Group Blog
 
<<
พฤษภาคม 2550
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
19 พฤษภาคม 2550
 
All Blogs
 
พิสูจน์รัก...จากก้นครัว (ตอนที่ 12)


บทที่ 12
ข่าวซุบซิบ






เบนทิศมองภาพที่หญิงสาวกับเจ้าหลานชายของเขาหยอกล้อกันเล่นอย่างมีความสุข เขาไม่เคยเห็นน้องเบนสนิทกับใครได้ถึงเพียงนี้ เขาอยากรู้นักว่าคนหน้าหวานตรงหน้าเขามีดีอะไรถึงได้ทำให้เจ้าหลานชายเขาหลงได้ขนาดนี้ รู้สึกตั้งแต่คืนวันงานเขาจะได้ยินแต่น้องเบนพูดถึงเธอ ไม่ว่าอะไรก็มีแต่ น้าปริมๆ อยู่ตลอดเวลา

“น้าปริมป้อนน้องเบนหน่อยนะคับ” ก่อนที่ความคิดเขาจะล่องลอยไปไกล ก็ต้องสะดุดทันทีเมื่อได้ยินเจ้าหลานชายของเขาออดอ้อนให้หญิงสาวป้อนอาหารให้ เบนทิศลอบมองเสี้ยวหน้าหวานๆของเธอ รอดูซิว่าปริมพิกาจะทำอย่างไร

“เอ๋… น้าปริมก็เห็นว่าเมื่อกี้น้องเบนทานเองได้นี่คะ” เธอพูดไปแบบนั้นแต่ว่ามือเรียวบางกลับเอื้อมไปหยิบช้อนของน้องเบนมาตักอาหารส่งเข้าปากน้อยๆที่อ้ารออยู่ก่อนแล้ว

เบนทิศอมยิ้มกับภาพตรงหน้า เธอคงไม่เคยทำแบบนี้มาก่อนจึงทำให้อาหารนั้นเลอะปากน้องเบน แต่ดูเหมือนคนถูกป้อนจะไม่สนใจอาหารเหล่านั้น แต่กลับสนใจการกระทำของน้าปริมของเขามากกว่า เสียงหัวเราะใสๆของน้องเบนทำให้เขามีความสุขตามไปด้วย

“น้าปริมป้อนอาหารเก่งจัง” ทั้งที่ปากของตัวเองเลอะเต็มไปด้วยคราบอาหาร น้องเบนก็ยังคงชื่นชมเธอ

“น้องเบนป้อนน้าปริมมั่งน๊า” ปริมพิกาเลิกคิ้วงงๆเล็กน้อย ก่อนพยักหน้ารับ

ทีนี้น้องเบนคว้าช้อนของเธอไปตักอาหารส่งเข้าปากให้บ้าง ปริมพิกาหัวเราะเสียงใสเมื่อมือตัวน้อยนั้นป้อนผิดป้อนถูก จนทำให้ปากเธอเลอะเหมือนกัน

“พอกันเลยทั้งคู่” เบนทิศหยิบทิชชู่เช็ดปากเลอะๆให้กับน้องเบน แล้วหยิบส่งให้หญิงสาวบ้าง

“คุณก็เช็ดซักหน่อยเปื้อนหมดแล้ว” ปริมพิกาชะงักเล็กน้อย แต่ก็เอื้อมมือไปรับทิชชู่จากมือหนา

“ขอบคุณค่ะ” และก่อนที่เธอจะทำอะไรกับปากเลอะๆของตัวเอง น้องเบนก็ดึงทิชชูออกจากมือเธอไปเสียแล้ว

“เดี๋ยวน้องเบนเช็ดให้น้าปริมเอง”



ปริมพิกาลอบถอนหายใจ ใช่ว่าเธอจะรำคาญน้องเบน แต่เธอกลัวว่าการที่น้องเบนทำอย่างนี้นั้นมันจะทำให้เธอกลายเป็นเป้าสายตาของเบนทิศบ่อยๆ และถ้าเป็นอย่างนั้นมันก็อาจทำให้เขาสังเกตเธอได้ตลอดเวลาในขณะที่เธอไม่ทันได้ระวังตัว หญิงสาวได้แต่ภาวนาว่าอย่าให้เขาจับได้ก็แล้วกัน ต่อไปนี้ถ้าเธออยู่ในคราบสมหมายคงจะต้องระวังตัวเองให้มากกขึ้นอีกเท่าตัว และคงจะต้องหลบหน้าเขาให้มากๆเท่าที่จะทำได้

