Apple has lost a visionary and creative genius, and the world has lost an amazing human being.

But his spirit will forever be the foundation of Apple. 6 October 2011

<<
พฤษภาคม 2568
 
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
26 พฤษภาคม 2568

ดูตึก : ทัสนา/สถาปัตยกัม (2)



อาคารมหาจุฬาลงกรณ์ (Edward Healey)
 
พ.ศ. 2453 เป็นปีที่รัชกาลที่ 6 เสด็จขึ้นครองราชย์
มีพระราชดำริที่จะผลิตข้าราชการไปทำงานกระทรวงอื่น ๆ
นอกไปจากเดิมที่รับเข้าไปทำงานเฉพาะกระทรวงมหาดไทยเท่านั้น  
ทรงโปรดฯ ให้สถาปนาโรงเรียนมหาดเล็กเป็นสถาบันอุดมศึกษา
 
พระราชทานนามว่า 
โรงเรียนข้าราชการพลเรือนของพระบาทของ
สมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
ประกอบไปด้วย 5 โรงเรียน ได้แก่

1. โรงเรียนรัฏฐประศาสนศาสตร์ ตั้งอยู่ที่พระบรมมหาราชวัง
2. โรงเรียนฝึกหัดอาจารย์ตั้งอยู่ที่บ้านสมเด็จเจ้าพระยา ฝั่งธนบุรี
3. โรงเรียนราชแพทยาลัยตั้งอยู่ที่โรงพยาบาลศิริราช
4. โรงเรียนเนติศึกษาตั้งอยู่ที่เชิงสะพานผ่านพิภพลีลา
5. โรงเรียนยันตรศึกษาตั้งอยู่ที่วังวินด์เซอร์ หรือวังใหม่ หรือวังกลางทุ่ง
 
รัชกาลที่ 6 พระราชที่ดินของพระคลังข้างที่ จากบริเวณวังสระปทุม
จรดถนนหัวลำโพง และจากสนามม้าจรดคลองสวนหลวง
เพื่อเตรียมสำหรับเป็นสถานที่สร้างโรงเรียนข้าราชการพลเรือนแห่งใหม่
ที่ต่อไปจะต้องมีการขยับขยายให้เจริญก้าวหน้าขึ้น

พ.ศ. 2457 กระทรวงโยธาธิการ เริ่มก่อสร้าง
อาคารมหาจุฬาลงกรณ์วิทยาลัย
เพื่อใช้เป็นอาคารบัญชาการและอาคารเรียน ออกแบบโดย Edward Healey
สถาปนิกชาวอังกฤษ และควบคุมการก่อสร้าง Karl Dohring วิศวกรชาวอิตาเลียน
โดยใช้งบประมาณที่เหลือจากการก่อสร้างพระบรมรูปทรงม้าที่มีราวหนึ่งล้านบาท



อาคารคณะวิทยาศาสตร์ (พระสาโรชรัตนนิมมานก์)
 
พ.ศ. 2459 อาคารมหาจุฬาลงกรณ์วิทยาลัยก่อสร้างแล้วเสร็จบางส่วน
มีการใช้งานอาคารโดยการมุงหลังคาจากระหว่างรอกระเบื้องแล้วเสร็จ
เปลี่ยนชื่อโรงเรียนข้าราชการพลเรือนฯ เป็นจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
 
เป็นอาคารโครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็กแต่คงศิลปะแบบไทยประเพณี
หลังคาลดชั้น มีมุขยื่น 3 มุข มีระเบียงรอบอาคา ราวบันไดนาค หน้าบัน
สำหรับใช้ในการสอนจำนวน 4 คณะ ได้แก่ รัฐประศาสนศาสตร์
แพทยศาสตร์ วิศวกรรมศาสตร์ และอักษรศาสตร์และวิทยาศาสตร์
 

