Bloggang.com : weblog for you and your gang
sansook
Location :
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 40 คน [
?
]
โค้ดนี้เป็นภาพพื้นหลังนำไปวางที่ช่อง Script Area ค่ะ https://youtu.be/K2vg5yDgVX4
Group Blog
สรุป พ.ร.บ.
ความรู้ทั่วไป
ทักทาย
นานาสาระ
วิเคราะห์นะจ๊ะ
ดูดวงกันเถอะ
เก็บมาฝาก
สรุปภาษาไทย
ความรักแม่เอ๊ย
แนวข้อสอบ
แบบทดสอบจิตวิทยา
แนวคิด และมุมมอง
เรื่องเล่า
เคล็ดลับความสวย
เรียงร้อยเรื่องราว
กฎหมายน่ารู้
งาน งาน งาน
รักษาสุขภาพกันเถอะ
เคล็ดลับดีๆ
สรุปแนวข้อสอบหลักสูตรประถมศึกษา
เชิญชวนสู่ธรรมมะ
ฮวงจุ้ยน่ารู้
เมื่อจิตนาการบังเกิด
อสูรพ่ายรัก
แนะนำผลงาน
เรือนรัก - นางรอ
เงาแปร
บรรยากาศสละคาน
คลังข้อสอบ
ดวงไฟในมือมาร
เหลี่ยมรักทรชน
ยั่วรักพยัคฆ์ร้าย
สามนารี
นิยายชุด ภารกิจรัก เรื่องเหนี่ยวหัวใจสุดไกปืน
เกี่ยวกับบริหารงานบุคคลท้องถิ่น
เล่ห์วิวาห์มาเฟีย
ละครเหนี่ยวหัวใจสุดไกปืน
ทวงใจสุดปลายฟ้า
อีบุคสุดแซ่บ
<<
ธันวาคม 2554
>>
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
27 ธันวาคม 2554
ตอนที่ ๑๐ ข้อต่อรอง
ตอนที่ ๙ เดินหน้า
All Blogs
ตอนที่ ๒๔ คืนอำนาจ
ตอนที่ ๒๓ กับดัก
ตอนที่ ๒๒ วัดใจ
ตอนที่ ๒๑ หนอนบ่อนไส้
ตอนที่ ๒๐ ทางเลือกเพื่อทางรอด
ตอนที่ ๑๙ ผู้นำสาร
ตอนที่ ๑๘ ทีใครทีมัน
ตอนที่ ๑๗ คู่วิวาท
ตอนที่ ๑๖ ความเห็นที่แตกต่าง
ตอนที่ ๑๕ ส่งสาร
ตอนที่ ๑๔ โยนหินถามทาง
ตอนที่ ๑๓ ขิงก็ราข่าก็แรง
ตอนที่ ๑๒ เผชิญหน้า
ตอนที่ ๑๑ แทรกซึมสู่เป้าหมาย
ตอนที่ ๑๐ ข้อต่อรอง
ตอนที่ ๙ เดินหน้า
ตอนที่ ๘ ภารกิจ
ตอนที่ ๗ มารผจญ
ตอนที่ ๖ สายใยครอบครัว
ตอนที่ ๕ ทางตัน
ตอนที่ ๔ ชิงตัว
ตอนที่ ๓ หน้าที่กับความขัดแย้ง
ตอนที่ ๒ ถนนสายอุดมการณ์
ตอนที่ ๑ ทางเส้นขนาน
Friends' blogs
sansook
Chulapinan
baby_15
ไร่ปลายตะวัน
lovers
ge-or-ge
โมกสีเงิน
tingnoy
พลังชีวิต
Mr.Terran
hangclub
nirin_18
คนผ่านทางมาเจอ
patra_vet
ซ่อนรอยยิ้ม
นิยายฝันหวาน
ป้ามด
รำเพย
นิชนันท์
วัตตรา
Insignia_Museum
Baan_Bualoy
ooseabubbleoo
literature
bigger
ใยไหมเจ้าค่ะ
super novel
นัทธ์
Webmaster - BlogGang
[Add sansook's blog to your web]
Links
BlogGang.com
ตอนที่ ๙ เดินหน้า
ชายกลางคนในเครื่องแต่งกายภูมิฐานจ้องท่าทางร้อนรนของสตรีที่กำลังผุดลุกผุดนั่ง เดินวกไปวนมาอยู่ภายในห้องนั่งเล่นแล้วพ่นลมหายใจออกมา ก่อนจะเบนไปยังโทรศัพท์เครื่องเล็กที่แผดเสียงขึ้น แต่ก่อนจะเอื้อมมือไปหยิบ มือเรียวของภรรยาก็คว้าหมับและกรอกเสียงทักทาย