มือน้อยๆของน้องเบนไล้ไปตามริมฝีปากของเธอ เพื่อเช็ดคราบอาหารให้ “สะอาดแล้วคับ” เมื่อน้องเบนคิดว่าทุกอย่างสะอาดดีแล้วเขาก็กลับไปนั่งทานต่อ ทีนี้น้องเบนหยิบช้อนเพื่อตักอาหารทานเอง แต่ก็ยังไม่วายที่จะหันไปส่งยิ้มหวานๆให้กับน้าปริมอยู่เสมอ

ส่วนเบนทิศเขาได้แต่นั่งดูเงียบๆ นานๆทีถึงจะเอ่ยอะไรออกมาได้ จนปริมพิกาอดที่จะเหลือบมองคนปากหนักไม่ได้ เขายังคงก้มหน้าทานอาหารตรงหน้าของตัวเองไปเงียบๆ ปล่อยให้เธอกับน้องเบนสู้รบกันเองอย่างสนุกสนานครื้นเครง ปริมพิกาอยากรู้นักว่าภายใต้สีหน้าอันเรียบสนิทของเขาตอนนี้กำลังคิดอะไรอยู่ เธอคงจ้องหน้าเขานานไปจึงทำให้คนที่ก้มหน้าตักอาหารต้องเหลือบขึ้นมามอง เขาเลิกคิ้วเหมือนจะถาม แต่ปากยังคงเรียบสนิท ไม่มีคำพูดใดๆออกจากปากได้รูปของเขา

ปริมพิกาหลบไม่ทันจึงได้แต่ยิ้มแห้งๆไปให้เขา แล้วหันหน้าหนีสายตาคมๆคู่นั้นเพื่อกลับไปสนใจกับน้องเบนต่อ ดูท่าวันนี้น้องเบนจะมีความสุขเป็นพิเศษ เพราะใบหน้าน้อยๆของเขาระบายไปด้วยรอยยิ้มตลอดเวลา หญิงสาวอดที่จะฝังจมูกลงบนแก้มนิ่มๆของน้องเบนไม่ได้ ทั้งที่น้องเบนกำลังสาละวนอยู่กับการตักอาหารเข้าปาก จนน้องเบนต้องหันมาจ้องเธออย่างงงๆ

“น้าปริมหอมน้องเบนทำไมคับ”

“ก็น้าปริมรักน้องเบนนี่คับ” เธอตอบกลับไปทำให้น้องเบนปล่อยช้อนในมือแล้วสวมกอดเธอทันที

“น้องเบนก็รักน้าปริมคับ”



เมื่อทั้งสามคนทานอาหารกันเรียบร้อยแล้ว เบนทิศก็เรียกพนักงานให้มาเก็บเงินส่วนปริมพิกาก็เดินจูงมือน้องเบนมายืนรออยู่หน้าประตูในขณะที่เบนทิศนั่งรอจ่ายเงินนั้น พนักงานชายที่มาเก็บเงินก็เอ่ยกับเขายิ้มๆ

“ภรรยากับลูกของคุณน่ารักทั้งคู่เลยนะครับ” เบนทิศงงเล็กน้อยเมื่อได้ยินประโยคนั้นจากพนักงาน และก่อนที่เขาจะพูดหรือแก้ตัวใดๆ พนักงานก็หยิบบิลและเงินเดินจากไปเสียแล้ว

เบนทิศหันไปมองร่างบางๆของปริมพิกาที่ยืนจูงมือน้องเบนอยู่นอกร้าน และชี้โน่นชี้นี่ให้น้องเบนดูอะไรต่างๆ อืม… ดูเหมือนแม่กับลูกกันจริงๆ แล้วอดไม่ได้ที่จะก้มมองตัวเองแล้วอมยิ้มอยู่ในใจคนเดียว… พ่อ แม่ และลูก