ยุคที่สาม แต่เดิมการก่อสร้างอาคาร จะต้องอาศัยสถาปนิกและวิศวกรฝรั่ง
พ.ศ. 2462 เจริญ ชนะกุล จบการศึกษาจากอังกฤษ กลับมาทำงาน
เป็นผู้ช่วยคณะบดีคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ต่อมาจะได้รับราชทินนามเป็น
พระเจริญวิศวกรรม
และเป็นผู้ที่จะสร้างอาคารเรียนสองหลังแรกของคณะวิศวกรรมศาสตร์
 
พ.ศ. 2463 สาโรช ร.สุขยางค์ จบการศึกษาจากอังกฤษ กลับมาทำงาน
เป็นข้าราชการกรมศิลปากร กระทรวงธรรมการ ในตำแหน่งสถาปนิก
ต่อมาจะได้รับราชทินนามเป็น
พระสาโรชรัตนนิมมานก์
ซึ่งจะเป็นผู้ออกแบบอาคารจำนวนมาก ในจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

พ.ศ. 2465 รัชกาลที่ 6 โปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จเจ้าฟ้ามหิดล
ซึ่งสำเร็จการศึกษาจาก ม. ฮาร์วาร์ด สหรัฐอเมริกา ทรงเป็นหัวหน้าคณะ
ไปเจรจากับมูลนิธิรอกกี้เฟลเลอร์ ในการช่วยเหลือการศึกษาด้านวิชาแพทย์
และวิทยาศาสตร์ เช่น การจัดหาอาจารย์ชาวต่างประเทศมาสอนนิสิต
รวมทั้งให้ทุนไปศึกษาต่อ ณ ต่างประเทศ เพื่อกลับมาอาจารย์สอนต่อไป


 


อาคารคณะวิศวกรรมศาสตร์ (พระเจริญวิศวกรรม)


พ.ศ. 2469 จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยก่อสร้างตึกทดลองวิทยาศาสตร์
ตามสัญญาที่ให้ไว้กับมูลนิธิร็อกกี้เฟลเลอร์ ที่ช่วยออกเงินให้ครึ่งหนึ่ง
แล้วเสร็จในปี พ.ศ. 2472 ปัจจุบันคือ
อาคารคณะวิทยาศาสตร์ หรือตึกขาว

เป็นอาคารโครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็ก สูงสองชั้น แบบไทยประเพณี
มีชั้นใต้ดิน ผังอาคารเป็นรูปตัวที ประกอบด้วยโถงทางเข้า โถงบันได
ห้องบรรยายใหญ่ และห้องปฏิบัติการสำหรับวิชาวิทยาศาสตร์
ออกแบบและควบคุมการก่อสร้างโดย พระสาโรชรัตนนิมมานก์
 

อาคารคณะวิศวกรรมศาสตร์ 1 ผู้ออกแบบคือ
พระเจริญวิศวกรรม (เจริญ ชนะกุล) คาดว่าเริ่มทำการก่อสร้าง
เมื่อประมาณ พ.ศ. 2473 แล้วเสร็จและเปิดใช้งานใน พ.ศ. 2477
 
อาคารคอนกรีตเสริมเหล็ก 2 ชั้น มีบันไดหลักอยู่บริเวณกลางอาคาร
ผนังเป็นอิฐรับแรง 2 ชั้น นำเข้ามาจากประเทศอังกฤษ เรียงแบบสลับกัน
มีการยาแนวระหว่างอิฐ ผนังด้านนอกของตัวอาคารไม่ฉาบปูน
เพราะต้องการโชว์ความงามทางด้านสถาปัตยกรรม เป็นสีเลือดหมู


10 พ.ค. 2475 พระองค์เจ้าจุลจักรพงษ์ ทำหนังสือทูลถาม
พระองค์เจ้าธานีนิวัติ เรื่องที่ทรงประทานเงิน 20,000 บาท
เพื่อสร้างตึกสำหรับเป็นสโมสร ให้แก่นักเรียนจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ในการเป็นอนุสรณ์ถึง สมเด็จฯ เจ้าฟ้าจักรพงษ์ภูวนาถ
กรมหลวงพิษณุโลกประชานาถ พระบิดาของพระองค์





