ท่ามกลางเรื่องแย่ๆของเรา มันก็ยังมีจุดดีที่เราเห็น
ช่วงนี้ป๋าไม่สบาย เข้าโรงพยาบาลวันที่ 2 มิ.ย. 58 แอดมิทไปสองวันก็ชัก เข้าไอซียูที่ รพ.พญาไท 2 ไปสองวัน แล้วย้ายไปที่ สถาบันประสาท อยู่ไอซียูสองสัปดาห์และห้องธรรมดาอีกประมาณหนึ่งสัปดาห์ ออกจากโรงพยาบาลเมื่อวันที่ 2 ก.ค. 58 นอนที่โรงพยาบาลรวม 1 เดือนเต็ม
อย่าถามถึงความรู้สึก แย่มาก ช่วงแรกร้องไห้เกือบทุกวัน พอเห็นค่าใช้จ่ายแล้วก็ร้องไม่ออก รู้สึกว่าดวงเราไม่ดีที่พ่อต้องทรมานและป่วยไข้ ต้องเสียเงินเยอะ(เงินนี่ไม่ใช่ประเด็นหลัก) แต่ยังขอบคุณเทวดา ที่ยังประทานรูปแบบในการเอาตัวรอดให้เราพอมีช่องหายใจได้บ้าง มีอะไรบ้าง ไปดูกัน
1. น้องสาวไม่ได้ทำงานพอดี มีเวลาอยู่กับป๋าเต็มๆ
2. ได้เวลาขายหุ้นบริษัท (ซึ่งขึ้นมาเท่าตัวใน Nasdaq) พอดี ได้เงินมาจำนวนนึง ซึ่งพอจะเอาไปหมุนเรื่องค่าใช้จ่ายในการรักษาป๋าได้
3. ลูกจ้างในบ้านขอลาออกไปเมื่อสองเดือนที่แล้ว ทำให้ประหยัดค่าใช้จ่ายในการจ้าง ไปอย่างต่ำ 20000 บาท (รวมค่าอาหารและค่าเมตตา) และมาจ้างคนแถวบ้านรายวัน วันละ 300 วันไหนไม่มาก็ไม่ต้องจ่าย แถมไม่ต้องเสียค่าอาหารให้เขาอีก สุขภาพจิตเราดีกว่ามีเด็กลูกจ้าง (แน่นอนว่าเหนื่อยกว่าเดิมเป็นเท่าตัว แต่โดยรวมแล้วโอเคกว่า)
4. รถเอาไปซ่อมซะนาน ได้มาวันก่อนป๋าจะเข้าโรงพยาบาล 1 วัน สะดวก มีรถใช้ไปเยี่ยมป๋าทุกวันได้จากที่ทำงาน (จากอยุธยา เข้าไปถนนราชวิถี)
5. หมอจากพญาไท แนะนำให้ย้ายออกไป รพ. ประสาท เพื่อหยุดค่าใช้จ่ายซึ่งโชคดีมากๆทีได้เตียง และหมอยังแนะนำให้ใช้ 30 บาท รักษาทุกโรค ประหยัดค่าใช้จ่ายไปเป็นแสน
6. หัวหน้าเพื่งโทรมาบอกเมื่อวานว่าได้เงินเดือนขึ้น 12500 บาท
แต่ป๋าก็ยังต้องฟื้นฟูกันต่อทั้งทางสมองและกายภาพ เราต้องไม่เสียกำลังใจและสู้ต่อไป ถึงจะเหนื่อยกายเหนื่อยใจ ก็ต้องทน
พ่อมีคนเดียวทั้งชีวิตนี้
Create Date : 03 กรกฎาคม 2558 |
|
7 comments |
Last Update : 3 กรกฎาคม 2558 11:47:46 น. |
Counter : 6171 Pageviews. |
|
|
|
ฝากลิ้งไว้ให้อ่าน //www.winbookclub.com/article.php?articleid=246
ชื่อ
When it rains, it pours.