เรื่องรัก..ไม่กล้าบอก
***นิยายเรื่องนี้ มีเนื้อหาเกี่ยวกับความสัมพันธ์แบบชายรักชาย และอาจมีเนื้อหาบางส่วนไม่เหมาะสมกับเยาวชน
หากท่านที่เปิดเข้ามาไม่มีรสนิยมชื่นชอบเนื้อหาดังกล่าว กรุณาเปิดผ่านไปด้วยนะคะ


ตอนที่๑ :

มาลัยรักพี่พันถักด้วยมือพี่
ขวัญชีวีใจพี่นี้ไม่แปรผัน
จะร้อยรักเคียงเจ้าทุกคืนวัน
ทั้งยามฝันยามตื่นพี่ใจเดียว


“สามฉบับ!! จดหมายสามฉบับ ดอกไม้สามอย่าง เวรเอ๊ย......ใครมันเล่นอย่างนี้วะ”

เอาแล้วไงเสียงบ่นเจือโทนกระฟัดกระเฟียดอย่างน่าถีบลอยมารบกวนยามเช้าแสนสงบที่โต๊ะคณะซึ่งเด็กปีหนึ่งหลายชีวิตกองๆสุมกันอยู่ ไม่ใช่เสียงใครหรอกนอกจากนายศศินทร์ หรือที่เพื่อนๆทั้งคณะเรียกมันว่า ‘ป่วน’

อย่าได้เข้าใจผิดไปเชียว ป่วนน่ะ ไม่ใช่ฉายาใดๆ แต่เป็นชื่อเล่นของไอ้ตัวป่วนนั่นจริงๆ ไม่น่าเชื่อว่าท่านพ่อท่านแม่ของนายศศินทร์จะรู้ว่าลูกชายคนเล็กโตขึ้นมาแล้วจะป่วนได้ป่วนดีไม่มีผิดเพี้ยนไปจากชื่อ

“ไงวะป่วน ได้ดอกไม้อีกแล้วเหรอ? ก็บอกแล้วไงให้กักตัวไอ้คนส่งของไว้แล้วรีดมันซะว่าใครสั่งมา”
อันนี้เสียงง่วงๆจากไอ้แผน ไอ้แผนนี่เป็นซี้ของไอ้ป่วนมัน มันสองตัวคบกันมาตั้งแต่อนุบาล ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าคนเราจะคบกันได้นานขนาดนั้น ขนาดไอ้ป่วนมันย้ายบ้านข้ามจังหวัดเป็นว่าเล่นก็ยังมีไอ้แผนนี่แหละที่ยังทนคบมันเป็นเพื่อนสนิทอยู่ได้ แถมมันสองตัวยังอุตส่าห์สอบติดมหาวิทยาลัยเดียวกัน คณะเดียวกัน แถมเมเจอร์เดียวกันอีก

พ่อของป่วนมันเป็นข้าราชการประเภทไร้เส้น จะว่าไร้ก็ไม่ไร้เสียทีเดียว เสียแต่ว่าเส้นที่มีน่ะมันเป็นเส้นหมี่ ไม่ใช่เส้นใหญ่เส้นก๋วยจั๊บอย่างใครเขา ถูกย้ายไปรับตำแหน่งแต่ละที่ก็ไม่เคยจะได้อยู่เมืองใหญ่รับเงินเดือนสบายๆอย่างเพื่อนร่วมรุ่น
เคยออกไปช่วยเขาจับเสือจนตัวเองต้องนอนโรงพยาบาลเกือบเดือนมาแล้ว คือ ณ ที่นี้หมายถึงเสือที่เป็นคนนะ อย่าได้เข้าใจผิดไปจินตนาการเห็นภาพพ่อไอ้ป่วนดักซุ่มจับเสือลายพาดกลอนตัวใหญ่เท่าลูกม้า แบบพรานใหญ่รพินทร์ผู้เลื่องลือแห่งเพชรพระอุมานั่นเชียว

“ป่วน ไหนขอนุ่นดูหน่อยสิ โว้ว คราวนี้เป็นมาลัยดอกรักล้วนเลยเหรอ ไหนๆจดหมายว่าไงบ้าง?”
ส่วนไอ้คนนี้ชื่อนุ่น เธอเป็นผู้หญิงที่ติดอันดับเถื่อนถึกหนึ่งในห้าของรุ่น จะอธิบายว่าไงดีล่ะ คือเธอเป็นคนแบบที่เราจะไม่เข้าไปคุยด้วยก่อนจนกว่าจะได้รู้จักรู้ใจกันแล้วนั่นแหละ
เหมือนตอนนี้ไงที่ทั้งไอ้ตัวป่วนและไอ้แผนยอมรับนุ่นเป็นเพื่อนในกลุ่มอีกคนอย่างเต็มใจเพราะความรักเพื่อน จริงใจ แถมถึงไหนถึงกันของหญิงถึกคนนี้
อ้อ..แต่อย่าไปวิจารณ์ความถึกของไอ้นุ่นมันนะ เพราะมันให้นิยามว่าตัวมันน่ะไม่ถึก แค่เป็นผู้หญิงแปลกและหายากเท่านั้นเอง

“มาลัยรักพี่พันถักด้วยมือพี่
ขวัญชีวีใจพี่นี้ไม่แปรผัน
จะร้อยรักเคียงเจ้าทุกคืนวัน
ทั้งยามฝันยามตื่นพี่ใจเดียว”

“นุ่นนนนนนน แก...ฉันบอกแล้วไงว่าอย่าอ่านออกเสียง โอยกู อับอายขายขี้หน้าชาวบ้านเขาหมดแล้ว” ฮ่าๆๆไอ้ป่วนมันโวยวายใหญ่แล้ว แล้วไอ้พวกที่กองสุมๆกันอยู่ก็เป็นใจเหลือเกิน โงหัวกันขึ้นมาส่งสายตาล้อเลียนให้มันกันยกโต๊ะ เอริ้กๆๆๆๆ

