Group Blog
 
<<
มิถุนายน 2550
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
 
13 มิถุนายน 2550
 
All Blogs
 

พิสูจน์รัก...จากก้นครัว (ตอนที่ 15)

บทที่ 15
เริ่มแน่ใจ




ปริมพิกาจัดแจงยกอาหารที่ตัวเองได้ทำสำเร็จสามสี่อย่าง(ที่คิดว่าน่าจะทานได้)ขึ้นโต๊ะให้เบนทิศ ซึ่งเจ้านายหน้าตายของเธอได้นั่งรอประจำที่เรียบร้อยแล้ว ชายหนุ่มเหลือบมองร่างบางคล้ำๆของสาวใช้ที่เคลื่อนตัวเข้าออกจากห้องอาหารไปห้องครัวอย่างคล่องแคล่วว่องไว

ยิ่งมองเธอคนนี้ก็ยิ่งเหมือนหญิงสาวที่อยู่ในมโนจิตของเขาตอนนี้ “ปริมพิกา” ทำไมเขายิ่งคิดถึงเธอมากขึ้นทุกวันๆนะ ทั้งที่ไม่ได้เจอหน้ากันเกือบเป็นเดือนแล้ว แต่ยิ่งเห็นสาวใช้ก็ยิ่งทำให้เขาคิดถึงเธอมากขึ้น ชายหนุ่มเผลอมองสาวใช้จนเธอต้องเลิกคิ้วถามเมื่อยกอาหารจานสุดท้ายวางตรงหน้าเขาเรียบร้อยแล้ว

“คุณบีต้องการอะไรหรือเปล่าคะ”

คนถูกถามถึงต้องสะดุ้งทีเดียว เมื่อคิดว่าตัวเองเผลอมองสาวใช้แล้วคิดถึงหญิงสาวอีกคน หน้าคมครันที่ชอบวางหน้าเรียบเฉย ตอนนี้เริ่มแดงระเรื่อด้วยความเขิน

“ไม่มี” เขาส่ายหน้าตอบแล้วหันหน้าไปสนใจอาหารตรงหน้าของตัวเองเพื่อหลบสายตาของสาวใช้ที่ตอนนี้เริ่มใช้สายตาค้นหาความเป็นจริงจากใบหน้าคมๆนั่น

แต่ก็ไม่เห็นทีท่าว่าเขาจะแสดงอาการใดๆออกมาอีกเลย เธอจึงสนใจกับอาหารที่ตัวเองทำเมื่อเห็นว่าเจ้านายตักอาหารอย่างแรกเข้าปาก ปริมพิกาลุ้นจนตัวโก่งว่าหลังจากที่อาหารนั้นเข้าปากแล้ว เขาจะว่าอย่างไร

เบนทิศกำลังจะยกช้อนที่ตักอาหารเข้าปาก ก็ต้องชะงักเมื่อหันไปเจอสายตาลุ้นๆของสาวใช้ที่ยืนอยู่ใกล้ๆแถวนั้น เมื่อเขาหันไปสบตากับเธออีกฝ่ายก็รีบส่ายหัวดิกแล้วทำเป็นหันหน้าหนี แต่พอเขาจะยกช้อนเข้าปากอีกรอบเธอก็ยังคงลุ้นอยู่เช่นเดิม จนคนที่กำลังจะยกช้อนเข้าปากต้องหันมาถามอย่างรำคาญ

“เป็นอะไร สมหมาย” เธอส่ายหัวยิ้มแห้งๆ

“แล้วทำไมมาจ้องฉันขนาดนั้น” เหมือนเคย ร่างบางคล้ำยังคงยืนส่ายหัวยิ้มแหยๆปฏิเสธ

ในที่สุดเขาก็ตักอาหารช้อนแรกเข้าปากจนได้ ทีนี้เจ้าของฝีมือผู้ทำอาหารก็ได้แต่จ้องหน้าเขาดูปฏิกิริยาตอบโต้ของทางร่างกาย ว่าเมื่ออาหารนั้นเข้าปากไปแล้วเขาจะแสดงออกมายังไง

เงียบ… เฉย…. ไม่มีคำพูด ไม่มีการแสดงออก สงสัยอาหารของเธอคงจะถูกปากเขานะ เจ้านายของเธอยังคงนั่งทานอาหารไปอย่างเงียบๆโดยที่มีเธอคอยยืนบริการอยู่ข้างๆ