สวัสดีค่ะคุณพี่...ทางโน้นเขาว่าอย่างไรบ้างคะ คำถามร้อนรนที่ดังขึ้นทำให้เขาหยุดสายตาอยู่ที่ใบหน้าของภรรยา
น้องร้อนใจจะแย่อยู่แล้ว...ป่านนี้ยายหนูจะเป็นอย่างไรบ้างก็ไม่รู้
แม้ไม่ทราบว่าอีกคนตอบกลับมาอย่างไร แต่น้ำเสียงที่สั่นเครือจนรับรู้ถึงความห่วงใยระคนหวาดหวั่นของคนพูดที่เอ่ยกลับไปก็ทำให้พอเดาได้ว่าคนที่อยู่อีกฟากคงยังไม่มีคำตอบที่ชัดเจน
ใจเย็นๆ ตากรัณย์โทรมาบอกข่าวคืบหน้าแล้วว่า ตอนนี้กำลังคุยรายละเอียดกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงของกองทัพ เห็นบอกว่ารอเพื่อนอยู่หากมาถึงก็จะออกเดินทางไปตากทันที
ตากรัณย์จะลงพื้นที่เองเลยหรือคะคุณพี่...ได้ยินอย่างนี้แล้วน้องค่อยเบาใจขึ้นมาหน่อย
ใบหน้าที่นิ่วเพราะความกังวลใจมาหลายสิบนาทีเริ่มผ่อนคลาย แม้สิ่งได้ยินจะไม่ได้ให้ความหวังอะไรมากนัก แต่เธอก็นึกเบาใจเพราะอย่างน้อยคนที่กำลังออกตามหาบุตรีก็เป็นบุคคลที่ไว้ใจได้
วลัยพรรณหันไปมองหน้าสามีซึ่งจ้องเขม็งมาที่ตนแล้วเสมองไปทางอื่น ก่อนจะพาเรือนร่างสะโอดสะองเพราะเจ้าของเอาใจใส่ไม่ให้ร่วงโรยหรือเปลี่ยนผันไปตามกาลเวลากลับมาทรุดนั่งลงบนโซฟา เธอยังคงพูดคุยกับคนที่อยู่ปลายสายอีกพักใหญ่ จนกระทั่งอีกฝ่ายเห็นว่าสมควรแก่เวลาจึงเอ่ยตัดบท
ทำใจให้สบายนะวลัย กรัณย์รับปากไว้เป็นมั่นเป็นเหมาะว่าอย่างไรก็จะพาน้องกลับมาให้ได้ เราทุกคนต่างก็ห่วงนภัสกันทั้งนั้น เอาล่ะถ้ามีข่าวอะไรคืบหน้าพี่จะรีบโทรมาบอก แค่นี้นะ
ขอบคุณค่ะคุณพี่ สวัสดีค่ะ
มือเรียวกดปิดเครื่องมือสื่อสารวางลงบนโต๊ะเงยหน้ามองสามีที่จ้องอยู่ก่อนแล้ว พร้อมเอ่ยขึ้นเบาๆ ว่า
คุณพี่บอกว่าตอนนี้ตากรัณย์กำลังเดินทางไปแม่สอด
กรัณย์จะลงพื้นที่ด้วยตัวเองเลยหรือ...
เห็นว่าอย่างนั้นนะคะ แล้วทางนี้ล่ะดำเนินการไปถึงไหนแล้ว น้องไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเรื่องแบบนี้มันจะเกิดขึ้นกับเรา ยายหนูอยู่ทางโน้นน้องก็กำชับเจ้าหน้าที่ระดับสูงในพื้นที่ให้สอดส่องเป็นหูเป็นตาขนาดย้ำนักย้ำหนาว่าจะต้องอารักขาอย่างใกล้ชิด แต่ดูสิดูลูกทั้งคนพวกนั้นยังปล่อยให้ใครก็ไม่รู้มาฉกไป...โธ่ยายหนูลูกแม่ป่านนี้จะเป็นอย่างไรบ้างก็ไม่รู้...เป็นเพราะคุณพี่นั่นแหละไม่รู้จักห้ามลูกโรงพยาบาลในเมืองมีเป็นร้อยเป็นพันทำไม๊ทำไมถึงสนับสนุนให้ลูกไปอยู่ชายแดน...
