sansook
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 40 คน [?]




คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...

คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...


คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...
โค้ดนี้เป็นภาพพื้นหลังนำไปวางที่ช่อง Script Area ค่ะ https://youtu.be/K2vg5yDgVX4
Group Blog
 
<<
มีนาคม 2553
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
23 มีนาคม 2553
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add sansook's blog to your web]
Links
 

 
ตอนที่ 18 รักที่มีตัวตน




จีรัชญ์เดินเคียงไปกับหญิงสาวร่างสมส่วนเต็มวัยสาวด้วยความรู้สึกกระปรี้กระเปร่า ใบหน้าคมดุเครียดขรึมที่เห็นในคราแรกแปรเปลี่ยนเป็นอ่อนลงจนลบความกระด้างไปเสียสิ้น

รพิชาที่เดินถือกิ่งไม้เล็กๆ หยุดเท้าที่กำลังเดินไปตามทางเดินที่ปูด้วยกระเบื้องหยาบๆ แซมด้วยหินสีขาวสลับสีน้ำตาล หญิงสาวหันไปมองใบหน้าเรียบเฉยของชายหนุ่มแล้วเอ่ยทำลายความเงียบขึ้น

“เราเดินมาไกลแล้วนะคะ”

“ไม่ไกลหรอกครับ เราเดินห่างจากสวนหย่อมยังไม่ถึงสามร้อยเมตรเลย”
จีรัชญ์ที่กำลังผ่อนคลายและอิ่มเอมกับห้วงเวลายามค่ำอันน่าอภิรมย์บอกยิ้มๆ

“แต่ดิฉันมองไม่เห็นนากับคุณจีรัณ”

รพิชาเงยขึ้นมองชายหนุ่มร่างสูงใหญ่กำยำที่เดินอยู่ข้างๆ แววตากังวล

“เมื่อไหร่คุณจะแทนตัวเองว่าพิณกับผมเหมือนเวลาคุยกับพี่จีสซักที”

จีรัชญ์เดินเหลื่อมขึ้นไปด้านหน้า ชายหนุ่มหยุดกึกแล้วหันเผชิญหน้ากับหญิงสาว

“ดิฉันคงจะชินมังคะ”

รพิชาหยุดเท้าแทบไม่ทันเมื่ออยู่ๆ จีรัชญ์ก็เดินตัดหน้าแล้วยืนจังก้าขวางทาง

“คุณคงมองผมเป็นแค่คนไข้ซีนะเลยไม่ให้ความสนิทสนม คุณพิณช่วยมองผมเป็นแค่ผู้ชายคนหนึ่งที่ไม่ใช่คนไข้ของคุณได้หรือเปล่า”

“ดิฉันก็ไม่ได้จำกัดคุณให้เป็นแค่ใครหรืออะไรนี่คะ”

“ถ้าคุณไม่ได้จำกัดก็กรุณาเลิกแทนตัวเองว่าดิฉันซี ผมรู้สึกเหมือนคุณอยู่ไกลเหลือเกินกับความห่างเหินบนช่องว่างของคำๆ นี้”

“มันก็เป็นแค่คำพูดที่ใช้แทนตัว คำพูดแค่นี้ทำไมคุณถึงใส่ใจนักล่ะคะ”

“ใส่ใจซีเพราะมันไม่ใช่แค่คำพูด แต่มันเป็นช่องว่างที่ผมรู้สึกว่ามันกว้างไปกว้างจนทำให้ผมรู้สึกโดดเดี่ยวจนกลัวว่ามันจะทำให้เราไม่อาจสัมผัสกันได้”
“มันหมายความว่ายังไงคะ”

หญิงสาวเงยหน้าขึ้นสบตาขณะถอยไปข้างหลังอย่างระวังภัย

“ผมรู้สึกดีๆ กับคุณ”

เมื่อความรู้สึกที่มีเริ่มเพิ่มขึ้นจนไม่อาจทัดทานได้ จีรัชญ์ที่พยายามห้ามใจจึงปล่อยให้ทุกอย่างดำเนินไปตามแรงเร้าที่หัวใจกำลังเรียกร้อง

“อะไรนะคะ!”

