เรื่องรัก..ไม่กล้าบอก ตอนที่๗

‘แก้มใสใสอยากดอมดมให้สมจิต
ปากนิดนิดอยากประทับแล้วรับขวัญ
ผิวผ่องผ่องอยากลูบไล้ทุกคืนวัน
กี่วารวันจะได้ชมสมอุรา’


“ฮัลโหล คุณนายคร้าบบบบบบ”

“ต๊ายยยย ลูกชายฉัน ร้อยวันพันปีไม่เคยโทรหา ทำไม ไอ้ตัวเล็กคิดถึงแม่เหรอ?”
อย่าเพิ่งงงหรือสงสัย ลูกบ้านนี้มีไอ้หนูป่วนนี่คนเดียวแหละที่เรียกแม่มันว่าคุณนาย พี่ๆของมันก็เรียก “แม่” สั้นๆง่ายๆกันทั้งคู่
“คือ......ป่วนคิดถึงแม่จริงๆแหละ มีเรื่องที่คิดว่าควรต้องบอกแม่ด้วย......” อ้าว ท่าจะเรื่องใหญ่เสียงอ่อยมาเลยไอ้หนูป่วน

“สุ้มเสียงอย่างกับไปทำอะไรผิดมา หรือว่ามีเรื่องเครียดกันแน่ล่ะลูก?”
คุณนายแม่ก็แสนน่ารัก ท้ายประโยคทอดเสียงยาว เหมือนจะปลอบให้ลูกชายคนเล็กผ่อนคลายจากความเครียดเคร่ง
“แม่........คือป่วน...”

“เดี๋ยวก่อนนะ ขอแม่ทำใจก่อน.......เอ้า ว่ามา” เอ่อคุณนาย....คุณนายทำใจเร็วไปมั้ย? ใช้เวลาทำใจแค่หนึ่งเฮือกลมหายใจเข้าสุดปอดเนี่ยนะ
“.......ถ้าป่วนรักผู้ชาย แม่จะว่าไง?”
“ฮ้า!!!!!” ---โครมมมมมมมมม!!---
“เฮ้ย........แม่ๆๆ แม่เป็นอะไร ฮัลโหล แม่!!”
“แม่ไม่เป็นลูก แต่ป่วนวางสายก่อนนะ พ่อเป็นลม”


ตอนนี้ตัวป่วนมันเลยกลายร่างจากคนเป็นเสือ แถมยังเป็นเสือติดจั่นเสียด้วย ตอนแรกก็เดินหมุนไปหมุนมาแค่ในห้องนอนตัวเอง สักพักเริ่มงุ่นง่านจนทนไม่ไหวมันก็เดินไปเคาะห้องไอ้เพื่อนแผน แล้วพอเพื่อนหลวมตัวเปิดประตูให้ก็เข้าไปเดินวนอยู่ในห้องเพื่อนแผนมันอีก
“อยากเล่าอะไรมั้ย?”
“เมื่อกี้ฉันโทรหาคุณนายท่าน หยั่งเสียงดูว่าถ้าฉันจะชอบผู้ชายด้วยกัน ท่านจะว่าไง.......”
“อืม.......”
“ทีนี้คุณนายท่านดันเปิดspeaker phone แล้วพ่อคงมาได้ยินพอดี....”
“เฮ้ย!!!”
“เออ....แล้วนี่พ่อเป็นลม แม่บอกให้วางสายไปก่อน.....”
“อย่าเพิ่งคิดมาก พ่อคงไม่เป็นไรมากหรอก”
“นี่ก็รอคุณนายท่านโทรกลับมาอยู่....ตอนแรกคิดว่าพ่อคงไม่เป็นไรมาก แต่นี่ก็เกือบครึ่งชั่วโมงแล้วยังไม่โทรกลับมาเลย”