คนที่กำลังจะตอบคำถามในหัวข้อแรกถึงกับอ้าปากไม่ขึ้น นอกจากร้อง...อ้าวอยู่ในใจ...เมื่อภรรยาสุดที่รักเล่นถามแต่ไม่ยักรอคำตอบ ก่อนจะเปรยออกมาฉอดๆ แล้วตบท้ายด้วยการโยนความผิดให้เขาเต็มๆ
ว่าไงคะทางสถานทูตดำเนินการอะไรไปบ้างแล้ว
พอคำถามที่ถูกพัดหายไปวกกลับมาใหม่อีกครั้ง คนที่นั่งมึนงงกับอารมณ์ของภรรยาก็ถึงกับทำหน้าไม่ถูก นอกจากตอบเสียงแผ่วๆ
ตอนนี้ทางสถานทูตได้ประสานไปยังกองทัพของพม่าแล้ว เห็นว่าทางกองทัพจัดทีมเจ้าหน้าที่ฝีมือดีที่สุดของหน่วยออกช่วยเหลือ โดยจะมีเจ้าหน้าที่จากหน่วยรบพิเศษของไทยเข้าร่วมอยู่ในทีมด้วย
น้องอยากจะรู้นักว่าใครหน้าไหนมันกล้ามาแตะลูกของเรา
ถ้าพวกเขาส่งข่าวมาบ้างก็คงดี อย่างน้อยก็จะได้รู้ความต้องการของพวกนั้น แต่นี่ทุกอย่างเงียบเชียบแบบนี้เราก็คงทำได้แค่รอ...
แล้วเราจะต้องรอถึงเมื่อไหร่กัน คุณพี่ก็เหลือเกินลูกหายไปทั้งคนแต่ยังทำเป็นทองไม่รู้ร้อนอยู่ได้...น้องถามจริงๆ เถอะคุณพี่ไปขัดแข้งขัดขากับพวกคนใหญ่คนโตเขาหรือเปล่า...
ท่านทูตผู้มีแต่ความรอมชอมอยู่ในจิตวิญญาณถึงกับปรับอารมณ์ตามคนที่กำลังโยงทุกอย่างให้เป็นความผิดของเขาแทบไม่ทัน ก่อนจะลอบถอนใจ...แล้วเอ่ยเพียงสั้นๆ ว่า
ใจผมก็ร้อนเป็นไฟเหมือนกันนั่นแหละคุณวลัย
แน่ใจเหรอคะน้องเห็นคุณพี่ได้แต่นั่งเฉยๆ ไม่ยักตื่นเต้นตื่นตูมอย่างคนอื่นเขา
การที่ผมนิ่งไม่ได้แปลว่าผมไม่เดือดเนื้อร้อนใจ แต่จะให้ผมลุกขึ้นโหวกเหวกโวยวายวิ่งพล่านเหมือนกระต่ายตื่นตูมมันคงไม่ทำให้อะไรดีขึ้นมา เวลานี้เราทำได้แค่เพียงประสานไปยังหน่วยงานที่เขามีความชำนาญทั้งพื้นที่และการวิเคราะห์เพื่อประเมินสถานการณ์ เราจำเป็นต้องรอและอดทนกับการรอคอยนั้นด้วย
ทำไมจะต้องอดทนนี่มันไม่ใช่สถานการณ์ด้านการเมืองระหว่างประเทศที่เราจะต้องรอมชอม เวลานี้มันเป็นเรื่องคอขาดบาดตายลูกถูกใครไม่รู้จับตัวไป...เป็นตายอย่างไรก็ไม่รู้...น้องเป็นห่วงลูกเข้าใจไหมคะ
พอสิ้นเสียงน้ำตาของคนพูดก็พรั่งพรูออกมา เมื่อเห็นภรรยาร่ำไห้คนเป็นสามีจึงเดินไปทรุดลงเคียงข้างดึงคนที่กำลังสะอึกสะอื้นเข้ามาสวมกอดแล้วปลอบโยน
ผมรู้ว่าคุณห่วงลูกส่วนผมก็เป็นห่วงไม่ต่างกัน แต่เวลานี้เราทำอะไรไม่ได้นอกจากรอคอยเข้าใจใช่ไหมคุณวลัย ตอนนี้ทางการไทยก็ไม่ได้นิ่งนอนใจทุกฝ่ายทำงานกันอย่างหนัก เจ้าหน้าที่ต่างให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ อีกอย่างกรัณย์ก็เข้าร่วมภารกิจนี้ด้วยไม่ใช่หรือ ผมเชื่อว่าลูกเราเป็นคนดีและคุณงามความดีรวมถึงบุญกุศลที่เราสองคนได้กระทำมาจะต้องปกปักรักษาคุ้มครองยายหนูให้แคล้วคลาดปลอดภัย...ทำใจให้สบายอย่าคิดอะไรที่เป็นภัยกับสุขภาพ...
