เรื่องรัก..ไม่กล้าบอก ตอนที่๓
เรื่องรัก..ไม่กล้าบอก ตอนที่๓

ตัวเบาเบาเจ้าจะปลิวละลิ่วล่อง
เจ้าเนื้อทองที่พี่เฝ้าชะแง้หา
เมื่อวันวานที่ได้พบทั้งสบตา
อยากผวาเข้ากระชับไว้กับทรวง


“นายอากาศ เถลิงศก”

ตอนนี้พวกตัวป่วนและผองเพื่อนของมันกำลังนั่งผลาญเวลาอยู่ที่โถงกลางของคณะ ไอ้ป่วนก็นั่งเล็มขนมไปเรื่อย นานๆทีก็จับป๊อกกี้รสนมยัดใส่ปากไอ้นุ่นที่กำลังลอกแผนภาพที่ไปขอยืมมาจากอาจารย์ลงสมุดง่วนอยู่

“เรียนโทอยู่อักษร คาดว่าจะจบเทอมหน้า” ข้อมูลของพี่คนนั้นที่สามคนเชื่อว่าเป็นคนเดียวกับคุณนิรนามออกจากปากของเพื่อนนุ่น

“แล้วไงอีก?” ตัวป่วนมันรออย่างมีความหวัง

“ก็แค่นั้น..” ไอ้คุณนุ่นตอบพร้อมเงยหน้าขึ้นมามองเพื่อนแวบนึง

“ฮะ..แค่เนี้ยนะ ไหนว่ารู้ทุกเรื่องไง เพื่อนแกที่อักษรอ้ะ” ตัวป่วนมันอุตส่าห์หวังว่าจะได้ข้อมูลอะไรมากกว่านี้

“แหมเว้ย พี่เขา ป.โท นะไม่ใช่รุ่นๆเดียวกับพวกเราจะได้ไปรู้ลึกรู้จริงได้” พอไอ้ป่วนโวยมา ไอ้นุ่นก็โวยกลับเด็กน้อยตีกันแท้ๆ

“ไม่ได้ช่วยอะไรเล้ย ชื่อนามสกุลพี่เขาก็มีอยู่ในประมวลรายวิชาอยู่แล้ว เฮ้อ.. ที่เพื่อนแกบอกขอเวลาวันสองวันจะหาข้อมูลชั้นเลิศมาให้คือได้มาแค่เนี้ยอะนะ”

“ก็ถ้าอยากรู้นักก็ไปถามเขาสิวะไอ้ป่วน” ไอ้แผนมันคงเริ่มทนกับการโวยวายใส่กันของเพื่อนทั้งสองไม่ไหวถึงสอดขึ้นมา

“เออ ถ้าทนไม่ไหวขึ้นมาจะเข้าไปถามพี่เขาตรงๆเลย”


“เดี๋ยวนะ นามสกุลเถลิงศกนี่มันคุ้นๆ” เพื่อนนุ่นมันมีสีหน้าเหมือนค้นพบความจริงอะไรบางอย่างแล้วก็พูดออกมาลอยๆ

“พี่ภพ” และคราวนี้ชื่อที่ออกจากปากทำให้ทั้งตัวป่วนและเพื่อนแผนที่มักจะนิ่งอยู่เสมอถึงกับเก๊กหลุด

“พิภพ เถลิงศก!!”