“แล้วนี่แกจะอินไปไหนนุ่น ดอกไม้นั่น กลอนนั่น ของไอ้ป่วนมันทั้งนั้น แกจะนั่งเท้าคางตาลอยอีกนานมั้ย?” เอาแล้ว ดูสินั่น ดูสายตาไอ้แผน แหม...อย่าว่าอย่างนั้นอย่างนี้นะ มันต้องคิดไม่ซื่อกับไอ้นุ่นแน่นอน สายตานั่นมันฉายประกายวิบวับเกินเพื่อนแล้ว
ไอ้แผนเอ๊ย..นุ่นมันไม่ใช่น้องน้อยของแกนะจะได้เอ็นดูมันขนาดนั้น ว่าไปไอ้แผนมันคงเปลี่ยนรสนิยมมาชอบของแปลก เพราะแฟนานุแฟนทั้งหลายที่เคยๆมีมาก็ล้วนแล้วแต่สาวๆขาวๆบอบบางน่าทะนุถนอมทั้งนั้น สงสัยมันจะเบื่อ

“แผนอ้ะ ก็กลอนนี่นะหวานซะน้ำตาลยังอายเลยนะ ที่ถ้ามีใครมาทำให้นุ่นอย่างนี้นะ นุ่นรักตายเลย เฮ้อ....ทำไมนุ่นไม่น่ารักแบบไอ้ป่วนมันมั่งน้า...”

“ปากเรอะแก ฉันผู้ชายนะเว้ย มาบอกว่าน่ารักได้ไง ริจะชมชมให้มันถูกเว้ยไอ้นุ่น” แน่ะ...ตัวป่วนมันไม่ยอมรับว่าตัวเองน่ารัก แหวใส่เพื่อนซะงั้น

“เออๆ คุณป่วนคะ คุณน่ะหล่อม้ากมาก หล่อจนผู้หญิงอย่างอะฮั้นอายเลยค่ะ ฮะๆๆๆ”
อย่าแปลกใจไป เพื่อนนุ่นกับเพื่อนป่วนมันก็อย่างนี้แหละ ทะเลาะกัน ประชดประชันใส่กัน แต่มันก็รักกันนะเออ ทั้งกลุ่มก็มีแต่ไอ้แผนนี่แหละเป็นผู้ใหญ่กว่าเพื่อน

“แล้วแกจะให้ฉันอธิบายอีกมั้ยป่วน ว่ากลอนคุณนิรนามเขาตั้งใจบอกแกว่ายังไงบ้าง?” ไอ้นุ่นก็ดี๊ดี ไม่ยอมลงชื่อมาก็ตั้งชื่อให้เสร็จว่าคุณนิรนาม อุตส่าห์ใส่คุณให้เป็นคำนำหน้าแสดงความชื่นชมโดยเปิดเผยอีกต่างหาก

“เออๆก็ดี ไหนว่ามาซิคุณนิรนามของแกเค้าจีบฉันว่าไงบ้าง” แน้...ตัวป่วน ไม่อยากได้แต่ก็สนใจนี่หว่า

“เขาบอกว่ามาลัยดอกรักพวงนี้น่ะเขาร้อยเองกับมือเพื่อมอบให้แก เขาว่า..ที่รักจ๋าพี่น่ะเป็นคนมั่นคง รักเดียวใจเดียวนะจ๊ะ รับรักพี่เถิดแล้วพี่จะกอดทั้งวันทั้งคืนไม่ห่างเลย ชะเอิงเงย”

“อิบ้า...แกนะแก ฮ่าๆๆๆๆๆ เขาหมายความอย่างนั้นจริงอ้ะ? แล้วอิชะเอิงเงยนี่แกใส่เพิ่มใช่มั้ย รึว่ามีคำไหนแปลได้ชะเอิงเงยด้วย ฮ่าๆๆๆๆๆๆ” น่าน...ขำกลบเกลื่อนรึเปล่านะตัวป่วน ที่หน้าแดงไปจนถึงหูนั่นน่ะ แดงเพราะแรงขำรึแดงเพราะแรงเขินกันแน่น้า...


“ไปๆเข้าเรียนกันเหอะ วิชานี้อาจารย์ใจดีเกิน ไม่กล้าเข้าเลทเลย”
ได้เวลาเข้าเรียนไอ้นุ่นมันก็รวบๆข้าวของลุกขึ้นจากม้านั่งหินอ่อนผุๆอย่างรวดเร็วพร้อมกับดึงแขนของเพื่อนตัวป่วนให้ลุกขึ้นพร้อมๆกัน

ตอนนั้นตัวป่วนมันว่ามันเห็นนะ ว่าไอ้แผนเพื่อนรักก้มไปกระซิบอะไรบางอย่างที่ริมหูของไอ้นุ่นเพื่อนเลิฟ แล้วไอ้นุ่นก็เงยหน้าขึ้นทำตาโต พยักหน้าหงึกหงัก ท่ามันอย่างกับเด็กน้อยดีใจจะได้ของเล่นยังไงยังงั้นเลย
ในใจไอ้ตัวป่วนก็คิด..เออ คู่นี้มันสมกันดีเว้ย ดีๆเชียร์ให้มันรักกันเองดีกว่า จะได้ไม่ต้องเสียดุลให้คนนอก

อีกอย่าง.....ถ้าจะต้องมีความรักเพราะแพ้ไอ้กลอนเลี่ยนๆกับดอกไม้ที่แนบมานี่จริงๆจะได้ไม่ต้องเหงาเพราะมีความรักอยู่คนเดียว
เอาให้ไอ้สองคนนั่นมันมีรักไปด้วยจะได้ได้ล้อมันบ้าง ไม่งั้นถูกล้ออยู่ฝ่ายเดียวอย่างนี้เสียเปรียบแย่.......