รพิชาเอียงคอถามไถ่น้ำเสียงไม่ใคร่แน่ใจนักกับสิ่งที่ได้ยิน

“ถ้าผมขอคบกับคุณและขอใช้เวลาที่มีเพื่อให้เราได้ศึกษากันและกัน คุณจะรังเกียจคนที่เคยแต่งงานและเป็นหม้ายอย่างผมไหม”

เมื่อเห็นสีหน้าของจิตแพทย์คนสวยเหวอระคนฉงนฉงาย จีรัชญ์ที่เตรียมคำพูดเพื่อการนี้มาหลายวันจึงรีบอัดคำถามที่ทั้งตรงและต้องการทราบผลตอบรับอันชัดเจนออกไปทันที

“อะไรนะคะ!!”

แต่ดูเหมือนคำถามที่เพิ่งโพล่งออกไปกลับทำให้เป้าหมายฉายแววตระหนกจนเกินระดับความพอดี เพราะน้ำเสียงใสๆ ที่เปล่งออกมามีระดับความสูงที่ปรี๊ดขึ้นเหมือนกำลังตกใจนักหนากับสิ่งที่เพิ่งได้รับฟัง

“ผมเคยแต่งงาน”

จีรัชญ์ตอบออกไปสั้นๆ

“ค่ะ”

เพราะยังช็อกกับคำถามโต้งๆ ของอีกฝ่ายรพิชาจึงขานรับน้ำเสียงแผ่วๆ ในลำคอ

“ภรรยาของผมเธอจากไปเมื่อสามปีก่อน ตั้งแต่เธอเสียผมเคยคิดว่าผมคงจะรักใครไม่ได้อีก”

“ถ้าคุณรักเธอคุณก็ควรซื่อสัตย์กับความรักที่มีให้เธอซี ถ้าคุณคิดว่าไม่ควรที่จะรักใครก็ควรที่จะยึดมั่นกับสิ่งที่คุณรู้สึก”

“ผมซื่อสัตย์กับความรักที่มีตัวตน คุณเคยมีคนรักมั้ยคุณพิณ”

รพิชาเม้มปากเอียงหน้ามองชายหนุ่มเบื้องหน้าแววตางุนงงกับคำถามที่ไม่คาดคิด

“เคยหรือไม่เคยมันก็ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเรื่องที่เรากำลังพูดกันนี่คะ”

“เกี่ยวซีครับเพราะถ้าคุณเคยรักใครคำตอบของคุณคงไม่ต่างไปจากผม”
“คุณกำลังทำให้ฉันงง”

รพิชาจ้องใบหน้าคมเข้มแววตาสับสน

“ความรักที่เรามีจะมีอนุภาพกับคนรักที่มีตัวตนเท่านั้น เมื่อก่อนผมรักเธอมากรักจนคิดว่าผมคงรักใครไม่ได้อีก ผมแทบไม่เป็นผู้เป็นคนเมื่อตื่นขึ้นมาแล้วพบว่าจะไม่มีเธออีกต่อไป แต่พอเธอไร้ซึ่งตัวตนความรักที่ผมเคยมีมันกลับเลือนหายถึงจะไม่หายไปจนหมดสิ้นแต่มันก็รางเลือนจนแทบไม่มีผลอะไรกับชีวิตที่ผมต้องดำเนินไป”

จีรัชญ์บอกเล่าไปตามความรู้สึก

“คุณพูดเหมือนกับคุณลืมเธอแล้ว”

