sansook
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 40 คน [?]




คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...

คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...


คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...
โค้ดนี้เป็นภาพพื้นหลังนำไปวางที่ช่อง Script Area ค่ะ https://youtu.be/K2vg5yDgVX4
Group Blog
 
<<
กุมภาพันธ์ 2553
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28 
 
26 กุมภาพันธ์ 2553
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add sansook's blog to your web]
Links
 

 

ตอนที่ 13 ริษยา



มุมหนึ่งของตึกปรากฏร่างของใครคนหนึ่งกำลังยืนกำมือแน่นเหมือนกำลังสะกดกลั้นอารมณ์และความรู้สึกของตนให้อยู่ภายใต้การควบคุมของตัวเอง ใบหน้าเฉี่ยวหากแต้มสีสันจนจัดจ้านบึ้งตึงจนดูเครียดขรึม

“นังคนหน้าด้านทำเป็นระริกระรี้คงจะดีใจล่ะซีที่ได้อยู่ใกล้ๆ รัชญ์ของฉัน”
หญิงสาวเข่นเขี้ยวเหมือนโกรธเกลียดคนที่เธอกำลังพูดถึงเป็นนักหนา

“รัชญ์ก็เหลือเกินทำอะไรไม่นึกถึงใจรตาบ้างเลย นั่งคุยกับมันอยู่ได้เป็นนานสองนาน นังนั่นมันคงฉอเลาะจนรัชญ์เลี่ยงไม่ได้ใช่ไหม รตาเกลียดผู้หญิงพรรณนี้นัก”

น้ำเสียงยามเอ่ยถึงชายหนุ่มฟังเหมือนกำลังตัดพ้อแต่ก็กราดเกรี้ยวอยู่ในที

“อ้าวคุณรตามายืนทำอะไรอยู่ตรงนี้คะ”

เสียงใสๆ ของหญิงสาวอายุราวยี่สิบเศษๆ ที่เอ่ยถาม หยุดความขุ่นเคืองของวีรตาไปชั่วขณะ แต่กลับเพิ่มความกราดเกรี้ยวให้กับหญิงสาวที่จิตใจกำลังสุมไปด้วยความริษยา

“ไม่ใช่เรื่องของขี้ข้าอย่างแกไม่ต้องมายุ่ง!”

วีรตาหันขวับไปทางต้นเสียง หญิงสาวจิกตาจ้องเด็กรับใช้ร่างอวบที่ยืนหน้าเสียอยู่อีกด้านแววตาขุ่นขวางก่อนจะสะบัดหน้าเดินลงเท้าหนักๆ ผ่านหน้าหล่อนไปอย่างไม่สนใจใยดีว่าอีกคนจะคิดยังไงกับตน

“อะไรกันคนออกจะถามดีๆ “

หญิงสาวร่างอวบมองตามหลังคนที่กำลังทำท่าปั้นปึ่งแล้วส่ายหน้าไปมาอย่างระอา กับอาการวางท่าของวีรตาซึ่งถือตัวว่าตนมีศักดิ์เป็นถึงพี่สาวของอดีตภรรยาของเจ้าบ้าน

“นังกาหลงแกมายืนทำบื้ออะไรอยู่ตรงนั้นฮึ คุณจีรัณให้ฉันมาบอกแกจัดเตรียมตะกร้าปิกนิกแน่ะ”

ชบาที่วิ่งกระหืดกระหอบมาแต่ไกลตะโกนถามเพื่อนร่วมอาชีพ แล้วรีบสั่งงานตามคำสั่งของผู้เป็นนาย คำบอกเล่าของหญิงสาวอีกคนหยุดเท้าของวีรตาที่กำลังก้าวฉับๆ ลงทันใด หญิงสาวเบี่ยงกายหลบเข้าหลังพุ่มยี่โถแล้วเงี่ยหูฟังคำสนทนาของคนทั้งสองอย่างตั้งใจ