‘กุหลาบขาวส่งให้เจ้าแทนใจภักดิ์
ด้วยพิษรักมันเร้ารนจนอกไหม้
พี่คนขลาดมิอาจหาญเดินเข้าไป
ขอเผยใจให้เจ้ารู้ผ่านคำกลอน’

กระดาษสาสีขาวขุ่นมีกลีบกุหลาบแทรกที่ถูกตัดเป็นการ์ดทรงกลมอย่างประณีตชิ้นเล็กๆนั้นถูกสอดไว้ลวกๆในสมุดโน้ตที่เจ้าตัวป่วนมันใช้อยู่เล่มเดียว จดอะไรมันก็จดของมันอยู่ในสมุดเล็กๆเล่มนั้นนั่นแหละ

ตัวป่วนมันเป็นนักศึกษาที่ไม่มีสมุดจด เพราะมันรู้ตัวดีว่าไร้สามารถในการเล็คเชอร์ เล็คเชอร์ไปก็เปลืองหมึกเปลืองกระดาษเปล่าๆ สู้ตั้งใจฟังอาจารย์ในคาบแล้วรอถ่ายเอกสารเล็คเชอร์ของเพื่อนๆยังมีประโยชน์เสียมากกว่า
แถมตัวป่วนมันยังเป็นคนประเภท Low-tech สุดๆ เอ็นท์ติดพี่สาวคนโตยื่นข้อเสนอจะให้รางวัลเป็นออแกไนเซอร์ มันก็บอกว่าจะให้เอามาไว้เป็นที่ทับกระดาษรึไง มันใช้ไม่เป็นหรอก

ในสมุดโน้ตเล็กๆนั่นจึงมีตั้งแต่เบอร์โทร.เพื่อน Email addressอาจารย์ นัดหมายส่งงานต่างๆนานา สูตรทำน้ำยาปลาช่อน เคล็ดวิธีการขจัดคราบสนิม รึแม้แต่รูปการ์ตูนล้อเลียนเพื่อนในคลาสเวลาหลับในห้องเรียน

สรุปว่าทั้งความลับความไม่ลับที่เป็นความคิดของตัวป่วนก็อยู่ในนั้นทั้งหมด และตอนนี้การ์ดวงกลมสามแผ่นที่มีหมึกสีเขียวเข้มเขียนเป็นกลอนแปดที่ได้มาพร้อมกับดอกไม้ก็วางเรียงอยู่ตรงหน้าขณะที่ป่วนมันนอนคว่ำทำหน้ายุ่งอยู่บนเตียง

“วันแรกวันอังคารกลอนกุหลาบมาพร้อมกุหลาบขาวหนึ่งดอก วันพุธไม่มีมา เมื่อวานวันพฤหัสกลอนเดซี่มากับดอกเดซี่สีขาวช่อใหญ่จนต้องแบ่งใส่สองแจกัน แล้วก็วันนี้กลอนดอกรักกับมาลัยดอกรักที่อ้างว่าร้อยเอง..” เจ้าป่วนมันพึมพำๆงุ้งงิ้งๆของมันอยู่คนเดียว

---ก๊อกๆๆ---
“ป่วน ไปกินข้าวกัน”

ไอ้แผนกับไอ้ป่วนมันอยู่ที่บ้านเก่าของปู่ไอ้ป่วนมัน บ้านสองชั้น ครึ่งไม้ครึ่งปูน อายุเกือบหกสิบปีมีสมาชิกอยู่กันแค่สองคน ก็บ้านไอ้แผนมันอยู่ตาก เริ่มคบกับตัวป่วนก็ตอนที่พ่อไอ้ป่วนไปรับตำแหน่งที่อำเภอบ้านนอกเกือบถึงพม่าโน่น
ส่วนพี่ปิ่นพี่สาวคนโตตัวป่วนก็แต่งงานไปเรียบร้อยออกไปอยู่คอนโดกับคุณสามี พี่ปุ่นพี่ชายคนรองก็ไปเป็นแพทย์ใช้ทุนอยู่ระนอง พอพ่อกับแม่รู้ว่าตัวป่วนจะได้เรียนที่มหาวิทยาลัยในกรุงเทพตอนแรกก็ตั้งใจให้อยู่หอใน แต่พอรู้ว่าแผนก็สอบติดที่เดียวกันเลยตัดสินใจให้มันมาอยู่ด้วยกันสองคน

“เออๆแป๊บนึง”

“เร็วดิวะ หิวแล้ว”

“เร่งจริงเว้ย ร้านป้าไม่หายไปไหนหรอกน่า”
ตัวป่วนในชุดเก่ง กางเกงเลกับเสื้อยืดคอย้วยๆของมันเดินตามไอ้แผนลงบันไดมาได้ สองคนก็ลากอีแตะคีบออกจากบ้านไปหน้าปากซอย
ประตูใหญ่ไม่ต้องล็อคเพราะไม่เคยมีขโมย และถึงมีก็ไม่มีของมีค่าที่จะคุ้มกับการเสี่ยงถูกตำรวจที่สถานีอยู่ห่างจากบ้านไปแค่500เมตรตามจับ ได้ที่นั่งสั่งอาหารจานเดียวมาคนละจานเสร็จไอ้แผนก็เริ่มถามทันที

“ทำไรอยู่วะป่วน เรียกตั้งนานจนต้องเคาะประตู ทุกทีแค่เรียกก็ได้ยินแล้วนี่หว่า?”

“อ่านกลอนอยู่” ไอ้นี่ก็ตอบได้หน้าตาเฉย เหมือนกับเป็นเรื่องธรรมดาซะงั้น

“กลอนสามบทนั่นอะนะ ทำไมวะ ติดใจเจ้าของกลอน?” ไอ้แผนมันมีอารมณ์ล้อเลียนเพื่อน

“เออดิ แม่ง เป็นแกแกไม่สงสัยเรอะ?” เออนะ แค่สีหน้าไอ้ตัวป่วนตอนนี้ก็บอกได้แล้วว่าสงสัยมาก และติดใจมาก ก็ดูคิ้วมันสิขมวดจนจะผูกเป็นโบว์อยู่แล้ว

“สงสัยสิ ว่าแต่แกสงสัยเรื่องอะไรล่ะ?”

“ใครส่งมา? เรื่องจริงรึว่าล้อกันเล่น? ที่สำคัญผู้หญิงรึว่าผู้ชาย?”