สามเสียงประสานกันไม่เบา แถมยังมีเสียงขานรับอีกต่างหาก

“ไงน้องๆเรียกพี่ซะเต็มยศ มีอะไรรึเปล่า? อ้ะ ไอ้ป่วนมีคนฝากของมาให้แกแน่ะ” กล่องสีน้ำตาลบ่งบอกว่ามาจากร้านขนมอบร้านเดียวกับเค้กก้อนเมื่อวานยื่นมาตรงหน้า แถมมีนมตราหมีรสน้ำผึ้งแนบมาด้วย

“เอ้า รับไปสิ จะมาเหวอใส่พี่ทำไม พี่จะเข้าไปซ้อมวงต่อ สัปดาห์หน้าแข่งที่แพทย์” ไอ้ตัวป่วนยกมือไหว้พร้อมกับที่คนถูกพาดพิงอยู่เมื่อกี้ยัดของทั้งสองอย่างใส่มืออย่างรีบๆ ก่อนหันมาพยักหน้าให้ไอ้แผนกับไอ้นุ่นอีกคนละหงึกแล้วสาวเท้ายาวๆเข้าไปในห้องสโมสรนักศึกษา

ห้องสโมสรนักศึกษาประจำคณะที่ถูกนักศึกษาในคณะใช้เป็นทั้งห้องประชุม ห้องซ้อมดนตรี แถมรวมไปถึงห้องเก็บของเนื่องจากคณะของพวกตัวป่วนมีพื้นที่น้อย เป็นคณะที่ถือว่าใหม่เพราะเพิ่งจัดตั้งมาได้ยังไม่พ้นสิบปี
คณะเล็กๆ พื้นที่มีอยู่แค่ชั้นเดียวกับนักศึกษาที่รวมทั้งสี่ชั้นปีแล้วเกินสามร้อยคนมาแค่นิดหน่อย เพราะอย่างนี้นักศึกษาทั้งสองภาควิชาและตั้งแต่ปีหนึ่งจนถึงปีสี่ถึงได้รู้จักกันเกือบทั้งหมด

ยิ่งเป็นคนดังอย่างพี่ภพหรือนายพิภพ เถลิงศก ที่เป็นลีดเดอร์ของคณะแถมยังพ่วงตำแหน่งนายกสโมสรนักศึกษาคนปัจจุบันเข้าไปด้วย ไม่แปลกเลยที่รุ่นน้องอย่างไอ้สามตัวนี้จะจำได้ทั้งชื่อจริงนามสกุลจริง

“แกๆๆๆพี่ภพอ้ะ พี่ภพ”

“เออ ก็พี่ภพอะดิ ย้ำอยู่ได้”

“พี่ภพนามสกุลเดียวกับพี่คนนั้นเลย”

“ใช่”

“พี่น้องกันแหงเลยว่ะ น่าจะคิดออกตั้งนานแล้ว ดูดิ๊ชื่อพี่แกยังเข้ากันเลย โลกกับท้องฟ้า..พ่อกับแม่พี่ๆเค้าต้องโรแมนติคมากแน่เลยเนอะแกเนอะ” ว่าแล้วไอ้เพื่อนนุ่นมันก็ถีบตัวเองลอยเข้าภวังค์ไปเรียบร้อย

“ป่วน เป็นอะไร ทำไมเงียบไปล่ะ หืม?” ประโยคนี้ของเพื่อนแผนเรียกสติของเพื่อนนุ่นให้กลับมาสนใจตัวป่วนที่ตอนนี้นั่งหน้านิ่วคิ้วขมวดแทบเป็นโบอยู่ตรงหน้าอีกครั้ง

“แกว่า ถ้าถามกับพี่ภพ พี่ภพแกจะตอบมั้ยวะ?”

เห็นหน้าตากังวลแทบจะระดับสูงสุดของตัวป่วน ไอ้คุณแผนที่เป็นเพื่อนแถมทำตัวเป็นพี่ทั้งๆที่มันอ่อนเดือนกว่าไอ้ตัวป่วนเสียอีกก็เข้าโหมดพี่ชายเต็มตัว เลื่อนตัวเข้ามาใกล้แล้วโอบไหล่ไอ้เพื่อนที่เห็นกันมาแต่เล็กไว้เบาๆ

“แกอย่าคิดมาก ถ้าอยากรู้อะไร สนใจอะไรก็ถามไปเลย หรือถ้าแกไม่กล้า ฉันกับนุ่นถามให้เองก็ได้”