“คุณท่านระบุหรือเปล่าว่าจะให้จัดเป็นแบบไหน”

“ไม่ได้ระบุหรอก แกก็จัดเหมือนทุกๆ ครั้งนั่นแหละ อย่าลืมเพิ่มของคุณหมอกับคุณนางแบบอีกสองที่นะ”

“เออ...นังชบาเห็นคนเขาลือกันให้แซ่ดว่าบ้านเรามีดารามาพัก แกเห็นหรือยัง”

“เห็นแล้ว นี่ๆ นังกาหลงแกรู้หรือเปล่าว่าคุณวีณาที่เป็นนางแบบน่ะ ตัวเป็นๆ โคตรสวยเลยจมูกงี้โด่งเชิดเชียวแกเอ๊ย...เห็นแล้วอิจฉาจนตาลุกวาบเลยล่ะ”
ชบาที่บ้าดารานางแบบมาแต่ไหนแต่ไรกวักมือเรียกเพื่อนเพื่อโอ้อวด

“ต๊าย! จริงเหรอแก...แล้วเค้าหยิ่งมั้ยเห็นพวกหนังสือบันเทิงเขาชอบลงว่านางแบบดังๆ มักจะขาวีน”

พอได้ยินคำโอ้อวดจากเพื่อนร่วมอาชีพกาหลงที่บ้าดาราไม่แพ้กันถึงกับตาลุกวาวด้วยความอิจฉา

“เพิ่งเห็นกันแปบๆ ยังดูไม่ออกหรอกแต่เท่าที่เห็นฉันว่าเธอก็น่ารักดีนะ แกรีบไปจัดตะกร้าซีเอาไปให้คุณท่านเดี๋ยวก็เห็นเองนั่นแหละ”

ชบาชี้หนทางเสนอหน้าให้กับเพื่อนร่วมอาชีพ

“ชบาแกรู้มั้ยว่าคุณนางแบบเธอจะมาเป็นนายผู้หญิงของคุณจีรัณหรือคุณจีรัชญ์”

“นังกาหลงปากแกนี่มันช่างแกว่งหาเรื่องให้ตกงานเสียจริงๆ คุณวีณาเธอมากับคุณหมอคนสวยๆ ที่คุณจีรัณพามารักษาคุณจีรัชญ์ยังไงล่ะ”

ชบาจิ้มมือลงบนหน้าผากเพื่อนก่อนจะยกมืออีกข้างขึ้นป้องปากแล้วกระซิบบอก

“อ้าวเหรอ...เอ...อาการคุณจีรัชญ์กำเริบอีกแล้วหรือฉันไม่เห็นรู้เรื่องเลย”
กาหลงขมวดคิ้วน้อยๆ อย่างสงสัย

“ไม่รู้ซีฉันก็เห็นคุณจีรัชญ์เธอเป็นปกติดีนะ”

“จะว่าไปฉันว่าคุณจีรัณพามารักษาผิดคนแล้วล่ะ”

กาหลงโน้มตัวกระซิบบอก

“อ้าวแล้วแกจะให้คุณหมอมารักษาใครเหรอกาหลง?”

ชบาเบ้ปากถามสีหน้างุนงง

“ก็คุณรตาไงล่ะ ฉันว่าแกดูแปลกๆ เหมือนพวกเก็บกดยังไงก็ไม่รู้ เมื่อกี้ฉันทักดีๆ ดันหันมาจิกตาใส่จนฉันงี้ตกใจหมด”

“กาหลงแกอย่าไปยุ่งกับเธอเชียวนะป้าอังบอกว่าคุณรตาไม่ชอบให้ใครเข้าไปวุ่นวาย”

ชบารีบเตือน

“จ้างให้ฉันก็ไม่ยุ่งแววตาดุยังกับเสือแบบนั้นขืนไม่ระวังตัวได้ถูกขย้ำกันพอดี”

