เรื่องรัก..ไม่กล้าบอก ตอนที่๒๐
ตอนที่๒๐: คำสัญญา


---ซู่ โครมมมมมมมมมม---

“ซวยแล้วแผน ฝนตกอะ”


“เดี๋ยวแผนขึ้นไปปิดหน้าต่างข้างบนก่อนนะ”
“อืม เดี๋ยวนุ่นไปดูหน้าต่างหลังบ้านให้”

ดูแลไม่ให้ฝนที่อยู่ดีไม่ว่าดีก็กระหน่ำเทลงมาอย่างแรงไม่สาดเข้าบ้านเสร็จ สองคนก็มานั่งมองหน้ากัน พิซซ่ายังถูกทิ้งเหลือคากล่องอยู่อีกสองชิ้น สองคนส่งยิ้มให้กันอย่างหน่ายกับพายุฝนหลงฤดู แล้วไอ้นุ่นมันเลยนึกขึ้นได้ถึงเหตุผลเด็กน้อยที่ไอ้คุณแผนมันใช้เป็นข้อ อ้างชวนมาบ้าน

“ไหนอ้ะเกมเศรษฐีแก เอามาดิ”

“อืมๆ รอแป๊บ เดี๋ยวเอาพิซซ่าเหลือไปใส่ตู้เย็นก่อน”
“ไปหยิบเหอะ เดี๋ยวนุ่นจัดการตรงนี้ให้เอง”

พอไอ้คุณแผนถือกล่องเกมเศรษฐีเดินมาโต๊ะไม้เนื้อแข็งหน้าโซฟาก็เหลือแค่ กระบอกใส่น้ำเย็นกับขันน้ำสแตนเลสที่ไม่รู้ไอ้นุ่นไปขุดมาจากซอกไหนของตู้ ตั้งไว้แค่สองอย่าง
ไอ้แผนมันก็ไม่ว่าอะไร ชินกับไอ้นุ่นมันแล้ว บางทีมันก็มักจะเลือกใช้ของที่แปลกออกไปจากคนอื่นอย่างนี้แหละ

คราวก่อนที่ไปบ้านมันมันก็อยู่ในชุดไม่ผิดจากที่แม่ของมันเรียกว่าแจ๋วจริงๆ เพราะมันเล่นใส่เสื้อยืดตัวโคร่งกับนุ่งผ้าถุงมีเชิง แถมพอเขม้นดูตอนช่วยทำความสะอาดไอ้แผนมันยังแน่ใจด้วยว่าตรงบั้นเอวกลมๆนั่น ไม่มีเข็มขัดแน่นอน ไอ้ผู้หญิงบ้าคนนี้นุ่งผ้าถุงอยู่บ้านโดยใช้แค่มุมผ้าผืนนั้นแหละเหน็บเอว ไว้ แล้วก็ทำกิจวัตรทุกอย่างได้อย่างเป็นปกติ

ไอ้นุ่นมันแปลก มันรับกับทุกเรื่องทุกแนวความคิดได้แบบคนยุคนี้แท้ๆ แต่ตัวมันเองกลับเลือกมีชีวิตบางมุมที่เหมือนกับผู้หญิงหัวเก่า

“อะไรอ้ะ แผน โกงรึเปล่า ทำไมนุ่นต้องพักอีกแล้วล่ะ”
เออ ดูมัน เล่นเกมเศรษฐียังมาโบ้ยว่าไอ้แผนมันโกงได้ ตัวเองทอยลูกเต๋าไม่ได้เรื่องเองแท้ๆ

“หึๆๆ” ไอ้นี่ก็ไม่ตอบโต้ ขำอะไรนักหนา มันพาลแกอยู่นะเว้ย
“ไม่รู้แหละ แผนห้ามซื้อที่ดินนิวยอร์คนะ นุ่นจองแล้วด้วย” เออเนอะ ตัวเองถูกพักหนึ่งตายังจะไปกั๊กเขาอีก

“จ้า....คุณผู้หญิง”

ได้ยินไอ้คุณแผนมันรับคำมาแบบนั้นแถมยิ้มตาหยีส่งมาให้ ไอ้คุณนุ่นเลยรีบก้มหน้าลงมองพื้น เสทำเป็นสนใจอยู่กับโฉนดที่ซื้อสะสมมาได้ตรงหน้าทันที ได้แต่คิดตั้งสติภาวนาให้ตัวเองลดอัตราการเต้นของหัวใจลงเร็วๆ

เพราะเพิ่งเข้าใจว่าตัวเองกำลังเขิน เขินเพราะแค่คำพูดรับคำสั้นๆของไอ้คนที่เป็นเพื่อนกันมาเกือบปี ในใจไอ้คุณนุ่นมันก็คิด เวรกรรม.....หน้าร้อนไปหมดแล้ว ไม่กล้าเงยหน้าขึ้นเลย ถ้าหน้าร้อนขนาดนี้คงจะหน้าแดงแน่ๆ แล้วจะกล้าสู้หน้าไอ้แผนมันได้ยังไง

“แผน นุ่นอยากกินไอติมแล้ว แผนไปหยิบให้นุ่นหน่อยสิจ๊ะ นะ”

กัดฟันข่มความอายเรียกร้องจากไอ้คุณแผนมันไป เห็นทางหางตาว่ามันลุกไปทางครัว คงไปหยิบมาให้ไอ้คุณนุ่นก็ค่อยๆลอบถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก ในใจก็ได้แต่คิด....ไปนานๆหน่อนนะแผนนะ ขอเวลานุ่นข่มใจ ข่มความอายก่อน ฝนบ้าข้างนอกก็ไม่ยอมหยุดตกเสียที จะหนีกลับบ้านดื้อๆคงไม่ได้

เอาวะ ยังไงก็ตั้งใจจะทดสอบสมมติฐานอยู่แล้วนี่ ต้องทำให้ถึงที่สุด....โอเค....พร้อมแล้ว กลับมาได้

“อ้ะ นุ่น” ถังไอศกรีมรสโปรดถูกวางลงบนโต๊ะพร้อมทั้งถ้วยแก้วอีกใบกับช้อนคันเล็กๆ
“จะกินเลยใช่ไหม?”

