Group Blog
 
<<
สิงหาคม 2550
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
16 สิงหาคม 2550
 
All Blogs
 
พิสูจน์รัก...จากก้นครัว (ตอนที่ 19)




บทที่ 19
ความลับแตก…




ปริมพิกามองวิทยานิพนธ์เล่มหนาที่วางอยู่บนโต๊ะของอาจารย์ที่ปรึกษาอย่างภูมิใจ ไม่น่าเชื่อว่าในที่สุดเธอก็ทำสำเร็จจนได้ มือหนาๆของอาจารย์หนุ่มค่อยเปิดมันทีละหน้าๆ สายตาของเขากวาดไปตามตัวอักษรเหล่านั้น ก่อนเงยหน้าขึ้นมองเธอ

“อืม… การบริหารงานของบริษัทจัดหางาน เป็นอีกมุมที่ยังไม่มีใครรู้ ขนาดผมก็เพิ่งได้รู้จากวิทยานิพนธ์เล่มนี้ ผมขอชมเชยนะว่าพวกคุณทำได้ดีมาก”

สามสาวที่ได้รับคำชม อมยิ้มกันจนแทบจะหุบไม่ลง

“แปลว่า งานนี้ผ่านใช่ไหมคะอาจารย์” สิรินกรเอ่ยถามอย่างอยากรู้

“อือหืม…” อาจารย์หนุ่มพยักหน้ารับ ทำให้สามสาวเจ้าของวิทยานิพนธ์กระโดดกอดคอกันอย่างดีใจ

“แต่ที่ผมอยากรู้ก็คือ คุณเอาข้อมูลเหล่านี้มาได้ยังไง”

ปริมพิกา มุกดา และสิรินกร มองหน้ากันยิ้มๆ ก่อนจะหันไปยิ้มแหยๆให้กับอาจารย์หนุ่ม

“งานนี้ยัยปริมเอาตัวเข้าแลกค่ะอาจารย์”

“หา !! คุณว่าอะไรนะ เอาตัวเข้าแลก” อาจารย์หนุ่มอุทานอย่างตกใจ

“เอ่อ… มันไม่ใช่อย่างที่อาจารย์คิดนะคะ” สิรินกรรีบกล่าวแก้ทันที

“แล้วมันเป็นยังไง” อาจารย์หนุ่มเหลือบตามองสามสาวที่ทำท่ากระอักกระอ่วนว่าจะเล่าดีไหม

“ผมอยากรู้” อาจารย์หนุ่มย้ำอีกรอบ

มุกดาหันมาพยักหน้าให้กับปริมพิกาเพื่อบอกว่า “เล่าเถอะ” ถ้าไม่เช่นนั้นเรื่องคงจะไม่จบลงง่ายๆแน่

แล้วเรื่องราวต่างๆ ซึ่งเป็นแหล่งที่มาของข้อมูลในวิทยานิพนธ์เล่มนี้ก็ดังขึ้นจากปากคนที่เอาตัวเข้าแลก

อาจารย์หนุ่มได้แต่นั่งทึ่งกับลูกศิษย์สาว ไม่น่าเชื่อว่าลูกสาวเจ้าของโรงแรมระดับห้าดาว จะกล้าเอาตัวเองไปทำเรื่องแบบนั้นได้ คนที่ดูเหมือนว่าทำอะไรไม่เป็นกลับกลายเป็นคนที่ใจกล้ามากกว่าที่คิด

จากที่เขาอ่านเรื่องราวจากวิทยานิพนธ์เล่มนี้ เขายังอึ้งกับข้อมูลที่ได้รับ เมื่อก่อนเขาเคยคิดว่ารายได้ของบริษัทจัดหางานนั้นมาจากไหน แต่ตอนนี้หลังจากอ่านเล่มนี้จบแล้ว ทำให้สิ่งที่เขาเคยสงสัยได้คลี่คลายไปหมดแล้ว


“แล้วตอนนี้คุณลาออกหรือยัง”

