Apple has lost a visionary and creative genius, and the world has lost an amazing human being.

But his spirit will forever be the foundation of Apple. 6 October 2011

<<
ตุลาคม 2567
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
15 ตุลาคม 2567

บางปู : กระสานวล



ฤดูหนาวย่างกรายเข้ามา นกอพยพที่บางปูก็มากันแล้ว
นำทีมด้วยนกจับแมลงสีสวยๆ และนกกระเต็นหายาก
เราก็อยากลุ้นดวงตัวเองบ้าง ซึ่งแน่นอนว่า ไม่มี
ก็อาจไม่ใช่ดวง แต่อาจเป็นเพราะเราไม่ได้ไป ในเวลาที่เหมาะสม
 
แต่อย่างน้อยวันนี้ก็มีนกใหม่ที่เราถ่ายรูปได้มาหนึ่งตัว
ความจรืงก็ไม่ใช่นกใหม่ เราเคยเห็นนกตัวนี้ที่บ่อน้ำเสียที่
ม. เกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน เมื่อนานมาแล้ว

นกกระสานวล (grey heron)
 
เป็นนกยางขนาดใหญ่สีเทา มีหัวสีดำ สูงถึงราว 1 เมตร
อยู่ในสกุล Ardea เดียวกันกับนกกระสาแดงที่เล็กกว่า
แล้วก็เป็นเพียงสองสายพันธุ์ในสกุลนี้ ที่สามารถพบเห็นได้ในบ้านเรา

นกกระสานวลแบ่งเป็น 4 สายพันธุ์ย่อย
ซึ่งมีพื้นที่อยู่อาศัยคล้ายกับนกระสาแดงอีกด้วย
 
เริ่มจากสายพันธุ์หลัก A. c. cinerea ตั้งชื่อโดย
คาร์ล ลินเนียส
ในปี 1758 พบที่ยุโรป ยูเรเซียจนถึงแมนจูเรีย หมู่เกาะซาคาริน
แอฟริกาตอนใต้ และหมู่เกาะโคโมโรใกล้กับเกาะมาดากัสการ์

 
A.c. jouyi, Clark 1907 พบที่ประเทศจีน เกาหลี ญี่ปุ่น อินเดีย  
พม่า เวียดนาม กัมพูชา ปลายสุดของมาเลเซีย เกาะสุมาตรและชวา
A. c. firasa,
Hartert, 1917 พบที่เกาะมาดากัสการ์
A. c. monicae,
Jouanin & Roux 1963 เป็นนกเฉพาะถิ่น
พบได้ที่ Banc d'Arguin ประเทศมอริเตเนียเท่านั้น
 
 


https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%99%E0%B8%81%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%A
A%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%A7%E0%B8%A5#/media/%E0%B9%84%E0%B8%9F%E0%B8%A5%
E0%B9%8C:Ardea_cinerea_map.png

 
ในฤดูหนาวนกกลุ่มหลักจะทำรังอยู่ในยุโรป แต่มีบางส่วนที่อพยพ
ลงมาทำรังทางใต้ที่ประเทศลัตเวีย คาบสมุทรอาหรับ แอฟริกาเหนือ
ปากีสถาน เติร์กเมนิสสถาน ปากีสถาน อินเดีย ศรีลังกา
ส่วนนกในแอฟริกาใต้จะบินขึ้นเหนือไปยังตอนกลางของทวีป
 

นกกลุ่มเอเชียตะวันออก (A.c. jouyi) จะอพยพลงมายังเอเชีย
ตะวันออกเฉียงใต้ เช่น 
ไทย พม่า เวียดนาม ลาว กัมพูชา มาเลเซีย
ส่วนนกหายากอีกสองสายพันธุ์ย่อย มักจะไม่อพยพ
หรืออาจจะอพยพใกล้ๆ ราว 100-200 กม จากถิ่นอาศัยเท่านั้น
 
จะเห็นได้ว่านกกระสานวลเป็นนกที่กระจายตัวอย่างกว้างขวาง
เนื่องมาจากเป็นนกน้ำที่ขนาดตัวใหญ่ทำให้สามารถหากินได้หลากหลาย
ความเสี่ยงที่จะสูญพันธุ์จึงจัดอยู่ในระดับ less concern
ยกเว้นสองสายพันธุ์ในแอฟริกาที่มีจำนวนน้อยกว่าสายพันธุ์หลัก
 