---อยากจะหนีให้ไกล ที่ไหนก็ได้ ให้ไกลแสนไกล---
มีเสียงเรียกเข้าโทรศัพท์ดัง ไอ้ตัวป่วนมันก็รีบพุ่งไปกดรับสายทันที
“ฮัลโหล แม่..อ้าวพี่ฟ้า”
“ตัวป่วนรอโทรศัพท์แม่อยู่เหรอ งั้นเดี๋ยวพี่ค่อยโทรมาใหม่นะครับ”
“ไม่ต้อง....เอ่อ..เดี๋ยวผมโทรกลับเอง ถ้าพี่ง่วงก็นอนไปก่อนนะ”
“มีเรื่องอะไรรึเปล่า? ทำไมน้ำเสียงไม่ดีเลย” น้ำเสียงอ่อนๆที่ปลอบประโลมมาตามสายโทรศัพท์ทำให้ตัวป่วนมันน้ำตาเอ่อคลอออกมาจริงๆ

“แล้วผมจะเล่าให้ฟัง ตอนนี้พี่วางสายไปก่อน นะครับ”
“ก็ได้ แต่ถ้ามีเรื่องอะไร อย่าลืมนะครับว่าตัวป่วนมีพี่ คุยกับพี่ได้ทุกเรื่อง ตกลงมั้ย”
“แน่นอนครับ ผมจะเล่าทุกเรื่องจนพี่เบื่อเลย”
และแล้วไอ้หนูป่วนก็วางสายจากพี่ฟ้าของมันพร้อมกับรอยยิ้มละมุนในหน้า แถมยังหยุดเดินหมุนไปมาแล้วมาทรุดนั่งลงบนขอบเตียงของเพื่อนแผนได้ แค่คำพูดที่มาถูกที่ถูกเวลาบางทีก็ทำให้คะแนนพุ่งพรวดๆไม่รู้ตัวนะพี่ฟ้านะ

“แกคบกับพี่เขาเป็นเรื่องเป็นราวแล้วเหรอวะ?”
“ยังหรอก แต่ฉันกำลังพยายามเปิดใจแล้วก็ลองศึกษาพี่เขาดู...”
“เออ ยังอยู่ในขั้นศึกษาดูใจแต่เสือกโทรไปบอกแม่ซะงั้น ใจร้อนว่ะ”
“ก็ฉันกะจะค่อยๆบอกไป ให้แม่ค่อยๆรับรู้น่ะ ไม่อยากจะทำแบบพอถึงเวลาก็พาผู้ชายเข้าบ้านเลย กลัวแม่จะรับไม่ทัน ใครจะไปรู้เล่าว่าพ่อจะมาได้ยินด้วย”
ตัวป่วนมันพูดไปถอนใจประกอบไป กว่าจะจบประโยคก็ถอนใจได้ตั้งหลายเฮือก

“แล้วไปดูหนังมาสองคนเป็นไงบ้าง พี่อากาศเขาทำอะไรเกินเลยรึเปล่าถึงได้รีบร้อนอยากให้แม่รู้ขนาดนี้” ไอ้นี่ก็โหมดพี่ชายสิงร่างอีกแล้ว
“หึ......ตอนดูหนังไม่ได้พูดอะไรกันเลยด้วยซ้ำ แต่...”
“แต่อะไร?”
“ก็พอเห็นฉันน้ำตาไหลพี่เขาก็ส่งกระดาษทิชชูให้”
“เดี๋ยวๆ แกดูเชร็คไม่ใช่เหรอ? ดูการ์ตูนแล้วร้องไห้เนี่ยนะ”
“เฮ้ย...บอกว่าน้ำตาไหลเฉยๆ ไม่ได้ร้องไห้เว้ย”
“เออๆ น้ำตาไหลเฉยๆก็ไหลเฉยๆ ไอ้ป่วนบ้า” ว่าแล้วไอ้เพื่อนแผนมันก็กลับไปสนใจการ์ตูนในมือต่อ ไอ้ป่วนมันอยากบ้าก็ปล่อยให้มันบ้าไปคนเดียวเถอะ