“อืม”
ไอ้นุ่นส่งเสียงตอบในคอพร้อมทั้งพยักหน้าตาจ้องเป๋งไปที่ไอศกรีม เลยพลาดรอยยิ้มเอ็นดูที่แวบผ่านในสีหน้าของไอ้เพื่อนตัวสูงเป็นเปรตที่เมื่อ ได้ยินเสียงรับคำและเห็นสายตาแบบนั้น ก็เริ่มลงมือเปิดกล่องแล้วจัดการตักไอศกรีมมาใส่ถ้วยให้เสียเอง เรียบร้อยแล้วก็เลื่อนถ้วยแก้วนั่นไปวางตรงหน้าคนอยากกินที่เอาแต่มอง ไม่ช่วยทำอะไรสักอย่าง
แถมยัง....ไม่ยอมตักกินเองเสียด้วย

“ทำไมไม่กินล่ะ?”

“ป้อนหน่อยสิ นะๆ”

แทนที่จะตักกินไอ้นุ่นมันก็เลื่อนถ้วยไอศกรีมกลับไปวางตรงหน้าคนตักมาให้ เสียอย่างนั้น แล้วยังเอ่ยปากขอในสิ่งที่ทำให้ไอ้คุณแผนมันตกใจจนตาที่โตอยู่แล้วเบิกกว้าง ขึ้น แถมยังอ้าปากค้างอีกต่างหาก

อย่าว่าแต่ไอ้คุณแผนเลย ไอ้นุ่นมันก็ตกใจตัวเองเหมือนกัน ก็มันห้ามปากไม่ทันนี่นา ไอ้อาการคิดอะไรก็พูดไปอย่างนั้น ตรงไปตรงมาจนน่ากลัวทำพิษเสียแล้ว แล้วอย่างไอ้คุณนุ่นมีหรือจะแก้ปัญหาด้วยวิธีธรรมดาอย่างแกล้วทำมึนหยิบช้อน หยิบถ้วยมากินอย่างสงบเสงี่ยม เอ่อ.....อย่าได้หวังเพราะที่ไอ้คุณนุ่นมันทำคืออย่างนี้ต่างหาก

“อะ อ้ามมมมมม” นั่นแหละ ก็ไอ้คุณแผนมันอ้าปากอยู่นี่ ไอ้นุ่นมันเลยหยิบช้อนตักไอศกรีมแล้วป้อนเข้าปากมันไปเสียเลย
“โธ่เอ๊ยแผน อยากกินก็ไม่บอก มิน่าไม่ยอมป้อนนุ่น ที่แท้ก็จะให้นุ่นป้อนนี่เอง”

ไอ้คุณแผนที่มีไอศกรีมคำใหญ่แถมยังเย็นเจี๊ยบอยู่ในปากตอบโต้ไม่ได้ ได้แต่เลยตามเลยปล่อยให้ไอ้ผู้หญิงบ้ามันป้อนไปตามใจอยาก ทีนี้ไอ้นุ่นมันไม่แค่ป้อนใส่ปากเพื่อนสิ มันป้อนไปแล้วก็นึกอะไรดีๆออก เลยสลับมาป้อนเข้าปากตัวเองบ้าง

แอบๆเหลือบตามองหน้าไอ้เพื่อนแผนที่ยังทำหน้าหมาเอ๋อ พูดไม่ออกบอกไม่ถูกอยู่ก็เลยเห็นว่าเริ่มจะหายเอ๋อแล้ว แต่กลายเป็นหมาเขินแทน แหม....หมานี่เวลาอายหน้ามันก็แดงได้เหมือนกันเว้ย

ป้อนกันไปมาจนหมดถ้วย ไอ้นุ่นมันก็เลื่อนตัวเองกลับมาที่ฝั่งตรงข้ามอีกครั้ง พอดีกับเสียงเรียกโทรศัพท์ของมันดังขึ้น

“นุ่นเจ้าค่ะ เจ้าค่ะคุณนาย ฝนตกหนัก นุ่นติดฝนอยู่บ้านแผนเนี่ย อืม ออกไปไม่ไหวอะตอนนี้ กินแล้ว ฉลองสอบเสร็จไงเลยสั่งพิซซ่ามากินกัน อะไรนะจะพูดกะลูกชายสุดที่รัก ได้ๆ”
“อ้ะ คุณนายจะพูดกะแผนแน่ะ”

“ครับแม่ ครับ อ๋อ ครับ ได้ครับ เข้าใจแล้วครับ” รับคำเสร็จไอ้คุณแผนก็กดปุ่มวางสายก่อนจะยื่นโทรศัพท์ส่งคืนให้เจ้าของที่ นั่งรออ้าปากหวอ

“เฮ้ย ไรอ้ะ? วางไปแล้วเหรอ?”
“อื้ม รู้แล้วใช่ไหม?” พวกแกรู้อะไรกัน แล้วทำไมแกต้องทำหน้ากระอักกระอ่วนอย่างนั้นด้วยไอ้คุณแผน