เบนทิศเดินมาหาคนทั้งคู่ แล้วคว้ามือน้องเบนอีกข้างไปถือไว้ ถ้าคนที่ไม่รู้จักกันก็ต้องคิดแบบนั้นเหมือนกัน เพราะเบนทิศตั้งใจให้คนรอบข้างนั้นมองเป็นแบบนั้นจริงๆ แล้วทำไมเขาถึงมีความคิดนี้ออกมาได้นะ คงเป็นเพราะเขาอยากแกล้งเธอที่กลายเป็นขวัญใจเจ้าหลานชายตัวจุ้นของเขานั่งเองมั่ง ชายหนุ่มให้คำตอบกับตัวเอง แต่ทำไมเขาต้องรู้สึกวูบหวาบด้วยนะเวลาที่เห็นรอยยิ้มจากปากได้รูปของเธอ

คำถามในใจข้อนี้เขาก็หาข้อสรุปให้กับตัวเองไม่ได้ เบนทิศปล่อยให้ใจล่องลอยไปไกลจนไม่ทันได้ฟังน้องเบนพูด จึงทำให้หลานชายตัวจุ้นต้องกระตุกมือถามซ้ำอีกรอบ

“อาบี วันนี้อาบีไปส่งน้าปริมได้ไหมคับ น้องเบนอยากไปส่งน้าปริม” เบนทิศหันไปสบตากับปริมพิกาที่ยืนทำหน้าไม่ถูก

“เอ่อ… น้องเบนคับ วันนี้น้าปริมขับรถมาเองไว้วันหลังดีกว่านะคับ” ปริมพิกาพยายามให้เหตุผลกับน้องเบน และคงจะเป็นความโชคดีของเธอที่น้องเบนเป็นเด็กที่เข้าใจอะไรได้ง่ายๆ และเชื่อฟังผู้ใหญ่ตลอด ถ้าบอกว่าได้ก็ได้ ถ้าบอกไม่น้องเบนก็จะไม่เซ้าซี้ให้ต้องรำคาญ นี่ก็เป็นอีกข้อมั่งที่ทำให้เธอหลงรักเด็กคนนี้ได้ง่าย

“งั้น… น้องเบนขอเบอร์โทรของน้าปริมได้ไหมคับ น้องเบนจะได้โทรคุยกับน้าปริมได้ไง” อืม… รู้สึกว่าเด็กสมัยนี้นี่จะทันเทคโนโลยีกันเหลือเกิน เด็กวัยเพียงสามขวบสามารถรู้จักใช้มือถือกันแล้ว เธอละนับถือจริงๆ

“ได้สิคับ” ปริมพิกาหันไปหาเบนทิศเพื่อขอปากกากับเขา แต่ก็โดนปฏิเสธไปเพราะเขาไม่ได้พกปากกามาด้วย เบนทิศจึงหยิบมือถือของตัวเองส่งให้หญิงสาว ปริมพิกามองอย่างชั่งใจสุดท้ายก็จำยอมหยิบมือถือของเขามากดเบอร์โทรของตัวเองให้ แล้วก็โทรออกหาเครื่องตัวเอง จะได้ไม่เป็นการเสียเปรียบไง…ปริมพิกาให้คำตอบกับตัวเอง เพราะถ้าเขามีเบอร์โทรของเธอ เธอก็จะต้องมีของเขาด้วย เมื่อเสร็จเรียบร้อยแล้วปริมพิกาจึงขอตัวแยกจากทั้งคู่ แต่ก็ต้องชะงักเมื่อเบนทิศเรียกเธอไว้ก่อน

“คะ !!” เธอหันไปเลิกคิ้วถาม

เบนทิศส่งกล่องกระดาษให้กับเธอ “ของคุณ”

ปริมพิกามองกล่องกระดาษอย่างงงๆ เพราะนี่มันไม่ใช่ของเธอนี่นา เมื่อคิดเช่นนั้นเธอก็ส่งกลับมาให้เขาคืน “ไม่ใช่ของฉันหรอกค่ะ”

“มันเป็นของคุณ” ปริมพิกาขมวดคิ้วแล้วก้มลงดูของที่อยู่ในนั้น แล้วก็ต้องอายแทบจะมุดหน้าหนีจากตรงนั้น ชุดว่ายน้ำทูพีชสองชุดที่เธอจ้องจะซื้อเมื่อสักครู่ตอนนี้มันได้มานอนอยู่ในกล่องกระดาษนี้เสียแล้วด้วยฝีมือคนหน้าตายตรงหน้า คิดดูซิว่าใครจะเชื่อว่าผู้ชายหน้าตาไร้อารมณ์อย่างเขาจะกล้าซื้อชุดว่ายน้ำที่เธออยากได้มาให้เธอด้วย