“ปริมบอกกับเจ้านายแล้วค่ะว่าจะลาออก แต่ยังคงต้องทำงานรอให้ทางบริษัทส่งคนงานมาใหม่ก่อน ปริมถึงจะออกมาได้ ไม่ยังงั้นคงไม่ได้เงินเดือน สามพันห้าเชียวนะคะอาจารย์” ปริมพิกาทำตาโตเหมือนคนเสียดายเงิน

“ผมชักอยากเห็นคุณในร่างของสมหมายเสียแล้วซิ” อาจารย์หนุ่มเอ่ยยิ้มๆ

“ไม่เจอน่ะดีแล้วค่ะอาจารย์”

“ทำไม ? “

“ขนาดปริมยังรับสภาพตัวเองแทบไม่ได้เลย” พูดจบเธอก็หัวเราะเสียงใส

“คุณเอาตัวเข้าแลกขนาดนี้ ผมละนับถือใจคุณจริงๆ แต่ก็ดีนะทำให้รู้ลึกและรู้จริงดี” อาจารย์หนุ่มยังคงเอ่ยปากชม

“งานก็เสร็จแล้ว อีกไม่กี่เดือนพวกคุณก็คงจะจบแล้ว ผมดีใจด้วยนะ”

“ถ้าไม่มีอาจารย์คอยเป็นที่ปรึกษาให้พวกเรา ก็คงไม่มีวันนี้หรอกค่ะ ขอบคุณนะคะอาจารย์” สามสาวยกมือไหว้อาจารย์หนุ่มพร้อมกัน

“เย็นนี้อาจารย์ว่างไหมคะ” มุกดาเอ่ยถาม

“ทำไม”

“ไปทานข้าวเย็นกับพวกเราไหมคะ ฉลองให้กับความสำเร็จน่ะคะ เดี๋ยวพวกเราเป็นเจ้ามือเอง”

ปริมพิกาและสิรินกรพยักหน้าแล้วพูดขึ้นพร้อมกัน “ไปนะคะอาจารย์”

อาจารย์หนุ่มเงยหน้ามองลูกศิษย์สาวทั้งสามไปมา

“วันนี้ผมไม่ว่างแล้ว เพราะนัดกับเพื่อนไว้ นี่อีกไม่กี่นาทีก็คงจะมาถึงแล้วล่ะ ไว้โอกาสหน้านะ ผมรับรองพวกคุณได้เลี้ยงผมสมใจแน่”

“ว้า…. “ สามสาวทำเสียงเสียดายขึ้นพร้อมกัน

“งั้นก็พาเพื่อนของอาจารย์ไปด้วยกันเลยซิค่ะ”

“อืม.. งั้นเดี๋ยวเพื่อนของผมมาค่อยว่ากันอีกทีนะ”


“แกไปเถอะ ฉันไม่ว่างพอดี”

“คุณบี !!! “ หญิงสาวอุทานออกมาด้วยความตกใจ เขามาได้ยังไงเนี่ย ซวยๆ งานนี้บอกได้คำเดียวว่าเธอซวยแน่ๆ สีหน้าของผู้มาใหม่บ่งบอกเหลือเกินว่าเขาคงจะได้ยินที่เธอพูดไปหมดแล้ว

หน้าที่ซีดเผือดของเพื่อนสาวทำให้มุกดาและสิรินกรอดเป็นห่วงไม่ได้ “ใจเย็นๆปริม”

ทั้งคู่พยายามปลอบใจเธอ แต่ตอนนี้ไม่ทันแล้ว ใจเธอได้หล่นไปอยู่ที่ตาตุ่มแล้วละ

“เอ่อ.. คุณบีมาตั้งแต่เมื่อไหร่คะ” ปริมพิกาเอ่ยถามเสียงตะกุกตะกัก

“พอดีวันนี้ฉันติดธุระ คงไปกับแกไม่ได้แล้วนะ” เขาไม่ตอบเธอแต่หันไปคุยกับเพื่อนแทน

“ทำไมว่ะ “ อาจารย์หนุ่มเอ่ยถามเพื่อนอย่างงงๆ เขาว่าต้องมีอะไรแน่ๆเชียว ถ้าไม่อย่างนั้นทำไมเพื่อนรักของเขาถึงได้มาปฏิเสธกันง่ายๆแบบนี้ ทั้งที่ตัวเองก็มาถึงนี่แล้ว ดูลูกศิษย์เขาซิหน้าก็ซีดเผือดตั้งแต่เพื่อนเขาก้าวเข้ามาภายในห้องนี้ ต้องมีอะไรกันแน่ๆ

