|
| 1 | 2 |
3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 |
10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 |
17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 |
24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 |
|
|
|
|
|
|
|
พิสูจน์รัก...จากก้นครัว (ตอนที่ 16)
บทที่ 16 หาข้อแก้ตัว
ป้าพลอยจ๋า หญิงสาวเรียกแม่บ้านอีกฝ่ายหันมามองทั้งที่ในมือยังคงตำพริกในครกอยู่
อะไร
สมมุตินะจ๊ะป้า ปริมพิกาวางมือจากการหั่นผักแล้วเดินมาใกล้ป้าพลอย
สมมุติว่าหมายไม่อยู่แล้ว ป้าจะคิดถึงหมายไหมคะ ป้าพลอยหันมาพิจารณาหน้าคล้ำๆของสมหมาย
เอ็งพูดอะไรของเอ็งวะ ข้าไม่เข้าใจ
โธ่
ไม่เห็นจะเข้าใจยากเลยอ่ะป้า สมหมายแค่ถามว่าถ้าสมหมายเนี่ยไม่อยู่ที่นี่ หรือไม่ทำงานที่นี่แล้วป้าจะคิดถึงสมหมายไหม ปลายประโยคสมหมายทำเสียงอ่อนๆ
แล้วเอ็งจะไปไหน งานเดี๋ยวนี้หายากนะ แถมเอ็งจะหาเจ้านายที่ใจดีอย่างคุณๆบ้านนี้นี่หายากนะ ป้าพลอยหันมามองหน้าเธอเต็มๆ
หมายก็แค่สมมุติ ถ้าเผื่อว่าซักวันหมายต้องไป
เอ็งก็ไม่ต้องไปซิ แค่นี้ก็สิ้นเรื่อง ป้าพลอยว่า
อนาคตไม่มีใครรู้หรอกค่ะป้า หญิงสาวเอ่ยเสียงเศร้าๆ เพราะเธอคิดอย่างนั้นจริงๆ ถึงแม้ว่าเธอจะเข้ามาทำงานในบ้านหลังนี้ได้ไม่กี่เดือน แต่เธอเริ่มมีความผูกพันธ์บวกกับความใจใส่จากเจ้านายทุกคนของเธอด้วยแล้ว เธอคิดว่าเจ้านายดีๆอย่างนี้คงหายากในปัจจุบัน
แต่หมายคงคิดถึงป้าแน่ๆเลย เธอเข้าสวมกอดร่างเหี่ยวๆของป้าพลอย
ป้าพลอยวางมือจากการตำพริก แล้วหันมามองหน้าเธอตรงๆ
เอ็งมีอะไรหรือเปล่าหมาย วันนี้พูดแปลกๆ
ปริมพิกาส่ายหัวดิกทันที เปล่าจ๊ะป้า หมายไม่ได้เป็นอะไร
เผื่อสักวันหมายอยากมีครอบครัวไง หมายก็คงต้องออกไป
คนอย่างเอ็ง ป้ำๆเป๋อๆแบบนี้ใครมันจะเอาไปทำพันธุ์วะข้าละอยากรู้จริงๆ ป้าพลอยขยี้หัวเธอเบาๆ
โธ่
ป้าไม่รู้อะไรซะแล้ว อย่างสมหมายนะตอนที่อยู่บ้านนอกนะหนุ่มงี้
ตรึมเลย เธอพูดติดตลก
เออ
ข้าจะพยายามเชื่อ ป้าพลอยหันไปตำพริกต่อ ปล่อยให้คนหนุ่มตรึมได้แต่ยืนมองอยู่อย่างนั้น
หมาย หมาย เสียงเรียกของคุณเพชรลดาเรียกหาสาวใช้
หมายอยู่ไหนจ๊ะ
ค่ะคุณหญิง ปริมพิกาขานรับแล้วรีบวิ่งมาหานายจ้าง
ตอนนี้ทำอะไรอยู่ เสียงพูดเนิบๆนุ่มๆเอ่ยถามสาวใช้
หมายเพิ่งรดน้ำต้นไม้เสร็จค่ะ คุณหญิงมีอะไรจะใช้หมายหรือเปล่าคะ
ไม่มีหรอก แต่ฉันแค่อยากคุยกับเธอเฉยๆ คุณหญิงเดินไปนั่งบนโซฟาหรู ปริมพิกาเดินตามหลังเธอไปแล้วหย่อนตัวนั่งบนพื้นใกล้ๆ
คุณหญิงมีอะไรกับหมายคะ เมื่อนั่งลงพับเพียบเรียบร้อยแล้วเธอจึงเอ่ยถามออกไป
คุณหญิงยิ้มหวานๆส่งมาให้เธอก่อนเอ่ยปากพูด
ฉันคิดว่าถ้าฉันจ้างหมายครบหนึ่งปีแล้ว ฉันจะเลิกสัญญากับบริษัทจัดหางานแล้วจะจ้างเธอโดยตรงเธอคิดว่ายังไง
เอ่อ ปริมพิการู้สึกหนักใจเมื่อคุณหญิงพูดแบบนั้น ก็อีกไม่กี่วันเธอตั้งใจจะลาออกอยู่แล้วนี่นา จะให้เธอตอบกับคุณหญิงยังไงดีละ
ว่าไง หมายคิดว่าดีไหม หญิงสาวก้มหน้าไม่กล้ามองสบตากับนายจ้าง พยายามหาคำพูดที่คิดว่าดีที่สุด แต่คิดยังไงมันก็คิดไม่ออกนี่สิ
เอ่อ..