“คิดว่าคุณคงชอบ” แน่ะ… ยังมีหน้ามาพูดอีกไม่รู้หรือไงนะว่าตอนนี้เธอน่ะอายจนอยากจะมุดลงดินให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย

“ขอบคุณค่ะ” ปริมพิกาไม่รู้จะพูดอะไรที่คิดว่าดีกว่านี้แล้ว เธอจึงเลือกที่จะขอบคุณแล้วสาวเท้าหนีหน้าคมๆออกมาให้เร็วที่สุด “คนบ้า… ซื้อมาให้ได้ยังไง” ปากบ่นไปแบบนั้นแต่ในใจนั้นมีแอบอมยิ้มเล็กน้อย

เสียงน้องเบนยังคงดังเข้าโสตประสาทหูของเธอ ทำให้อายได้เหมือนกัน

“อาบีน่ารักจังเลย ซื้อชุดว่ายน้ำให้น้องเบนยังไม่พอยังซื้อให้น้าปริมด้วย น้องเบนรักอาบีที่สุดในโลกเลยคับ” น้องเบนกระโดดเหย่งๆอย่างดีใจจนเบนทิศต้องก้มลงอุ้มร่างจ้ำม่ำของเขาขึ้นมาอุ้มแล้วฝังจมูกลงกับแก้มนุ่มของหลานชายอย่างแสนรัก “ขอบคุณครับน้องเบน วันนี้อาบีมีความสุขที่สุดเลย” เขาเอ่ยเบาๆ

เบนทิศมองตามร่างบางที่สาวเท้าอย่างรวดเร็วแทบจะวิ่งเลยก็ว่าได้ เธอไม่ยอมหันหลังกลับมาอีกเลย ชายหนุ่มหัวเราะหึๆ อยู่ในลำคอ

“เรากลับบ้านกันดีกว่าเนอะน้องเบน” เขาหันมาพูดกับหลานชายตัวจุ้น น้องเบนพยักหน้าหงึกๆ “คับ”



“ปริมพิกา สิทธาวรุณ์ ทายาทคนเดียวของเจ้าของโรงแรม พี.เอส. มีเจ้าของหัวใจเสียแล้ว อย่างนี้หนุ่มๆทั้งประเทศคงอกหักกันเป็นแถว เช่นเดียวกันสาวๆทั้งประเทศก็คงจะอกหักไม่แพ้กัน เมื่อนักข่าวกอสซิบไฮโซของเราบังเอิญไปเจอภาพบาดตาบาดใจ ที่เบนทิศ… นักบินหนุ่มที่เป็นขวัญใจของสาวๆทั้งประเทศกับเดินช็อปปิ้งกับปริมพิกา สิทธาวรุณ์ ในห้างดังกลางใจเมืองสองต่อสอง…ซื้ออะไรกันนั้นในภาพฟ้องแล้วครับ !!!”

ปริมพิกามองภาพตัวเองที่ยืนอยู่ในแผนกชุดว่ายน้ำ และข้างๆนั้นก็เป็นเบนทิศที่ยืนอยู่ใกล้ๆ ภาพที่ปาปารัชซี่ถ่ายออกมานั้นเป็นภาพที่เธอกำลังยื่นกางเกงว่ายน้ำให้กับเบนทิศ ทำให้ภาพนั้นเหมือนกับว่าเธอกับเขาพากันไปเลือกซื้อชุดว่ายน้ำสองต่อสองจริงๆ เพราะในภาพไม่มีน้องเบนโผล่ออกมาเลย อาจเป็นเพราะน้องเบนตัวเล็กจึงถูกเสื้อผ้าแถวนั้นกลบหายไป

ส่วนอีกภาพเป็นภาพที่เบนทิศกำลังเช็ดปากให้กับน้องเบน แต่ในภาพนั้นกลับเหมือนว่าคนที่ถูกเขาเช็ดปากนั้นเป็นเธอ เพราะวันนั้นน้องเบนนั่งอยู่ริมข้างใน และเธอก็นั่งถัดจากน้องเบน ภาพที่ออกมาจึงทำให้มองไม่เห็นว่ามีน้องเบนนั่งอยู่ด้วย

