เรื่องรัก..ไม่กล้าบอก ตอนที่๘
.


“ตัวป่วน มาเปิดประตูหน่อยเร้วววว”

เสียงคนที่ยอมรับเอาไว้ศึกษาดูใจดังขึ้นทันทีที่ตัวป่วนมันคว้าหูโทรศัพท์มาแนบหูได้ทั้งที่ตายังปิดสนิท แถมแทนที่จะลุกขึ้นนั่งดีๆ มันยังใช้วิธีกระดืบดื๊บๆ พาตัวเองเลื่อนไปอยู่ริมเตียงอย่างงดงามเลียนการเคลื่อนไหวของหนอนได้ไม่มีผิดเพี้ยน

“งืม...พี่ฟ้า กี่โมงแล้วอะ?”
“เจ็ดโมงจะครึ่งแล้ว ลุกขึ้นแล้วลงมาเปิดประตูให้พี่หน่อย”
“หงะ....ประตูไหนอ่า..”
“หึๆๆๆ ประตูหน้าบ้านตัวป่วนไงครับ เร็วๆเลย”

สักพักไอ้หนูป่วนในชุดนอนเสื้อแขนยาวกางเกงขายาวลายทางสีฟ้าขาวก็เดินเป๋เป็นปูมาค่อยๆปลดล็อคหน้าบ้าน ตาก็หรี่จนแทบจะปิดเหมือนไม่สามารถจะสู้แสงแดดยามเช้าได้
“นั่นลืมตาแล้วยังเนี่ย?”
“.................”
“เฮ้.....ลืมตาด้วยสิตัวป่วน” อย่าได้หวังว่าไอ้ตัวป่วนมันจะทำตาม เดินโซซัดโซเซเข้าบ้านได้ก็ล้มลงนอนคว่ำมันที่โซฟากลางบ้านนั่นแหละ
“พี่ให้อีกสิบนาทีนะคนเก่ง”

พี่อากาศผู้ตื่นแต่เช้าสงสัยเพราะแกแก่แล้ว ไม่ใช่วัยกำลังกินกำลังนอนแบบตัวป่วนมันเดินตามเข้ามาเห็นสภาพไอ้หนูป่วนก็ทรุดตัวลงกระซิบเบาๆที่ข้างหูของคนขี้เซา แล้วก็เล่นทีเผลอขโมยดมหัวเน่าๆของตัวป่วนมันไปหนึ่งฟอด

เอ....หรือหัวไอ้ป่วนมันจะไม่เน่าหว่า คุณพี่อากาศแกสูดเข้าไปฟอดใหญ่แล้วยังอารมณ์ดี แถมมียิ้มละไมระบายเต็มหน้า ไอ้ตัวป่วนนี่ก็หลับไม่รู้เรื่องเลยว่าถูกผู้ชายตัวโตขโมยดมหัว
คุณพี่อากาศถือสิทธิ์คนที่เจ้าของบ้านเริ่มมีใจให้เข้าครัวไปเปิดตู้เย็นเทน้ำมาดื่มเรียบร้อย แล้วกลับมานั่งมองคนหลับที่โซฟาชุดเดียวกันนั่นแหละ นั่งรอได้สักพักยังไม่ทันเบื่อมองคนหลับ ก็มีเสียงอู้อี้ๆดังมาจากไอ้ตัวบางๆที่กำลังนอนคว่ำหน้าซุกตัวเองเข้ากับเบาะรองนั่งนิ่มๆอยู่ คุณพี่อากาศแกเลยเข้าไปเงี่ยหูฟังจนใกล้

“ครายปิดแอร์......” เออนะ นี่ไม่ใช่ห้องนอนแกนะเว้ยไอ้ตัวป่วน นี่ห้องรับแขกกลางบ้าน “งืมมม ร้อนอะ เปิดแอร์หน่อย....”
“หึๆๆๆ ฮ่าๆๆๆๆๆๆ” คุณพี่อากาศเกิดอาการต่อมขำแตกขึ้นมาทันทีจนต้องหัวเราะออกมาดังๆ เอื้อมมือไปยีหัวไอ้หนูป่วนเล่นอย่างอดใจไม่ไหว ตัวป่วนมันก็คงรำคาญเลยกระถดหัวหนีมือ คราวนี้นอกจากหัวยุ่งๆพี่อากาศแกเลยได้เห็นเสี้ยวหน้าขาวๆกับปากแดงๆ เผยอนิดๆแบบคนหลับของตัวป่วนมันในระยะประชิด