“ก็ไม่ทำไม แค่ติดธุระกระทันหัน ฉันไปนะ” พูดจบเขาก็หันหลังเดินออกไปจากห้องทันที

“เดี๋ยวค่ะคุณบี ฟังฉันก่อน” ไม่ทันแล้วเพราะประตูห้องถูกปิดด้วยมือหนาๆของชายหนุ่มผู้ที่เดินจากไปเมื่อสักครู่เรียบร้อย

“ฉันขอตัวนะ เย็นนี้คงไปกับพวกแกไม่ได้แล้ว” พูดจบปริมพิกาก็เดินแกมวิ่งตามร่างสูงๆนั้นไปทันที

“สองคนนี้มีอะไรกันหรือเปล่า” อาจารย์หนุ่มหันมาถามสองสาวที่ยืนทำหน้าประหลับประเหลือกอยู่ตรงหน้าเขา

“อาจารย์อย่าบอกนะคะว่าเพื่อนที่เป็นนักบินของอาจารย์คือคนนี้” มุกดาไม่ตอบคำถามแต่กลับถามเขากลับ

“ใช่… ทำไม?” เขาเลิกคิ้วถาม

“เฮ้อ… ไม่ยักรู้มาก่อนแฮะ” สิรินกรกระซิบกับมุกดาเบาๆ

“นั่นแหละค่ะ เจ้านายอีกคนของสมหมายล่ะ”

“อย่าบอกนะว่าบ้านที่ปริมเข้าไปทำงาน ก็คือบ้านของเจ้าบีเพื่อนผม”

สิรินกรกับมุกดาพยักหน้าอ่อยๆ พร้อมกัน “ใช่ค่ะ”

“จุดใต้ตำตอ เฮ้อ…” อาจารย์หนุ่มยกมือก่ายหน้าผากตัวเอง

“ใช่ค่ะอาจารย์ จุดใต้ตำตอ”

“ไม่ใช่มันจะคิดว่าผมสมรู้ร่วมคิดด้วยอีกคนเหรอเนี่ย” ชายหนุ่มมองสองสาวลูกศิษย์ที่ยืนทำตาปริบๆ แล้วถอนหายใจออกมาดังๆพร้อมกัน

“เฮ้อ !!! “


“คุณบี รอฉันด้วย” ปริมพิกาเอ่ยเรียกคนที่เดินจ้ำอ้าวอยู่ข้างหน้า เดินเร็วจังแฮะ ขนาดเธอวิ่งยังวิ่งไม่ทันเขาเลย

“คุณบี ฟังฉันก่อนซิ หยุดเดี๋ยวนี้นะ” หญิงสาวกระชากมือหนาๆของเขาให้หยุดทันทีที่เธอวิ่งทันเขา เบนทิศหันมามองเธออย่างเอาเรื่อง แต่ไม่ปริปากพูดออกมาสักคำ เขาค่อยๆแกะมือของเธอออกจากแขน แล้วทำท่าจะเดินหนีอีกรอบ
ปริมพิกาวิ่งไปขวางหน้าเขาไว้ “ฟังกันก่อนซิค่ะ”

“ – “ เงียบ ไม่มีเสียงตอบรับจากคนหน้าตูม

“นะคะ ได้โปรดฟังคำอธิบาย” เธอทำเสียงอ่อยๆ คนที่ทำท่าจะก้าวขาหนีหันมาถามอย่างเอาเรื่อง

“มีอะไรที่จะต้องอธิบายกันอีกล่ะคุณสมหมาย”

“ฟังปริมก่อนนะ”