“ผมไม่เคยลืมเธอแต่เธอไม่ได้มีอิทธิพลกับความรู้สึกของผมต่างหาก คุณอาจจะมองว่าผมไม่มั่นคงแต่ความเป็นจริงคุณก็รู้ว่าหัวใจของคนเราจะรักได้ก็ต่อเมื่อมีคนให้รัก และจะหยุดรักเมื่อไร้ซึ่งตัวตนของคนที่เรารัก ความรักและความคิดถึงมันไม่เคยจางหายไปจากความทรงจำแต่มันก็รางเลือนจนไม่อาจยืนหยัดอยู่กับเราในทุกๆ นาทีถ้าคุณเคยมีความรักและความรักที่คุณมีมันหลุดลอยไปกับคนรักที่จากไปคุณจะเข้าใจว่าผมหมายถึงอะไร”

รพิชาผุดรอยยิ้มออกมาเมื่อไม่อาจปฏิเสธได้ว่าสิ่งที่ชายหนุ่มพูดมันคือความเป็นจริง คนเรามักจะโทษจิตใจของคนที่ตนเคยรักว่าไม่มั่นคง แต่หากมองด้วยความเข้าใจคนที่ยึดมั่นและจะมีความรักอันเป็นนิจนิรันดร์ได้ก็ต่อเมื่อมีตัวตนของคนอันเป็นที่รัก เมื่อความเป็นจริงฉายชัดจนไม่อาจหลีกหนีหญิงสาวจึงตัดใจบอกออกไป

“ฉันเคยมีคนรักค่ะ”

“ตอนนี้คุณรู้สึกยังไงกับคนที่คุณเคยรัก”

“คำว่าเคยก็น่าจะเป็นคำตอบที่ชัดเจนอยู่แล้วคงไม่ต้องอธิบายมังคะว่าเป็นอย่างไร”

ดวงตาคู่สวยฉายแววร่าเริงจนคนที่ยืนจ้องเธออดยิ้มให้กับความน่าเอ็นดู และคำตอบอันชาญฉลาดที่เธอใช้หลีกเลี่ยงคำถาม

“คุณเคยคิดมั้ยว่าความรักที่คุณเคยมีมันจะเป็นความรักที่นิรันดร”

“แค่เคยคิดว่ามันคงจะทำให้เรามีความสุขในทุกๆ วันเมื่อมีคนที่เรารักอยู่กับเรา เคยคิดว่าหากเราสูญเสียเขาไปเราจะมีชีวิตอยู่ยังไง และเคยคิดค่ะว่าความรักมันคงอยู่กับเราไปจนวันตายแม้ไม่มีเขาอีกต่อไป”

หญิงสาวบอกยิ้มๆ

“แต่มันก็ไม่ได้เป็นอย่างที่คิดใช่ไหมครับ”

“ก็คงงั้น”

“คุณเป็นผู้หญิงที่เข้มแข็งมากรู้ไหม ผมพยายามปิดหัวใจไม่ให้หวั่นไหวไปกับคุณ แต่มันยากเหลือเกินที่จะวางเฉยกับทุกอย่างที่ประกอบขึ้นมาเป็นคุณ”

จีรัชญ์หยุดพูดแล้วยิ้มเก้อๆ ออกมาก่อนจะพูดต่อ

“เมื่อก่อนผมรู้สึกว่าโลกนี้ช่างโหดร้ายและอ้างว้าง แต่พอได้พบกับคุณผมรู้สึกเหมือนโลกทั้งโลกที่เคยเงียบเหงาว่างเปล่าเริ่มมีความหมายและสีสันขึ้น ผมพยายามห้ามใจไม่ให้หลงใหลไปกับความรู้สึกที่มันอาจจะเปลี่ยนให้ผมต้องเผชิญกับความทุกข์อันมหาศาล แต่ผมห้ามอนุภาพของความรักไม่ได้คุณเป็นเหมือนความสดใสที่เต็มไปด้วยพลังอันน่าอัศจรรย์”

จีรัชญ์จ้องใบหน้าเผือดซีดของหญิงสาวตรงหน้าแววตาหวานฉ่ำ

รพิชาเงยหน้าขึ้นจ้องดวงตาคมเข้มดุดันที่แปรเปลี่ยนเป็นอ่อนลงจนรับรู้ถึงความอบอุ่นและอ่อนโยนสีหน้ากึ่งวางใจกึ่งหวาดหวั่น