เศษกระดาษเล็กๆปลิวตกออกมาจากกระเป๋ากางเกงของเธอตั้งแต่ตอนไหนไม่รู้ แล้วดันปลิวไปอยู่บนโต๊ะอาหารใกล้ๆจานข้าวของเขาอีกต่างหาก เมื่อเธอเดินออกมาจากห้องครัวเธอก็เห็นมือหนาๆของเขากำลังคลี่กระดาษที่แสนจะคุ้นออกมาอ่าน

ปริมพิการีบล้วงหาเศษกระดาษในกระเป๋าของตัวเองทันที

“เฮ้ย !! ไปอยู่ในมือเขาได้ไงหว่า” หญิงสาวพึมพำหน้าซีด แต่ก็ยังคงคิดหาข้อแก้ตัว

ใบหน้าคมๆของเขาหันมาเลิกคิ้วถามอย่างงงๆ

“สูตรอาหารนี่ของเธอเหรอ? สมหมาย” เบนทิศมองรายชื่ออาหารในกระดาษแล้วหันมองอาหารที่วางอยู่บนโต๊ะสลับไปมา

“สูตรผัดผักรวมมิตร” เขาอ่านมันออกมาไม่เบานัก ทำให้สาวใช้เจ้าของอาหารผัดผักรวมมิตรใจเต้นโครมครามไม่เป็นจังหวะ

“สูตรแกงจืด” เขาหันหน้าไปมองแกงจืดบนโต๊ะอาหารอีกรอบ ปริมพิการีบเดินตรงไปกระชากเศษกระดาษจากมือหนาๆของเขา ที่ตอนนี้หน้าระบายไปด้วยรอยยิ้ม

“ขอสมหมายคืนเถอะค่ะ” เมื่อกระชากได้มาแล้วก็รีบยัดเศษกระดาษนั้นลงกระเป๋ากางเกงทันที

“อย่าบอกว่าเธอทำอาหารไม่เป็น” หน้าเขายังคงระบายด้วยรอยยิ้มขบขัน

“ใคร้… ใครว่าทำไม่เป็น เชอะแค่นี้นะจิ๊บจ๊อย” ปริมพิกาแก้ตัว

“แล้วทำไมสูตรอาหาร กับอาหารบนโต๊ะนี่เหมือนกันเด๊ะเลยล่ะ” เขาเลิกคิ้วล้อๆ

“ก็” เธอพูดได้แค่นั้น แล้วก็เงียบไป ไม่นะ… ที่เธอเงียบไปไม่ใช่ว่าจะยอมจำนนด้วยหลักฐานแต่เธอกำลังคิดหาข้อแก้ตัวต่างหากเล่า

“สมหมายก็แค่ไปเห็นสูตรอาหารใหม่ๆจากหนังสือ แล้วมันก็น่าสนใจดี คุณบีรู้อะไรไหมคะ… การที่เราทำอาหารเป็นไม่ใช่ว่าเราจะหยุดการพัฒนาฝีมือไว้แค่นั้น สมหมายทำแกงจืด ทำผัดผักรวมมิตร และอีกหลายๆอย่างเป็น แต่สมหมายก็จะไม่หยุดอยู่แค่นี้ ถ้ามีสูตรอะไรใหม่ๆมาถึงแม้จะเป็นสูตรที่เราทำเป็นแล้วมันก็น่าสนใจไม่ใช่เหรอคะ เราจะได้รู้ว่าอาหารเหมือนกันแต่สูตรการปรุงที่แตกต่างกันไปรสชาดจะเป็นอย่างไร”

เบนทิศอดขันคำแก้ตัวของเธอไม่ได้

“อืม… แล้วสูตรใหม่ๆที่เธอจดมาก็เลยมาตรงกับอาหารที่วางอยู่บนโต๊ะวันนี้นะหรือ” เขาใช้สายตากวาดมองอาหารบนโต๊ะสามสี่อย่าง แล้วหันไปจ้องหน้าคนทำอย่างอารมณ์ดี

“ก็” หญิงสาวกลอกตาไปมาพยายามหาข้อแก้ตัวอีกครั้ง

“ก็สมหมายเห็นว่าวันนี้คุณบีอยู่บ้านคนเดียวก็เลยจะลองทำอาหารสูตรใหม่ๆให้ลองทานดูบ้างจะได้ไม่จำเจไงค่ะ”