“ใช่ๆ แกไม่ต้องกังวลอะไรทั้งนั้นนะป่วน” ไอ้นุ่นมันเลื่อนตัวเองมานั่งขนาบอีกข้างของตัวป่วนแล้วก็สอดแขนเข้าไปกอดเอวเอาไว้ แถมซบหน้าลงกับบ่าเพื่อนด้วย

“พวกแกรู้ใช่มั้ย ว่ามันไม่ใช่แค่สงสัยเรื่องพี่เขา”

“รู้สิ ถึงฉันจะไม่ได้คบแกมานานแบบแผนมัน แต่เวลาครึ่งปีที่จะเปิดใจให้เพื่อนมันก็ไม่น้อยนะ ฉันรู้ว่าแกหวั่นไหวไปกับเขาตั้งแต่ยังไม่มีเบาะแสว่าเขาเป็นใครด้วยซ้ำ”

“แก ฉันจะทำไงดีวะ ตอนแรกก็คิดเผื่อไว้ว่าถ้าพี่เขาเป็นผู้ชายขึ้นมาจะทำยังไง แต่ว่า...”

“แต่อะไร?”

“ฉันไม่รู้ว่ะ คือตอนนี้มันแน่นอนว่าคุณนิรนามน่ะเป็นคนเดียวกับนายอากาศ เถลิงศก นี่แน่ๆ เพราะงั้นเขาก็ต้องเป็นผู้ชายแล้วแน่ๆ แต่ฉันก็เป็นผู้ชายเหมือนกัน...แล้ว....แล้ว..” แล้วมันก็ถอนใจเฮือกยาว แถมไม่ยอมพูดต่ออีกต่างหาก

“อืม เขาสองคนน่ะคนเดียวกันแน่ๆ เพราะก่อนหน้านี้มีแต่คนอื่นที่เราไม่รู้จักเข้ามาส่งของให้ แต่วันก่อนที่เจอกันพี่เขาก็คงรู้ว่าพวกเราเริ่มสงสัย พอมาวันนี้พี่เขาให้พี่ภพที่น่าจะเกี่ยวข้องกับเขาแน่ๆมาส่งของให้แกเองกับมือก็เพื่อจะบอกเป็นนัย ว่าเขานี่แหละคนที่ส่งของส่งกลอนจีบแกมาตลอด”

“อืม..ฉันรู้ว่าเขาตั้งใจอย่างนั้น ตอนนี้มันไม่ใช่คำถามว่า ‘ใคร’ แต่เป็นคำถามว่า ‘ทำไม’ ที่ฉันต้องการคำตอบ แต่คำถามที่รบกวนใจฉันมากที่สุดตอนนี้ไม่ใช่คำถามที่อยากจะให้เขาตอบ แต่มันเป็นคำถามสำหรับตัวฉันเอง คำถามว่า 'ฉันจะทำยังไง’ จะทำยังไงดี”

“แกคิดยังไงล่ะป่วน เอางี้นะ ตอนนั้นที่แกคิดเผื่อน่ะ แกคิดไว้แล้วใช่มั้ยว่าถ้าคุณนิรนามเป็นผู้หญิงแกจะทำยังไง?”

“อืม..ฉันบอกไอ้แผนมันไปว่าถ้าเขาเป็นผู้หญิง ฉันจะรับรัก”
ตัวป่วนมันตอบไปก็ก้มหน้ามองมือตัวเองที่ประสานอยู่บนหน้าตักไป ไม่ยอมสบตาเพื่อนสักคน ส่วนไอ้แผนก็ปิดปากสนิท นอกจากโอบเพื่อนไว้หลวมๆแล้วก็ไม่พูดอะไรทั้งนั้น ยกหน้าที่ทั้งปลอบทั้งให้คำแนะนำกับไอ้นุ่นไปทั้งหมด