“ดีแล้วที่คิดแบบนี้ แต่เอ...คุณรตาเธอไม่ค่อยออกมาที่ตึกใหญ่นานแล้วนะทำไมอยู่ๆ ถึงเข้ามาเพ่นพ่านอีกล่ะ”

ชบาถามสีหน้าครุ่นคิด

“จะไปรู้เรอะไอ้ฉันก็เพิ่งมาอยู่ได้ไม่กี่เดือน จะเป็นเพราะอะไรก็ช่างเถอะไม่ใช่เรื่องของขี้ข้าอย่างเรา ฉันไปจัดตะกร้าดีกว่าขืนชักช้าเดี๋ยวได้ตกงานจริงๆ มันจะแย่เปล่าๆ “

กาหลงยักไหล่เดินเลาะพุ่มเทียนทองออกไปทางหลังบ้าน เพื่อเข้าครัวเตรียมของตามคำสั่งของเจ้านาย ชบายืนหน้านิ่วอยู่ชั่วครู่จึงหมุนตัวเดินเร็วๆ ตามเพื่อนร่วมอาชีพไปติดๆ

พอลับร่างของหญิงสาวทั้งสองวีรตาที่หลบอยู่หลังพุ่มยี่โถก็ค่อยๆ ย่างออกมา หญิงสาวยืนจ้องตัวตึกที่ตระหง่านอยู่เบื้องหน้าแววตากร้าวดุจดวงตาของสัตว์ร้ายที่แดงก่ำไปด้วยเพลิงแห่งโทสะ

“จะไปปิกนิกงั้นเหรอ รัชญ์คงถูกนั่งสารเลวนั่นออดอ้อนจนจำใจต้องพามันไปเที่ยวล่ะซี นังผู้หญิงหน้าด้านฉันอยากกรีดหน้าแกนัก”

หญิงสาวเข่นเขี้ยวพูดกับตัวเองไปตามคำสันนิษฐานที่จิตสำนึกทึกทักเอาเอง

*********************

เกือบสิบเอ็ดโมงจีรัณที่หน้าตาชื่นบานกว่าทุกวันเดินหิ้วตะกร้าปิกนิกเดินนำใครๆ ออกมาด้วยอารมณ์ที่เบิกบานใจเมื่อนึกถึงช่วงเวลาดีๆ ที่กำลังจะเกิดขึ้นในอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้า ชายหนุ่มผุดรอยยิ้มพิมพ์ใจออกมาเมื่อนึกถึงแผนล่อแม่เสือสาวออกจากบ้านแล้วพาเข้าป่าไปท่องไพร จากทฤษฏีที่เคยได้ยินมาผู้หญิงร้อยทั้งร้อยมักจะหลงใหลความสงบร่มเย็นของธรรมชาติ...

ส่วนจีรัชญ์เดินตามพี่ชายไปอย่างทะมัดทะแมง ชายหนุ่มหันกลับไปมองสองสาวที่เดินเยื้องกายด้วยประกายตาที่ฉายความปรีดาออกมาอย่างชัดเจน

วีณาที่เดินเยื้องอยู่ด้านขวามือของจีรัชญ์ ลอบชำเลืองดูวงหน้าคมคายหากขาวเนียนจนดูเกลี้ยงเกลาด้วยความทึ่งระคนสงสัยว่าผู้ชายร่างกำยำซึ่งตรากตรำอยู่กลางแดดกลางไร่ทำไมถึงดูสะอาดสะอ้านจนเหมือนเป็นผู้ชายสำอางก็ไม่ปาน

“เฮ้ย!!”

เสียงร้องของจีรัณที่ดังขึ้นทำให้เท้าคนที่กำลังเดินตามๆ กันไปหยุดกึกโดยอัตโนมัติ

“พี่จีสมีอะไร”

“รัชญ์แกไปมีเรื่องกับใครมาหรือเปล่าฮึ”

จีรัณเงยหน้ามองน้องชายก่อนจะก้มมองไปที่ล้อรถเชอโรกีสีเขียวแก่ที่บัดนี้ยางทั้งสี่เส้นแบนแต๊ดแต๋

“เฮ้ย!!”