“อืม… มิน่าฉันถึงว่าทำไมรสชาดมันแปลกๆ ที่แท้ก็เป็นสูตรใหม่นี่เองเหรอ” เขาพยักหน้ายิ้มๆ

“ไม่อร่อยเหรอคะ” ปริมพิกาทำหน้าตื่นๆ

“อืม..” เขาพยักหน้ารับ ทำให้สาวใช้ที่ยืนอยู่รีบถลามายกจานอาหารบนโต๊ะขึ้นมาดู

“เอ… สมหมายก็ว่าทำตามสูตรเด๊ะๆแล้วนา ทำไมพลาดไปได้” เธอพูด

เสียงหัวเราะหึๆจากปากของเจ้านายหน้าตายที่กลายมาเป็นเจ้านายจอมเจ้าเล่ห์ทำให้เธอหันไปมองหน้าเขาทันที เมื่อรู้ว่าตัวเองพลาดที่ตกหลุมพรางของเจ้านายจอมเจ้าเล่ห์ที่หลอกให้เธอตกหลุมด้วยตัวเองแล้ว ก็อดส่งค้อนน้อยๆไปให้ไม่ได้

“สมหมายหมายถึงสูตรที่จดมาจากหนังสือน่ะค่ะ” เธอยังคงแก้ตัวน้ำขุ่นๆอีก ชายหนุ่มพยักหน้าหงึกๆ

“เหรอ?”

“ถ้าไม่อร่อยเดี๋ยวสมหมายไปทำสูตรดั้งเดิมให้แล้วกันนะคะ” เธอทำท่าจะยกอาหารบนโต๊ะออกแต่เขาพูดเบรคไว้เสียก่อน

“ไม่ต้องหรอกสมหมาย ฉันว่าคงไม่มีสูตรใหม่สูตรดั้งเดิมหรอก วางลงคืนเถอะมันพอกินได้” เมื่อเห็นแววตาตื่นตระหนกของสาวใช้ ชายหนุ่มจึงเลิกแกล้งเพราะรสชาดอาหารบนโต๊ะนี่ก็ถือว่าใช้ได้ทีเดียว

เขามั่นใจว่าสาวใช้คนนี้คงจะใช้ความพยายามอย่างหนักที่จะทำมันให้แก่เขา เพราะสูตรจากเศษกระดาษใบนั้นมันเป็นแค่สูตรธรรมดาๆ ที่ใครๆก็สามารถทำได้ แต่เธอกลับต้องใช้มันแปลว่าเธอมีความตั้งใจอยู่บ้าง แม้ว่าตัวเองทำไม่เป็นแต่ก็ยังพยายามทำ เขานับถือจริงๆ

แต่ทำไมเธอต้องโกหกเขาว่าทำอาหารเป็นนี่สิที่ทำให้เขาสงสัย เพราะถ้าเธอบอกกับเขาตรงๆว่าเธอทำอาหารไม่เป็นมันก็คงไม่แปลก เพราะสมัยนี้คนทำอาหารไม่เป็นออกถมไป

“คุณบีทานได้จริงๆนะคะ” เธอมองหน้าเขาอย่างลุแก่โทษ

“เอ๊ะ… ฉันบอกว่ากินได้ก็กินได้ซิ” เขาทำเสียงดุ

“ค่ะ” สาวใช้ทำหน้างอยๆทันที

ดูซิ… ยิ่งเธอทำหน้าแบบนี้ยิ่งดูเหมือนเธอคนนั้นไปใหญ่ นี่เขาคงจะบ้าไปแล้วแน่ๆ ที่มองเห็นสมหมายทีไรคิดไปถึงแต่ใบหน้านวลขาวของปริมพิกาทุกครั้งไป

“สมหมาย… เธอจะไปทำอะไรก็ไปทำเถอะ” เขาหันมาไล่ เมื่อคิดว่าจิตใจตัวเองเริ่มจะไม่สงบแล้วเมื่อเธอมาอยู่ใกล้ๆแบบนี้