“ป่วน แกฟังฉันนะ เราสามคนมีหลายอย่างที่เหมือนกัน และอย่างนึงที่ฉันรู้แน่ๆก็คือเราทั้งสามคนคบกันแบบไม่ได้สนใจเพศ”

“นั่นเพราะเราคบกันแบบเพื่อนไงนุ่น”

“แกฟังฉันให้จบก่อน ฉันไม่ได้หมายความแค่ความสัมพันธ์แบบเพื่อน แต่ฉันรู้ว่าถึงจะเป็นความสัมพันธ์แบบอื่น เราสามคนก็เหมือนกันตรงที่จะไม่ใช่เรื่องเพศเป็นตัวตัดสิน”

“นุ่น..แก” ป่วนมันเงยหน้ามามองเพื่อนนุ่นแล้วยังสอดมือเข้าไปให้เพื่อนนุ่นกำไว้เสียแน่น

“แกรู้มั้ย ฉันเคยคิดว่าถ้าฉันมีความรักมันจะเป็นยังไง แล้วที่ฉันคิดก็คือความรักของฉันต้องสวยงาม เป็นความรักที่ดีแบบที่ทั้งฉันและเขาจะเต็มใจเป็นฝ่ายรักและเป็นฝ่ายถูกรัก เวลาที่ฉันอ่อนแอเขาจะคอยเป็นกำลังใจให้ เวลาที่เขามีปัญหาฉันก็จะไม่ทอดทิ้งจะยินดีรับฟังและช่วยเหลือเท่าที่ทำได้ ไม่เคยเลยสักครั้งนะป่วนที่ความคิดของฉันจะกำหนดเพศให้เขา ถ้าคนที่จะเข้ามารักฉันและพร้อมจะรับความรักตอบจากฉันเป็นเพศที่หนึ่ง สอง สาม หรือสี่ ฉันก็ไม่สนใจเลยสักนิด แกเข้าใจฉันใช่มั้ย”

“อืม...”

“เพราะงั้นแกอย่าเพิ่งคิดมาก อีกอย่างก็อย่าเพิ่งปล่อยให้ตัวเองถลำใจไปลึกนัก เราต้องหาคำตอบคำถาม ’ทำไม’ ของแกให้ได้ก่อน พอถึงตอนนั้นแล้วค่อยมากังวลอีกที ตกลงมั้ย?”

“ฉันรักแกว่ะนุ่น” ไอ้ตัวป่วนมันพลิกตัวมากอดเพื่อนนุ่นเสียแน่น

“ฉันก็รักแก”


“กอดด้วยดิ”
เสียงนายกลยุทธ์ดังแทรกขึ้นมาเบาๆเหมือนกลัวว่าจะทำลายบรรยากาศ โถ...แผนเอ๊ย แผนที่ถูกลืม

“โอ๋ๆๆๆ มามะๆ”
ไม่ต้องรอให้ไอ้แผนโอบแขนมา ไอ้นุ่นมันก็จัดการเอื้อมมือทั้งสองข้างไปดึงตัวไอ้แผนให้เข้ามาคลุกวงในด้วยอีกคนเรียบร้อย

“งั้นเดี๋ยวฉันจะไปถามพี่ภพ คุยกะนายกสโมนี่จะยากเปล่าหว่า? ต้องเตรียมคำถามไปให้พร้อมเว้ย”

“เดี๋ยวๆๆ ส่งมาก่อนเลย”

ไอ้นุ่นมันเบรก......มันเบรกไอ้ตัวป่วนที่พอได้กำลังใจแล้วก็ยิ้มออกแถมเตรียมพร้อมอย่างกับจะไปออกศึกซะงั้น

“อะไร ส่งอะไรของแก ถ้าค่ากอดฉันไม่จ่ายนะเว้ย ไปเก็บกับไอ้แผนโน่น เพราะแกมากอดฉันเอง แต่ไอ้แผนมันขอให้แกกอด”