เช่นเดียวกับกระสาแดง ที่ในประเทศไทยนกกระสานวล
จะพบได้ง่ายในฤดูหนาวที่มีการอพยพลงมาจากทวีปเอเชียตอนเหนือ
ดังนั้นนกกลุ่มหนึ่งที่น่าสนใจ คือ
กลุ่มนกประจำถิ่นที่ทำรังวางไข่
และหากินอยู่ตลอดปีใน
ไทย กัมพูชา มาเลเซีย อินโดนีเซีย
ที่เราไม่รู้ว่า ปัจจุบันประชากรกลุ่มนี้นั้นเหลืออยู่มากน้อยเพียงใด

 

https://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/0/03/Bennu_bird.svg
 
ในสมัยอียิปต์โบราณ มีเทพองค์หนึ่งชื่อ
เบนนู
เป็นสัญลักษณ์ของการเกิดใหม่ เช่นเดียวกับนกฟีนิกซ์ในสมัยกรีก
ถูกพรรณนาด้วยภาพของนกที่มีแสงสว่างและพลังจากดวงอาทิตย์
และถูกบูชาในฐานะสัญลักษณ์ของชีวิตและการเกิดใหม่ที่ไม่รู้จบ
 
ภาพสลักในสมัยอียิปต์เก่า ถูกตีความว่าอาจเป็นนกได้หลายชนิด
อาจจะเป็น
yellow wagtail หรือกระทั่งนกกระเต็น
จนมาถึงภาพวาดในสมัยอียิปต์ใหม่ นกเริ่มตัวสูงเพรียวขึ้น
มีขนที่ท้ายทอย 2 เส้น ที่สำคัญมีการพบการลงสีในภาพๆ หนึ่ง
 
เป็นภาพนกตัวใหญ่สีเทา ทำให้เชื่อกันว่ามันคือ นกกระสานวล
ซึ่งมีความเป็นได้มาก เพราะพวกมันก็พบได้ตามลุ่มแม่น้ำไนล์
และที่สำคัญ เทพเบ็นนูยังหมายถึงฤดูใบไม้ร่วงอีกทางหนึ่ง
ซึ่งก็จะตรงกับช่วงเวลาอพยพมา ของนกกระสานวล
 
แต่นั่นก็ไม่ใช่สมมุติฐานที่ทุกคนเชื่อ ในปี 1845
Mr. Boonmi
ได้เขียนบทความลงในวารสาร American Journal of Science 
เล่าเรื่องหนึ่งย้อนกลับไปในปี 1821 และปี 1823 ว่ามีนักเดินทางชื่อ
James Burton ได้ไปที่อียิปต์และพบรังนกเก่าๆ จำนวน 3 รัง
 
ที่ Gebel ez Zeit แถบชายฝั่งทะเลแดงตรงข้ามกับภูเขาไซนาย
สิ่งที่สนใจคือขนาดของรังขนาดกว้างราว 15 ฟุต และสูง 2.5 -3 ฟุต
ประกอบไปด้วยวัสดุหลายอย่าง เช่น กิ่งไม้ วัชพืช กระดูกปลา
และสิ่งที่คาดว่าจะมาจากเรือแตกเช่น รองเท้า
เส้นใยจากเสื้อผ้า นาฬิกาเงิน และซี่โครงมนุษย์

 ด้วยความตื่นตะลึง เค้าได้ถามชาวอาหรับท้องถิ่นว่า
รู้จักนกที่สร้างรังนี้ไหม คำตอบคือ พวกมันเป็นนกกระสาขนาดใหญ่
ที่อาศัยอยู่ในทะเลทราย และน่าจะเพิ่งทิ้งรังนี้ไปเมื่อไม่นานมานี้เอง
ซึ่งที่น่าสนใจคือ ทางวิทยาศาสตร์ในเวลานั้นไม่พบว่า มีนกกระสาชนิดใด
ที่ทำรังใหญ่เท่านี้ ทำให้ผู้เขียนตามหาว่า น่าจะเป็นนกอะไร