“จะอุปโหลกอะไรอีก” เสียงเขาช่างเชือดเฉือนเหลือเกิน

“คือ… ปริม” เธอตะกุกตะกัก ไม่รู้จะเริ่มต้นตรงไหนดี

“ผมเข้าใจทุกอย่างแล้ว ไม่ต้องอธิบายก็ได้”

“คุณเข้าใจผิดๆนะซิ”

“แล้วอะไรที่คุณคิดว่าผมเข้าใจผิด”

“ก็… ทุกเรื่องนั่นแหละ” เหอะ… ขนาดเขายังไม่ได้พูดอะไรเลย เธอกลับบอกว่าเขาเข้าใจผิดทุกเรื่อง อย่างนี้เขาเรียกว่าร้อนตัวหรือเปล่านะ
ก่อนที่หญิงสาวจะพูดอะไรออกไป ขายาวๆของเขาก็พาร่างสูงๆนั้นเดินหนีเธออีกรอบ

ผู้ชายอะไรตีหน้าขรึมทีไร ทำให้เธอหวั่นใจทุกครั้งซิน่า…

“คุณบี” เธอตะโกนเรียก แต่ดูเหมือนอีกฝ่ายไม่ยอมฟังเท่าไหร่ เอาซิ… เดินหนีได้ เธอก็วิ่งตามได้ละน่า ปริมพิกาวิ่งตามร่างสูงไปจนทัน เขาไปหยุดยืนอยู่ข้างๆรถคู่ใจของตัวเอง ชายหนุ่มเปิดประตูแล้วก้าวขายาวๆขึ้นรถทันที โดยไม่สนใจเธอเลยสักนิด

แต่… คิดเหรอว่าเธอจะยอมให้เขาหนีไปโดยที่เธอยังไม่อธิบายให้เขาเข้าใจ หญิงสาวรีบเปิดประตูฝั่งตรงกันข้ามกับคนขับแล้วดีดตัวขึ้นนั่งข้างๆเขาทันที

เบนทิศหันมามองหน้าบางๆอย่างเอาเรื่อง แต่ก็ไม่พูดอะไรออกมาสักคำ เขาเงียบ… เธอก็เงียบ ปริมพิกาเหลือบมองหน้าบูดๆของเขานิดหนึ่ง

“ใจคอจะไม่รอฟังคำอธิบายเลยใช่ไหม”

เงียบฉี่….

ชายหนุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์แล้วออกตัวรถไปอย่างช้าๆ สายตาเขายังคงจับจ้องไปข้างหน้า ไม่ยอมหันมาสนใจเธอซักนิด

เธอจะทำยังไงให้คนๆนี้หันมาฟังข้อแก้ตัวของเธอนะ แต่ไม่เป็นไรถึงแม้เขาไม่ฟังเธอก็จะพูด เมื่อคิดเช่นนั้นปริมพิกาจึงเริ่มที่จะคิดหาคำพูดเพื่อจะมาอธิบายให้เขาฟัง

“อะแฮ่ม..” หญิงสาวกระแอมเสียงเล็กน้อยเพื่อเป็นการเริ่มต้น คนที่ทำท่าตั้งใจในการขับรถเหลือบมองเธอนิดหนึ่งก่อนหันไปมองไปข้างหน้าเหมือนเคย

เอาน่า… อย่างน้อยเขาก็สนใจเธออยู่บ้าง ปริมพิกาแอบอมยิ้มอยู่คนเดียว


“ถ้าคุณเป็นฉันล่ะ คุณจะทำยังไง ในเมื่อคุณอยากได้ข้อมูลที่เป็นจริง คุณจะให้ฉันเดินดุ่มๆเข้าไปในบริษัทจัดหางานแล้วบอกว่า คุณค่ะ…ฉันอยากได้ข้อมูลเหล่านี้ฉันขอได้ไหมคะ? แบบนี้น่ะเหรอ..”
เงียบ…..