เธอมีปัญหาอะไรหรือเปล่า เมื่อนายจ้างเห็นว่าเธออุกๆอักๆ จึงถามขึ้น
เปล่าค่ะ หญิงสาวส่ายหน้าตอบทันที
เพียงแต่
จะให้เธอพูดออกไปได้ยังไงเล่าว่าอีกไม่กี่วันเธอตั้งใจจะโทรไปลาออกกับบริษัทจัดหางานแล้ว เพราะเธออยากรู้เหมือนกันว่าระบบการบริหารงานของบริษัทเมื่อเธอลาออกแล้วทางบริษัทจะทำยังไง และนี่ก็เป็นภารกิจสุดท้ายที่เธอจะต้องทำ
ว่าไง? คุณหญิงรอคำตอบจากสาวใช้
คือ
หมายต้องขอบคุณในความกรุณาของคุณหญิงมากๆนะคะ แต่ว่า
เธอพยายามหาคำพูดอีกครั้ง
แต่ว่า? คุณหญิงเลิกคิ้วถาม
แต่ว่า
คุณหญิงก็ทราบนี่ค่ะว่า ที่บ้านสมหมายทำนาพอถึงหน้าทำนาหมายก็ต้องกลับไปช่วยพ่อกับแม่ทำนาที่บ้านนอกค่ะ
แล้วส่งเงินไปแทนไม่ได้เหรอ เราน่ะทำงานดีฉันก็เลยอยากให้หมายอยู่ต่อไปเรื่อยๆ แต่ก็ไม่อยากให้ถูกหักค่าหัวจากทางบริษัทน่ะ
หมายต้องกราบขอบพระคุณคุณหญิงมากเลยนะคะที่กรุณา ปริมพิกายกมือไหว้นายจ้างอย่างซึ้งใจจริงๆ
งั้น
ฉันจะให้หมายกลับไปคิดนะ ตัดสินใจยังไงก็บอกด้วย
ค่ะ เมื่อคุณหญิงเดินจากไปแล้ว หญิงสาวก็ถอนหายใจออกมาแรงๆ
เฮ้อ
ไม่เคยเจออะไรที่หนักใจอย่างนี้มาก่อนเลยแฮะ
ปริมพิกามานั่งเหม่ออยู่ในห้องหลังจากที่ทำงานบ้านเสร็จเรียบร้อยแล้ว เธอจะทำยัง จะหาคำพูดแบบไหนที่จะดูดีและเหมาะสมที่สุดในการที่จะขอลาออกจากที่นี่ ส่วนที่บริษัทจัดหางานนั่นเธอไม่สนใจหรอก เพราะที่เธอสนใจนั้นคือความรู้สึกของเจ้านายที่แสนดีทุกคนในบ้านหลังนี้ต่างหาก
คิดไปคิดมาพาลจะทำให้ตัวเองเครียด หญิงสาวจึงเลือกที่จะระบายให้เพื่อนรักฟัง เธอจึงตัดสินใจโทรปรึกษาสิรินกร
มันจะยากอะไรว่ะปริม เธอก็แค่บอกว่าดิฉันขอลาออกค่ะ แค่นี้จบ
เธอก็เก็บเสื้อผ้าออกมาจากบ้านเค้าแค่นี้ก็สิ้นเรื่อง ให้มันได้อย่างนี้สิเพื่อนฉัน ถ้าความรู้สึกเธอมันทำง่ายอย่างที่สิรินกรบอกก็ดีซิ
บ้าเหรอย่ะนางซิน แกน่ะพูดง่ายเนอะ แต่ไม่คิดเลยว่าฉันจะทำได้หรือไม่ ก็ต้องทำให้ได้ซิ หรือว่าแกจะอยู่ในบ้านหลังนั้นไปตลอดห๊า
มันก็ไม่ใช่ แต่ที่ฉันโทรมานี่ก็แค่อยากปรึกษาแกนะ ว่าควรใช้คำพูดไหนดี ปริมพิกานิ่งเพื่อนั่งฟังเผื่อว่าสิรินกรให้คำตอบได้