“ฮ่าๆๆๆ สองคำถามแรกฉันก็สงสัยนะ แต่ไอ้คำถามว่าผู้หญิงรึว่าผู้ชายเนี่ย แกยังจะสงสัยอีกเรอะ สงสัยไปทำไมวะป่วน?”

“อ้าว ไอ้นี่ ก็ถ้าเป็นผู้หญิงฉันจะได้รับรักไง” ตัวป่วนมันเริ่มเคลิ้มแล้วท่านผู้ชม สงสัยจินตนาการเห็นภาพสาวอึ๋มรุ่นพี่ยืนยิ้มแก้มแดงอยู่ตรงหน้า

“แต่ฉันว่าผู้ชายชัวร์”

“อ้าว ไอ้ปากม้า พูดไม่เป็นมงคลนะมึง”

“ทำไม แล้วถ้าเป็นผู้ชายแกจะทำไงวะ?” ไอ้แผนมันถามแล้วก็ก้มหน้าก้มตากินข้าวคะน้าปลาเค็มของมันต่อ จนเห็นเพื่อนเงียบไปนานผิดปกตินั่นแหละถึงเงยหน้าขึ้นมาอีกหน

“ไอ้ป่วน”

ตัวป่วนมันนิ่ง มันหลุดไปอยู่ในโลกส่วนตัวเสียแล้ว ปากก็พึมพำกลอนที่ได้มาเป็นของขวัญออกมาเบาๆ
“เดซี่ช่องามรับยามเช้า
พี่ให้เจ้านะคนดีอย่าเมินเฉย
เจ้าสดใสไร้เดียงสาอย่างน่าเชย
จนเผลอเผยใจรักให้เจ้าดู”

“ป่วน” ไอ้แผนยื่นมือไปกระดิกดิ๊กๆอยู่ตรงหน้ามันก็ยังไม่หือไม่อือ “ไอ้ตัวป่วนนนน”

“อะ..เออ ไรวะ เรียกซะดังไอ้บ้านี่ ตกใจหมด” แอ๊บหน้าเอ๋ออีกป่วนเอ๊ย อย่าคิดเชียวว่าแผนมันจะลืมนะว่าถามอะไรไป แล้วดูหน้าไอ้ตัวป่วนซะก่อน แดงเถือกอย่างกับกินเหล้ามาแน่ะ

“ตกลงว่าไงวะ ถ้าคนส่งทั้งกลอนทั้งดอกไม้มาให้แกเป็นผู้ชาย แกจะทำยังไง?”