“แล้วถ้าฉันเข้าไปทำงานในบ้านคุณในคราบ ปริมพิกา สิทธาวรุณ์ ครอบครัวคุณจะรับฉันเข้าทำงานไหม ฉันถามหน่อยซิ”
เงียบ…

“ฉันไม่ได้ตั้งใจที่จะหลอกหรือโกหกคุณและครอบครัวซักนิดเดียว ใช่…ฉันไปในคราบสมหมาย ก่อเกิด แต่มีสักครั้งไหมที่ฉันบกพร่องต่อหน้าที่ มีสักครั้งไหมที่ฉันไปทำเรื่องไม่ดีในบ้านคุณ”
เงียบ…

“เอาเถอะ ถ้าคุณไม่อยากฟังก็ไม่เป็นไร แต่ฉันขอแค่เรื่องเดียวเท่านั้น คุณอย่าไปบอกเรื่องนี้กับทุกคนนะ ฉันไม่อยากให้ความรู้สึกดีๆที่ทุกคนมีให้นั้นหายไป”
เงียบ…

ทำไมเธอต้องมานั่งพูดปากเปียกปากแฉะให้คนไร้ความรู้สึกแบบนี้ฟังด้วยนะ ปริมพิกาเหลือบมองใบหน้าคมครันอีกครั้ง ก่อนที่จะหายใจลึกๆ มือบางๆเอื้อมไปเปิดเพลงกระหึ่มทั้งรถ

เอาซิเธอพูดไม่ฟังใช่ไหม?.. ได้เลยคุณเบนทิศ เดี๋ยวปริมพิกาจัดให้

เธอกดปุ่มเร่งเสียงดังขึ้น ดังขึ้นเรื่อยๆ ตาก็จับจ้องที่เขา ดูซิจะทนได้นานแค่ไหน

มือหนาเอื้อมมากดปุ่มปิด… แล้วหันไปสนใจในการขับรถต่อ

มือบางเอื้อมไปกดเปิด แล้วเร่งเสียงดังอีกครั้ง

แข่งกันซิใครจะแน่กว่ากัน….

เบนทิศหันมาทำตาดุให้เธอ หญิงสาวเลิกคิ้วตอบอย่างท้าทาย

ชายหนุ่มหักพวงมาลัยเลี้ยวจอดเทียบข้างทางทันที แล้วหันมาจ้องหน้าเธออย่างเอาเรื่องอีกครั้ง แต่ยังไม่มีเสียงเล็ดลอดออกมาจากริมฝีปากหนาเช่นเคย

ปริมพิกายกมือกอดอก นั่งจ้องตาเขากลับเหมือนกัน เอาซิเล่นจ้องตากันเหมือนปลากัดแบบนี้ใช่ไหม อย่าคิดว่าเธอจะกลัวสายตาดุๆนั่นนะ

เบนทิศมองหน้ารั้นๆของเธอแล้ว อยากจะหลุดหัวเราะออกมาซะเดี๋ยวนั้นแต่ก็ยังคงตีหน้าครึมอยู่เหมือนเดิม ไม่เช่นนั้นคนผิดคงไม่ยอมรับผิดแน่ ดูสายตาที่เธอจ้องเขาซิ นี่ขนาดตัวเองผิดเต็มประตูนะ ยังมีหน้ามาทำสีหน้าไม่พอใจให้เขาอีกแน่ะ
เสียงเพลงยังคงดังกระหึ่มทั่วทั้งรถอยู่ แต่เหมือนว่าคนทั้งคู่ไม่สนใจกับเสียงเพลงนั้นแล้ว ยังคงจ้องกันแบบเอาเรื่อง

ปากรั้นๆของหญิงสาวเผยอขึ้นอย่างขัดใจ เมื่ออีกฝ่ายยังคงปิดปากเงียบ

“อืม… สงสัยใบ้จะกินคนแถวนี้แล้วแฮะ” เธอยั่วโมโหเขา

“ใครเป็นใบ้” ไชโย… พูดออกมาได้ซักทีนะเจ้าชายดอกพิกุล

“อุ้ยๆ ดอกพิกุลทองร่วงแน่ะ รีบเก็บเร้วววว” หญิงสาวทำท่าเก็บอะไรบางอย่าง

“อุ้ย ตรงนี้ก็มี ตรงโน้นก็มีแฮะ” เธอยังคงล้อเขา มือบางเอื้อมไปหยิบดอกพิกุลทองตรงไหล่ของอีกฝ่าย เบนทิศจับมือบางไว้ทันที