“อาฮะ คุณนายบอกถ้าฝนตกหนักมากไม่ต้องกลับ ให้ค้างบ้านนี้เลย”
“อืม....จะสามทุ่มแล้วด้วย กลับดึกๆแถมฝนตกอย่างนี้มันอันตราย”

“แล้ว.....อยู่บ้านนี้จะไม่มีอันตรายใช่ไหม?”
“ใช่ จะไม่มีอันตรายอะไรแน่นอน”

“ขอบคุณนะ”
“งั้น เดี๋ยวแผนขึ้นไปเก็บห้องหน่อยดีกว่า นุ่นนอนห้องแผนนะ เดี๋ยวแผนนอนห้องป่วนมันเอง”

“หึ ไม่เอาอ้ะ”

“อ้าว!!”
“คืนนี้เราสองคนเล่นเกมโต้รุ่งกันเหอะ ไม่ต้องนอนหรอก นุ่นจะไม่นอน แล้วแผนก็ต้องเล่นเป็นเพื่อนนุ่นด้วย ตกลงไหม?”

ไอ้นุ่นนี่มันถึงจะบ้า แต่มันก็ทำตามคำสอนอาจารย์ดีเหลือเกิน ถึงจะบอกว่านอนคนละห้อง แต่ก็อยู่ชั้นบนด้วยกันสองคน ไอ้นี่เลยกะลากให้ไอ้แผนมันอยู่เป็นเพื่อนข้างล่างนี่แหละ แถมยังได้ทั้งทดสอบสมมติฐาน ทั้งวัดความน่าเชื่อถือไปในตัว ยิงนัดเดียวได้นกสองตัวเลย

“ได้ แต่ถ้าง่วงก็บอกนะนุ่น ไม่ต้องฝืนล่ะ”
“โอเค”

พอตกลงกันได้ว่าจะไม่นอน เพื่อนแผนมันก็ไล่เพื่อนนุ่นไปอาบน้ำ จัดการหาเสื้อยืดตัวเล็กสุดกับกางเกงเลของตัวเองมาส่งให้ผลัดเปลี่ยนเรียบ ร้อย

แล้วหลังจากนั้นสามชั่วโมง ไอ้คนออกความคิดเสียงใสว่าจะอยู่โต้รุ่งก็ค่อยๆเลื้อยลงไปเรื่อยๆ ในที่สุดก็เอนลงกับพื้นหลับไปง่ายๆ

ไอ้คุณแผนผู้รับปากเป็นมั่นเหมาะว่าบ้านนี้ไม่มีอันตรายเลยจัดการช้อนตัวคน ที่อยากให้เป็นมากกว่าเพื่อนขึ้นวางบนโซฟายาว เดินขึ้นบ้านไปขนเครื่องนอนลงมาทั้งหมอน ผ้าห่ม แถมไปลากผ้าห่มห้องไอ้หนูป่วนมาอีกผืน

ก่อนจะเอาหมอนของตัวเองสอดเข้าไปรองใต้คอให้ไอ้ผู้หญิงบ้าที่ตอนนี้สิ้น ฤทธิ์ไปแล้วเหมือนที่มือเล็กๆของคนคนนี้เคยทำให้ตัวเองมาก่อน แล้วคลี่ผ้าห่มออกคลุมให้ตั้งแต่คอจนถึงปลายเท้า เหลือโผล่มาแต่หน้าใสๆกับขอบตาหมีแพนด้าเพราะเพิ่งผ่านช่วงสอบมาหมาดๆ

จัดการปูผ้าห่มไอ้หนูป่วนลงแทนที่นอนให้ตัวเองข้างๆโซฟานั่นแหละ แต่ตั้งท่าจะล้มตัวลงนอนก็กลับขยับไปคุกเข่าอยู่ข้างๆโซฟา พึมพำออกมาเบาๆ

“แผนขอค่าอุ้มกับค่าหมอนและผ้าห่มหน่อยนะจ๊ะ”

พูดจบก็ก้มลงเอาปากแตะลงที่หน้าผากเบาแสนเบาเพราะกลัวจะรบกวนให้ไอ้ตัวดีมัน ตื่นขึ้นมาโวยวาย พอเงยหน้าขึ้นมาก็เอานิ้วชี้กับนิ้วกลางไล้ผ่านปากบางๆที่พูดจ้อยๆเกือบตลอด เวลาที่เจ้าของปากมันตื่นเบาๆ ก่อนจะพึมพำประโยคสุดท้ายก่อนล้มตัวลงนอนหน้าโซฟา