“ค่ากอดไม่เก็บเว้ย ฉันจะเอาการ์ดตะหาก เอาออกมาให้อ่านซะดีดีไอ้ตัวป่วน” ไม่พูดเปล่ามือนี่เอื้อมไปคว้ากล่องเค้กมาได้แล้ว แต่ไอ้ตัวป่วนมันก็ไม่ยอม แย่งคืนไปจนได้
“หวงหรือ หวงของกับเพื่อนงั้นเหรอ มานี่เลยนะ จับได้จะจี๋ให้ตายเลย”

“ไอ้นุ่นอย่าวิ่งไล่ดิ เดี๋ยวเค้กเละหมด หยุดเว้ย หยุดๆๆๆ”

“แกก็เอาการ์ดมาให้ฉันก่อนดิ”

“แป๊บดิ ให้ฉันอ่านก่อน...”

ตัวป่วนมันเปิดกล่องเค้กแล้วก็หยิบการ์ดทรงกลมมีหมึกสีเขียวเขียนอยู่อย่างเป็นระเบียบขึ้นมาอ่าน อ่านไปหน้าที่ขาวๆนั่นก็แดงขึ้น แดงขึ้น แล้วก็แดงเสียจนไอ้นุ่นที่จับตามองอยู่นึกไปถึงซอสมะเขือเทศที่เจือด้วยน้ำเตรียมปรุงซุปใส