ส่วนไอ้ตัวป่วนน่ะเรอะก็ลอยไง ลอยจริงจัง นั่งตาลอยเข้าโหมดรำลึกความหลังเมื่อตอนเย็นไปแล้ว เมื่อเย็นน่ะ พอป่วนมันทำใจกล้าเริ่มวางมือตัวเองลงไปในอุ้งมือใหญ่ๆของคุณพี่อากาศแล้วพากันเดินออกมาจากร้านไอศกรีม จนมาถึงหน้าโรงหนังแล้วพอมันจะดึงมือออก พี่อากาศแกก็กลับจับไว้เสียแน่นไม่ยอมปล่อย
“ป่วนออกเงินค่าตั๋วไปแล้ว งั้นเดี๋ยวมื้อเย็นต้องให้พี่เลี้ยงนะครับ”
“อืม....เออพี่ฟ้า พี่อย่าพูดครับกับผมเลย”
“ทำไมล่ะ ตัวป่วนไม่ชอบเหรอ?”
“ไม่ใช่ไม่ชอบ แต่ถ้าพูดสุภาพขนาดนั้น มันเหมือนพี่กำลังเทคแคร์ผู้หญิงน่ารักๆสักคน แล้วอีกอย่างมัวแต่พูดครับกันแบบนี้ ผมก็รู้สึกไม่สนิทใจกับพี่สักทีสิ”
“งั้นตกลง พี่จะไม่พูดครับกับป่วน ถ้าไม่เผลอ....” เอาอีกแล้วไอ้พี่ฟ้าบ้ามันยื่นหน้าเข้ามาใกล้แล้วทำตาวิบวับใส่ไอ้หนูป่วนผ่านเลนส์แว่นอีกแล้ว คราวนี้ตัวป่วนมันเลยใช้มือข้างที่ว่างยันหน้าออกไปเสียเลย
“อ้าว ที่ตัวป่วนยังมาจับมือพี่ได้เลย พี่แค่ยื่นหน้าเข้าไปใกล้ๆทำไมต้องห้ามด้วยล่ะ?”
เสียใจด้วยคุณพี่ฟ้า คราวนี้หนูป่วนมันไม่หลงกลเสียงออดๆอ่อยๆของพี่อีกแล้วล่ะ เพราะมันไม่ได้หลบตาแบบคราวที่แล้ว ครั้งนี้ตัวป่วนมันทำใจกล้าสบตากับเจ้าของเสียงออดๆที่ยืนอยู่ข้างๆ เลยได้เห็นว่าทั้งๆที่ทำเสียงอ่อยขนาดนั้น แต่สีหน้ากลับระรื่นเหมือนกำลังสมใจกับอะไรสักอย่าง ไม่เข้ากันกับเสียงนั่นสักนิด

“ผมทำได้ แต่พี่ห้ามทำ พี่บอกเองนะว่าให้ผมลวนลามได้ทุกเมื่อ..... รึว่าหวงกะแค่จับมือ?”
โฮ่....ตัวป่วนเวอร์ชั่นอัพเลเวล ไม่ใช่แค่พูดแต่ยังคาดคั้นด้วยแววตาซุกซนขี้เล่นอีกด้วย เวอร์ชั่นนี้คงจะถูกใจคุณพี่อากาศแกมากกว่าเวอร์ชั่นเขินหน้าแดงแน่ๆ
“เปล่าคร้าบบบบบบ ไม่หวงเลยสักนิด อยากลวนลามเท่าไหร่ก็ได้เลย ลิขสิทธิ์เฉพาะสำหรับตัวป่วนคนเดียว”
“ฮะๆๆดีมาก ไปเข้าโรงกันเถอะ” ไอ้หนูป่วนยิ้มจนตาหยี แล้วเดินแกว่งแขนแรงๆลากให้พี่ฟ้าของมัน(มันยอมรับแล้วว่าเป็นของมันจริงๆ)เดินตามลิ่วๆ
พอนั่งลงหนังตัวอย่างก็มาพอดี