อืม...จะทำยังไงดีล่ะป่วน สรุปคืนนั้นแผนมันก็ไม่ได้คำตอบ ก็แน่ล่ะมันจะได้คำตอบได้ยังไง ในเมื่อตัวไอ้ป่วนเองมันยังไม่รู้เลยว่ามันจะทำยังไงดี
~~~~~~~~~~~~~

“เลิกเรียนวันนี้ประชุมกลุ่มนะเว้ย ขอวาระพิเศษ”

ในที่สุดตัวป่วนมันก็ทนไม่ไหว เก็บกดอึดอัดไม่รู้จะจัดการกับคุณนิรนามเจ้าของดอกไม้ยังไง เลยส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือจากเพื่อนรักเพื่อนเลิฟทั้งสองของมันในวันจันทร์ถัดมานั่นเอง

“ได้เลยป่วน วันนี้บ่ายมีวิชาเลือกอีกตัวเดียว เลิกบ่ายสามแล้วเราไปหาที่เย็นๆนั่งคุยกัน” เพื่อนนุ่นตอบรับสัญญาณทันที แล้วหันไปถามไอ้แผนที่นั่งทำหน้าเคร่งอยู่ข้างๆอีกต่อ “ไม่มีสอนพิเศษใช่มั้ยแผน?”

“มีตอนห้าโมงครึ่งอ้ะนุ่น เดี๋ยวเลิกเรียนแล้วไปคุยกันก่อนก็ได้ นัดสอนน้องที่โต๊ะตรงวิทยายังไงก็ทัน”

“งั้นดีเลย ฉันขอเวลาพวกแกไม่นานหรอก”


“ว่ามา ไม่ต้องมีอินโทรนะแก แผนมันมีสอนพิเศษห้าโมงครึ่ง”

บ่ายสามกว่าๆของวันจันทร์ถัดมาป่วนมันก็ลากเพื่อนรักเพื่อนเลิฟทั้งสองคนให้มานั่งจ้องหน้ากันไปจ้องหน้ากันมาอยู่ในมุมสงบของร้านขนมอบใกล้ๆคณะ มันบอกว่ามันขอประชุมกลุ่มเนื่องในวาระเร่งด่วน แล้วไงล่ะ มันลากไอ้แผนกับไอ้นุ่นมา แล้วก็นั่งเล่นมือตัวเองเคาะนิ้วรัวบนโต๊ะ แถมสักพักก็เงยหน้ามาทำปากพะงาบๆจะพูดอะไรก็ไม่พูดมาสิบห้านาทีแล้ว (รับรองว่าสิบห้านาทีเป๊ะเพราะแผนมันจับเวลาไว้ตั้งแต่เริ่มหย่อนตูด) แล้วพอไอ้นุ่นเร่งให้พูดออกมามันก็ยังส่งค้อนให้เพื่อนสองคนแบบไม่มีน้อยหน้ากันอีกต่างหาก

“ได้...แกไม่พูดงั้นฉันพูดเอง....แกจะปรึกษาเรื่องคุณนิรนามใช่ไหมไอ้ป่วน?”
นี่ไง ตรงประเด็นไม่มีอ้อมค้อมอย่างนี้สิไอ้นุ่นตัวจริง ตลอดเวลาที่ป่วนมันเงียบ แผนมันก็เงียบเหมือนกัน แต่มันไม่ได้นั่งอยู่เฉยๆนะ มันเตรียมเนื้อหาที่จะสอนพิเศษให้เด็กม.ต้นเย็นนี้ไปด้วย พอได้ยินไอ้นุ่นเปิดประเด็นไอ้แผนมันก็เหลือบตามองหน้าเพื่อนซี้ตั้งแต่อนุบาลแวบหนึ่ง แล้วก็ไปจดจ่อกับหนังสือแบบฝึกหัดคณิตศาสตร์ม.ต้นต่อ

“คืออย่างงี้ ฉันสงสัยน่ะ แบบว่ามันอยากรู้...” แล้วจะอึกๆอักๆทำเพื่อ ป่วนเอ๊ย ทั้งไอ้เสียงที่เปล่งออกมาอย่างตะกุกตะกักแล้วยังอาการเม้มปากหน้าแดง อาการหนักแล้วนะหนู

“แกสงสัยว่ายังไงล่ะ? แล้วอยากรู้อะไร? อยากรู้ว่าคุณนิรนามเป็นใครใช่มั้ย?”

“อืม ก็นั่นแหละ”

“ไอ้บ้า...แค่นี้มามัวอ้ำอึ้งแล้วจะหน้าแดงทำไมยะ” ไม่ใช่แค่แซวแต่จบประโยคแล้วไอ้นุ่นมันยังปล่อยเสียงหัวเราะล้อเลียนกันเต็มที่ไม่มีกั๊กด้วย ไม่ได้เกรงใจเพื่อนเล้ย

“ก็ไม่ยาก ทำอย่างที่ฉันบอกก็พอ พอมีคนมาส่งของให้ก็จับเอาไว้ แล้วให้มันบอกมาว่าใครสั่ง แค่นั้นก็จบ” ประโยคแรกหลุดออกมาจากปากไอ้แผนในที่สุด

“ไม่เอาอ้ะแผน ฉันว่าไม่เวิร์ค” ตัวป่วนมันไม่เห็นด้วยกับวิธีง่ายๆของไอ้แผน

“ทำไมวะ?”

“ก็ถ้าเราถามกับคนมาส่งของ เขาก็ต้องรู้สิว่าเราสนใจ..” แหม..เสียงอ่อยมาเชียว

“จริงของมันนะแผน เอ๊ะ..แต่แกสนเขาจริงนี่หว่าป่วน แล้วจะต้องปิดทำไมล่ะ?” เพื่อนนุ่นนี่ก็ ไม่เข้าใจคนขี้เขินอย่างเพื่อนป่วนบ้างเลย

“บ้านี่..สนของฉันหมายถึงอยากรู้ว่าใครมันมาทำบ้าแบบนี้เฉยๆเว้ย ไม่ใช่สนแบบสน คือแบบว่า..สนเขาอ้ะ ไม่ใช่นะเว้ย” รักจะปฏิเสธก็ขอให้หนักแน่นนิดนึงตัวป่วนเอ๋ย “อีกอย่าง ฉันอายนะเว้ย มีใครไม่รู้มาส่งดอกไม้ให้ แถมยังกลอนเลี่ยนๆหวานๆอีก เพราะแกแหละไอ้นุ่น พออนุญาตให้อ่านก็ดันอ่านออกเสียงซะได้ยินกันทั้งโต๊ะคณะ ฮึ่ย”

“เออๆตูข้าผิดไปแล้ว ท่านอย่าได้ถือโทษข้าเลย ท่านป่วน”

“อย่ามาทำตลก ก็รู้อยู่ว่าไม่โกรธ แต่แม่ง อายว่ะนุ่น ยอมรับนะเว้ยว่าคุณนิรนามของแกทำแบบนี้เรียกความสนใจฉันได้จริงๆอ้ะ แต่แบบ ไงอ้ะ ช่วยลงชื่อแสดงตนสักนิดจะดีมาก นี่อะไรวะ ส่งของมาให้แต่ดันไม่ยอมบอกว่าตัวเองเป็นใครซะงั้น”

“สรุปก่อน สรุปว่าแกอยากรู้ว่าใคร แต่ไม่อยากให้อีกฝ่ายรู้ว่าแกอยากรู้ อย่างนั้นใช่มั้ย?” ประโยคที่สองของไอ้คุณแผน แหมเป็นนักจับใจความชั้นเลิศจริงๆ

“ใช่” สองเสียงประสานกันตอบได้ทันที พร้อมทั้งสายตาลูกหมาสองคู่ที่เบนมาจับที่ใบหน้าของไอ้คุณแผน

“งั้นเราก็ต้องมีแผน ตอนนี้คำถามแรกของแกคือเขาเป็นใคร คำถามที่สองคือเขาเอาจริงรึแค่ล้อเล่นกับแก คำถามสุดท้ายคือคุณนิรนามนั่นเป็นผู้ชายรึว่าผู้หญิง ซึ่งคำถามสุดท้ายนี่แค่เรารู้ว่าเขาเป็นใครก็จะได้รู้แล้ว”

“มีหลักการมากอะแผน แผนเป็นบุคคลที่โลกต้องการจริงๆ”

ได้ยินเพื่อนนุ่นชมเข้าอย่างนี้นายกลยุทธ์ก็เกือบจะหลุดจากมาดนิ่งๆนั่นเหมือนกันเว้ยเฮ้ย เออนะ..นอกจากความรักจะทำให้คนตาบอดแล้วยังทำให้คนเก๊กแตกอีกด้วย

“งั้นเราก็เหลือแค่สองคำถามสินะ ข้าพเจ้าขอเสนอว่าเราต้องสืบ สืบให้รู้ก่อนว่าคุณนิรนามเป็นใคร ส่วนคำถามของตัวป่วนที่ว่าเค้าจะเอาจริงรึเปล่านั่น คงต้องรอให้ได้ทำความรู้จักกันก่อนถึงจะตอบได้”
นี่คือวาทะของเพื่อนนุ่น ซึ่งพอกล่าวจบองค์ประชุมทั้งสามก็ตกอยู่ในความสงบอีกครั้ง สายตาคาดคั้นของเพื่อนนุ่นและเพื่อนแผนพุ่งตรงไปที่ไอ้ป่วนเต็มที่ รอให้ไอ้เจ้าของปัญหามันแสดงอาการว่าเห็นด้วย

“... ... ... ... ... ...”

“เออๆโอเค แล้วจะสืบยังไงอะ จ้างนักสืบไม่ไหวนะเว้ย เบี้ยน้อยแถมไม่อยากหาเรื่องใช้เงินในบัญชีมากกว่าปกติด้วย เดี๋ยวคุณนายกับคุณผู้ชายที่บ้านนึกครึ้มอยากตรวจบัญชีเงินฝากลูกชายคนเล็กขึ้นมากระผมจะลำบาก”

“ฉันก็ไม่ได้จะให้แกไปจ้างนักสืบนี่หว่า เรื่องอย่างนี้มันต้องทำเอง เราต้องสืบโดยใช้ข้อมูลเท่าที่มีอยู่ให้เป็นประโยชน์สูงสุด” เออ...สงสัยเพื่อนนุ่นมันจะนึกว่าตัวเองเป็นโคนันคุง

“แล้วข้อมูลที่มีก็อยู่ที่แกทั้งหมดไอ้ป่วน ไหนเอาการ์ดสามแผ่นนั่นออกมาซิ”
เอาล่ะสิ ไอ้เพื่อนรักเพื่อนเลิฟสามตัวมันรวมหัวกันแล้ว คุณนิรนาม..ไม่อยากจะพูดให้ใจเสีย แต่เชื่อเถิดนะ.....คุณไม่รอดแน่ หึๆ
~~~~~~~~~~~~~