‘ตัวเบาเบาเจ้าจะปลิวละลิ่วล่อง
เจ้าเนื้อทองที่พี่เฝ้าชะแง้หา
เมื่อวันวานที่ได้พบทั้งสบตา
อยากผวาเข้ากระชับไว้กับทรวง
ทั้งขนมน้ำนมหวานที่ส่งให้
เพื่อบอกไว้ให้เจ้ารู้ว่าพี่ห่วง
เจ้าเอวบางรักของพี่ไม่หลอกลวง
ด้วยติดบ่วงรักเจ้าแล้วเจ้าแก้วตา’

~~~~~~~~~~~~~


“พี่ภพคร้าบ คือพวกผมมีเรื่องอยากถาม พี่ภพว่างมั้ยอ้ะ?”

นั่นไง บทจะใจร้อนไอ้ตัวป่วนมันก็รั้งเพื่อนสองคนให้อยู่ที่คณะรอจนพวกพี่ภพของพวกมันซ้อมดนตรีกับวงจนเสร็จ แล้วดักรอขอคุยมันเย็นนี้เลย มันว่าถ้าให้มันรอพรุ่งนี้คืนนี้มันคงหงุดหงิดจนนอนไม่หลับแน่

“เอาสิ ไปหาไรกินด้วยได้ป้ะ หิวว่ะ พี่ยังไม่ได้กินอะไรตั้งแต่เที่ยง เดี๋ยวพี่บอกเพื่อนแป๊บ”
พี่ภพผู้ใจดีของน้องๆก็รับคำกันง่ายๆ ไม่มีหรอกที่จะปฏิเสธน้อง รึว่าเตรียมหาเสียงเผื่อเลือกนายกสโมสมัยหน้าหว่า? จัดการเก็บข้าวของทุกชิ้นโยนๆลงเป้ได้ก็หันไปบอกเพื่อนในกลุ่มอีกที

“เฮ้ย กูไปหาไรกินกะน้องๆก่อนนะเว้ย”

“จีบเด็กเรอะมึง กูจะบอกเค้ก” เสียงรุ่นพี่อีกคนลอยตามออกมาจากห้องสโมที่ประตูเปิดค้างอยู่

“เรื่องของมึง ไปน้องๆ ส้มตำสวนหลวงนะ พี่เลี้ยงเอง”

“เฮ้ย พี่ภพไม่ต้องเลี้ยงหรอกค่ะ พวกนุ่นเป็นฝ่ายชวนนะ”

“เออ บอกจะเลี้ยงก็เลี้ยงดิ ไม่ได้เลี้ยงน้องนานเดี๋ยวพี่จะเฉาซะก่อน”

ระหว่างเดินไปร้านส้มตำเจ้าประจำเสียงเรียกเข้าโทรศัพท์ของพี่พิภพก็ดังขึ้นเป็นเสียงเพลงประกอบมารูโกะ ช่างเลือกใช้ได้เข้ากับหน้าเข้มๆเหลือเกิน ทำเอาไอ้คุณนุ่นกับไอ้คุณป่วนอดไม่ได้ต้องนินทารุ่นพี่ที่เคารพกันในระยะเผาขน


“ฮัลโหล ว่าไงฟ้า?”
อ้าว ไหนแฟนชื่อเค้กไงเฮีย แล้วนี่ฟ้าไหนเนี่ย ตกลงจะฟ้าหรือเค้กเอาให้มันแน่
“ก็ไม่ยังไง นี่จะไปหาไรกินด้วยกันเนี่ย อืม...ทั้งสามคนแหละ ฮะ..ว่าไงนะ ไม่พูดให้เว้ย อยากพูดพูดเอาเอง”

“.....?......”

“น้องเรามองหน้ากันเลิ่กลั่กแล้ว เอาไงจะพูดมั้ย ไม่พูดจะได้วาง?.........อ้ะ ป่วน พี่ชายพี่ขอพูดด้วย”

ประโยคบอกเล่าธรรมดาแค่ประโยคเดียวเท่านั้นแหละ จากที่มองหน้ากันเพราะสงสัยว่าใครหว่าที่จะมาอยากคุยกับพวกมัน คราวนี้ทั้งไอ้ป่วน ไอ้นุ่นถึงกับเกิดอาการตาโตเท่าไข่นกกระทา(ก็ไข่ห่านมันใหญ่เกิน ถ้าตาโตเท่านั้นขึ้นมาเดี๋ยวได้ไปออกงานวัด) ขอเว้นไอ้คุณแผนไว้คน เพราะขนาดเพื่อนมันสองคนออกอาการตื่นเต้นขนาดนั้นมันก็ยังนิ่งอยู่ได้ แถมแทนที่ตาโตๆจะโตขึ้น กลับหรี่ตาลงน้อยๆอย่างครุ่นคิดอีกต่างหาก

“..ฮาโหล” เสียงสั่นเชียวไอ้หนูป่วน อะไรมันจะเกร็งขนาดนั้น

“ตัวป่วน พี่ฟ้าเองนะครับ” อีกฝ่ายก็มาซะนุ่ม

“เอ่อ..ครับ”

“กินขนมกับนมแล้วรึยังครับ ชอบมั้ย?”

“เอ่อ..พี่คือ คือ...”

“ตอบไม่ตรงคำถามอย่างนี้ต้องหักคะแนนนะ”

“เฮ้ยพี่เดี๋ยวสิ นั่นผมยังไม่ได้ตอบสักหน่อย ..อ๊ะ” สงสัยมันกลัวโดนหักคะแนน ตัวป่วนนี่มันก็บ้าจี้ พี่เขาจะมาหักคะแนนอะไรของแกล่ะ กลุ้มใจกับแกจริงๆ แถมพอตัวเองหลุดปากไปซะยาว นึกขึ้นได้มีการตกใจเองด้วยนะ ดูมันทำ

“ฮะๆๆๆ อะ..งั้นพี่ให้สิทธิตอบใหม่ ว่าไงครับชอบมั้ย?”