ดวงหน้าที่อาบรื้อไปด้วยหยาดน้ำตาเงยมองใบหน้าเคร่งขรึมของสามีก่อนจะนั่งตรึกตรองอยู่ชั่วครู่ เมื่อสำนึกได้ว่าเวลานี้ทุกฝ่ายต่างก็ระดมทั้งกำลังและมันสมองเพื่อออกตามหาบุตรี คนที่ห่วงลูกจนลืมตัวก็พยักหน้าน้อยๆ
หากเป็นเช่นนั้นน้องขอให้คุณพระศรีรัตนตรัยและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ช่วยปกปักรักษาคุ้มครองยายหนูให้ปลอดภัยด้วยเถิด
สองสามีภรรยาจ้องหน้ากันและกันด้วยความหวังที่ยังคงริบหรี่ แม้ทุกอย่างจะยังคงมืดมนแต่ในความมืดมิดนั้นพวกเขาก็ยังหวังว่าจะมีแสงสว่างสอดส่องเข้ามานำทางให้ทุกอย่างแจ้งกระจ่างในเร็ววัน
เฮลิคอปเตอร์ร่อนลงจอดบนทุ่งโล่งอย่างนุ่มนวล พอเท้าแตะพื้นดินภูริชจึงก้าวเข้าไปรายงานตัวกับคนที่ยืนรอรับทันที
เมื่อรายงานตัวกับหัวหน้าทีม ร้อยเอกภูริชและนายเรืออากาศเอกกรัณย์จึงเดินตามนายทหารรุ่นใหญ่และเพื่อนร่วมทีมอีกนับสิบนายเข้าไปยังเต้นท์ชั่วคราวเพื่อรับทราบภารกิจของตน โดยมีผู้นำระดับสูงในพื้นที่เป็นผู้อธิบายแผนการทั้งหมดอย่างละเอียด เมื่อเข้าใจว่าหน้าที่ของตนคืออะไร ภารกิจที่มีชีวิตของแพทย์หญิงถึงสองคนอยู่ในความรับผิดชอบก็เริ่มเดินหน้าในอีกหนึ่งชั่วโมงต่อมา
ฉันจะรอนายอยู่ที่ค่ายทหารพม่า...พานภัสกลับมาให้ได้นะเพื่อน กรัณย์วางมือลงบนบ่าแข็งแรงของเพื่อนรักแล้วตบด้วยจังหวะหนักหน่วงเมื่อเดินมาถึงจุดนัดหมายระหว่างรอผู้นำทาง
ฉันว่านายเอาฮอบินไปรับเธอที่ค่ายพวกมันไม่ดีกว่าเหรอ ภูริชยังมีแก่ใจกระเซ้าเพื่อน
ฉันไม่บ้าเลือดขนาดขับเครื่องบินของกองทัพไปโฉบเป็นเป้างามๆ ให้ไอ้พวกนั้นมันล็อกเป้าเล่นหรอกน่า...
ประสบการณ์ครั้งหนึ่งในชีวิตเลยนะกรัณย์...ฉันว่าน่าสนออก
ไอ้น่าสนมันก็น่าสนอยู่หรอก แต่ฉันว่าตอนนี้นายไปทำหน้าที่...ไอ้ม่องเท่งให้มันเรียบร้อยก่อนเถอะ...ประสบการณ์แฝงเข้าไปเสี่ยงในค่ายของกะเหรี่ยงที่มีทั้งระเบิดและฝ่าตีนนับไม่ถ้วนแบบนี้มันก็เป็นครั้งหนึ่งในชีวิตของนายเหมือนกันไม่ใช่เหรอ
ฉันชื่อ...มองเทร์...เป็นทหารกะเหรี่ยงที่ปราดเปรื่องในทุกๆ เรื่อง...เรียกซะเป็นมงคลเลยไอ้เพื่อนเวร
เออนั่นแหละ...ม่องเท่งหรือมองเทร์มันก็เหมือนๆ กัน...ขอให้แกปลอดภัยนะริช...ฉันจะรออยู่ที่ค่าย...
ฉันจะพาเธอไปที่นั่นให้ได้...และสาบานว่าจะไม่ให้เธอเป็นอะไรแม้ปลายก้อย...
ร้อยเอกหน้าเข้มตบต้นแขนเพื่อนด้วยจังหวะหนักหน่วงไม่ต่างกัน พร้อมให้คำมั่นสัญญาอย่างหนักแน่น ก่อนหมุนตัวเดินลงจากเนินเขาขนาดย่อมหายลับเข้าแนวป่าไปกับผู้นำทาง ซึ่งเป็นทหารพม่าที่แทรกซึมอยู่ในชุมชนกะเหรี่ยงอีกสามนาย
กรัณย์มองตามร่างสูงใหญ่ของเพื่อนไปด้วยความรู้สึกที่เปี่ยมไปด้วยความหวัง เขาหวังว่าหากภูริช กลับมาอีกครั้งข้างร่างสูงใหญ่แข็งแกร่งนั่นจะมีหญิงสาวที่มีความสำคัญต่อทุกคนในครอบครัวเดินเคียงคู่กลับมาด้วย...