“ภาพสวีทหวานที่นักบินหนุ่มเนื้อหอม กำลังซับปากให้กับแฟนสาว คงจะเป็นที่แจ่มชัดกันแล้วว่าทั้งคู่คงคบหาดูใจกันมาพักใหญ่แล้ว…”

“เฮ้อ… เป็นเรื่องไหมล่ะปริมแล้วต่อไปจะทำไงดีว่ะเนี่ย” หญิงสาวพึมพัมกับหนังสือพิมพ์ในมือ ถ้าพ่อกับแม่เธอรู้คงต้องโทรมาสอบถามกันจ้าละหวั่นแน่ๆ แล้วสองสาวเพื่อนรักของเธออีกละ เธอจะตอบยังไงดีเนี่ย และไม่ทันที่หญิงสาวจะคิดหาคำแก้ตัว เสียงโทรศัพท์มือถือก็ดังขึ้น ดีนะที่วันนี้เจ้านายของเธอไม่อยู่บ้านกันทุกคน รวมทั้งป้าพลอยก็ออกไปกับคุณผู้หญิง จึงทำให้บ้านทั้งหลังเหลือแต่หญิงสาวเพียงผู้เดียว

“คะแม่” หญิงสาวขานรับเสียงอ่อยๆ

“ปริมเห็นข่าวหรือยัง เรื่องราวมันเป็นยังไงแม่ต้องการฟังคำอธิบาย” หญิงสาวถอนหายใจหนักๆ เธอจะตอบจะอธิบายยังไงดีละเนี่ย

“แม่คะ มันเป็นเรื่องเข้าใจผิดกันทั้งนั้น”

“ถ้าเป็นเรื่องเข้าใจผิดทำไมลูกต้องหนีกลับชลบุรีโดยไม่บอกไม่กล่าวแม่ซักคำ” แม่เธอต่อว่ากลายๆ

“ก็แม่ไม่อยู่ให้ปริมบอกนี่คะ โธ่… ปริมก็เลยมาโดยที่ไม่ได้บอกก็แค่นั้น” เมื่อวานที่เธอกลับมาบ้านของเจ้านายนั้น แม่กับพ่อของเธอไม่อยู่บ้าน เธอเลยเลือกที่จะเขียนโน๊ตทิ้งไว้ และฝากบอกให้สมหมายบอกท่านแทน ใครจะนึกละว่าเรื่องราวมันจะเป็นแบบนี้ ปริมพิกาก้มลงมองข่าวนั้นอีกรอบ

“แล้วปริมจะกลับไปอธิบายให้แม่ฟังนะคะ หนูรักแม่ค่ะ” หญิงสาวเลือกที่จะตัดสายทิ้งทันที

ต่อจากนั้นก็มีสายเรียกเข้าอีก เป็นสายของสิรินกร เธอเชื่อว่ามุกดาก็ต้องอยู่ตรงนั้นด้วย ทีนี้เธอคงจะถูกซักจนขาวสะอาดแน่ๆ ปริมพิกาถอนหายใจแรงๆก่อนจึงกดรับสาย

“จ๊ะซินว่าไง”

“ไม่ว่าไงหรอกย่ะ ฉันกับมุกก็แค่อยากรู้ว่าเธอกับเจ้านายหน้าตาย ทำไมถึงได้ไปเดทกันซะหวานขนาดนั้น” เสียงแจ๋นๆของสิรินกรทำให้ปริมพิกาต้องยกโทรศัพท์ออกห่างจากหูเล็กน้อย

“เบาๆก็ได้ยัยซิน” เธอปรามเพื่อนรัก แต่ดูเหมือนอีกฝ่ายไม่ฟังเธอเลยซักนิดเดียว สิรินกรยังคงซักไซร้ไล่ถามเธอไม่ยอมหยุด

“ว่าไง จะเล่าดีๆหรือจะให้ฉันงัดไม้ตาย” ปริมพิกาไม่รู้หรอกว่าสิรินกรจะงัดไม้ตายอะไร แต่ก็คงเป็นแค่คำพูดที่ทำให้เธอยอมเล่ามากกว่า