สองคนนั่งกันเงียบเอาสมาธิไปจดจ่ออยู่กับภาพและเสียงในจอซะหมด จนเมื่อเชร็คเข้าใจเจ้าหญิงฟิโอน่าผิดนั่นแหละ ตัวป่วนคนใจอ่อนก็ปล่อยน้ำตาไหลออกมาเป็นทาง น้ำตาไหลพรากๆแต่ไม่มีเสียงสะอึกสะอื้นสักนิด แล้วมันก็ยกหลังมือขึ้นมาป้ายน้ำตาป้อยๆ เช็ดไปได้แค่สองปื้ด ก็มีกระดาษทิชชูยื่นมาให้ตรงหน้า ตัวป่วนมันก็รับกระดาษนั่นไว้ แล้วก็กลับไปจดจ่อกับหนังเหมือนเดิม ไม่กล้าหันไปแม้แต่จะขอบคุณคนข้างๆ

ก็มันอายนี่ อายมาก...เพราะงั้นแกล้งทำเป็นไม่รู้ดีกว่าว่าพี่อากาศตัวโตเห็นมันร้องไห้แงๆเพราะดูการ์ตูนเสียแล้ว

~~~~~~~~~~~~~


ออกมาจากโรงหนังคุณพี่ก็เอาใจเด็กขี้แยด้วยการให้เลือกร้านอาหารได้ตามใจชอบ สองคนเลยได้กินอาหารญี่ปุ่นด้วยกันเป็นมื้อแรก พอพี่อากาศขอมาส่งที่บ้าน ไอ้หนูป่วนก็อนุญาตง่ายๆจนพี่อากาศแกยังแปลกใจ

“พี่จะเข้าไปในบ้านรึเปล่า?” ตัวป่วนมันเงยหน้าที่ประดับด้วยรอยยิ้มน้อยๆขึ้นมาถาม เมื่อเดินเข้าซอยมาด้วยกันจนถึงประตูรั้วหน้าบ้าน
“ไว้คราวหน้าดีกว่า วันนี้ตัวป่วนของพี่น่ารักมากเกินไป เดี๋ยวพี่ทนไม่ไหวทำผิดข้อตกลงแล้วจะยุ่ง” คำตอบถูกส่งมาทันทีพร้อมรอยยิ้มกรุ้มกริ่ม
“อย่ามาบ้า รีบกลับไปเลย” แน่ะๆคิดไปถึงไหนแล้วนะตัวป่วน หน้าที่แดงก็แดงไป แต่จะแอบยิ้มก็แอบให้เนียนหน่อย นี่อะไรเม้มปากกลั้นยิ้มจนแก้มพอง
“แล้วพี่จะโทรมาราตรีสวัสดิ์” พูดจบคุณพี่อากาศท่านก็หมุนตัวหันหลังเตรียมก้าวออกจากซอยทันที ติดที่มีมือดีมาคว้าข้อมือไว้ข้างหนึ่งนี่สิ

“..........?..........”
“ยืมปากกาหน่อย”
คุณพี่อากาศจัดการส่งปากกาลูกลื่นที่เหน็บไว้กับกระเป๋าเสื้อเชิ้ตส่งให้ตัวป่วนมันตามคำขอ ตัวป่วนมันก็จัดการพลิกมือที่ยึดเอาไว้ให้หงายขึ้นตรงหน้ามัน แล้วก็เขียนอะไรขยุกขยิกลงไปจนคนถูกเขียนต้องหลุดหัวเราะมาเพราะความจั๊กกะจี้


“อ้ะ...เอาไปครึ่งเดียวก่อนนะ อีกครึ่งรอดูพฤติกรรมก่อน”
ว่าแล้วไอ้หนูป่วนก็วิ่งปรู๊ดเข้าบ้านโดยไม่หันกลับมามองผู้ชายตัวโตที่ยืนหน้าเอ๋ออยู่หน้าบ้านอีกเลย
การรำลึกถึงของตัวป่วนมันก็จบลงตรงนี้แหละ แต่ถ้าอยากรู้เหตุการณ์ต่อจากนั้น เราต้องไปดูว่าหลังจากหนูป่วนวิ่งหนีเข้าบ้านไปแล้ว พี่อากาศแกทำอะไรลงไปบ้าง....