“ฉันไม่เข้าใจที่คุณพูด คุณพูดเหมือนคุณกำลังกลัวอะไรซักอย่าง”

“ผมกลัวความรัก ผมกลัวคนที่ผมรักจะจากไปผมกลัวคุณจะเป็นอันตรายหากผมรักคุณ”

“ฉันไม่เข้าใจทำไมฉันต้องเป็นอันตราย”

“คุณพิณสัญญากับผมได้ไหมว่าหากวันใดผมไม่เป็นผมอย่างในวันนี้ คุณจะอยู่เคียงข้างและไม่ทิ้งผมไปไหน”

“หากคุณต้องอยู่กับความกลัวมากขนาดนั้นงั้นคุณก็อย่ารักฉันซี ฉันก็คงไม่เป็นสุขแน่ถ้าจะอยู่ให้คุณรักแล้วผวากับอะไรก็ไม่รู้แบบนั้น”

“โธ่! ถ้าผมห้ามหัวใจได้ผมคงไม่เป็นทุกข์แบบนี้หรอก”

“งั้นเอางี้พรุ่งนี้ฉันจะกลับกรุงเทพฯ พอไม่มีฉันคุณอาจจะไม่มีตัวตนของคนที่คุณจะรัก”

“ได้โปรดคุณพิณ....อย่าทิ้งผมไปง่ายๆ แบบนี้”

“ถ้าการเป็นคนรักของคุณแล้วต้องอยู่อย่างผวาฉันขอลาดีกว่าค่ะ”
รพิชาส่ายหน้าไม่เอาด้วยท่าเดียว

“คุณไม่รู้สึกอะไรกับผมบ้างเลยเหรอคุณพิณ”

พอเห็นสาวเจ้าตั้งท่าจะเผ่นป่าราบท่าเดียวจีรัชญ์ที่กำลังตกหลุมรักจนโงหัวไม่ขึ้นถึงกับโอดครวญ

“คุณจะให้ฉันรู้สึกอะไรกับคุณล่ะคะ ฉันมาที่นี่ก็เพราะหน้าที่และคุณก็คือคนไข้ที่ฉันเองก็ยังวินิจฉัยไม่ได้เลยว่าคุณป่วยเป็นอะไร”

“คุณก็อย่ามองผมเป็นคนไข้ซีครับ”

“อ้าวคุณนี่ก็แปลกฉันเป็นจิตแพทย์นะคะขืนไปหลงรักคนไข้ของตัวเองเข้า โอย....ไม่อยากจะคิดค่ะว่าอนาคตจะหม่นหมองขนาดไหน”

จิตแพทย์สาวรีบเอาอาชีพขึ้นมาเป็นข้ออ้าง ถึงจีรัชญ์จะหล่อเหลาและดูปกติแต่ใครจะกล้าวางใจกับความไม่ปกติที่เธอยังค้นหาไม่เจอ เมื่อบทสรุปยังคลุมเครือเธอก็ไม่อาจที่จะปล่อยความรู้สึกไปกับห้วงรักลึกๆ ที่ตัวเองก็พยายามกักกั้นไม่ต่างกัน...

“นั่นซีนะผมก็ช่างไม่เจียมตัว”

พอได้ฟังคำพูดที่ตรงเป็นไม้บรรทัดของจิตแพทย์คนสวยจีรัชญ์ที่กำลังคึกคักก็ถึงกับคอตก

“ดูทำหน้าเข้าเรื่องแค่นี้ไม่ถึงกับทำให้โลกทั้งโลกถล่มลงมาหรอกค่ะ”
รพิชาอดกระเซ้าไม่ได้เมื่อเห็นจีรัชญ์ทำหน้ายังกับว่าโลกกำลังจะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ

“ผมกำลังอกหักจะให้ทำหน้าระรื่นเหมือนโลกเต็มไปด้วยดอกไม้ได้ยังไง”
ชายหนุ่มเงยหน้าขึ้นมองคนเบื้องหน้าแววตาละห้อยจนหญิงสาวอดขำไม่ได้

“ถ้าไม่อยากอกหักก็อย่าไปใจง่ายรักใครพร่ำเพรื่อซีคะ”

“ผมไม่ได้มีความรักจนล้นเหลือที่จะไปแจกพร่ำเพรื่อให้กับใคร ที่ผมรักคุณก็เพราะคุณมีความสำคัญและเป็นความงดงามที่หาได้ยากยิ่ง คุณพิณหากคุณประเมินความรักที่ผมมีเป็นเพียงความฉาบฉวยคุณกำลังประเมินคุณค่าของคุณต่ำเกินไป”

“ดิฉันประเมินระยะเวลาต่างหาก ความรักที่เกิดขึ้นเร็วความจีรังย่อมคลอนแคลน”

“ระยะเวลามันไม่ได้บ่งบอกความยั่งยืนว่าจะมั่นคงหรือคลอนแคลน ความรักที่จะยาวนานมันก็เริ่มจากระยะเวลาเพียงเสี้ยวนาทีทั้งนั้น คุณพิณถ้าคุณไม่รักผมมันก็ไม่ใช่ความผิดของคุณ และการที่ผมรักปรารถนามีคุณอยู่เคียงคู่ไปตราบชั่วชีวิตมันก็ไม่ใช่ความผิดของผม วันนี้ผมขอแค่โอกาสที่ผมควรมีความรักอันงดงามอีกซักครั้งคุณจะใจจืดใจดำตัดความหวังที่ผมมีเชียวหรือ”

“คุณกำลังบังคับฉันหรือเปล่า คุณได้โอกาสแล้วฉันล่ะคุณบอกฉันเองว่าฉันอาจจะมีอันตรายคุณกลัวความรักไม่ใช่หรือ เกิดฉันเออออไปกับคุณวันหน้าฉันจะไม่ย่ำแย่หรือยังไง ถ้ารักแล้วฉันเสี่ยงภัยขนาดนั้นมันคุ้มไหมหากในวันหน้าคุณจะต้องสูญเสียอีก”

“ผมเชื่อว่าคุณจะพาผมฝ่าฟันทุกอย่างและแก้ไขสิ่งที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต และคุณก็ไม่ได้รังเกียจผมข้อนี้ผมดูออก”

“หลงตัวเอง”

พอได้ยินคำพูดทึกทักเอาเองของจีรัชญ์หญิงสาวก็อดหมั่นไส้ไม่ได้

“ผมเปล่านะผมแค่รู้สึกว่าคุณไม่ได้รังเกียจผม และผมขอยืนยันว่าผมไม่ได้บ้าแต่ถึงผมจะเป็นบ้าจริงๆ คุณเป็นหมอโรคจิตคงไม่ปล่อยให้ชีวิตของผมต้องล่องลอยอยู่กับโลกที่ว่างเปล่าแบบนั้นแน่”

จีรัชญ์พูดพร้อมกับตวัดเอวบางเข้าหาตัว ชายหนุ่มยิ้มกรุ้มกริ่มขณะกระชับวงแขนกอดรัดร่างอรชรให้แนบชิดกับลำตัว

“ว๊าย! ....คุณจีรัชญ์คุณจะทำอะไร...ปล่อย...”