“ไม่ตลกนะคุณ”

ปริมพิกาทำหน้าเบะทันที “ฉันก็ไม่ตลกนะคุณ” เธอกระชากมือกลับทันทีเช่นกัน

“คุณคิดยังไงก็พูดออกมาให้เคลียร์กันเลยซิ ทำไมต้องเงียบและทำหน้าโกรธแบบนี้ด้วย”

“ผมไม่ได้โกรธ” แน้… นี่เหรอหน้าตาที่บอกไม่โกรธของเขาน่ะ ขนาดเด็กอมมือยังมองออกเลย

“ฉันอธิบายไปหมดแล้ว ทีนี้อยู่ที่คุณแล้วล่ะว่าจะยอมอภัยให้ฉันไหม”

ปริมพิกาเอื้อมมือไปกดปุ่มเพื่อปิดเพลง เพราะตอนนี้ดูอีกฝ่ายจะสงบและยินยอมฟังเธอบ้างแล้ว

“ฉันขอโทษ ถ้าทำให้คุณไม่พอใจ”

“ผมก็ไม่ได้ว่าอะไรนี่” เสียงยังคงเย็นชาเหมือนเดิม แต่ก็ยังดีที่เขาไม่เงียบเหมือนตอนแรกๆที่ได้รู้ความจริง อย่างน้อยก็ทำให้เธอใจชื้นขึ้นบ้าง


ถึงแม้ในตอนแรกจะรู้สึกโกรธที่เขาได้รู้ความจริงๆว่า ปริมพิกากับสมหมาย เป็นคนๆเดียวกัน แต่เมื่อได้เห็นสีหน้าสำนึกผิดของเธอ และเท่าที่ฟังข้อแก้ตัวของเธอแล้ว มันก็ไม่ใช่ปัญหาร้ายแรงจนขนาดที่จะให้อภัยกันไม่ได้นี่…

แต่ตอนนี้เขาขอตีสีหน้าดุๆไปก่อน เดี๋ยวเธอจะได้ใจว่าแค่ง้อเขานิดเดียวก็หายโกรธแล้ว อย่างนั้นเขาคงจะเสียหน้าแย่แน่ๆ

“ภายในอาทิตย์นี้หน้าที่ของสมหมายคงจะจบลงทันทีที่มีคนงานจากทางบริษัทจัดมาให้ใหม่” เธอเว้นวรรคนิดหนึ่งก่อนจะพูดต่อ

“ถึงแม้ว่าระยะเวลาในการอยู่บ้านของคุณจะน้อยนิด แต่ฉันก็รับรู้ถึงความรักและความหวังดีที่ทุกคนมอบให้กับสมหมาย ฉันอยากเก็บความรู้สึกดีๆของทุกคนไว้แบบนั้น นะคะคุณบี ฉันขอร้องอย่าบอกเรื่องนี้กับใคร”

“ผมไม่รับปาก”

“งั้นก็แล้วแต่คุณเถอะค่ะ ฉันคงจะบังคับไม่ให้คุณพูดไม่ได้ พรุ่งนี้ฉันยังคงทำหน้าที่ของสมหมายเหมือนเดิม ถ้าทุกอย่างจะจบขอให้จบลงภายในพรุ่งนี้นะคะ ฉันไปละ”

พูดจบเธอก็เปิดประตูลงจากรถไปทันที

เบนทิศมองตามร่างบางๆที่ไปยืนโบกแท็กซี่ก่อนที่เธอจะก้าวขึ้นไปนั่ง แล้วแท็กซี่คันนั้นก็วิ่งมุ่งไปข้างหน้าทันทีที่เธอขึ้นแล้ว…

แล้วเขาล่ะ… ดีใจหรือเสียใจกันแน่นะที่ได้รู้ว่าแท้จริงแล้ว สมหมายก็คือคนๆเดียวกับเธอผู้ที่ได้ขโมยหัวใจเขาไปทั้งดวง…







Create Date : 16 สิงหาคม 2550
Last Update : 16 สิงหาคม 2550 16:25:59 น. 2 comments
Counter : 316 Pageviews.