พอตั้งสติได้ คุณพี่อากาศก็แบมือตัวเองขึ้นมาดูแล้วก็ต้องยิ้มเสียแก้มแทบปริ ยิ้มกว้างและยิ้มต่อเนื่องจนเดินออกมาถึงหน้าปากซอยขึ้นรถเมล์ จนไปถึงสถานีรถไฟฟ้าก็ยังไม่เลิกยิ้ม
ยิ้มไม่สนใจโลกภายนอกว่าใครจะมองยังไง ใครจะแอบนินทาในใจว่าไอ้ผู้ชายใส่แว่นตัวโตๆคนนี้ท่าทางจะบ้า ยิ้มอยู่ได้คนเดียว ยิ้มจนคนผ่านไปผ่านมาสงสัยว่า นี่โลกเรามันสดใสขนาดต้องมายิ้มเป็นบ้าเป็นหลังอย่างนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่หว่า แถมยิ้มๆไปสักพักแบมือตัวเองออกดูแล้วทำหน้าแดงหูแดงอีกต่างหาก ก็ไอ้หนูป่วนมันเล่นเอาปากกาลูกลื่นสีน้ำเงินธรรมดาด้ามนั้นไปวาดรูปธรรมดาๆอย่างหัวใจครึ่งดวงไว้ที่กลางฝ่ามือของพี่อากาศแกนี่นา

“หึๆๆ เอาไปครึ่งนึงก่อนงั้นเหรอ.....หึๆๆๆๆๆ”
สงสารก็แต่คนที่ยืนเกาะเสาอยู่ใกล้ๆพี่อากาศแก ที่พอได้ยินเสียงหัวเราะหึๆนั่นแล้วเลยพากันถอยหนีไปหาที่จับยึดตรงอื่นกันหมด ไม่น่าเชื่อว่าคนไม่เคยรู้จักไม่เคยมีความสัมพันธ์ใดๆนอกจากขึ้นรถไฟฟ้าโบกี้เดียวกัน จะคิดอะไรได้ตรงกันโดยไม่ได้นัดหมาย
‘ไอ้คนนี้หน้าตาก็ดี ไม่น่าบ้าเลย.....อยู่ห่างๆมันดีกว่า’

---อยากจะหนีให้ไกล ที่ไหนก็ได้..---
“ป่วน ไอ้ป่วน แม่โทรมาแล้วมั้ง” ไอ้ตัวป่วนรีบตะเกียกตะกายกดรับโทรศัพท์ หลุดออกจากอาการสติลอยทันที
“แม่”
“อืม.......พ่อไม่เป็นไร ไม่ต้องเป็นห่วง ตอนนี้แม่เปิดลำโพง คุยกับพ่อเลยมั้ย?”
“พ่อ เจ็บตรงไหนรึเปล่า?”
“ไม่เป็นไรไอ้ตัวเล็ก ล้มลงบนเตียงพอดี”
“แล้วเสียงดังโครมนั่นอะไร?”
“ตอนล้มกำลังถือกรอบรูป ว่าจะเอาลงมาเปลี่ยนน่ะ”
“เฮ้อ.....ป่วนเป็นห่วง ดีจังที่ไม่เป็นไรมากนะพ่อ”
“......ตกลงไม่ใช่แค่สมมติใช่มั้ย? ป่วนชอบผู้ชายจริงๆใช่มั้ยลูก?”
“คือ.....พ่อ ป่วนไม่ได้ตั้งใจ.....”
“เอาเหอะ พ่อรู้ ความรักมันจะเกิดมันก็เกิด ตอนนั้นพ่อก็ไม่ได้ตั้งใจจะรักแม่เราหรอก แต่บทมันจะรักมันก็ต้องรัก ไปห้ามไม่ให้รักมันก็ไม่ได้ พ่อเข้าใจ...มันเป็นเรื่องธรรมชาติ....”
“ป่วนขอโทษนะพ่อ ขอโทษนะครับแม่” เอาแล้วน้ำตาเริ่มเอ่ออีกแล้วหนูป่วนเอ๊ย

“ผู้ชายคนนั้นเป็นใคร ไอ้แผนรึเปล่า?”
“ไม่ใช่แผนหรอกพ่อ”
“ป่วน แผนรู้เรื่องรึเปล่า?”
“รู้ครับแม่”
“ขอแม่คุยกับแผนหน่อย”

ลูกชายคนเล็กของคุณนายยื่นโทรศัพท์ให้ไอ้เพื่อนแผนตามคำสั่ง ไอ้เพื่อนรักก็รับไปแนบหูฟังบทสนทนาจากปลายสายทันที