รพิชาถึงกับโวยวายเสียงลั่นเมื่อจู่ๆ จีรัชญ์ก็ดึงเธอเข้าไปกอดหน้าตาเฉย ใบหน้านวลเนียนที่เผือดซีดเปลี่ยนเป็นสีชมพูจางๆ แล้วแดงระเรื่อเมื่อหน้าอกนุ่มหยุ่นของตนกำลังเบียดบดอยู่ในอกแกร่ง หญิงสาวพยายามดิ้นรนแต่ดูเหมือนวงแขนของจีรัชญ์ไม่สะทกสะท้านกับเรี่ยวแรงอันน้อยนิดของเธอ

“ผมแค่ยืนยันว่าคุณเป็นอย่างที่ผมรู้สึกไม่ใช่เกิดจากการที่ผมทึกทักและหลงตัวเอง”

จีรัชญ์ยิ้มกว้างออกมาเมื่อเห็นดวงหน้ากระจ่างใสเริ่มแดงเข้ม ถึงรพิชาจะดิ้นรนออกจากวงแขนของเขาแต่แรงสั่นน้อยๆ และเสียงจังหวะของหัวใจที่กำลังกระหน่ำเต้นของเธอกลับบ่งบอกชัดเจนว่าเธอกำลังตื่นเต้นระคนวูบไหวไปกับรสสัมผัสหาใช่รังเกียจเดียดฉันท์แต่อย่างใด

“คุณหมอโรคจิตครับจะลองรักคนบ้าดูซักครั้งคงไม่ผิดจรรยาบรรณหรอกใช่ไหม”

“ฉันไม่ใช่หมอ...ระ...โร๊ะ....”

เสียงสุดท้ายเลือนหายไปกับริมฝีปากอุ่นจัดที่ทาบทับลงมาจนแนบสนิท ความอ่อนโยนจากริมฝีปากที่เบียดบดลงมากำลังทำให้ร่างบอบบางสะท้านไหว จีรัชญ์กระชับวงแขนข้างหนึ่งตระกองกอดเธอไว้เมื่อรับรู้ถึงแรงสะดุ้ง ขณะอีกมือกดสะโพกผึ่งผายให้แนบชิดกับแก่นกายที่กำลังตอบรับไอรักอันร้อนแรง

รพิชาเบิกตาโพลงสลับกับหลับพริ้มเมื่อปลายลิ้นที่กำลังเคลียไล้อยู่ภายในกลีบปากค่อยๆ ซอนแทรกตวัดรัดเกี่ยวและดูดทึ้งเรียกร้องให้เธอตอบรับและสนองกลับด้วยชั้นเชิงของผู้ที่มากล้นไปด้วยประสบการณ์ ยามลิ้นอุ่นชื้นล่วงลึกเสียงครวญคลอก็ผุดออกมาจากลำคอระหง

จีรัชญ์สติแทบกระเจิงเมื่อหญิงสาวเผลอคว้าท่อนแขนกำยำแล้วบีบกระชับขณะเบียดบดเรือนร่างให้แนบชิดกับร่างกายที่กำลังแกร่งเกร็ง เมื่อหญิงสาวไม่อาจทานทนกับห้วงอารมณ์ที่เขาเป็นผู้ชักนำฝ่ามือหนาค่อยๆ กดย้ำสะโพกงามงอนให้แนบกับแก่นกาย

ร่างบอบบางหากสมส่วนไปด้วยเนื้อสาวสั่นสะท้านจนแข้งขาระทดระทวยเมื่อได้ยินเสียงครางทุ้มต่ำคลอครวญอย่างสุขสำราญ เสียงเซ็งแซ่ของหรีดหริ่งเรไรที่ดังระงมอยู่รอบทิศเพิ่มความฮึกเหิมให้กับกายแกร่งจนแทบควบคุมร่างกายไว้ไม่อยู่

หญิงสาวหลับตาลืมกายลืมใจปล่อยความรู้สึกที่ซ่านไหวให้ล่องลอยอยู่บนเส้นทางที่อีกฝ่ายกำลังชักนำและดำดิ่งอยู่ในห้วงเวลาอันเงียบสงบจนไม่รับรู้กับสรรพเสียงใดๆ