“ค่ะ” ปริมพิกาหันมาพยักหน้ารับ

“คุณบีทานได้จริงๆนะคะ” เธอย้ำเพราะไม่มั่นใจในฝีมือของตัวเอง

“ได้” คำตอบชัดถ้อยชัดคำที่ทำให้เธอเดินออกมาแบบสบายใจขึ้นบ้าง


การเป็นคนใช้นี่ลำบากเหมือนกันนะ เธอเพิ่งเข้าใจถึงความเหนื่อยยากของอาชีพนี้อย่างถ่องแท้ก็ตอนนี้แหละ วันทั้งวันอยู่แต่กับงานบ้าน ทั้งซักผ้า กวาดบ้าน รดน้ำต้นไม้ ทำอาหารให้เจ้านาย แถมต้องทำตามคำใช้ของเจ้านายทุกคนในบ้าน เฮ้อ… เหนื่อยจริงๆ ปริมพิกานั่งถอนหายใจเมื่อใช้เวลาในการยืนรีดเสื้อผ้ากองใหญ่ๆเกือบครึ่งค่อนวันเพิ่งจะเสร็จไป

“เหนื่อยจังเลย” เธอพึมพำอยู่คนเดียว เหลือบตามองโน๊ตบุคส์ข้างๆที่เธอแอบเอาเข้ามาตั้งแต่ต้นเพื่อพิมพ์งานรายละเอียดต่างๆลงไป

“ใกล้จะเสร็จแล้วดีจัง” เธอยิ้มให้โน๊ตบุคส์เครื่องนั้นอย่างเหงาๆ

เหงาเพราะ… เมื่อคิดว่าตัวเองจะไม่ได้เจอหน้าคนหน้าตายอย่างเบนทิศแล้ว ก็อดใจหายไม่ได้ ปริมพิกาคิดถึงใบหน้าเรียบเฉยของเขาสลับกับใบหน้าเจ้าเล่ห์ในบางคราว เธอให้คำตอบกับตัวเองไม่ได้ว่าแบบไหนที่ดูดีกับเขา เพราะไม่ว่าจะเป็นใบหน้าแบบไหน เขาก็ดูดีในแบบฉบับของเขาอยู่แล้ว

“ตอนนี้เขาทำอะไรของเขาอยู่นะ” ปริมพิกาลุกพรวดทันทีเมื่อคิดเช่นนั้น

ไปดูดีกว่าว่าเจ้านายของเธอทำอะไรอยู่ นี่ก็ใกล้เที่ยงแล้วคงจะหิวแล้วละมั้ง หญิงสาวเดินตามหาเขาแทบจะทั่วทั้งบ้าน ซึ่งกว่าจะหาเขาเจอก็แทบจะเป็นลม ก็บ้านเจ้านายเธอมันเล็กๆซะเมื่อไหร่ละ

ร่างหนาของเบนทิศฟุบหลับอยู่บนกองหนังสือบนโต๊ะในห้องสมุดของบ้าน ยามเขาหลับแบบนี้ดูเหมือนเด็กหนุ่มทั่วไป ไม่มีสายตาเย็นชา ไม่มีคำพูดเย็นเฉียบ…. ปริมพิกาแอบส่องหน้าที่เอียงหลับอยู่บนหนังสือที่กางอยู่บนโต๊ะ

เธอใช้มือบางๆของตัวเองเก็บหนังสือเขาวางกระจายอยู่รวบเข้าไว้เป็นกองเดียวกันให้เรียบร้อย อดไม่ได้ที่จะยืนมองใบหน้าคมคร้ามที่เธอแอบหลงไหลมานาน อยากเอื้อมมือไปสัมผัสผมนุ่มสลวยนั่นแต่ไม่กล้า เดี๋ยวเจ้าตัวตื่นมาจะแย่ เธอยังไม่อยากหาข้อแก้ตัวขุ่นๆอีก

หญิงสาวเหลือบเห็นแก้วกาแฟที่คนหลับวางอยู่ใกล้ๆแถวนั้น อืม… ข้อดีของเขาอีกข้อหนึ่ง ถ้าเห็นว่าคนงานในบ้านไม่ว่าง เขาก็จะทำอะไรเองโดยที่ไม่ต้องรอ แก้วกาแฟที่ตอนนี้มีคราบกาแฟติดอยู่เล็กน้อย

หึๆ นี่ขนาดดื่มกาแฟไปด้วยนะเจ้าตัวอย่างฟุบหลับได้ สามารถจริงๆเลยเจ้านายของเธอเนี่ย ปริมพิกาเดินไปหยิบถ้วยกาแฟเพื่อที่จะเอาไปล้างไปเก็บให้เรียบร้อย