“ฝันดีนะจ๊ะ นุ่นของแผน”


~~~~~~~~~~~~~


“พี่ฟ้า.....พี่ฟ้า......”

ตัวป่วนมันงัวเงียหยีตาตื่นขึ้นมาแล้ว กวาดมือควานหาพี่อากาศตัวโตที่เมื่อคืนก่อนจะผล็อยหลับไปจำได้ว่าอุทิศไหล่ ให้หนุนนอนอยู่ข้างๆแต่กลับไม่เจอ แต่ร่องรอยความอบอุ่นที่พี่อากาศทิ้งไว้ก็บอกให้รู้ว่าคนตัวโตที่เมื่อคืน อ้อนขอโน่นขอนี่กับมันจนแทบไม่ได้นอนเพิ่งจะลุกออกไปไม่นาน


ไอ้หนูป่วนค่อยๆยันตัวลุกขึ้น รู้สึกปวดเมื่อยเล็กน้อยแต่ไม่ได้เจ็บมากมายอย่างที่เคยได้ยินได้ฟังมาก็ โล่งใจ แง้มม่านออกมองไปนอกกระจกก็เห็นว่าฝนที่ตกหนักมาตั้งแต่เมื่อคืนยังไม่หยุด แต่ก็ซาเม็ดลงแล้ว ไม่มีลมพัดแรงเหมือนพายุเข้าแบบเมื่อคืน

มันค่อยๆเดินเข้าไปในห้องน้ำ ทำธุระส่วนตัว ล้างหน้าแปรงฟัน เห็นหน้าตาคนในกระจกแล้วแทบไม่เชื่อว่าไอ้เจ้าของสีหน้าเปี่ยมสุขนี่จะเป็น ตัวเองไปได้ เรียบร้อยแล้วก็ค่อยๆเปิดประตูย่องลงบันไดมา

พอโผล่หน้าเข้าไปในครัวถึงได้เห็นพี่อากาศตัวโตใส่กางเกงผ้ายืดสีเทายืนทอด ไข่อยู่หน้าเตา เห็นผมชี้ฟูไม่เป็นทรงนั่นแล้วยิ่งต้องอมยิ้มจนแก้มพอง พอเลื่อนสายตาต่ำลงไอ้หนูป่วนก็ต้องเขินจนหน้าแดงเพราะบนแผ่นหลังกว้างๆนั่น ปรากฏร่องรอยแดงๆทั้งรอยจิกรอยข่วนเป็นทางและเป็นจ้ำเต็มไปหมด


“กี่โมงแล้วน่ะพี่ฟ้า ทำไมตื่นเช้าจัง”
ตัวป่วนมันค่อยๆจรดปลายเท้าเข้าไปจนใกล้พี่อากาศตัวโต แล้วก็โอบแขนไปกอดเอวเอาไว้พร้อมกับแนบแก้มขวาลงกับแผ่นหลังกว้างๆที่เต็มไป ด้วยรอยเล็บนั่น

“เช้าที่ไหนกัน ตอนพี่ลุกลงมาก็สิบโมงเข้าไปแล้ว ตัวป่วนลงมาทำไมครับ? แล้ว....เจ็บมากรึเปล่า? ขึ้นไปนอนพักก่อนก็ได้ เดี๋ยวเสร็จแล้วพี่ยกขึ้นไปให้กินนะ”

“คำถามแรก...ผมลงมาหาพี่ คำถามหลัง....เจ็บนิดหน่อย แต่มันเมื่อยๆมากกว่า”
เสียงตอบหงุงหงิงดังมาจากแผ่นหลังของคนถาม ในขณะที่คนตอบยังไม่ยอมปล่อยมือออกจากบั้นเอวพ่อครัวใหญ่ ไม่ว่าพ่อครัวจะเคลื่อนไหวไปหยิบจับอะไรก็เกาะตามไปด้วย

พี่อากาศที่ทำตัวเป็นคุณแฟนที่ดีเข้าครัวทำมื้อเช้า ตั้งใจจะยกขึ้นไปเสิร์ฟไอ้หนูป่วนถึงบนเตียงตักไข่ดาวที่สุกได้ที่ขึ้นพักบน กระดาษซับความมัน ใช้คีมอันใหญ่คีบเบคอนเจ็ดแปดชิ้นวางเรียงลงในกระทะแทนที่ไข่ แล้วหมุนตัวหันกลับมากอดไอ้ลูกลิงที่ตั้งแต่โผล่มายังไม่ยอมปล่อยมือออกจาก เอวพี่เขาเลยไว้ทั้งตัว

“เอ.....ลงมาหาพี่ มีอะไรรึเปล่าครับ?”

“ก็......คิดถึง”

ตัวป่วนมันพูดไปก็อายไป ยิ่งอายก็ยิ่งซุกเข้ากับอกกว้างๆของพี่อากาศตัวโตเข้าไปใหญ่ พี่อากาศเองได้ยินก็ยิ่งมีความสุขล้นอก ก้มลงมามอบจูบเล็กๆให้เป็นรางวัลไอ้ตัวเล็กขี้อ้อนที่ขมับไปหนึ่งครั้ง

“แล้วลงมานี่หิวรึยัง?” ถามไปพี่แกก็เอี้ยวตัวไปพลิกเบคอนในกระทะไป พอได้คำตอบเป็นอาการพยักหน้าหงึกหงักของไอ้ตัวหัวฟูที่ยังไม่ยอมเงยหน้าขึ้น จากอกก็หันกลับมาจูบลงไปตรงไรผมอีกที

“ไหนดูซิ คนหิวแล้วล้างหน้าแปรงฟันเรียบร้อยรึยัง? เงยหน้าขึ้นมาเร้ว”
พอตัวป่วนมันเงยหน้าที่กำลังอมยิ้มแก้มพองขึ้นมาเผชิญหน้า พี่อากาศพ่อครัวใหญ่เลยก้มลงไปพิสูจน์กลิ่นแก้มเสียหนึ่งฟอด