“ครับแม่......ครับ เป็นรุ่นพี่ครับ เรียนโทอยู่อักษร.....” ไอ้แผนมันหันมามองหน้าตัวป่วนนิดนึงแล้วหันไปคุณกับคุณนายต่อ “ก็ดูเป็นคนดีครับ ครับผมจะช่วยดูๆมันให้....ผมไม่ปล่อยให้มันเจ็บแน่ครับ ครับ สวัสดีครับ”
“อ้ะ...แม่จะคุยกับแกต่อ” ไอ้เพื่อนแผนส่งโทรศัพท์กลับมาให้ไอ้หนูป่วน
“ครับ?”
“ถ้าพร้อมเมื่อไหร่ หรือแน่ใจกันเมื่อไหร่พามาให้แม่กับพ่อรู้จักด้วยนะไอ้ตัวเล็ก”
“....อืม......”
“ซึ้งจนร้องไห้เลยเรอะลูกชายฉัน เออเนอะ....นึกว่าจะได้สะใภ้สองเขยหนึ่ง ท่าทางจะได้สะใภ้หนึ่งเขยสองเสียแล้วฉัน”
“ขอบคุณนะแม่ พ่อด้วยนะครับ”
“ย่ะ ไปนอนซะไป แล้วไม่ต้องร้องไห้เลย ดีแล้วที่มีอะไรก็บอกแม่ ไม่ต้องกลัวแม่จะโกรธนะ แล้วก็ไม่ต้องมารู้สึกผิดด้วย เข้าใจมั้ย?”
“คร้าบบบบบ แม่กับพ่อฝันดีนะ”
“อืม.....ฝันดีลูก ฝากบอกแผนด้วย”
---ตู๊ดดดดดดด ตู๊ดดดดดดดดด---

“แผน....ฉันรักแม่กับพ่อโคตรๆเลยว่ะ”
“เออ สบายใจแล้วก็กลับห้องแกไปได้แล้ว”
เพื่อนรักสองคนส่งยิ้มให้กันอย่างเข้าอกเข้าใจ แล้วไอ้หนูป่วนก็เดินกลับห้อง พอเปิดประตูก็หันกลับมาหาเพื่อนอีกครั้ง
“ขอบใจมากนะเว้ย....”
“เออ แกเพื่อนฉันนี่หว่า” แล้วไอ้แผนมันที่อ่านการ์ตูนจบแล้วก็ปิดปากหาว พร้อมกับโบกมือไล่เพื่อนให้ออกไปจากห้องได้แล้ว

คืนนั้นก่อนนอนตัวป่วนมันโทรหาพี่ฟ้า เล่าให้พี่ฟ้าของมันฟังว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง และทำไมตอนหัวค่ำมันถึงคุยกับพี่เขาไม่ได้ แล้วพรที่แม่กับพ่อขอให้หลับฝันดีเลยไม่ใช่แค่ตัวป่วนกับเพื่อนแผนที่ได้ฝันดีใจคืนนั้นจริงๆ
แต่ว่าที่ลูกเขยคนเล็กของบ้านก็พลอยได้อานิสงส์ฝันดี ฝันเห็นตัวป่วนยิ้มให้ทั้งคืน

~~~~~~~~~~~~~




Create Date : 11 กุมภาพันธ์ 2554
Last Update : 11 กุมภาพันธ์ 2554 6:42:32 น.
Counter : 388 Pageviews.

0 comments
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

paina
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed

 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



ยินดีต้อนรับทุกท่านที่ผ่านเข้ามานะคะ


ที่นี่ก็แค่ห้องเล็กๆของผู้หญิงธรรมดา......ที่พยายามจะเป็นคนดี.....เท่านั้นเอง
กุมภาพันธ์ 2554

 
 
1
3
6
8
16
18
19
20
21
22
24
27
 
 
All Blog