แต่พอเธอกำลังจะก้าวขาเรียวๆออกจากห้องนั้น เหมือนว่าคนที่หลับอยู่พึมพำอะไรออกมา ด้วยความอยากรู้บวกอยากเห็น(ใบหน้าหล่อๆของเขา คิคิ) หญิงสาวจึงเดินเข้าไปใกล้ๆเพื่อฟังว่าสิ่งที่เจ้านายหนุ่มพูดออกมายามหลับนั้นคืออะไร ปริมพิกาพยายามเงี่ยหูฟัง แต่มันก็ไม่ถนัดนัก

“คุณปริม” เสียงแผ่วๆที่เอ่ยออกมาจากปากได้รูปของเขาทำให้ร่างบางที่พยายามเงี่ยหูฟังตกตะลึงเล็กน้อย นี่เขาเพ้อถึงเธอด้วยเหรอเนี่ย หญิงสาวอดที่จะหน้าแดงไม่ได้เมื่อเขาเอ่ยชื่อเธอซ้ำอีกรอบ ก็แหม… ใครจะไปคาดฝันละว่าคนที่ดูเหมือนไร้หัวใจอย่างเขาจะมาเพ้อถึงสาวใช้ เอ้ย… ไม่ใช่ๆ เพ้อถึงคุณหนูปริมจอมแก่นอย่างเธอได้ ปริมพิกาแอบอมยิ้มอยู่คนเดียวเมื่อมั่นใจแล้วว่าหัวใจน้ำแข็งของเจ้านายเธอได้โอนอ่อนมาทางเธอบ้างแล้ว อย่างนี้ต้องรีบรุก ฮ่าๆๆ (ไม่มีมาดของนางเอกเล้ย….)

เมื่อหญิงสาวจะก้าวออกจากที่ตรงนั้นอีกครั้งมือหนาๆของเขาก็เอื้อมมาฉุดแขนเธอไว้

“คุณปริม อย่าเพิ่งไป” เขาละเมอออกมา ปริมพิกามองมือหนาที่กุมข้อมือเธอไว้ พยายามดึงกลับคืนแต่ก็ไม่ได้เพราะดูเหมือนว่าคนหลับจะกำมันไว้แน่นเหลือเกิน

เมื่อคิดว่าคงไม่สามารถเอาแขนตัวเองออกจากมือหนาของเขาได้ ปริมพิกาจึงตัดสินใจเรียกให้เขาตื่น

“คุณบีคะ” ชายหนุ่มงัวเงียลืมตาขึ้นมอง

“อะไร” เมื่อเห็นว่าเป็นใครเขาก็ถามทันที โดยที่ไม่สนใจเลยว่ามือของตัวเองได้ไปจับข้อมือของสาวใช้ไว้

ปริมพิกาก้มมองแขนของตัวเอง เป็นสัญญาณบอกเจ้านายว่าปล่อยมือได้แล้ว เบนทิศมองตามสายตาเธอ เมื่อรู้ว่าอะไรเป็นอะไรก็รีบปล่อยแขนเธอทันที

“สมหมายไม่ใช่คุณปริมนะคะ” หญิงสาวเอ่ยยิ้มๆ จนคนฟังอดจะหน้าแดงไม่ได้

“คุณปริมอะไร” เขาแกล้งตีหน้าซื่อ

“ไม่รู้สิคะ เห็นคุณบีเรียกคุณปริมๆ แล้วก็จับมือสมหมายไว้เลย” ยิ่งเธอแกล้งพูดเท่าไหร่เขาก็ยิ่งหน้าแดงขึ้น แต่ก็พยายามวางสีหน้าเรียบสนิท

ปริมพิกาไม่นึกเลยว่าตัวเองจะกล้าพูดไปขนาดนี้ ทั้งที่ในใจแอบอายนิดหนึ่ง แต่ก็ยังสามารถพูดแกล้งคนหน้าตายตรงหน้าได้อย่างเรียบสนิทเช่นกัน

“ไปไหนก็ไปเลย ฉันจะอ่านหนังสือต่อ” เขาไล่เธอเสียดื้อๆ จนคนฟังอดที่จะหัวเราะออกมาไม่ได้ แต่ก็ยังอยากแกล้งเขาเหมือนเดิม