แกก็บอกว่าแม่ที่บ้านนอกป่วย จะต้องกลับไปดูแล
เฮ้ย!!! ไอ้บ้าซิน จะให้ฉันแช่งบุพการีเนี่ยนะแก เดี๋ยวนรกก็กินกบาลฉันหรอก
แช่งที่ไหนย่ะ แม่แกอยู่กรุงเทพฯ ที่บ้านนอกมีซะที่ไหนล่ะ สิรินกรแย้ง
นั่นแหละๆ ฉันก็ไม่อยากเอาพ่อเอาแม่มาเกี่ยว แค่คิดก็บรื๋ออออ.. หญิงสาวทำเสียงผวาจนคนปลายสายหัวเราะออกมาดังๆ
ถ้างั้นปริมก็บอกว่ากลับไปช่วยแม่ทำนาซินี่ก็ใกล้นาทำนาแล้วไม่ใช่เหรอ
ฉันทำนาไม่เป็นนี่ ปริมพิกาเถียง
ไอ้บ้า
ฉันหมายถึงแค่สมมุติ ก็แกบอกว่าแกเป็นลูกชาวนาไม่ใช่เหรอ แกก็ต้องเอานามาใช้ประโยชน์ให้ได้ซิ
อืม
ปริมพิกาพยักหน้ากับโทรศัพท์ของตัวเอง
ว่าไง ความคิดฉันเป็นเลิศไหม สิรินกรถาม
ฉันก็บอกเปรยๆกับคุณหญิงไปแบบนี้ครั้งหนึ่งแล้วนะ แต่คุณหญิงก็ถามฉันกลับมาว่าส่งแค่เงินไปไม่ได้เหรอ แกจะให้ฉันตอบคุณหญิงว่ายังไงดี
ก็บอกว่าแกน่ะเป็นแรงงานสำคัญในการไถนา เอ้ย
ทำนาซิ
จะให้ฉันไปไถนาแทนควายเลยใช่ไหมนางซินห่ะ ปลายสายหัวเราะอย่างถูกใจเมื่อได้ยินเพื่อนพูดแบบนั้น
ไม่ต้องมาหัวเราะเลยนะ เจอหน้าเมื่อไหร่จะแขกกะโหลกให้หนึ่งที อย่าลืมเตือนฉันละ
โห
เรื่องอะไรฉันจะเตือนแกย่ะคุณหนูปริม ถ้าฉันเตือนแกฉันก็โดนแขกนะซิ ไอ้บ้า!!!! คราวนี้เป็นปริมพิกาเป็นฝ่ายหัวเราะเพื่อนบ้าง
อืม
เสาร์-อาทิตย์นี้ฉันว่าจะไปทะเล แกจะไปกับฉันไหม
เสาร์-อาทิตย์นี้เหรอ? ฉันไม่แน่ใจว่าจะว่างไหมนะเดี๋ยวให้คำตอบได้ไหม สิรินกรบอก
ถ้าไม่ว่างก็ไม่เป็นไรนะ ฉันกะจะโชว์เดี่ยวอยู่แล้ว จะไปแค่เพชรบุรีแค่นี้เอง ปริมพิกากลัวว่าเพื่อนจะเกรงใจเธอจนต้องผิดนัดที่อื่นเธอจึงเลือกที่จะเบรคไว้ก่อนดีกว่า
ถ้าฉันไม่ว่างนี่ แกอย่าลืมของฝากจากคุณแม่ๆทั้งหลายตามรายทางเพชรบุรีมาฝากกันมั่งนะ
ปริมพิกานึกถึงร้านขายของฝากที่ขึ้นต้นด้วยคำว่าแม่
ของเมืองเพชรตามที่สิรินกรพูดแล้วอดขำคำพูดเพื่อนไม่ได้
อืม
แล้วฉันจะแวะซื้อฝาก
แล้วแกจะไปยังไง สิรินกรถาม
ฉันกะจะขับรถไปเองนะ ใกล้ๆแค่นี้เองไม่กี่ชั่วโมงก็ถึง กะจะไปนอนซักคืนสองคืนเพื่อระบายอารมณ์ ปริมพิกาบอกเพื่อน