 
คุยนิดเดียวจ้า...
ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณทุกกำลังใจที่ส่งมาให้ปาณิกดาอย่างต่อเนื่องนะคะ
และก็ต้องขอโทษที่เอานิยายมาลงช้าไปหน่อย แต่จะพยายามแต่งเรื่องนี้ให้จบภายในเดือนนี้ให้ได้จ้า...
แต่แต่งจบคงต้องมีการรีไรท์ขนาดหนักเชียวค่ะ เพราะเวลาแต่งแต่ละบทอาจอยู่ในโหมดแตกต่างกันไป
เลยทำให้บางบทอ่านแล้วยังไม่ไหลลื่น ซึ่งข้อนี้แฟนคุณเบนทิศคงรู้ดีเนอะ
เอาล่ะมาตอบเม้นท์กันดีกว่าจ้า...

คุณพลอยสีชมพู... ขอบคุณสำหรับคอมเม้นท์จ้า เป็นเรื่องที่ดีทีเดียวสำหรับพี่ เพราะจะได้รู้และแก้ไขในจุดที่ยังบกพร่องอยู่ เดี๋ยวตอนรีไรท์คงจะปรับแต่งตามที่แนะนำมาน๊า

คุณ ammy... ขอบคุณที่ติดตามจ้า ถึงแม้ว่าผู้แต่งจะดองนาน ก็ยังคงติดตามกันแบบนี้รักตายเลยนา...

ปล. ขอฝากเรื่อง รักละมุน อุ่นละไม ด้วยนะคะ จะคลอดเป็นหนังสือเร็วๆนี้ กับ สนพ.มธุรดา
แต่ว่า...เงอๆ ผ่านมาเดือนกว่าแล้วยังไม่เห็นโฉมหน้าหนังสือเลยอ่า
สงสัยทาง สนพ.กำลังคิดหนักแน่ๆเลยว่าจะตีพิมพ์ดีป่าว อิอิ

แต่ยังไงฝากทุกคนด้วยนะคะ...


โดย: หนึ่งเดียวในใจ วันที่: 16 สิงหาคม 2550 เวลา:16:43:56 น.  

 
เย้ๆๆ ในที่สุดก็อัพแล้ว อ่านตอนนี้แล้วชอบอ่ะ ลื่นดี ช่วงนี้คงจะไม่ค่อยได้เข้ามาบ่อย ๆแล้วเพราะว่าโปรเจคสุ่มหัวมาก ยังไงก็สู้ๆต่อไปนะจ๊ะพี่สาว
ป.ล.ดีใจด้วยจ้าที่ หนังสือจะได้ตีพิมพ์แล้ว ขอให้ขายได้เยอะๆน่ะค่ะ
ป.ล. เปลี่ยน bg น่ารักดีชอบค่ะ


โดย: พลอยสีชมพู IP: 125.27.113.226 วันที่: 17 สิงหาคม 2550 เวลา:12:12:16 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

หนึ่งเดียวในใจ
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]






* ฝนริน/ปาณิกดา *

ผู้หญิงที่มีอารมณ์อ่อนไหว
เหงา เศร้า หัวเราะ
ร้องไห้ได้ในเวลาเดียวกัน
(ท่าจะบ้าเนอะผู้หญิงคนนี้ เอิ๊กส์)

งานเขียนในบล็อกนี้
ขอสงวนลิขสิทธิ์
ตามพรบ.ลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537
นะคะ




**ขอขอบคุณภาพแต่งบล็อก และ โค๊ดแต่งบล็อกจากเพื่อนชาวบล็อกทุกท่านมา ณ ตรงนี้ด้วยนะคะ**
















Friends' blogs
[Add หนึ่งเดียวในใจ's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.