“ทีอย่างนี้น่ะไล่เลยนะคะ ทีเมื่อกี้คุณปริมครับๆ โธ่… สมหมายนะคะไม่ใช่คุณปริม” แล้วเธอก็ต้องรีบหลบเพราะสายตาดุๆของเขาที่ส่งมานั้นมันช่างน่ากลัวเหลือซะเหลือเกินนี่…

เมื่อสาวใช้ออกไปแล้ว เบนทิศยกมือลูบหน้าตัวเองเก้อๆ นี่เขาเผลอแสดงอะไรให้สมหมายเห็นนะ แต่อดไม่ได้ทีจะมองตามหลังเธอไป ก็รู้สึกอายๆเหมือนกันที่ตัวเองเผลอตัวไปแบบนั้น

ยิ่งนานไป… จากเจ้านายหน้าตายเขาชักจะกลายเป็นเจ้านายที่แสดงออกทางสีหน้ามากขึ้น หญิงสาวเห็นเขายิ้มมากขึ้น อายก็มีแฮะ… ผู้ชายอะไรไม่รู้เวลาอายน่ารักจัง อย่างนี้เธอต้องแกล้งให้เขาได้อายบ่อยๆเสียแล้ว… ปริมพิกาแอบอมยิ้มเมื่อนึกถึงใบหน้าแดงๆของเขาเวลาที่อาย






 

Create Date : 13 มิถุนายน 2550
4 comments
Last Update : 13 มิถุนายน 2550 11:15:37 น.
Counter : 325 Pageviews.

 

ตอบเม้นท์จ้า...
ต้องขอโทษด้วยนะคะที่มาใส่ให้ช้าไปนิด พอดีงานยุ่งๆมากเลย แต่จะพยายามเอามาลงให้นะคะ

คุณ พลอยสีชมพู ... เม้นท์ยาวๆไม่เป็นไรค่ะ ชอบค่ะ เหมือนได้อ่านความคิดเห็นไปด้วย เปิดเทอมแล้วเหรอค่ะ ยังไงตั้งใจเรียนอย่าลืมเข้ามาเป็นกำลังใจบ้างนะคะ

คุณ natee ... (ยิ้ม ยิ้ม)

ขอบคุณค่ะ....

 

โดย: หนึ่งเดียวในใจ 13 มิถุนายน 2550 11:22:37 น.  

 

แวะมาทักทาย แบบ สบายๆ

 

โดย: KnightWin 13 มิถุนายน 2550 11:58:27 น.  

 

Hi I'm still read your novel.

 

โดย: VEE IP: 4.252.28.71 14 มิถุนายน 2550 22:58:31 น.  

 

มาอ่านต่อ และเป็นกำลังใจเหมือนเดิมค่ะ ตอนนี้เปิดเทอมแล้วเรียนก็ค่อนข้างหนัก(มาก)ปวดหัวไม่เว้นแต่ละวันแต่วันนี้พอเปิดมาเจอตอนใหม่แล้วก็รู้สึกสดชื่นขึ้นทันที(เวอร์ไปป่าวเนี้ยะ) ว่าแต่เมื่อไหร่ความจริงจะเปิดเผยซะทีหนอ อยากรู้จิงๆว่าแต่หล่ะคนจะมีปฎิกิริยาอย่างไง จะรอตอนต่อไปน่ะค่ะ พยายามเข้า สู้ๆค่ะ
ป.ล. อยากรู้ว่าชื่อของพี่ปาณิกดา แปลว่าอะไรคะ (ขออนุญาติเรียกพี่น่ะค่ะ)
take care ค่ะ

 

โดย: พลอยสีชมพู IP: 125.27.113.48 18 มิถุนายน 2550 18:26:55 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


หนึ่งเดียวในใจ
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]






* ฝนริน/ปาณิกดา *

ผู้หญิงที่มีอารมณ์อ่อนไหว
เหงา เศร้า หัวเราะ
ร้องไห้ได้ในเวลาเดียวกัน
(ท่าจะบ้าเนอะผู้หญิงคนนี้ เอิ๊กส์)

งานเขียนในบล็อกนี้
ขอสงวนลิขสิทธิ์
ตามพรบ.ลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537
นะคะ




**ขอขอบคุณภาพแต่งบล็อก และ โค๊ดแต่งบล็อกจากเพื่อนชาวบล็อกทุกท่านมา ณ ตรงนี้ด้วยนะคะ**
















Friends' blogs
[Add หนึ่งเดียวในใจ's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.