“ตัวป่วน ถ้าไม่ยอมตื่นพี่จะปล้ำแล้วรู้มั้ย คนเราตอนงัวเงียๆนี่มันน่ารักขนาดนี้ได้ยังไงน้า.....
แก้มใสใสอยากดอมดมให้สมจิต
ปากนิดนิดอยากประทับแล้วรับขวัญ
ผิวผ่องผ่องอยากลูบไล้ทุกคืนวัน
กี่วารวันจะได้ชมสมอุรา”


เออหนอความรักทำให้คนธรรมดากลายเป็นกวี หัวเราะไอ้หนูป่วนอยู่ดีดีพี่อากาศท่านก็ร่ายกลอนออกมาเสียอย่างนั้น ก้มลงไปสูดกลิ่นแก้มของไอ้ตัวขี้เซาอีกครั้งแล้วก็ปลุกมันแบบจริงจัง...ต้องให้มันตื่นขึ้นมาเสียที ไม่งั้นคงได้เผลอปล้ำมันจริงๆ

“ป่วน—ตื่น—ได้—แล้ว”

เสียงเรียกดังขึ้นไปจนถึงชั้นสองเลยมั้งนั่น ได้ยินเสียงของหนักๆหล่นกระทบพื้นไม้ดังมาจากห้องไอ้เพื่อนแผน สงสัยจะมีคนตื่นเพราะเสียงปลุกพาวเวอร์ของพี่อากาศแกแบบยิงนัดเดียวได้นกสองตัว เพราะตอนนี้ไอ้ตัวขี้เซาก็ผุดลุกขึ้นนั่งคุกเข่าทำหน้าตาตื่นอยู่บนโซฟา ตัวป่วนมันมองซ้ายมองขวาพอเห็นพี่อากาศตัวโตก็ยกมือขยี้ตาเสียทั้งสองข้าง แล้วก็ทำหน้าเอ๋อใส่

“พี่ฟ้า....มาได้ไง?” เสียงแหบๆแบบคนเพิ่งตื่นทำให้มันต้องกระแอมพอให้คอโล่ง สายตาจับไปที่แก้วน้ำที่ยังเหลืออยู่เกือบครึ่งบนโต๊ะ เอามือชี้ๆไปที่แก้วสลับกับคนส่งเสียงดังปลุกอยู่เมื่อกี้
“อืม......แก้วพี่เอง” ได้ยินอย่างนั้นตัวป่วนมันก็ยื่นมือมาคว้าแก้วไปแล้วดื่มน้ำที่เหลืออยู่ครึ่งแก้วนั้นจนหมด

“พี่มาทำไมแต่เช้าอ้ะ? แล้วเข้ามาในบ้านได้ไง ไอ้แผนมันตื่นแล้วเหรอ?” ตัวป่วนมันถามแล้วก็มองกวาดทั่วตัวพี่อากาศตัวโตที่ตอนนี้ถอยไปนั่งอยู่ที่เก้าอี้เดี่ยวฝั่งตรงข้าม
“คำถามแรกพี่จะมาพาไปเที่ยว คำถามที่สองตัวป่วนเป็นคนเปิดประตูให้พี่เข้ามาเอง ส่วนแผน...คิดว่าคงจะตื่นพร้อมป่วนเมื่อกี้นี้แหละ”
แค่คำว่าไปเที่ยวความสนใจในข้อมูลอื่นๆก็หลุดออกจากสมองน้อยๆของไอ้หนูป่วนทันที ไอ้ที่กำลังเลื้อยๆเตรียมจะลงไปขดตัวนอนอีกรอบก็เปลี่ยนมาเป็นนั่งหลังตรง สายตาก็จับไปที่คนที่บอกจะพาไปเที่ยวอย่างคาดหวัง

“ไปเที่ยว? ไปไหนเหรอ?”
น้ำเสียงกระตือรือร้นและท่าทางอยากลุกแล่นตามออกไปเที่ยวเสียเดี๋ยวนี้ ทำเอาคนมาปลุกแต่เช้าเป็นปลื้ม
“สามชุก” ได้ยินอย่างนั้นไอ้หนูป่วนก็ตาโต
“ไปต่างจังหวัดเลยเหรอ....ไปๆๆ”