จีรัชญ์มองหน้าพี่ชายด้วยความงุนงง แต่พอมองเห็นสภาพยางรถยนต์ตรงหน้าก็ถึงกับผงะแล้วแหกปากออกมาบ้าง

“รัชญ์แกไปมีเรื่องกับใครหรือเปล่า”

จีรัณที่สันนิษฐานได้อยู่มาตราเดียวยืดตัวขึ้นถามน้องชายอีกครั้ง

“อ้าวพี่จีสไหงมองผมเป็นนักเลงแบบนั้นล่ะ”

“อ้าวแกตาถั่วรึไงไม่เห็นเรอะว่าล้อรถเรามันถูกฟันเสียยับเยิน วิธีแบบนี้มันต้องเป็นคนที่กำลังมีเรื่องกันหรือไม่ก็กำลังมีเรื่องไม่พอใจใครซักคนอย่างหนักเท่านั้นแหละที่จะทำได้ ตอนนี้พี่ก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรกับใครบ้านหลังนี้ก็มีแค่เราสองคนถ้าพี่ไม่ไปสร้างเรื่องมันก็ต้องเป็นแกน่ะซี”

“แต่ผมไม่เคยมีเรื่องกับใครพี่ก็รู้”

“ของแบบนี้ใครจะไปรู้แกไม่มีเรื่องกับคนอื่นแต่คนอื่นอาจจะมีเรื่องกับแกก็ได้ ช่วงนี้สินค้าของเรามันออกไปขัดแข้งขัดขาใครเขาหรือเปล่าล่ะ”
จีรัณทำท่าครุ่นคิด แต่นึกยังไงก็นึกไม่ออกจริงๆ ว่าตัวเขาไปเผลอสร้างศัตรูไว้ที่ไหนไว้บ้าง

“เปล่า”

คนเป็นน้องตอบสั้นๆ

“มีคนคิดร้ายพวกคุณเหรอคะ”

วีณาถามขึ้นเมื่อก้มดูแล้วเห็นยางรถยนต์ถูกกรีดด้วยของมีคมที่ต้องบอกว่าคมมาก เพราะสภาพของยางถือว่าเส้นใหญ่และหนาแต่เท่าที่ดูจากแผลซึ่งถูกกรีดมันยับเยินเสียจนอดหวาดเสียวกับความคมของอาวุธที่อีกฝ่ายใช้

“ผมก็ตอบไม่ได้เหมือนกัน สงสัยคนที่ทำคงอยากลองความคมของอาวุธในมือ คุณนาไม่ต้องตกใจนะครับถ้าทำให้เห็นจะๆ แบบนี้เห็นทีจะเป็นพวกชอบลองของ เพราะถ้าคนทำต้องการเอาให้เจ็บกันไปข้างเห็นทีจะทำวิธีที่เนียนกว่านี้”

ถึงจะรู้สึกมืดแปดด้านกับศัตรูที่แฝงอยู่ในเงา แต่จีรัณก็ยังพอมีสติที่จะปลอบโยนสองสาวที่กำลังหน้าเสียให้คลายจากความตระหนก

“พี่จีสพาคุณหมอกับคุณนาไปนั่งตรงสวนหย่อมก่อนดีกว่าไหม เดี๋ยวผมจะไปตามเจ้าชัยมาถามว่ามันอยู่ยังไงถึงปล่อยให้พวกมือดีมาลองมีดในที่ของเรา”

น้ำเสียงของจีรัชญ์ทุ้มนุ่มก็จริงแต่ในน้ำเสียงหากฟังดีๆ จะรับรู้ได้ว่าคนที่พูดกำลังอยู่ในอารมณ์ที่พร้อมเอาเรื่องใครก็ได้ที่กล้าเข้ามาลูบคมถึงถิ่น