“อืม...แก้มหอมแล้ว แต่กลิ่นคุ้นๆนะ แอบขโมยโฟมล้างหน้าพี่ไปใช้นี่นา จ่ายค่าโฟมมาเสียดีๆ”

---ฟอดดดดดด---

“ไม่ใช่กลิ่นเดียวกันสักหน่อย แก้มพี่ฟ้ากลิ่นน่ากินกว่าตั้งเยอะ กลิ่นเหมือนเบคอนเลย”

พี่อากาศส่งยิ้มให้ไอ้หนูป่วนอีกครั้งก่อนหันไปช้อนเบคอนขึ้นมาวางบนกระดาษ ซับมันอีกกระทะ แล้วเลยกวาดไส้กรอกหมูอีกเจ็ดแปดชิ้นลงกระทะไปอีกขนาน

“ไหนเงยหน้ามาซิ ตรวจความสะอาดแก้มไปแล้ว ยื่นปากมาให้พี่ตรวจฟันเสียดีๆ”

ไอ้ตัวเล็กที่เกาะติดหลังเป็นลูกลิงอยู่ก็เชื่องเหลือเกิน เงยหน้าขึ้นมาแล้วก็หลับตาพริ้มเชียว พี่อากาศแกเลยส่งลิ้นออกไปทักทายริมฝีปากบางสีแดงสดที่ยื่นออกมานิดๆนั่น เบาๆ เท่านี้ปากบางๆนั่นก็ค่อยเผยอออกจากกันแล้ว

พี่อากาศที่สวมวิญญาณเจ้าหน้าที่สาธารณสุขชั่วคราวเริ่มสำรวจความสะอาดช่อง ปากไอ้หนูป่วนมันช้าๆ ไล่ลิ้นไปตามไรฟันด้านหน้า ก่อนกวาดชิมไปทั่วโพรงปากจนถึงกระพุ้งแก้ม

“อา.........”
พอคนขอตรวจความสะอาดฟันถอนริมฝีปากออกมาไอ้หนูป่วนก็ถึงกับเข่าอ่อน พี่อากาศเห็นท่าไม่ดีเลยรีบหันไปปิดแก๊สแล้วอุ้มเจ้าลูกลิงที่เกาะซุกอยู่ กับอกขึ้นมาก่อนจะเดินไปวางมันลงตรงโซฟา พอจะผละมาจัดการกับอาหารมื้อเช้าต่อยังอุตส่าห์มีเสียงกลั้วหัวเราะลอยตามมา อีก

“เช้านี้พี่ฟ้ามีจูบรสกาแฟ......”


ดูเหมือนประโยคบอกเล่าลอยๆกลั้วหัวเราะของไอ้หนูป่วนจะไปกระตุ้นต่อมหื่นของ ผู้ใหญ่บางคนเข้า ที่กำลังหันกลับไปทางส่วนครัวเลยเปลี่ยนเป็นกระโจนพรวดเดียวขึ้นมาคร่อมไอ้ ตัวปากดีแต่เช้าอยู่บนโซฟา

“เฮ้ย!!”

ปล่อยเสียงอุทานหลุดออกมาได้สั้นๆแค่นั้นแหละไอ้หนูป่วนน่ะ เพราะพี่อากาศแกจัดการป้อนจูบรสกาแฟให้อย่างต่อเนื่อง จูบย้ำๆซ้ำๆภายนอกก่อนจะเปลี่ยนเป็นรุกล้ำเข้าไปในโพรงปาก จนเรียกเสียงครางแผ่วเครือจากไอ้ตัวเล็กที่ลุกขึ้นมาวิจารณ์รสจูบได้แล้ว พี่อากาศแกก็ปล่อยให้ปากของมันเป็นอิสระ เปลี่ยนเป้าหมายใหม่มาที่ลำคอขาวๆที่ยังมีร่องรอยแสดงความเป็นเจ้าของอยู่ นับไม่ถ้วน

ตัวป่วนเองมันก็เผลอไผลไปกับการรุกไล่ของพี่อากาศ แหงนหน้าขึ้นเปิดทางให้พี่เขาซุกไซ้ได้เต็มที่โดยไม่มีการปิดป้อง สองมือที่ยันอกพี่อากาศไว้ในตอนแรกก็เปลี่ยนเป็นเลื้อยมาโอบอยู่รอบลำคอหนา ตาโตๆหรี่ปรือแล้วยังแลบลิ้นออกมาไล้เลียริมฝีปากตัวเองจนชุ่ม

พี่อากาศที่เงยหน้ามาเห็นท่าทางที่แสดงออกมาโดยไม่ตั้งใจของคุณแฟนถึงกับตา ค้าง แล้วจู่ๆพี่แกก็หยุดการเคลื่อนไหวทุกอย่างลงดื้อๆ สองแขนเท้าลงกับเบาะโซฟายันร่างกายท่อนบนขึ้น มองดูสีหน้าแดงจัดของไอ้ตัวเล็กที่ตอนนี้ตัวอ่อนเป็นขี้ผึ้งลนไฟ แล้วเลยหมั่นไส้จนต้องก้มหน้าลงเม้มปากหนักๆงับลงตรงปลายจมูกแหลมๆนั่นไป หนึ่งที


“อ๊อยยยยย!!”

ได้ผล ไอ้หนูป่วนที่กำลังเคลิ้มมีสติสมบูรณ์ขึ้นมาทันที พอรับรู้ว่าตัวเองอยู่ในสภาพไหน จากที่ตอนแรกจะโวยวายเอาคืนกับคนแกล้งงับจมูกให้เจ็บ เลยเปลี่ยนเป็นพยายามหดขาถดตัวหนี ก้มหน้างุดหลบสายตาวิบวับล้อเลียนหลังกรอบแว่นที่มองตรงมา
แต่ก็ยังรู้สึกอยู่ดีว่าเขิน.... เขินพี่อากาศจนหน้าร้อนวูบวาบเหมือนเอาไฟมานาบเชียวล่ะ