ตึกจักรพงษ์ (พระสาโรชรัตนนิมมานก์)
 
24 มิ.ย. 2475 การเปลี่ยนแปลงระบบการปกครองโดยคณะราษฎร
ซึ่งได้มีการประกาศหลัก 6 ประการ ได้แก่ เอกราช ความปลอดภัย
เศรษฐกิจ เสมอภาค เสรีภาพ และการศึกษา

ซึ่งแต่เดิมการได้รับศึกษานั้น ดูเป็นเรื่องไกลตัวของราษฎร
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในต่างจังหวัด แต่ระบอบประชาธิปไตย
จำเป็นต้องอาศัยความรู้ ความเข้าใจของราษฎรในการคัดเลือก 
ตัวแทนของพวกเขาในการเข้ามาทำหน้าที่ปกครองประเทศ

ในระยะแรกนั้น กฏหมายรัฐธรรมนูญฉบับ ปี พ.ศ. 2475
กำหนดให้มีตัวแทนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 2 ประเภท
หนึ่งคือมาจากการเลือกตั้งโดยตรง สองคือมาจากการแต่งตั้ง
โดยมีบทเฉพาะกาล 10 ปี ว่า เมื่อใดที่ประชาชนทั้งประเทศมีการศึกษา

ในระดับจบชั้นประถมการศึกษา เกินกว่าครึ่งประเทศแล้วละก็
จะไม่มีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรประเภทที่สองอีกต่อไป
จึงมีการก่อสร้างโรงเรียนจำนวนมาก โดยการขอให้วัดแบ่งส่วนหนึ่ง
มาสร้างเป็นโรงเรียนประถมศึกษา และยังคงหลงเหลือร่องรอยนี้
มาจนถึงปัจจุบัน ผ่านชื่อของโรงเรียนต่างๆ ที่ยังลงท้ายว่า
ราษฎร์
 
26 พ.ค. 2476
ตึกจักรพงษ์ก่อสร้างแล้วเสร็จ
เป็นอาคารคอนกรีตสองชั้นแบบสมมาตร แบบนีโอคลาสสิก
ผสมกับลายปูนปั้น หลังคาทรงปั้นหยา แบบไทยประเพณี
ออกแบบโดยพระสาโรชรัตนนิมมานก์ และหลวงวิศาลศิลปกรรม 

ในปี พ.ศ. 2481 มีการสร้างอาคารคณะวิศวกรรมศาสตร์ 2
ซึ่งมีความใกล้เคียงกับกับอาคาร 1 เพราะออกแบบโดยพระเจริญวิศวกรรม
ยกเว้นมีชั้นใต้ดิน และการยาแนวผนังเรียบไม่นูนออกมาเหมือนอาคาร 1
ในปี พ.ศ. 2497 ได้มีการปรับปรุงอาคาร 1 ให้เป็นอาคาร 3 ชั้น



Create Date : 26 พฤษภาคม 2568
Last Update : 4 มิถุนายน 2568 11:07:26 น. 3 comments
Counter : 445 Pageviews.  
(โหวต blog นี้) 

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณtuk-tuk@korat, คุณปัญญา Dh, คุณหอมกร, คุณอุ้มสี


 
คุณพ่อเข้าเรียนวิศวะจุฬาปี 2488 ค่ะ


โดย: tuk-tuk@korat วันที่: 26 พฤษภาคม 2568 เวลา:15:59:15 น.  

 
พอดีไม่ได้จบจากที่นี่จ้า



โดย: หอมกร วันที่: 27 พฤษภาคม 2568 เวลา:7:00:31 น.  

 
ตึกสวย
อุ้มพี่ล็อคโพส Hobby งานอดิเรก
ลงตัวเป็น blog
ประจำพี่เลย


โดย: อุ้มสี วันที่: 31 พฤษภาคม 2568 เวลา:15:20:02 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

ผู้ชายในสายลมหนาว
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 24 คน [?]




[Add ผู้ชายในสายลมหนาว's blog to your web]