ขณะภูริชกำลังมุ่งหน้าทำตามภารกิจที่ได้รับมอบหมายด้วยความมุ่งมั่น ณ กระท่อมหลังเล็กในค่ายทหารกะเหรี่ยงแพทย์หญิงทั้งสองต่างนั่งหวาดผวากับชะตากรรมของตัวเอง
เพราะหลังจากฟื้นคืนสตินภัสชลกับวริสาก็ต้องโผเข้าหากันด้วยความตื่นตระหนกเมื่อพบว่าตัวเองถูกขังอยู่ภายในกระท่อมหลังเล็กๆ ก่อนจะกวาดตามองไปรอบๆ อย่างหวาดระแวงพร้อมกับเงี่ยหูฟังเพราะได้ยินเสียงคนคุยกันอยู่หน้ากระท่อม
แพทย์หญิงทั้งสองนั่งลำดับเหตุการณ์อยู่เป็นนานกว่าจะรู้ว่าอะไรเป็นอะไร แม้จะขวัญเสียกับสิ่งที่กำลังเผชิญแต่พวกเธอต่างก็มีสติที่จะนิ่งคิดและประเมินสถานการณ์อยู่เงียบๆ ว่าควรจะทำอย่างไรอีกทั้งพยายามคิดวิธีหาทางรอดให้ตัวเอง มากกว่าจะโหวกเหวกโวยวายให้เสียขวัญ
ทั้งสองถูกขังอยู่ภายในกระท่อมหลังเล็กมานับสองวัน โดยไม่มีใครเยี่ยมกรายเข้ามาแจ้งจุดประสงค์ว่าต้องการอะไร นอกจากตอนเช้าของทุกวันจะมีหญิงสาวอายุราว 20 ต้นๆ เป็นชาวกะเหรี่ยงพอพูดภาษาไทยได้จึงสื่อสารกันได้แม้จะรู้เรื่องบ้างไม่รู้เรื่องบ้างก็ตามที
ทุกเช้าและเย็นหญิงสาวชาวกะเหรี่ยง ชื่อลาแอร์จะพาพวกเธอไปยังลำธารซึ่งอยู่ถัดจากเนินขนาดย่อมห่างจากกระท่อมไปราว 300 เมตรเพื่อชำระร่างกายโดยมีทหารหน้าตาถมึงทึงถือปืนคุ้มกันอยู่ห่างๆ และนำอาหารเข้ามาส่งให้ครบทั้ง 3 มื้อ
ทุกอย่างยังคงวนเวียนอยู่ซ้ำซากราวกับมันเป็นวัฏจักร จวบจนย่างเข้าวันที่สามหลังจัดการธุระส่วนตัวและทานอาหารเช้า ช่วงสายของวันนั้นอยู่ๆ ก็มีคนมาพาตัววริสาออกไปราวสามสิบนาทีก่อนจะพากลับมาส่ง แม้จะไม่มีเหตุการณ์ร้ายแรงเกิดขึ้นแต่สิ่งที่ทำให้นภัสชลเกิดความกังวลใจก็คือ เพื่อนที่เคยช่างพูดดูเงียบขรึมจนผิดสังเกต
นภัสชลเหลือบมองใบหน้าอิดโรยของเพื่อนที่นั่งเงียบมานับชั่วโมง หลังถูกนำตัวกลับจากเรือนหลังใหญ่บ่อยครั้งแต่ อีกฝ่ายกลับนั่งนิ่งราวกำลังครุ่นคิดเรื่องอะไรสักอย่างอยู่ในใจ
ลีมีอะไรหรือเปล่า...คนพวกนั้นทำอะไรเธอไหม
เมื่ออดไม่ได้นภัสชลจึงเอ่ยขึ้นเพราะนึกห่วงใยกับอาการแปลกไปของเพื่อน แต่คำตอบที่ได้มีเพียงใบหน้าที่ส่ายไปมาช้าๆ พร้อมกับดวงตาเหม่อลอยจนน่าสงสัยเท่านั้น
เขาบอกไหมว่าต้องการอะไร วริสาพยักหน้าแทนคำตอบ
เขาต้องการอะไรงั้นเหรอ
ร่างเพรียวบางโผเข้าไปแล้วใช้มือเขย่าแขนของเพื่อน พร้อมคำถามที่แสดงความกระตือรือร้นอยู่ในที
เราละอายเกินกว่าจะบอก คนพูดเงยหน้าจ้องใบหน้าเรียวหวานของเพื่อนที่ขมวดคิ้วจนยุ่งเหยิง ก่อนจะเสไปทางประตูแล้วถอนใจลึก
เราไม่เข้าใจ...ลีถ้าสิ่งที่คาใจเธออยู่มันหนักมากก็ปล่อยออกมาเถอะเราเป็นเพื่อนกันนะ