“ตัวป่วนของพี่น่ารักจังเลย น่ารักมากที่สุดเลยรู้ตัวมั้ยครับ”

ไม่ใช่แค่พูด แต่จากที่นอนพังพาบทับไอ้หนูป่วนอยู่ พี่อากาศก็เปลี่ยนเป็นนั่งขัดสมาธิบนโซฟา แล้วรั้งตัวไอ้ตัวเล็กที่กำลังเขินมากจนหน้าแดงหูแดงนั่นเข้ามากอด กดหัวทุยๆให้ซบลงกับอกแล้วก็ก้มลงกดจูบหนักๆแบบหมั่นเขี้ยวไปทั่วทั้งหัว ทั้งหู เหมือนเล่นกับลูกหมายังไงยังงั้น

ตัวป่วนมันก็จั๊กกะจี้หัวเราะคิกคัก แล้วเลยได้แต่ดิ้นดุ๊กดิ๊กจะหนียักษ์ตัวโตที่กดจูบมาถี่จนหน้าที่รู้สึกร้อน อยู่แล้วยิ่งร้อนขึ้นไปอีก พอรู้ตัวว่าดิ้นไปก็ไม่มีทางรอดจากอ้อมแขนที่รัดไว้แน่นนี่อยู่ดี มันก็เลยเปลี่ยนใจถือโอกาสซุกตัวเข้าหาเสียเลย แล้วเลยส่งเสียงพูดหงุงหงิงอยู่กับอกพี่อากาศของมันนั่นแหละ

“ถ้าเห็นว่าน่ารักมาก ก็ต้องรู้สึกรักให้มากๆด้วยนะ.....”

“หึๆๆ มากแค่ไหนดีล่ะ แค่นี้พี่ก็รักเท่าฟ้าแล้วนะ”

ได้ยินอย่างนี้ไอ้หนูป่วนเลยปีนขึ้นไปอยู่บนตัก โอบสองแขนไปรอบคอของพี่อากาศ แล้วยืดตัวขึ้นแตะจูบลงที่หน้าผากของผู้ใหญ่ตัวโตเบาๆ ส่งยิ้มเขินให้อีกครั้งก่อนสำทับไปว่า

“ดีมาก......รักให้หมดทั้งฟ้าเลยด้วย ห้ามไปแบ่งใครอีกนะครับ”

“คร้าบบบบบบบบ ว่าแต่....ปีนขึ้นมานั่งตักพี่อย่างนี้ ตกลงว่าจะกินอาหารเช้า หรือว่าอยากจะให้พี่กินแทนครับ?” พี่อากาศจอมเจ้าเล่ห์คืนฟอร์มชัดๆ แล้วลูกกะตาวิบวับนั่นมันอะไรกันพี่ เห็นแล้วขนลุก

“กะ..กินมื้อเช้าสิ ผมหิวจะแย่แล้ว พี่ฟ้ามัวมาทำอย่างนี้ไอ้ที่ทอดๆไว้เย็นหมดแล้วมั้ง” พูดแล้วมันก็รีบปีนลงจากตัก แต่มีหรือพี่อากาศแกจะยอม เห็นท่าจะหนีกันดื้อๆอย่างนั้นเลยยิ่งรั้งไว้ไม่ยอมปล่อย

“อืม.....กินมื้อเช้าก่อน แล้วหลังจากมื้อเช้าก็กินตัวป่วนได้เลยสิเนอะ”
อยู่กันแค่สองคน ไม่ต้องถึงกับกระซิบที่ข้างหูก็ได้ม้างอิพี่อากาศ แกพูดธรรมดาน้องมันก็จะละลายกลายเป็นของเหลวแล้ว

“เหอะ ไม่อนุญาตหรอก พี่ฟ้าอ้ะร้าย” หดหัวหดหูย่นคอหนีลมหายใจร้อนๆที่พุ่งเป้ามาที่กกหูแล้วก็ส่ายหน้าตอบจนผม ยุ่งๆฟูๆยิ่งกระจายเชียวไอ้หนูป่วน

“ร้าย? ร้ายตรงไหนกัน?”
“ก็.....เมื่อกี้อยู่ๆก็มาทำแบบนั้น ไม่ปล่อยให้ตั้งตัวบ้างเลย”

“แต่พี่เห็นว่าตัวป่วนชอบนะ”
ไอ้พี่อากาศบ้านี่ก็แหย่น้องมันอยู่ได้ สนุกมากเลยใช่มั้ยล้อมันเล่นอย่างนี้น่ะ แล้วดูไอ้หนูป่วน นี่ถ้าคนเราหน้าร้อนจนระเบิดได้ ตัวป่วนมันคงระเบิดไปหลายรอบแล้วแน่ๆ

“ไม่เอาแล้วพี่ฟ้า ถ้าพี่ฟ้าไม่ไปทำของกินต่อ ผมจะไปทำเองแล้วนะ เดี๋ยวปล่อยให้ผมหิวมากผมจะสวมวิญญาณก่องข้าวน้อยฆ่าแฟนให้ดู”

“โอเคครับ งั้นตัวป่วนนั่งดูทีวีรอเดี๋ยวเดียวนะ รับรองได้กินทันใจแน่ๆ”
พี่อากาศผู้ตกหลุมหลงแฟนเด็กแบบเต็มใจคลายอ้อมแขนออกอย่างแสนเสียดาย แล้วลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็ว ก่อนจะเดินไปวุ่นวายในครัวต่อยังอุตส่าห์ก้มหน้าลงมาฉกจูบที่แก้มของไอ้หนู ป่วนอีกครั้ง

“จุ๊บเพิ่มพลังงาน หึๆๆ”

พูดอย่างนั้นแล้วก็หันไปคว้ารีโมททั้งเครื่องเสียง ทั้งโทรทัศน์ มายัดใส่มือไอ้หนูป่วนที่พูดตอบโต้ไม่ออกไปแล้ว

