิดโอกาสให้เขาได้โต้แย้งใดๆ
แกไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธเพราะถ้าอาวุธถึงมือพวกนั้นเมื่อไรฝ่ายที่เสียเปรียบก็คงไม่พ้นเรา ชยินเราต้องพลิกผันเอาโอกาสที่มีมาเป็นข้อได้เปรียบ...และนี่คือบ้านพักของหมอคนนั้น หน้าที่ของแกคือต้องไปเอาตัวเธอมาให้ได้
นายพลสูงวัยพูดพลางยื่นรูปถ่ายขนาดเหมาะมือไปให้ ชายหนุ่มยื่นมือออกไปรับอย่างเสียไม่ได้ ใบหน้าคมเข้มหันไปจ้องหน้าคนพูดด้วยประกายตาไม่เห็นด้วยอย่างโจ่งแจ้ง ก่อนจะเบนกลับมามองรูปถ่ายในมือ...แล้วพ่นลมหายใจหนักๆ ออกมา
ดวงตาคมกล้าประดุจใบมีดโกนจ้องภาพบ้านพักหลังเล็กๆ ที่มีใบหน้าของใครคนหนึ่งพร่าเลือนอยู่ในนั้น แม้จะเห็นไม่ชัดเจนแต่เขากลับรับรู้ถึงสีหน้าที่แสดงถึงความเหนื่อยล้าแต่ทว่ามีความมุ่งมั่นเด็ดเดี่ยวของหญิงสาวในเสื้อกาวน์...และใบหน้านั้นกำลังทำให้เขาหวนนึกถึงตัวเอง...เขาและเธอต่างเดินอยู่บนถนนทางสายอุดมการณ์มีหน้าที่เป็นสิ่งสำคัญยิ่ง...เฮ้อ!...แล้วเขาจะทำอย่างไรดี
Create Date : 15 ธันวาคม 2554
Last Update : 15 ธันวาคม 2554 11:43:06 น.
7 comments
Counter : 564 Pageviews.
Share
Tweet
หลังจากเงียบหายไปนาน วันนี้อักษรานำตัวการที่ทำให้งานหยุดชะงักมาให้ยลโฉมกันค่ะ
น้องชื่อ เอมมี่ คลอดเมื่อวันที่ 3 พ.ย. 54 น้ำหนักแรกคลอดอยู่ที่ 2,590 ตอนนี้ปาเข้าไป 5 โล แล้วค่ะ สุขภาพแข็งแรงดี ตอนนี้อายุได้ 1 เดือนกับอีก 12 วันแล้วน้องเลี้ยงง่ายไม่ค่อยโยเย แต่กินเก่งมากช่วงนี้ต้องอาศัยจังหวะน้องหลับมาแอบปั่นนิยายให้แฟนๆ อ่าน จะพยายามอัพให้ได้ทุกวันถ้าวันไหนไม่ได้อัพหรือหายไปนานขอแจ้งไว้ก่อนนะคะว่าอุปสรรคคืออินเทอร์เน็ทที่บ้านเลเวลต่ำมากๆ ค่ะ
โดย:
sansook
วันที่: 15 ธันวาคม 2554 เวลา:12:31:42 น.
น้องน่ารักมากค่ะ ยินดีด้วยนะคะกับความรักอันยิ่งใหญ่นี้
โดย: pagai IP: 113.53.232.250 วันที่: 15 ธันวาคม 2554 เวลา:12:34:29 น.
ดีใจจังคุณเอ๋กลับมาแล้ว ยินดีด้วยนะค้า น้องน่ารักม๊ากกกกค่ะ จมูกงี้โด้วเฟี๊ยวเลยนะคะ
โดย: Vergo IP: 202.122.130.31 วันที่: 15 ธันวาคม 2554 เวลา:16:17:11 น.
สวัสดีครับคุณเอ๋
หลานเอมมี่หน้าตา ผิวพรรณผ่องใส อารมณ์ดี แล้วยังเลี้ยงง่ายไม่โยเย คงเป็นเพราะได้คุณแม่ที่เอาใจใส่ดูแลเป็นอย่างดี
ขอให้ทั้งแม่และลูกมีสุขภาพแข็งแรง และหลานเอมมี่ยอมให้เวลาคุณแม่เขียนหนังสือตามที่ต้องการครับ
ตอนนี้น้ำกับผม จากกันด้วยดีครับ นับเวลาหนึ่งเดือนเต็มๆ ก่อนจากไปก็อ้อยอิ่งกันอยู่นานครับ
โดย:
Insignia_Museum
วันที่: 15 ธันวาคม 2554 เวลา:20:40:13 น.
กรี๊ด น้องน่ารักจังค่ะ พอเห็นblogคุณอักษราอัพปั๊บ กรี๊ดดีใจมากเลยคร๊า
โดย: Kwanita IP: 115.87.203.24 วันที่: 17 ธันวาคม 2554 เวลา:13:00:32 น.
นางสาวไทยตัวน้อยของช้านนน ขออุ้มหน่อย
โดย: jee IP: 10.249.112.88, 182.255.9.34 วันที่: 20 ธันวาคม 2554 เวลา:10:28:03 น.
มาอุ้มที่โคราชค่ะป้าจี๋
โดย:
sansook
วันที่: 27 ธันวาคม 2554 เวลา:22:03:11 น.
ชื่อ :
Comment :
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
Pantip.com
|
PantipMarket.com
|
Pantown.com
| © 2004
BlogGang.com
allrights reserved.
น้องชื่อ เอมมี่ คลอดเมื่อวันที่ 3 พ.ย. 54 น้ำหนักแรกคลอดอยู่ที่ 2,590 ตอนนี้ปาเข้าไป 5 โล แล้วค่ะ สุขภาพแข็งแรงดี ตอนนี้อายุได้ 1 เดือนกับอีก 12 วันแล้วน้องเลี้ยงง่ายไม่ค่อยโยเย แต่กินเก่งมากช่วงนี้ต้องอาศัยจังหวะน้องหลับมาแอบปั่นนิยายให้แฟนๆ อ่าน จะพยายามอัพให้ได้ทุกวันถ้าวันไหนไม่ได้อัพหรือหายไปนานขอแจ้งไว้ก่อนนะคะว่าอุปสรรคคืออินเทอร์เน็ทที่บ้านเลเวลต่ำมากๆ ค่ะ