พอเห็นดวงตาของเพื่อนรักดูเหม่อลอยพิกล นภัสชลจึงทรุดนั่งลงเคียงข้างก่อนยื่นหน้าเข้าไปใกล้ๆ
มาจ้องหน้าเราทำไม
สีหน้าลีดูไม่ดีเราก็เป็นห่วงน่ะสิ
เราแค่กำลังใช้ความคิด...เฮ้อ...มันสับสนน่ะ...เรื่องที่รบกวนจิตใจเรามีทั้งดีและร้าย
มันมีทั้งดีและร้ายเชียวหรือ... วริสาพยักหน้าน้อยๆ แล้วพ่นลมหายใจครั้งที่ร้อยออกมา
ใช่...เรากลัวว่าถ้าเธอรู้ความจริงบางที...ความรู้สึกดีๆ ที่เคยมีให้อาจจะเปลี่ยนแปลงไปและสุดท้ายแม้แต่ความเป็นเพื่อนก็อาจจะไม่เหลือให้กับเรา
ทำไมเธอพูดแบบนั้นล่ะลี...เราสองคนคบหากันมานานเราเรียนแพทย์มาด้วยกัน...พอเลือกที่บรรจุด้วยอุดมการณ์อันแน่วแน่ที่มีไม่ต่างกันเราจึงเลือกมาทำงานที่นี่...พวกเราเป็นเพื่อนกันนะลีต่อให้มีอะไรเกิดขึ้นยังไงความเป็นเพื่อนก็ยังอยู่
แม้จะงุนงงกับคำพูดและท่าทางแปลกๆ ของอีกฝ่ายแต่นภัสชลก็ยังแสดงถึงความจริงใจที่มีต่อเพื่อน...ทั้งยืนยันว่าไม่มีอะไรมาทำลายคำว่ามิตรภาพให้สิ้นสุดลงได้
เธอมองเห็นแต่ด้านปกติของเรา...มองว่าเราทำงานนี้เพราะอุดมการณ์...มองว่าสิ่งที่เราทุ่มเทคือการทำเพื่อมนุษยธรรม...แต่รู้ไหม...ในความเป็นจริงมันไม่ใช่เลยเราไม่ได้เป็นคนดีอะไรถึงขนาดนั้นหรอก
และคำพูดที่ปนมากับเสียงถอนใจยาวก็ทำให้คนฟังถึงกับงงหนักเข้าไปอีก
เราไม่เข้าใจ เธอบอกเสียงแผ่วพลางส่ายหน้าไปมา
เราขอโทษที่พาเธอมาเดือดร้อนด้วย...
ลีมีอะไรก็บอกมาเถอะ...เรางงไปหมดแล้ว วริสาเม้มปากแน่นก่อนจะคลายออกแล้วบอกสิ่งที่เก็บงำอยู่ในใจออกมา
คนพวกนี้ต้องการตัวเรา...ตอนแรกเขาไม่รู้ว่าใครเป็นใครเลยจับมาทั้งสองคนเพียงเพราะเราพักอยู่ด้วยกัน หญิงสาวยกมือขึ้นห้ามเมื่อเห็นอีกคนทำท่าจะขยับปากถามแล้วเริ่มเล่าต่อ
พวกนั้นต้องการตัวเราไปต่อรองกับคุณพ่อ... นภัสชลที่กำลังจะอ้าปากถามว่าต่อรองเรื่องอะไรถึงกับอ้าค้างอีกครั้ง เมื่อคำตอบที่เธอต้องการทราบหลุดออกมาก่อน
พวกนั้นต้องการอาวุธที่คุณพ่อกำลังจะเอาไปส่งให้ลูกค้า...ซึ่งเป็นฝ่ายตรงข้ามกับพวกเขา วริสาหลับตาถอนใจลึกเหมือนกำลังลังเลแต่ก็เลือกพูดต่อ
เรารู้ว่าพ่อเป็นนายหน้าค้าอาวุธเถื่อนมานานแล้ว แม้ทราบว่ามันเป็นเรื่องผิดกฎหมาย ผิดศีลธรรม แต่เราก็ไม่มีปัญญาห้ามปราม ใครๆ ต่างก็มองว่าเราเป็นคุณหนูมีชีวิตที่สุขสบาย แต่เบื้องลึกไม่มีใครเข้าใจหรอกว่าการเกิดอยู่บนกองเงินกองทองที่ต้องแลกกับเลือดเนื้อและชีวิตของคนอีกมากมายซึ่งเราไม่รู้ว่าเป็นใครมันน่าอดสูขนาดไหน
แต่มันไม่ใช่ความผิดของเธอนี่ มันเป็นเรื่องของผู้ใหญ่
แม้จะตกใจกับเรื่องราวที่เพิ่งได้ยินแต่นภัสชลก็ยังคงมีความปรารถนาดีต่อเพื่อนไม่เปลี่ยนแปลง