ไอ้ตัวป่วนมันว่ามันไม่ได้คิดไปเองนะ แต่ไอ้น้ำเสียงตอนที่ถามว่า ‘ชอบมั้ย’ ของพี่แกนี่ไม่ธรรมดาจริงๆ มันจะแปลแค่ชอบขนมมั้ย? รึจะแปลว่าชอบพี่มั้ย?กันแน่.....
เออ..สงสัยพี่บ้านี่ชอบให้ตีความ

“คือ...ผม”

คุณๆอย่าเพิ่งว่าตัวป่วนมันหัวช้านะ คำถามง่ายๆพื้นๆแค่นี้ยังต้องใช้เวลาตั้งนาน ก็คนมันไม่มีสมาธิ สติจะหลุดตั้งแต่ได้ยินเสียงพี่คนนั้นมาแนบหูแม้จะทางโทรศัพท์ก็เหอะ ก็เวลาคุยโทรศัพท์ แล้วอีกฝ่ายทำเสียงนุ่มๆแบบนี้มันเหมือนถูกกระซิบที่ริมหูเลยนี่นา
แถมพอจะตอบๆ ไอ้เพื่อนนุ่นก็ดันมาสะกิดยิกๆให้กดใช้โหมด speaker phone อีก ไอ้นี่ก็อยากรู้อยากเห็นไม่เข้าเรื่อง คนเขาจะจีบกันมันต้องพูดกันเบาๆเฟร้ย จะให้มาออกลำโพง พี่คนนั้นน่ะไม่เป็นไรหรอก...แต่เพื่อนป่วนของแกมีแววจะได้อายจนมุดดินหนีแน่ๆ

“ผม......? ตัวป่วน ถ้ายังไม่พร้อมจะตอบ ก็ไม่เป็นไรนะครับ พี่จะรอ...”

“ผม...ชอบ..”
หลุดออกมาจากปากจนได้ สองคำสั้นๆง่ายๆนั่น

“เฮ้อออออออออ ดีใจจัง”
เสียงตอบรับที่มาพร้อมเสียงที่บ่งบอกว่าคนรอคำตอบอยู่ถึงกับถอนหายใจยาวทำให้หน้าแดงๆของตัวป่วนมันเริ่มประดับด้วยรอยยิ้ม เสียดายแทนคนปลายสายที่ไม่มีโอกาสมาเห็น

“นี่พี่อยู่ต่างจังหวัด ไม่งั้นจะรีบไปหาป่วน ได้ยินเสียงแบบนี้ยิ่งอยากจะรีบไปเห็นหน้า...” เอ้าหวานเข้าไป หวานจนมดจะเป็นเบาหวาน แถมตัวคนรับคำหวานก็ชะงักหยุดเดินแถมทำท่าจะเข่าอ่อนซะอย่างนั้น

“สงสัยอะไรก็ถามกับชมพูนะครับ ชมพูจะตอบเท่าที่พี่อนุญาตไว้ แล้วคำตอบที่เหลือ พี่จะไปตอบด้วยตัวเอง คืนนี้ขอพี่โทร.หาได้มั้ย? นะครับ”

“อย่า อย่าเพิ่งเลยครับ ขอเวลาผมอีกหน่อย” ปฏิเสธได้เสียงสั่นมากอิหนูเอ๋ย

“ตกลงครับ คืนนี้ไม่โทร. งั้นพรุ่งนี้พี่จะไปหานะ รอพี่นะครับ” อืม...ได้ทีแล้วก็อ้อนเข้าไป อ้อนเข้าไปอีก ตัวเองรุกจนตัวป่วนมันไม่มีทางหนีแล้วไม่ได้รู้ตัวเลยรึไง

“ครับ”

“หึๆๆ เด็กดีของพี่ งั้นพี่ขอคุยกับชมพูหน่อยซิครับ”

“ชมพู? ชมพูไหนครับ?”

อ้าว ตัวป่วนเอ๊ย ลอยได้อีก ใจลอยไปไหนแล้ว เมื่อกี้พี่เขาก็พาดพิงถึงชมพูนั่นไปครั้งแล้ว เพิ่งจะมารู้สึกสงสัยเอาตอนนี้ แต่ชมพูตัวจริงนี่สิ แค่ได้ยินชื่อตัวเองหลุดจากปากไอ้ตัวป่วนเท่านั้นแหละ ขนาดมืดๆยังเห็นเลยว่าใบหน้าเข้มๆนั่นขึ้นสีอย่างกับไปวิ่งมาสักห้าร้อยเมตร แถมมือยังรีบฉวยโทรศัพท์คืนไปแนบหูอีกต่างหาก

“ว่าไงฟ้า? อืม รู้แล้วน่า โอเค.พรุ่งนี้เจอกัน”

“......ชมพู?” ไม่ใช่ใครหรอก เสียงไอ้คุณนุ่นนั่นแหละ แหมๆๆ รักจะนินทาก็ขอให้ไปนินทาลับหลังหน่อยได้มั้ย มีมารยาทนิดนึง

“จุ๊ๆ” นี่เสียงจากไอ้คุณแผน ไอ้นี่สติดีกว่าเพื่อน

“ไปเหอะ เดินต่อ แผน นุ่น ดึงไอ้ป่วนมาด้วย เดี๋ยวมันเอ๋อหลงทาง พี่หิวจนจะตาลายแล้ว”
คุณชมพูก็กระไรเลย ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นงั้นแหละ อายชื่อตัวเองก็บอกมาเฮอะ จนเดินมาถึงร้านได้ที่นั่งแถมสั่งอาหารเรียบร้อยนั่นแหละ การสนทนาที่ดูดีมีสาระที่สุดจึงเริ่มขึ้น


“เอ้า ว่ามา ไหนว่ามีอะไรจะถามพี่?”
~~~~~~~~~~~~~


ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่าน และโดยเฉพาะท่านที่ให้ความคิดเห็นนะคะ
ถ้าตรงไหนติดขัด อ่านแล้วงงๆยังไงก็บอกไว้ได้นะคะ ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ



Create Date : 05 กุมภาพันธ์ 2554
Last Update : 5 กุมภาพันธ์ 2554 7:13:13 น.
Counter : 361 Pageviews.

2 comments
  
คนรักนิยายช่วยหน่อยนะคะ

ตอนนี้เรากำลังทำวิทยานิพนธ์หัวข้อ "การอ่านนวนิยายออนไลน์ของเด็กและเยาวชนไทย" เลือกด้วยความชอบส่วนตัวล้วนๆ อิอิ

ผลที่ได้นอกจากจะมีประโยชน์ทางการศึกษาแล้ว ผู้ที่เกี่ยวข้องอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นนักเขียน คนอ่าน เว็บไซต์ สำนักพิมพ์ ยังสามารถนำไปใช้ได้จริงอีกด้วย
รบกวนเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ช่วยทำแบบสอบถามให้หน่อยนะคะ (แบบสอบถามไม่ยาวค่ะ) แต่ต้องเก็บข้อมูลเป็นจำนวนมหาศาล Y_Y

https://spreadsheets.google.com/viewform?formkey=dFF4VmgxRW9hUzIyZ0NoYUtsd2ZUaHc6MQ

(เค้าไม่ให้ฝังลิงค์อ่าาาา)

ปล.ส่งต่อคนอื่นได้นะค้า ไม่หวงๆ จักเป็นพระคุณอย่างสูง (-/\\\\-)

ขอบคุณมากค่ะ
โดย: Baibua วันที่: 9 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:1:39:46 น.
  
น่ารักมากมาย
โดย: อ้วนน้อย IP: 223.205.206.121 วันที่: 1 มีนาคม 2554 เวลา:20:04:27 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

paina
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed

 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



ยินดีต้อนรับทุกท่านที่ผ่านเข้ามานะคะ


ที่นี่ก็แค่ห้องเล็กๆของผู้หญิงธรรมดา......ที่พยายามจะเป็นคนดี.....เท่านั้นเอง
กุมภาพันธ์ 2554

 
 
1
3
6
8
16
18
19
20
21
22
24
27
 
 
All Blog