“เป็นรุ่นพี่”

ก็น่าจะใช่นะตัวป่วน คุณนิรนามแกแทนตัวเองว่าพี่กับแกตลอดเลยนี่

“น่าจะต่างคณะด้วยว่ะ เราว่า อาจจะเป็นอักษร เพราะพอพวกเราไปเรียนวิชาเลือกกันที่อักษรวันจันทร์บ่าย พอเช้าวันถัดมาก็เริ่มมีดอกไม้ส่งมาให้แก” วิเคราะห์ได้ดีมากเพื่อนนุ่น

“เขาต้องรู้จักกับเด็กคณะเราด้วย” แผนมันว่าอย่างนั้น อืม..น่าเชื่อๆ

“เออเนอะ ไม่งั้นจะรู้ได้ไงว่าพวกเราเข้ามาเรียนแถวนี้เฉพาะวันอังคาร พฤหัส แล้วก็ศุกร์ แถมยังรู้เวลาอีกว่าพวกเราจะมานั่งตรงนี้ตอนไหน” ไอ้เพื่อนนุ่นมันพยักพเยิดเข้ากับไอ้แผนเป็นปี่เป็นขลุ่ยเชียว

“เฮ้ย...เช็คตารางเรียนทางเว็บสำนักทะเบียนก็ได้ม้าง” อืมๆๆตัวป่วนมันมีเหตุผล

“รู้ตารางเรียนก็ใช่ว่าจะรู้นี่ว่าพวกเรามักจะมาถึงกี่โมง นั่งโต๊ะตรงไหนเป็นประจำ ฉันว่าคุณนิรนามแกต้องมีสายเป็นเด็กคณะเราแน่ๆอ่ะ” เพื่อนนุ่นมันยังเชื่ออย่างนั้นอยู่

“สันนิษฐานให้กว้างๆไว้ก่อน เอางี้นะ นุ่นกับป่วนคิดอะไรออกก็เขียนไว้ด้วย ต้องไปแล้ว เดี๋ยวไปสอนสาย ไม่อยากให้น้องคอย” เพื่อนแผนมันเก็บหนังสือมาซ้อนกัน เหน็บดินสอกดไว้ที่กระเป๋าเสื้อแล้วลุกขึ้นยืน ตัวหนาๆสูงๆที่ลุกขึ้นยืนนั้นบังแสงจากแดดยามบ่ายแก่ๆจนเกิดเงาทาบไปเกินความยาวของโต๊ะเสียอีก

“ป่วนจะกลับก่อนรึจะรอ?” ก่อนจะก้าวไปทางหน้าประตูมันก็หันกลับมาถามตัวป่วน

“เลิกทุ่มครึ่งเองนี่ เดี๋ยวคุยกับไอ้นุ่นแป๊บๆก็ได้เวลาแล้วมั้ง กลับพร้อมกันเหอะ”

“โอเค.”

“เดี๋ยว แผน..”

“..?..”

“จะบอกว่าฉันกับป่วนจะรอกินข้าวนะ พอใกล้ๆเวลาแผนเลิกก็โทร.มาแล้วกัน อยากกินส้มตำสวนหลวงอ่ะ”

“ตกลง”

แล้วไอ้แผนก็ส่งสายตาเยิ้มๆมาให้ไอ้นุ่นที่มองไม่เห็นเพราะนั่งหันหลังให้ประตูร้าน แต่ไอ้ตัวที่เห็นชัดน่ะ คือไอ้ตัวป่วน แล้วพอเห็นอย่างนั้นมันก็ตั้งใจว่า ไม่ว่ายังไงก็ต้องช่วยไอ้คุณแผนเพื่อนรักให้ถึงที่สุด


อีกสิบนาทีสองทุ่ม ตัวป่วนกับเพื่อนนุ่นเดินคุยกระจุ๋งกระจิ๋งมาถึงร้านขายส้มตำ ลาบ น้ำตก เจ้าประจำที่มาฝากท้องบ่อยๆตั้งแต่เทอมแรก พอป่วนกับนุ่นเดินมาด้วยกันอย่างนี้นี่ยิ่งชัดว่าไอ้ตัวป่วนมันเป็นผู้ชายไซส์มินิเหลือเชื่อ น้ำหนักตัวมันน้อยกว่าไอ้นุ่นอีกล่ะมั้ง