อันนำไปสู่ภาพสลักบนผนังในหลุมฝังศพกษัตริย์คูฟู
ที่กล่าวถึง นกชนิดหนึ่งที่อยู่กันเป็นฝูง มีลำตัวสีขาว ขนหางและปากยาว
ตัวผู้มีเปียอยู่ด้านหลังหัวและมีแผงขนตรงอก
เป็นไปได้หรือไม่ว่านกยักษ์ชนิดนี้คือที่มาของเทพเบ็นนูของอียิปต์

 

https://cryptozoologicalreferencelibrary.wordpress.com/wp-content/uploads/2023/08/hoch-1979.pdf
 
ในปี 1958 ทางการโอมานได้เปิดให้นักโบราณคดีเข้ามา
เพื่อขุดสุสานในวัฒนธรรมโบราณ 3,000 ปี ที่ Umm an-Nar
ปัจจุบันอยู่ในประเทศ UAE วัตถุแบบหนึ่งที่ค้นพบคือกระดูกสัตว์โบราณ
ที่ปัจจุบันสูญพันธุ์ไปจากคาบสมุทรอาระเบีย โดยมีกระดูกนกอยู่ 5 ชนิด
 
ชิ้นที่น่าสนใจ คือกระดูกขาส่วน tibiotarsus ข้างซ้ายที่หัก
เหลือเฉพาะส่วน distal end (หมายเลข 7) ที่มีขนาดที่ใหญ่กว่า
กระดูกขาของ
นกยางโกไลแอธ (หมายเลข 8)
ที่เป็นนกยางที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยสูงกว่า 1.2 -1.5 เมตร
 
ในปี 1979 การศึกษาของ
Ella Hoch เชื่อว่ามันนกยางชนิดใหม่
ที่เคยอาศัยอยู่ที่นั่น โดยมีความสูงเท่ากับร่างกายของมนุษย์
และสูญพันธุ์ไปราว 2700-1800 ก่อน คศ. ตรงกับราชวงศ์ที่ 5
ในสมัยอียิปต์และอาจเป็นแรงบันดาลใจในการสร้างเทพเบ็นนู 
เค้าจึงตั้งชื่อทางวิทยาศาสตร์ของนกชนิดนี้ว่า
Ardea bennuides

แต่เรื่องราวนี้ก็ยังไม่ได้มีการรับรองอย่างเป็นทางการ 
บางส่วนก็เชื่อว่า มันคือนกกระสานวลที่ตัวใหญ่กว่าธรรมดา
แต่ในขณะเดียวกันกระดูกเพียงท่อนเดียวก็ไม่สามารถยืนยันได้ว่า
จะมีนกยางสายพันธุ์โบราณตัวใหญ่อยู่ที่นั่นเมื่อสองพันปีก่อนจริงๆ


Ardea bennuides ยังคงเป็นปริศนาที่รอการค้นหาต่อไป



Create Date : 15 ตุลาคม 2567
Last Update : 20 ตุลาคม 2567 1:16:32 น. 3 comments
Counter : 263 Pageviews.  
(โหวต blog นี้) 

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณหอมกร, คุณปัญญา Dh, คุณทนายอ้วน, คุณนายแว่นขยันเที่ยว, คุณhaiku, คุณnewyorknurse, คุณกะริโตะคุง


 
ไปส่องนกฮูกสวนรถไฟดีกว่า



โดย: หอมกร วันที่: 15 ตุลาคม 2567 เวลา:10:02:26 น.  

 
เรื่องอนงค์นี่ไม่ใช่ของ GDH จ้า



โดย: หอมกร วันที่: 15 ตุลาคม 2567 เวลา:12:42:43 น.  

 
จำได้ว่ามงกุฎของแครอล ตัวละครเอกผู้หญิงในหนังสือการ์ตูนคำสาปฟาโรห์อันโดด่งดังก็เคยใส่มุงกุฎนกกระสาด้วยนะครับ


โดย: ทนายอ้วน วันที่: 15 ตุลาคม 2567 เวลา:16:43:06 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

BlogGang Popular Award#20


 
ผู้ชายในสายลมหนาว
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 23 คน [?]




New Comments
[Add ผู้ชายในสายลมหนาว's blog to your web]