ระบายอารมณ์อะไรของแกว่ะ พูดซะฉันคิดลึกเลยนะเว้ย
แกคิดไปถึงไหนห่ะไอ้ซินบ้า เสียงปลายสายหัวเราะออกมาอย่างถูกใจเช่นเคย
เออๆ หัวเราะเข้าไปเดี๋ยวได้จุกอกตายพอดี เมื่อเพื่อนรักดูท่าว่าจะไม่ยอมหยุดหัวเราะง่ายๆ ปริมพิกาจึงแขวะเอา
นั่นแหละปลายสายจึงได้ยอมหยุดหัวเราะและหันมาพูดคุยปกติเหมือนเคย
ดูแลตัวเองด้วยนะปริม เสียงเพื่อนรักเปลี่ยนโหมดทันทีจนเธอตามแทบจะไม่ทัน ก็เมื่อกี้คุณเธอยังหัวเราะโปกฮาอยู่เลย แล้วจู่ๆดันมาทำเสียงอบอุ่นห่วงใยกันซะ เธอแทบจะเคลิ้ม
อืม ไม่ต้องบอกฉันก็ดูแลตัวเองอยู่แล้ว แกไม่ต้องห่วงน่า
แล้วถ้าฉันว่างฉันจะขับรถตามไปนะ
จ๊ะ ปริมพิกาตอบรับ
งั้นเดี๋ยวแค่นี้นะซิน ฉันจะต้องไปดูแลอาหารเย็นให้เจ้านายแล้วละ แล้วเจอกันนะ
ปริมพิกากดวางสาย รู้สึกดีขึ้นมาหน่อยเมื่อได้พูดได้คุยกับเพื่อนแบบนี้ เธอยิ้มให้กับโทรศัพท์แล้ววางมันลงบนที่นอน ส่วนตัวเธอคงจะต้องไปทำหน้าที่สมหมายต่อแล้วละ
Create Date : 20 มิถุนายน 2550 |
|
1 comments |
Last Update : 20 มิถุนายน 2550 9:25:34 น. |
Counter : 378 Pageviews. |
|
|
|
|
|
|
|
|
Location :
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]
|
* ฝนริน/ปาณิกดา *
ผู้หญิงที่มีอารมณ์อ่อนไหว เหงา เศร้า หัวเราะ ร้องไห้ได้ในเวลาเดียวกัน (ท่าจะบ้าเนอะผู้หญิงคนนี้ เอิ๊กส์)
งานเขียนในบล็อกนี้ ขอสงวนลิขสิทธิ์ ตามพรบ.ลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 นะคะ
|
**ขอขอบคุณภาพแต่งบล็อก และ โค๊ดแต่งบล็อกจากเพื่อนชาวบล็อกทุกท่านมา ณ ตรงนี้ด้วยนะคะ**
|
|
|
|
|
|
|
คุณ KnightWin ... ขอบคุณที่แวะมาทักทายจ้า
คุณ VEE ... ดีใจค่ะที่คุณยังคงติดตามอ่านนิยายของปาณิกดาเช่นเคย
คุณ พลอยสีชมพู ...กะว่าอีกตอนสองตอนก็จะแตกแล้วจ้า อย่าลืมติดตามน๊า แล้วอย่าลืมขยันตั้งใจเรียนด้วยละ อิอิ
ส่วนชื่อ ปาณิกดา -- ปา นิก ดา -- แปลว่า เป็นที่รักของผู้อื่นจ้า เรียกพี่ได้จ้า ยินดี๊ ยินดี และขอบคุณสำหรับกำลังใจที่มีมาให้กันเสมอๆนะจ๊ะ เทคแคร์เช่นกันจ้า...
ขอบคุณค่ะ...