“ยังไม่ต้องถามหรอกบอกแค่ให้เอารถไปเข้าอู่เปลี่ยนล้อยกชุดก็พอ เดี๋ยวเอาแลนด์โรเวอร์ไปก็ได้สมบุกสมบันพอกันกลับมาค่อยว่ากันอีกทีรัชญ์ไปเอารถออกไป เสียเวลาเที่ยวจริงๆ”

จีรัณที่ห่วงหลีสาวมากกว่าหาความจริงรีบเก็บพับความขุ่นเคืองลงกระเป๋า แล้วเสนอทางเลือกใหม่ขึ้นทันที พอเห็นว่าพี่ชายไม่ใคร่สนใจจะค้นหาคนทำผิดมารับโทษจีรัชญ์จึงเดินกลับเข้าบ้านไปหยิบกุญแจรถอีกคัน

“เกิดเรื่องน่ากังวลแบบนี้ถ้าเราจะไปเที่ยวมันจะดีเหรอคะ คุณจีรัณดิฉันว่าเอาไว้เราไปกันวันอื่นก็ได้”

รพิชาที่กังวลไม่น้อยไปกว่าใครรีบทัดทาน

“ดีซีครับเราตั้งใจไปเที่ยวมันก็ต้องเที่ยวให้สมใจใช่ไหมครับคุณนา”

จีรัณปรับสีหน้าให้กลับมาแช่มชื่นอีกครั้งเพื่อเรียกความมั่นใจของสองสาวให้กลับมา วีณาที่หน้าตื่นๆ ไม่ได้ตอบอะไรออกไปเพราะมัวแต่พะวงกับสวัสดิภาพและความปลอดภัยของทุกคน

“ดิฉันเป็นห่วงเกรงว่าอาจจะมีคนดักทำร้ายพวกคุณ”

“คุณหมอไม่ต้องห่วงครับที่ที่เราจะไปเป็นเขตของไร่เรา บริเวณป่ารอบๆ ก็คนของเรากระจายอยู่ทั้งนั้นวางใจได้”

“ถึงจะเป็นที่ส่วนตัวของคุณแต่หากคนที่คิดร้ายยังไม่เผยตัวมันก็ดูอันตรายนะคะ”

คุณหมอสาวแนะนำอย่างกังวล

โอ๊ย...เรื่องขี้ประตี๋วน่าคุณหมอพวกลอบกัดมันไม่กล้าทำอะไรใครโต้งๆ หรอกครับ อย่างมากก็ทำได้แค่นี้แหละ คนพวกนี้มันเป็นพวกจิตวิปริตพอทำอะไรซึ่งๆ หน้าไม่ได้ก็มักแสดงความฮึกเหิมของตัวเองลับหลัง มันคงต้องการให้เรากังวลและตกใจถ้าเราทำเป็นกลัวก็เข้าทางมันนะซีครับ มีเรื่องตื่นเต้นแบบนี้ก็ดีเวลาเที่ยวจะได้คึกคัก”

จีรัณตอบเหมือนสิ่งที่กำลังเผชิญเป็นเรื่องเล็กน้อยจนหญิงสาวทั้งสองเริ่มคลายใจ

“แล้วนาล่ะยังอยากไปเที่ยวอยู่มั้ย”

พอคำทัดทานใช้ไม่ได้ผลพริชาจึงหันเหไปทางเพื่อนสนิทหวังจะมีคนยกมือเห็นด้วยแล้วเปลี่ยนมติจากไปเที่ยวเป็นอยู่โยงเฝ้าบ้าน แต่ก่อนที่วีณาจะทันตอบกลับรถแลนด์โรเวอร์สีดำก็ขับเข้ามาเทียบกับรถอีกคันที่หมดความสำคัญไปในบันดล

“รถมาแล้วเราไปกันเถอะ”