แล้วมันต่างกันตรงไหนล่ะ...ถึงเราจะไม่ผิดแต่ก็อดรู้สึกผิดกับงานของพ่อไม่ได้ หลายครั้งที่เราพยายามพูดให้ท่านเลิก แต่งานแบบนี้มันก็เหมือนคนกระโดดขึ้นหลังเสือนั่นแหละ จะลงก็ลงยากนอกจากทำไปจนตายหรือยอมตายเมื่อคิดอยากเลิก เมื่อทำอะไรไม่ได้จึงคิดว่าตัวเองควรทำอะไรเพื่อช่วยลดความผิดบาปของท่าน หลังจากนั้นเราจึงตั้งใจเรียนและพยายามสอบเข้าคณะแพทย์ให้ได้ และคิดอยู่เสมอว่าหากเรียนจบจะขอมาอยู่ชายแดนเพื่อช่วยเหลือคนที่อาจเป็นเหยื่อของอาวุธพวกนั้น
คำบอกเล่าของวริสายังคงพรั่งพรูออกมาพร้อมๆ กับเสียงพ่นลมหายใจหนักๆ ไม่ขาดสาย
อย่าคิดอะไรมากเลยลี...ทุกอย่างเรากลับไปแก้ไขไม่ได้ เธอปลอบเพื่อนเสียงเครือเพราะรู้สึกเห็นใจมากกว่าคิดรังเกียจ
เธอไม่รังเกียจที่เรามีพ่อเป็นอาชญากรหรือณภัส... เพราะบิดามีหน้าที่การงานที่แตกต่างจากบิดาของเพื่อนกันราวฟ้ากับดินจึงทำให้วริสาอดถามขึ้นไม่ได้
เราจะไปรังเกียจเธอทำไม...เรื่องครอบครัวก็เป็นเรื่องหนึ่ง...เราเป็นเพื่อนกันก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง...จะเอามาปะปนกันได้อย่างไร...อีกอย่างแม้คุณพ่อของลีท่านจะทำเรื่องผิดกฎหมายมันก็เป็นเรื่องของท่าน บางครั้งผู้ใหญ่ก็มีเหตุผลที่เรายากจะเข้าใจปล่อยให้มันเป็นเรื่องของท่านเถอะอย่าเอามาคิดให้ปวดหัวเลย
แต่เรื่องของท่านกำลังทำให้เธอซึ่งที่ไม่เกี่ยวข้องด้วยต้องมารับความเดือดร้อนนะ ป่านนี้คุณลุงกับคุณป้าคงร้อนใจที่เธอหายตัวไปแบบนี้ วริสามองหน้าเพื่อนอย่างสำนึกในความผิด
ช่างมันเถอะ...เราแก้ไขอะไรไม่ได้นี่นา...อีกอย่างคนพวกนี้ก็ไม่ได้แสดงท่าทีว่าจะทำอันตราย อยู่ไปสักพักพอได้ในสิ่งที่ต้องการเขาคงปล่อยพวกเรากลับไปเองนั่นแหละ นภัสชลยิ้มน้อยๆ พร้อมกับพูดปลอบใจตัวเอง
เราขอให้พวกนั้นรีบพาณภัสกลับไปส่งและบอกด้วยว่าเธอเป็นใคร พอรู้ก็หน้าเครียดกันใหญ่คงตกใจไม่น้อย
โอย...ไม่ได้หรอกจะให้พวกเขาปล่อยเรากลับไปคนเดียวได้ยังไง...มาด้วยกันก็ต้องกลับไปด้วยกันสิ
ไม่ได้หรอกเรื่องนี้มันเป็นเรื่องของเรากับพวกเขาอย่ามาเสี่ยงด้วยเลย อีกอย่างหากมีอันตรายเกิดขึ้นกับเธอเราคงรู้สึกผิดไปจนวันตาย คนพูดส่ายหน้าไปมาเมื่อเห็นท่าทางดื้อดึงของเพื่อนรัก
เวลานี้มันไม่มีเรื่องของใครหรอกนะลี...อยู่ก็ต้องอยู่ด้วยกันไปก็ต้องไปด้วยกันเธอบอกว่าคนพวกนั้นต้องการต่อรองเรื่องอาวุธไม่ใช่เหรอ...บางทีหากพวกเขาได้สิ่งที่ต้องการทุกอย่างอาจจะดีขึ้นก็ได้...แล้วท่าทีพวกนั้นเป็นอย่างไรบ้าง