เนิ่นนานเมื่อพอใจชายหนุ่มจึงยอมถอนริมฝีปากออกแล้วประคองกอดร่างบอบบางไว้แนบอก รพิชายังคงหลับตาพริ้มและถอนใจเฮือกใหญ่ หญิงสาวเผลอสูดสมหายใจเข้าปากและจมูกเมื่อหลุดออกจากภาวะอันร้อนแรงจนต้องกลั้นหายใจเป็นนาทีๆ หญิงสาวจิกมือกับต้นแขนกำยำจนจีรัชญ์รับรู้ถึงร่างกายที่แข็งเกร็งของเธอ ชายหนุ่มเพิ่มแรงกอดกระชับขณะโน้มใบหน้ากระซิบเสียงพร่าที่ข้างหูเล็กๆ อย่างอาทร

“นี่แค่บทยืนยันว่าคุณไม่รังเกียจผม แต่ถ้าจะให้ยืนยันว่าคุณกำลังมีใจมันจะเร่าร้อนและงดงามกว่านี้อีกหลายเท่าตัวหากวันไหนหัวใจคุณพร้อมผมจะยืนยันทุกอย่างอีกครั้งนะคนดี”

รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ผุดออกมาจากมุมปากสีแดงช้ำที่ชุ่มชื้นไปด้วยอุ่นไอของจุมพิตอันร้อนแรง

“คนบ้า! คุณ...ทำแบบนี้กับฉันได้ยังไง”

พอได้สติรพิชาที่แทบถูกสูบวิญญาณก็ตวาดเสียงเอาเรื่องทันที

“บ้าเพราะรักใครๆ เขาก็ให้อภัยทั้งนั้นแหละครับคุณพิณ เอาล่ะไหนๆ คุณก็ไม่ได้รังเกียจผมยังไงก็ช่วยรับความรักของผมไปดูเล่นด้วยก็แล้วกันนะครับ”

“ไม่มีทางฉันไม่รักคนบ้าแน่”

หญิงสาวสะบัดหน้าหนีพร้อมกับดิ้นรนแล้วผลักร่างใหญ่กำยำออกไปให้ห่างตัว

“ไม่รู้ล่ะเมื่อกี้คุณจูบผมไปแล้วทำอะไรผมไว้ก็รับผิดชอบผมด้วยก็แล้วกัน ผมไม่ยอมเสียจูบฟรีๆ แน่”

จีรัชญ์มัดมือชกหน้าตาเฉย

“อึ๋ย! คนบ้ากล้าพูดกับฉันแบบนั้นได้ยังไง”

รพิชาถึงกับเหวอรับประทานก่อนจะทุบกำปั้นลงบนอกแกร่ง อีตาบ้า! มาฉกจูบแรกของเธอไปชนิดป่นปี้ถึงขนาดนี้ยังมีหน้ามาบอกว่ามันเป็นความรับผิดชอบของเธออีก จีรัชญ์! คุณเป็นคนโรคจิตแบบไหนกัน....





Create Date : 23 มีนาคม 2553
Last Update : 23 มีนาคม 2553 15:14:34 น. 5 comments
Counter : 500 Pageviews.

 


โดย: หาแฟนตัวเป็นเกลียว วันที่: 23 มีนาคม 2553 เวลา:15:25:16 น.  

 
คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...


โดย: นนนี่มาแล้ว วันที่: 23 มีนาคม 2553 เวลา:15:26:50 น.  

 
whenever you felt that your heart is going to breakdown
feel it with the love of God ask for his and then you will
find out what is the truth love in Your life as he does for me!

GOD always forgive your mistake
the one that you cant even forget,
he always does it and always being with us
to help and blesss us for us whose heart is full of him


โดย: da IP: 203.144.144.164 วันที่: 23 มีนาคม 2553 เวลา:22:09:10 น.  

 
ด้านได้อายอดครับ.....


โดย: tuk_ora วันที่: 24 มีนาคม 2553 เวลา:10:42:22 น.  

 
อยากอ่านต่อเร็วๆๆค่ะ


โดย: นู๋ช่างฝัน IP: 203.144.144.164 วันที่: 24 มีนาคม 2553 เวลา:16:53:34 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.