“งั้นรีบขึ้นไปอาบน้ำก่อนไป แล้วลงมากินน้ำเต้าหู้กับปาท่องโก๋รองท้อง ถ้าออกสายไปถึงช้ามีเวลาเที่ยวน้อยพี่ไม่รู้ด้วยนะ”
ยังไม่ทันจบประโยคของคุณพี่อากาศไอ้หนูป่วนก็ออกวิ่งตึงๆขึ้นบันไดไปเรียบร้อย สวนทางกับไอ้คุณแผนที่เดินสวนลงมาหน้าตางงๆในชุดกางเกงขาสั้นตัวเดียว แต่รายนี้มีหลักฐานว่าล้างหน้าเรียบร้อยเพราะหยดน้ำที่ยังเกาะอยู่ตามไรผม

“อ้าวพี่ฟ้า หวัดดีครับ”
“สวัสดี แผนไปกินน้ำเต้าหู้กับปาท่องโก๋สิ พี่วางไว้ในครัวน่ะ” ไอ้แผนก็ไม่มีเกี่ยงเดินดุ่มๆเข้าไปในครัว พอเห็นข้าวของก็ถามคนซื้อเสียหน่อย
“พี่ฟ้ากินเลยมั้ย เดี๋ยวผมเทใส่ถ้วยให้เลย”

“ปกติตัวป่วนอาบน้ำแต่งตัวนานมั้ย?” คุณพี่อากาศแกเดินตามเข้ามาเกาะอยู่ที่ประตูครัว
“ถ้าปกติก็สิบถึงสิบห้านาทีอ้ะพี่ แต่วันนี้ไม่ใช่วันปกตินี่นา พี่มารับมันทั้งทีมันอาจจะอยากแต่งหล่อก็ได้ ฮ่าๆๆ”
“อืม...งั้นเดี๋ยวพี่รอตัวป่วนก่อนดีกว่า เออ...แผนก็ไปแต่งตัวสิ ไปเที่ยวกัน”
“ไม่อ้ะ พี่ไปกับมันสองคนเหอะ เห็นพี่แล้วมีกำลังใจว่ะ เดี๋ยววันนี้ผมไปทำคะแนนบ้างดีกว่า”
พูดจบไอ้แผนก็จัดการกรอกน้ำเต้าหู้ที่เริ่มอุ่นเข้าปากอึกเบ้อเริ่ม และทั้งๆที่พูดเรื่องทำคะแนนแท้ๆแต่สีหน้ามันก็ยังนิ่งๆเหมือนเดิม
“มีกระดาษกับปากกามั้ย พี่ยืมหน่อยสิ”

ไอ้แผนเดินไปหยิบกระดาษโน้ตแผ่นเล็กที่ตู้โชว์ในห้องรับแขกมาส่งให้พร้อมกับปากกาลูกลื่นธรรมดาๆตามคำขอ แล้วเข้าครัวไปจัดการกับปาท่องโก๋ต่อ

ส่วนคุณพี่อากาศท่านก็เขียนกลอนบทที่ลืมตัวเพ้อออกมาเมื่อกี้ลงกระดาษ เสร็จแล้วก็พับจนเล็กเก็บไว้ในกระเป๋าเงิน นั่งยิ้มหวานนึกถึงหน้าคนขี้เซาได้ไม่ถึงสองนาทีเสียงตึงตังก็ดังลงมา ก่อนเจ้าตัวจะมายืนอยู่ตรงหน้าในชุดเสื้อยืดคอปกสีฟ้าอ่อนกับกางเกงยีนส์สีซีด แถมมีรอยขาดแบบที่ดูก็รู้ว่าไม่ตั้งใจให้ขาดอยู่หลายจุด คนเห็นได้แต่คิด ท่าทางยีนส์ตัวนี้คงถูกใส่แบบสมบุกสมบันน่าดู

“พร้อมแล้วครับ” ไอ้ตัวป่วนมันไม่ทำแค่พูด แต่ตรงเข้ามาดึงมือคนบอกจะพาไปเที่ยวให้ลุกขึ้นจากเก้าอี้ทันที