ที่พวกนี้มันรู้จักร้านนี้เพราะรุ่นพี่ที่คณะมักพามาเลี้ยงหลังเลิกกิจกรรมที่เด็กปีหนึ่งมักจะต้องอยู่ทำกันจนดึกดื่น ส่วนสภาพของร้านน่ะหรืออย่าหวังว่าจะได้เปิดประตูกระจกแล้วพาร่างงามๆเข้าไปปะทะลมจากเครื่องปรับอากาศเย็นฉ่ำเชียว เพราะร้านส้มตำที่ไอ้คุณนุ่นมันเรียกร้องอยากกินน่ะเป็นร้านรถเข็นริมถนน ที่คนกินต้องอาศัยแสงไฟจากหลอดตะเกียบที่แขวนอยู่สองสามดวงทั้งที่มีโต๊ะอยู่เกือบสิบโต๊ะ คาดว่าเจ้าของร้านจะตั้งใจให้ลูกค้ามองเห็นของที่ยกมาเสิร์ฟไม่ชัดแน่ๆ

“แผนเอาไรอีกป้ะ? สั่งตำปูปลาร้าเผ็ดพิเศษ ตำปูเด็กน้อย ต้มแซบ คอหมูย่าง แล้วก็เสือร้องไห้ไปแล้วอ่ะ”
เพื่อนแผนมันมาถึงแล้ว สงสัยเหาะมาจากวิดยา

“นุ่นแม่ง กินเผ็ดเวอร์อ้ะแก อิเผ็ดพิเศษนั่นแกกินกะไอ้แผนไปเลย รู้ว่าเพื่อนชอบแม่งก็สั่งมายั่วน้ำลาย ใจร้ายว่ะ”
ไอ้ตัวป่วนมันน่าสงสาร กินเผ็ดไม่ได้แต่ก็ชอบนัก จกนิดจกหน่อย แล้วก็ต้องดื่มน้ำตามทีละสองสามแก้ว

“โห่..ส้มตำเด็กน้อยของแกไง กินเข้าไปสิ ฉันไม่แย่งแกหรอก โฮะๆๆๆ” ไอ้นุ่นนี่ก็ช่างทับถม แค่กินเผ็ดไม่ได้แค่เนี้ยทำจิกกัดเพื่อน

“เอาตับหวาน แล้วก็น้ำตกหมูครับพี่” ไอ้แผนมันก็นิ่งๆของมันตามเคย เพื่อนมันอีกสองคนจะจิกกัดกันแค่ไหนมันก็ไม่เคยสะดุ้งสะเทือน “พวกแกสั่งข้าวเหนียวกันยัง?”

“สั่งแล้ว คนละกระติบนะ”
ป่วนมันตอบไปมือก็ทำหน้าที่แจกจานแจกช้อนส้อมไป ส่วนเพื่อนนุ่นก็คีบน้ำแข็งใส่แก้วแล้วแจกน้ำ พออาหารมาเท่านั้นแหละ อย่างกับแร้งลง ไอ้พวกนี้นี่มันใช้พลังงานทำไรไปหมดหว่า กินกันไวเกิ๊น

ผ่านไปไม่ถึงสิบห้านาทีความเร็วก็ตก
“พี่ครับ เสือร้องไห้อีกหนึ่ง ตับหวานอีกหนึ่ง” ไม่ใช่ใครหรอก เสียงไอ้ตัวป่วนน่ะ เห็นมันตัวบางๆอย่างนั้นกินเก่งอย่างกับเลี้ยงพยาธิไว้สักครึ่งท้อง

“เอาซุปหน่อไม้ด้วย” เพื่อนนุ่นสั่งไปก็เคี้ยวคอหมูย่างชิ้นหนาเท่าฝาบ้านตุ้ยๆ ปากงี้มันเชียว

“พี่คร้าบ ซุปหน่อไม้เพิ่มอีกอย่าง” ไอ้ตัวป่วนก็เห็นดีเห็นงาม เรื่องกินนี่ไม่มีทักท้วงกันหรอก

“เออ สรุปพวกแกคุยกันตอนฉันไม่อยู่ได้เรื่องอะไรเพิ่มรึเปล่า?”

“เราสองคนคิดตรงกันว่าควรเริ่มจากคนที่เรียนคลาสเดียวกับพวกเราที่อักษรนะแผน ฉันว่าคุณนิรนามของไอ้ป่วนมันอาจจะเป็นใครสักคนในนั้น”

“ไม่ใช่ของฉันเว้ย แกตั้งชื่อให้ก็ต้องของแกสิ”

“บ้าดิ เขามาจีบแกนี่หว่า บอกไม่ใช่ๆอย่างนี้แล้วทำไมเขาให้อะไรมาแกก็เก็บไปทุกอย่างเลยล่ะ ทั้งดอกไม้ทั้งกลอน ไม่เห็นยกให้ฉันสักอย่าง ทำไมยะ ไม่ชอบคนแต่ชอบของงั้นสิ”

“ก็....หงะ นุ่นอ้ะ”

“เถียงไม่ออกล่ะสิ ป่วนเอ๊ย ฉันจะบอกอะไรให้นะ ถ้าแกไม่คิดอะไรกับเขา แกก็จะโยนของเขาทิ้งไปได้ง่ายๆ ถึงไม่ยกให้ใครแกก็คงไม่เอาไปเก็บไว้หรอก”

“อย่ามา ฉันก็แค่อยากรู้เท่านั้นแหละ ไม่ได้มีอะไรพิเศษสักหน่อย”

“เออ.....ไม่พิเศษหรอกนุ่น ไอ้ป่วนมันแค่เอาไอ้กุหลาบขาวนั่นไปห้อยหัวเตรียมทำดอกไม้แห้ง...ส่วนเดซี่ช่อใหญ่นั่นได้สิทธิ์อยู่ในแจกันโต๊ะกาแฟที่ห้องรับแขก กับอีกส่วนเข้าไปปักแจกันวางอยู่บนหัวเตียงมันเท่านั้นแหละ”

“ไอ้แผน เงียบปากไปเลย” อ้าวๆ ไอ้นี่เขินแล้วไปลงกับคอหมูย่างเว้ยเฮ้ย นี่กะเคี้ยวจนน้ำย่อยในกระเพาะไม่ต้องทำงานเลยมั้งมัน ก้มหน้างุดๆจิ้มของกินใส่ปากเอาๆ