~~~~~~~~~~~~~


“เชิญคร้าบบบบบบบ”
“ทำไมของพี่ฟ้าฟองเดียวเองล่ะ? อึ๋ย นมของผมก็หวานจังเลย หวานขนาดนี้ไม่ไหวนะพี่ฟ้า ใส่น้ำตาลไปกี่ช้อนเนี่ย ไหนเอาของพี่ฟ้ามาชิมซิ”

“..............”
“ทำไมของพี่ฟ้าเป็นนมจืดไม่หวานแบบแก้วผมล่ะ?”

ไอ้นี่ก็บ่นไปสงสัยไป แต่ปากก็เคี้ยวไปเรื่อยๆ จนรอเท่าไหร่ก็ไม่ได้ยินเสียงตอบสักทีนั่นแหละ ถึงเงยหน้าขึ้นจากกองอาหารมื้อแรกของวันขึ้นมามองพี่อากาศตัวโตที่นั่งอยู่ ตรงข้ามกะจะคาดคั้นเสียหน่อย

“ก็ ถ้าเพิ่มๆอีกนิดก็ดี.....”
“หืม?”
สงสัยก็สงสัย หิวก็หิว ตัวป่วนมันก็เลยส่งสายตาปริบๆถามพร้อมกับคิ้วที่เริ่มขมวดนิดๆ แต่แก้มยังตุ่ยอยู่นั่นแหละ

“พี่หมายถึง เพิ่มน้ำหนักอีกสักนิด เวลากอดจะได้เต็มไม้เต็มมือขึ้นไง”

พี่อากาศนี่ก็ตอบได้หน้าตาเฉย ปากเคี้ยวไปนิ่งๆแต่แววตาที่มันวิบวับสะท้อนเลนส์แว่นออกมามันซ่อนไม่ได้นะ ชอบเหลือเกิน ไอ้การทำหน้านิ่งๆเหมือนไม่มีอะไรแต่ตาเนี่ยบอกหมดแล้วว่าคิดอะไรอยู่

ตัวป่วนมันเห็นสายตาแบบนั้นก็เข้าใจ ทีนี้เลยเขิน ยิ่งเขินก็ยิ่งกิน แถมคราวนี้ไม่กินคนเดียวด้วย แต่จิ้มไส้กรอกดุ้นเบ้อเริ่มในจานตัวเองยัดพรวดเข้าปากพี่อากาศของมันไปซะ เลย
ปิดปากเสีย...จะได้ไม่ต้องมีคำพูดหลุดออกมาให้ต้องอายอีก

แต่เห็นนะไอ้หนูป่วน พอพี่เขาบอกว่าอยากให้เพิ่มอีกนิด ไอ้เจ้าไข่ดาวที่ถูกยัดเยียดมาให้สองฟองนั่น แล้วยังนมที่แกบ่นๆว่าหวานเกินไปนั่น แกก็กินได้หมดทุกอย่างเลยนี่ แถมยังไม่มีบ่นอีกต่างหาก

เขามีแต่โคแก่ต้องเอาใจหญ้าอ่อน แล้วไอ้หญ้าอ่อนกำนี้นี่มันยังไงหว่า ตามใจโคแก่ของแกมากไปมั้ยไอ้หนูป่วน.....ไม่ต้องกลัวพี่เขาไม่รักหรอกน่า แค่นี้เขาก็หลงแกจะแย่แล้ว



“อิ่มแล้วเหรอ เอาเพิ่มอีกมั้ยครับ เดี๋ยวพี่ไปทอดมาเพิ่ม?”
พี่อากาศตัวโตออกปากถามเมื่อเห็นไอ้หนูป่วนมันกินทุกอย่างที่ตักมาให้จนหมดได้อย่างรวดเร็ว

“อิ่มแล้ว.....ดูดิพุงออกแล้วเนี่ย” ไม่พูดเฉยๆตัวป่วนมันยังลูบพุงประกอบไปด้วย พี่อากาศของมันก็อมยิ้มแก้มจะแตก

“งั้นเดี๋ยวพี่เอาของหวานมาให้ นั่งรอแป๊บนะครับ”
“ฮะ!! ยังจะมีของหวานอีกเหรอ?”

ไม่อยู่ให้ทักท้วงแล้ว พี่อากาศเดินไปทางครัวอีกครั้ง แล้วคราวนี้ตอนเดินกลับมาในมือก็ถือจานเปลสแตนเลสแวววาวที่ด้านบนมีฝาครอบ ปิดสนิทมาด้วย เดินมาถึงก็ตั้งลงตรงหน้าตัวป่วนมัน ส่วนพี่อากาศเองแกก็อ้อมกลับไปนั่งที่เก้าอี้ฝั่งตรงข้ามเหมือนเดิม ตัวป่วนมันเงยหน้าหมางงสบตากับพี่ฟ้าของมัน พี่เขาก็บุ้ยปากให้มันเปิดครอบออกดูของที่อยู่ในจานเอง