“เดี๋ยว.....ไปกินน้ำเต้าหู้กับปาท่องโก๋ก่อน”
หน้าตาสดใสเพราะจะได้ไปเที่ยวของไอ้คนไม่ยอมรับว่าตัวเองเป็นเด็กมุ่ยลงทันควัน
“หรือจะเอาไปกินบนรถ?” และพี่อากาศที่สังเกตอาการคนอยากไปเที่ยวจนตัวสั่นก็ทำให้ไอ้หน้ามุ่ยๆนั่นกลับมาบานแฉ่งได้ทันที
“อื้มมมม เอาไปกินบนรถนะ .....ก็เดี๋ยวไปถึงช้าได้เที่ยวแป๊บเดียวนี่” เสียงอ่อยๆที่ท้ายประโยคอธิบายตามมาเมื่อเห็นลูกกะตาวิบวับของคนตรงหน้าแล้วถึงรู้ตัวว่าตัวเองเพิ่งแสดงท่าทางยังไงออกไป ไอ้ที่คิดอะไรก็แสดงออกมาทางสีหน้าหมดแบบเด็กน้อยแท้ๆไม่มีเล่ห์เหลี่ยมยิ่งทำให้คนมองรู้สึกเอ็นดูมากขึ้นอีก เอ็นดูจนต้องทดลองขออนุญาตออกไป

“ตัวป่วน......พี่...ขออนุญาตกอดได้มั้ยครับ?”
“ฮะ?”
“เอ่อ....คือพี่อยากกอดตัวป่วน แต่ไม่กล้า กลัวตัวป่วนโกรธ พี่ขอกอด ตอนนี้....ได้มั้ยครับ?”

หน้าขาวๆของไอ้หนูป่วนซับสีเลือดขึ้นมาทันที พอมองไปเจอตาของคุณพี่อากาศแกเข้าก็เลยรีบก้มมองพื้น แล้วก็ตัดสินใจค่อยๆเขยิบตัวเข้าไปใกล้ พยักหน้าหงึกๆโดยไม่ยอมมองหน้าคนมารยาทดีเลยสักนิด
“แค่กอดนะ......” เสียงแผ่วๆดังออกมาจากปากคนที่เพิ่งแสดงอาการอนุญาตทันทีที่รู้สึกถึงอ้อมแขนของคนตัวโต ที่ค่อยๆโอบรั้งแผ่นหลังเข้าไปให้ร่างกายแนบชิดกัน

“หึๆๆๆ”
“ขำอะไร?” หน้าที่ก้มงุดๆอยู่แหงนเงยขึ้นมองคนที่มาขอกอด แถมพอให้กอดแล้วดันหัวเราะกวนอารมณ์เสียอีก
“ขำคนตัวเกร็งเป็นท่อนไม้ .....กลัวพี่เหรอ?”
“เปล่าซะหน่อย พี่มีอะไรน่ากลัวเล่า มั่วแล้ว”
ปากก็เถียงฉอดๆแต่หน้าน่ะแดงจนร้อนไปหมด ตัวป่วนมันเพิ่งเข้าใจตอนนี้เองว่า ไอ้ที่เขาว่าอายจนไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนน่ะมันเป็นยังไง

พี่อากาศแกมองหน้าไอ้หนูป่วนแกก็รู้ว่าตอนนี้มันอายแทบแย่แล้ว เลยเอามือข้างหนึ่งขึ้นมาลูบผมมันเบาๆแล้วออกแรงดันให้หัวทุยๆนั่นซบลงกับอก

“ถ้าไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ไหน ก็แนบไว้ที่อกพี่นะครับ.......”

~~~~~~~~~~~~~





Create Date : 13 กุมภาพันธ์ 2554
Last Update : 13 กุมภาพันธ์ 2554 9:35:39 น.
Counter : 384 Pageviews.

2 comments
  
แวะมาอ่าน เรื่องราว ดี ๆ เรื่องความรัก มีความสุข นะคะ ..

คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...
โดย: tifun วันที่: 13 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:11:34:13 น.
  
ขอบคุณค่ะคุณtifun
มีความสุขเช่นกันนะคะ ^^
โดย: paina วันที่: 14 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:2:24:28 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

paina
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed

 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



ยินดีต้อนรับทุกท่านที่ผ่านเข้ามานะคะ


ที่นี่ก็แค่ห้องเล็กๆของผู้หญิงธรรมดา......ที่พยายามจะเป็นคนดี.....เท่านั้นเอง
กุมภาพันธ์ 2554

 
 
1
3
6
8
16
18
19
20
21
22
24
27
 
 
All Blog