“เร้อออออออ โห..ไม่พิเศษเลยเนอะ แล้วมาลัยดอกรักล่ะแกวางไว้ข้างหมอนรึเปล่า?” ไอ้คุณนุ่นนี่ก็ล้อไม่เลิก เพื่อนมันก้มหน้าจนจะทะลุลงไปใต้โต๊ะแล้วก็ไม่เห็นใจบ้างเลย

“พี่คร้าบ เก็บตังค์”

“อ้าว ไอ้ป่วน ช่างกล้านะแก เถียงไม่ได้เลยชิ่ง โฮะๆๆๆๆ”

“เออดิ เห็นอย่างนี้ฉันก็อายเป็นนะเว้ย แม่ง ล้ออยู่ได้”

“สองร้อยสิบสองบาท เอามาสองร้อยพอ”
พวกมันเลิกเถียงกันแล้วรีบยื่นเงินให้พี่คนเก็บตังค์อย่างเร็ว เดี๋ยวเขาเปลี่ยนใจไม่ลดให้ เคยมีมาแล้ว ตอนแรกลดราคาให้ พอหยิบเงินช้าพี่แกคิดเต็มราคาซะงั้น แกว่าทำให้เสียเวลาไปบริการลูกค้าโต๊ะอื่น

“ว้า......ลืมอ้ะ” ตอนกำลังจะย้ายตัวเองออกจากร้านพร้อมกับกระเพาะอาหารที่เต็มจนเกือบล้นตัวป่วนมันก็ส่งเสียงง้องแง้งของมันออกมา

“ไรของแก ลืมเรื่องไร?” เพื่อนนุ่นก็ถามทันที ในขณะที่เพื่อนแผนมันแค่ปรายตามอง

“สองทุ่มเค้กลดราคาไง ครึ่งราคาเลยนะ เสียดายอ้ะ”

“เออ จริงด้วย รีบไปดูกันเผื่อยังเหลือ”

“เหลือไรล่ะ จะสามทุ่มแล้วเนี่ย กว่าจะเดินกลับไปอีก เศร้าอ่ะ อยากกิน banana fondant” ตัวป่วนมันเริ่มคร่ำครวญแล้ว “เนื้อช๊อคโกแล๊ตนุ่มๆหนืดๆ สอดไส้กล้วยหอม ฮือ...พลาดอ้ะ อยากกินๆๆๆ”

“เออ ฉันก็อยากกินชีสเค้กเหมือนกันแหละ ร้านนี้ชีสเค้กอร่อยอย่างเวอร์ เง้อ...” ไอ้คุณนุ่นบ่นไปแถมเอฟเฟ็คท์เสียงครางหงิงๆไปด้วย

“พอเลยพวกแกสองคน นุ่นก็กลับบ้านได้แล้ว เดี๋ยวกว่าจะถึง ดึกแล้วจะอันตราย เดินเข้าซอยอีก” แผนมันพูดซะเป็นจริงเป็นจัง

“แผนอ้ะ อย่าดุดิ ฉันมีพ่อคนเดียวก็พอแล้ว”

“ไปนุ่น เราเดินไปส่งป้ายรถเมล์” เห็นมั้ยล่ะ ป่วนมันเถียงกับเพื่อนนุ่นลับฝีปากไปงั้นเอง ที่จริงมันห่วงเพื่อนมันจะแย่

“ไม่ต้องเลย จะย้อนไปย้อนมาทำไม เดี๋ยวพวกแกก็ต้องเดินกลับมาขึ้นรถฝั่งนี้อยู่ดี” ก็บอกแล้วไอ้นุ่นมันมั่นใจในความปลอดภัยของตัวเองเสมอแหละ มันว่ามันมีดีที่หนังหน้า ป้องกันได้ทั้งมนุษย์ทั้งอมนุษย์

“งั้นก็ได้ ถึงบ้านแล้วโทร.มานะ มิสคอลล์ก็ได้” ไอ้คุณแผนสั่งเสียงเรียบ

“เจ้าค่ะ คุณพ่อ” มะเหงกไอ้คุณแผนพลาดเป้าไปเฉียดฉิว ขณะที่ไอ้คุณนุ่นวิ่งกระโปรงปลิวไปถึงทางม้าลายแล้ว.......

“แกแน่ใจแล้วหรือวะแผน?”

“หืม?”

“ฉันว่าแกแพ้ทางไอ้นุ่นมันนะเว้ย ถ้าเป็นแฟนกันขึ้นมาจริงๆแกได้เข้าสมาคมเกลียมัวแน่ว่ะ”

“หึๆ” ไอ้แผนมันไม่ได้ตอบโต้อะไรอีก นอกจากส่งเสียงหัวเราะเขย่าขวัญออกมาเบาๆ
คุณว่า...วันถัดมาที่เป็นวันอังคาร ตัวป่วนมันจะได้ดอกไม้อะไร??


“เพราะพี่รู้ว่าเจ้าชอบจึงสรรให้
เจ้ากลอยใจได้อิ่มหนำดั่งใจหนา
เค้กชิ้นนี้ยินสำเนียงเสียงแก้วตา
ที่บอกว่ามันนุ่มลิ้นชวนลิ้มลอง”
~~~~~~~~~~~~~



Create Date : 02 กุมภาพันธ์ 2554
Last Update : 2 กุมภาพันธ์ 2554 1:48:24 น.
Counter : 448 Pageviews.

1 comments
  




สุขสันต์วันตรุษจีนค่ะ
โดย: นู๋หญิงจ๋า วันที่: 2 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:21:22:07 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

paina
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed

 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



ยินดีต้อนรับทุกท่านที่ผ่านเข้ามานะคะ


ที่นี่ก็แค่ห้องเล็กๆของผู้หญิงธรรมดา......ที่พยายามจะเป็นคนดี.....เท่านั้นเอง
กุมภาพันธ์ 2554

 
 
1
3
6
8
16
18
19
20
21
22
24
27
 
 
2 กุมภาพันธ์ 2554
All Blog