เท่าที่เห็นพวกเขาดูเหมือนทหารมากกว่าโจร คนเป็นหัวหน้าพูดไทยชัดมากท่าทางน่าเกรงขามมีเหตุมีผล ตางี้ดุอย่างกับมีดโกนแน่ะแต่หล่อชะมัด อ้อเราเห็นมีผู้ชายอีกคนท่าทางไม่น่าใช่ทหารแต่งตัวสะอาดสะอ้านดูมีความรู้เวลาพูดน้ำเสียงไม่ดุดันเหมือนอีกคนพูดจามีหลักการเชียวล่ะ
แล้วคนอื่นล่ะ คนถูกถามนิ่งไปชั่วครู่เหมือนกำลังใช้ความคิด
คนอื่นๆ เท่าที่เห็นก็เหมือนคนที่เฝ้าพวกเรานั่นแหละ ออกจากนี่เดินตัดกระท่อมอีกหลังไปทางฝั่งขวาราวสองร้อยเมตรเราเห็นเรือนพยาบาลมีทหารอยู่กันพลุกพล่าน ทหารบางคนมีหนวดเครารุงรังเห็นแล้วน่าผวา ถัดออกไปรอบๆ เป็นหมู่บ้านเท่าที่สังเกตเห็นมีชาวบ้านอยู่กันหนาตาดูจากเสื้อผ้าที่พวกเขาสวมรวมถึงภาษาที่ใช้น่าจะเป็นชาวกะเหรี่ยง
อืม...บางทีอาจจะเป็นหมู่บ้านของลาแอร์...
คงใช่เพราะตอนขากลับเราได้ยินเขาชี้ไปที่หมู่บ้านแล้วสั่งอะไรบางอย่างกับคนของเขาไม่นานลาแอร์ก็มา...อ้อเราก็ได้ยินลาแอร์เรียกเขาว่าผู้กองยินๆ อะไรสักอย่างนี่แหละ...พูดแล้วใจเต้นเกิดมาเพิ่งเห็นกะเหรี่ยงหล่อก็วันนี้ นภัสชลมองดวงตาวับวามของเพื่อนแล้วยิ้มน้อยๆ
อย่าบอกนะว่าเธอกำลังตกหลุมรักคนป่าพวกนี้...ไม่ตลกเลย
จะบ้าเรอะ...ใครจะไปหน้ามืดตกหลุมรักคนที่ไม่มีอนาคตกัน ตอนนี้เราอยู่ในป่าในดงกับคนหน้าโจรเป็นโขยงเจอคนหน้าตาดีๆ เราก็แค่เก็บมาชื่นชมมันผิดตรงไหนยะ
นภัสชลมองท่าทางค้อนขวับของเพื่อนแล้วหัวเราะออกมา แม้จะไม่สบายใจกับสิ่งที่ได้ยินแต่พอเห็นท่าทางของเพื่อนกลับมาร่าเริงอีกครั้งเธอจึงพยักหน้าเออออ และถอยกลับไปนั่งที่เตียงของตนทอดสายตามองบานประตูแล้วผ่อนลมหายใจ แม้ไม่รู้ว่าจะหาทางหลบหนีไปจากที่นี่ด้วยวิธีไหน แต่พอทราบจุดประสงค์ของคนพวกนั้นรวมถึงท่าทีของเพื่อนเธอก็รู้สึกเบาใจขึ้น
เพราะอย่างน้อยคนพวกนั้นก็ไม่ได้มีท่าทีที่แสดงว่าเป็นอันตรายกับพวกเธอ...เท่าที่ฟังและประเมินจากสถานการณ์เธอจึงมีความหวังอยู่ลึกๆ ว่าหากมีโอกาสได้พูดคุยกับคนที่วริสาเอ่ยถึง...บางทีพวกเธออาจจะได้กลับบ้านในเร็ววัน
Create Date : 27 ธันวาคม 2554
Last Update : 27 ธันวาคม 2554 22:07:34 น.
2 comments
Counter : 414 Pageviews.
Share
Tweet
หลังจากเนทล่มไม่เป็นท่ามาหลายวัน วันนี้เข้าได้เลยรีบมาอัพให้ในระหว่างเจ้าตัวเล็กหลับคร่อกๆ อ่านให้สนุกนะคะ
โดย:
sansook
วันที่: 27 ธันวาคม 2554 เวลา:22:17:44 น.
ติดตาม ตามติด ^ ^
โดย: Kwanita IP: 58.8.156.253 วันที่: 31 ธันวาคม 2554 เวลา:11:05:52 น.
ชื่อ :
Comment :
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
Pantip.com
|
PantipMarket.com
|
Pantown.com
| © 2004
BlogGang.com
allrights reserved.