“มันเป็นเรื่องเข้าใจผิด” เธอตอบไปได้แค่นั้น

“แล้วเรื่องมันเป็นยังไงละ” แล้วเรื่องราวทั้งหมดก็ออกจากปากได้รูปของเธอเพื่ออธิบายให้กับเพื่อนได้ฟัง

“แค่นั้นเองเหรอ ว๊า… ฉันก็นึกว่าเธอกับพี่บีของเธอจะปิ๊งปั๊งกันซะแล้วซิ แล้วไปเจอกันแบบนั้นความไม่แตกเหรอ” สิรินกรถามอย่างเป็นห่วง

“คงไม่หรอกมั่ง” ปริมพิกาก็ไม่แน่ใจเหมือนกันเรื่องนี้ เพราะเธออ่านใจของเขาไม่ออกเลย หน้าที่เรียบสนิทไม่แสดงอาการใดๆออกมาให้เห็นแบบนี้ ดูยากจังเลย…

เธออยากรู้นักว่า ถ้าเขาเห็นข่าวนี้ขึ้นมาจะทำหน้าอย่างไร แต่ที่แน่ๆเธอคงจะต้องพยายามหลบหน้าเขาให้ได้เมื่อยู่ในคราบของสมหมาย ดีนะที่อีกไม่กี่วันเขาก็จะกลับเข้ากองบินแล้วไม่อย่างนั้นความคงได้แตกกันก็คราวนี้แหละ… เฮ้อ การโกหกนี่มันทรมานจริงๆเลยเนอะ








Create Date : 19 พฤษภาคม 2550
Last Update : 19 พฤษภาคม 2550 19:36:29 น. 3 comments
Counter : 422 Pageviews.

 
ตอบเม้นท์จ้า...

เหนื่อยกับงานมาทั้งอาทิตย์เลยค่ะ มาอัพให้ช้าไปไม่ว่ากันนะค่ะ ขอบคุณทุกกำลังใจที่หลั่งไหล (เหอๆๆๆ หลั่งไหลตรงไหนหว่า) เข้ามานะค่ะ

คุณ VEE ...ขอบคุณสำหรับกำลังใจค่ะทั้งเรื่องสั้นด้วย... ความหลับยังไม่แตกค่ะตอนนี้ ลุ้นกันต่อนะค่ะ

คุณ sunny ... ดีใจจังเลยค่ะที่เห็นชื่อคุณอีกครั้ง มาตามลุ้นกันต่อนะค่ะ

...........


โดย: หนึ่งเดียวในใจ วันที่: 19 พฤษภาคม 2550 เวลา:19:41:02 น.  

 
ตามมาอ่านเช่นเคย ไม่คิดจะเขียนเรื่องสั้นเพิ่มอีกเหรอคะ ชอบอ่านเรื่องสั้นมาก ปรู๊ดปร๊าดจบเร็วทันใจดี แบบตอนเดียวจบเลย


โดย: VEE IP: 69.137.126.216 วันที่: 21 พฤษภาคม 2550 เวลา:3:24:17 น.  

 
เพิ่งเข้ามาอ่านเป็นครั้งแรกค่ะ ขอฝากตัวด้วยน่ะค่ะ ชอบน้องเบนจังเลยอย่าลืมมาอัพตอนต่อไปนะค่ะ


โดย: พลอยสีชมพู IP: 125.27.112.52 วันที่: 22 พฤษภาคม 2550 เวลา:20:14:30 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

หนึ่งเดียวในใจ
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]






* ฝนริน/ปาณิกดา *

ผู้หญิงที่มีอารมณ์อ่อนไหว
เหงา เศร้า หัวเราะ
ร้องไห้ได้ในเวลาเดียวกัน
(ท่าจะบ้าเนอะผู้หญิงคนนี้ เอิ๊กส์)

งานเขียนในบล็อกนี้
ขอสงวนลิขสิทธิ์
ตามพรบ.ลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537
นะคะ




**ขอขอบคุณภาพแต่งบล็อก และ โค๊ดแต่งบล็อกจากเพื่อนชาวบล็อกทุกท่านมา ณ ตรงนี้ด้วยนะคะ**
















Friends' blogs
[Add หนึ่งเดียวในใจ's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.