จีรัณได้ทีรีบมัดมือสองสาวชก ชายหนุ่มหิ้วตะกร้าของกินเดินเอาไปเก็บไว้ท้ายรถ แล้วเปิดประตูเชื้อเชิญรพิชาให้ขึ้นไปนั่งคู่กับคนขับ แล้วหันไปเปิดประตูอีกฝั่งเชิญหญิงสาวอีกคนให้ขึ้นนั่งคู่ไปกับตนด้วยสีหน้าไม่รู้ไม่ชี้และไม่สนว่าใครจะพึงพอใจหรือไม่

รพิชาที่ถูกต้อนขึ้นรถถึงกับพูดไม่ออกที่ถูกแยกที่นั่ง เมื่อไม่รู้จะปฏิเสธยังไงหญิงสาวจึงจำใจก้าวขึ้นไปนั่งคู่กับคนขับ

“คุณหมอนั่งหน้าคู่กับคนขับดีกว่านะครับจะได้มองเห็นบรรยากาศแล้วก็ทิวทัศน์ชัดๆ”

จีรัณที่จับสังเกตสีหน้าของคุณหมอคนสวยรีบพูดกลบเกลื่อน

“นั่งตรงไหนก็เห็นชัดเหมือนกันนั่นแหละค่ะ”

วีณาที่ถูกต้อนให้นั่งคู่กับจีรัณเปรยออกมาบ้าง

“ไม่เหมือนหรอกครับ ที่ผมมานั่งตรงนี้เพราะผมตั้งใจจะอธิบายแล้วบอกเล่าว่าทิวทัศน์ตลอดเส้นทางที่เรากำลังผ่านมีอะไรบ้าง ไอ้ผมมันก็ไม่ค่อยถนัดที่จะคอยหันมาบอกเสียด้วย บอกไปชี้ไปมันถนัดกว่ากันตั้งเยอะ”

คนเจ้าแผนการรีบหาข้ออ้างอันแยบยลมาแก้ต่าง

“อ้อ...จะทำหน้าที่มัคคุเทศก์ที่ดีว่างั้น”

จีรัชญ์ที่รู้ความคิดของพี่ชายดักคอขึ้น

“ก็แหงล่ะพาแขกกิตติมาศักดิ์มาเที่ยวทั้งทีจะปล่อยให้มองข้างทางเฉยๆ ได้ยังไงออกรถเสียทีเสียเวลามาหลายนาทีแล้ว”

จีรัณหันไปยิ้มหวานละไมให้กับนางแบบสาวเพื่อแสดงไมตรี เมื่อเห็นสีหน้ายุ่งยากใจของหญิงสาวข้างกาย

พอเห็นว่าทุกคนนั่งที่เรียบร้อยสารถีหน้าคมก็เคลื่อนรถออกเดินทาง รถแลนด์โรเวอร์คันใหญ่ขับผ่านพุ่มเฟื่องฟ้าไปด้วยความเร็วที่ไม่มาก แต่ก็แล่นฉิวจนไม่ทันได้สังเกตว่าทีหลังพุ่มไม้ซึ่งอยู่ห่างออกไปมีหญิงสาวคนหนึ่งกำลังจ้องตามหลังรถคันใหญ่ไปด้วยประกายตาที่แดงฉานไปด้วยความโกรธเคือง

“ขนาดสับยางจนเละหมดทุกเส้นมันยังจะหาทางพากันออกไปพลอดรักจนได้ ต่อไปเห็นทีคงต้องเผารถที่มีหมดทุกคันเสียแล้วกระมังถึงจะขังคุณให้อยู่แต่ในบ้าน....”

วีรตาเข่นเขี้ยวออกมาด้วยความคับแค้นใจ




 

Create Date : 26 กุมภาพันธ์ 2553
1 comments
Last Update : 26 กุมภาพันธ์ 2553 16:06:01 น.
Counter : 528 Pageviews.

 

ช่วงนี้ยุ่งๆเตรียมตัวกลับบ้านค่ะ มาแปะไว้ก่อนเดี๋ยวมาตามอ่านนะคะ

 

โดย: karaked IP: 68.105.5.210 7 มีนาคม 2553 2:53:00 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.