ตัวป่วนมันก็เด็กว่าง่าย ให้ทำอะไรก็ทำ พอเปิดฝาครอบออกดูเลยพบกับกระดาษสาม้วนเอาไว้ แต่แทนที่จะมีริบบิ้นสีฟ้าผูกมาเหมือนเคย สิ่งที่ทำให้ม้วนกระดาษเล็กๆนั่นอยู่ในสภาพม้วนอยู่ไม่กางแผ่ออกได้กลับเป็น แหวน..
....แหวนทองคำขาวเรียบๆไม่มีลวดลายหรือแม้แต่พลอยประดับสักเม็ดเดียว พอคลี่ม้วนกระดาษนั้นออกมาก็ได้พบข้อความสัญญาที่ทำให้ตัวป่วนมันรู้สึก เหมือนห้องนี้เต็มไปด้วยดอกไม้บานเสียอย่างนั้น


‘ต่อแต่นี้พี่จะขออยู่เคียงข้าง
ไม่ยอมร้างห่างเจ้าไปข้างไหน
ต่อแต่นี้จะมอบรักทั้งดวงใจ
โปรดเก็บไว้ข้างใจเจ้าอย่าหมางเมิน
แหวนวงน้อยด้อยราคาที่พี่ให้
เพื่อมั่นใจรักของพี่ใช่ผิวเผิน
จะกอดน้องประคองรักร่วมทางเดิน
ถึงนานเนิ่นอีกกี่ปีจะมีเรา’


“ตอนแรกพี่กะจะให้ตัวป่วนตั้งแต่เมื่อวาน แต่...มัวแต่ดีใจกับของขวัญที่เตรียมมาให้พี่....”

ไอ้หนูป่วนมันอยู่นิ่งๆรอฟังซะที่ไหน เปิดกระดาษแผ่นน้อยอ่านจบปุ๊บก็โน่น วิ่งดุ๊กๆไปรื้อกระเป๋าที่ยังถูกทิ้งอยู่หน้าโซฟาตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว รื้ออยู่สักครู่มันก็เดินหน้าแดงๆกลับมา

“พี่ฟ้า ขอมือหน่อย”
“เอาสองมือเลยรึเปล่า?”

“เอาข้างเดียวก็พอ.....”

พี่อากาศที่ตอนนี้ยิ้มกว้างเสียจนลักยิ้มข้างแก้มซ้ายกดบุ๋มชัดเจนแล้วยื่น มือขวาไปให้ตามคำขอ ไอ้หนูป่วนก็จัดการเขียนอะไรขยุกขยิกลงไปกลางฝ่ามือใหญ่ๆนั่น พยายามทำหน้าตาเฉยๆเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เสร็จแล้วก็วางปากกาลงกับโต๊ะอาหารแล้วยกมือข้างนั้นแหละขึ้นมาจูบเบาๆลงไป กลางฝ่ามือ แล้วยังพลิกหลังมือนั้นขึ้นมากดจูบหนักๆลงไปอีก

“ขอจูบตรงนี้ด้วยไม่ได้เหรอ?”
ตรงนี้ของพี่อากาศน่ะอย่าได้สงสัยเชียวว่าตรงไหน ก็ไอ้หนูป่วนมันยังไม่สงสัยเลยเพราะพี่แกเล่นเอามือของมันนั่นแหละไปแปะอยู่ ตรงริมฝีปากร้อนผ่าวของพี่แกแล้ว ไอ้หนูป่วนมันก็ไม่ตอบ แต่กลับเอื้อมมือคว้าเอาแหวนวงนั้นมาใส่นิ้วนางข้างขวาของตัวเองง่ายๆ

“อ้าว ไม่ให้พี่สวมให้ล่ะครับ?”

“หึ....ไม่เอาหรอก ใครสวมคนนั้นก็มีสิทธิ์ถอด นี่ผมสวมเอง ถึงต่อไปพี่ฟ้าจะอยากถอดคืนแค่ไหนก็ไม่มีสิทธิ์แล้วนะ”

“ไม่มีทางจะอยากถอดคืนหรอกครับ ก็หัวใจของพี่ฟ้าก็ไม่ต่างกันเสียหน่อย ยกใส่มือตัวป่วนไปก่อนตั้งนานแล้วด้วยซ้ำ”

คราวนี้พี่อากาศเลยได้รางวัลเป็นจูบเด็กน้อยที่ริมฝีปากตามต้องการ พอไอ้หนูป่วนมันแตะปากลงปุ๊บ มันก็ถอนหน้าออกมานิดนึง แล้วกระซิบบอกพี่ฟ้าของมัน

“ความจริงผมไม่ชอบกินกาแฟเลย แต่ถ้าเป็นกาแฟรสพี่ฟ้า ผมจะชอบกินก็ได้.....”


~~~~~~~~~~~~~

ปล. เขินนนนนนนนนน มามะ มาชิมกาแฟรสพี่ฟ้ากันนะคร้าาาาา



Create Date : 21 มีนาคม 2554
Last Update : 21 มีนาคม 2554 10:42:54 น.
Counter : 423 Pageviews.

1 comments
  
หวานเจี๊ยบบบ นมหวานเรียกพี่เลยย
โดย: sai IP: 58.137.154.162 วันที่: 21 มีนาคม 2554 เวลา:15:29:34 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

paina
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed

 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



ยินดีต้อนรับทุกท่านที่ผ่านเข้ามานะคะ


ที่นี่ก็แค่ห้องเล็กๆของผู้หญิงธรรมดา......ที่พยายามจะเป็นคนดี.....เท่านั้นเอง
มีนาคม 2554

 
 
2
3
4
7
10
11
13
15
16
17
18
19
20
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
 
 
All Blog