DR.MOO CAN DO
Group Blog
 
 
มกราคม 2553
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
26 มกราคม 2553
 
All Blogs
 
ความผิดติดมือ : เกสรดอกไม้ ปืน อาชญากรรม นาโนเทคโนโลยี

             หลายๆ ท่านอาจสงสัยว่าคำต่างๆ ในหัวข้อเรื่องนี้มีความเกี่ยวข้องกันอย่างไร ถ้าจะพูดว่าเกสรดอกไม้มีส่วนช่วยเราให้จับตัวผู้ร้ายได้ อาจมีคำถามว่า จริงหรือ เราลองมาดูกันซิว่าข้อสันนิษฐานนี้เป็นไปได้หรือไม่

 


             คำตอบ คือ ใช่แล้ว ทั้งนี้เราต้องขอบคุณนาโนเทคโนโลยีและทีมนักวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลัยต่างๆ ในประเทศอังกฤษ อันได้แก่ มหาวิทยาลัย Brighton, Brunel, Cranfield, Surrey และ York โดยมีศาสตราจารย์ พอล เซอร์มอน (Paul Sermon) เป็นหัวหน้างานวิจัย และได้รับเงินทุนสนับสนุนจากหน่วยงาน Engineering and Physical Sciences Research Council (EPSRC) จากคุณสมบัติโดยธรรมชาติเกสรดอกไม้จะมีความเหนียวเป็นพิเศษ นักวิทยาศาสตร์จึงพัฒนา nanotag หรือฉลากนาโน ขึ้นมาจากเกสรดอกไม้นี้ โดยนำมาเคลือบกระสุนปืนขณะผลิต 


             ซึ่งคุณสมบัติความเหนียวจะติดคงทนแม้กระสุนปืนจะถูกยิงไปแล้วก็ตาม โดยอนุภาคเล็กๆ จำนวนเป็นพันๆ อนุภาคที่ใช้เคลือบกระสุนนี้ เราไม่สามารถมองเห็นด้วยตาเปล่าเนื่องจากว่าผลิตขึ้นมาจากเกสรดอกลิลลี ซึ่งมีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางแค่ประมาณ 30 ไมครอน เกสรถูกนำมาเคลือบด้วยไททาเนียมออกไซด์ เซอร์โคเนีย ซิลิกา (titanium oxide, zirconia, silica) หรือส่วนผสมของออกไซด์ต่างๆ ด้วยสัดส่วนเฉพาะ สัดส่วนเหล่านี้สามารถปรับเปลี่ยนได้ในแต่ละครั้งการผลิต ส่งผลให้การเคลือบกระสุนปืนแต่ละครั้ง ตัวกระสุนจะมีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ซึ่งจะมีประโยชน์ในทางนิติเวชเป็นอย่างมาก หากจำเป็นต้องมีการพิสูจน์ว่ากระสุนปืนนั้นถูกซื้อมาจากแหล่งไหน เมื่อใด และฉลากนาโนนี้ ถูกล้างออกได้โดยยาก จึงติดอยู่ตามเสื้อผ้า หรือมือของผู้ต้องสงสัย ช่วยให้การพิสูจน์หลักฐานทำได้ง่ายขึ้น 
ภาพจากกล้องจุลทรรศน์อิเล็กตรอนของเกสรดอกไม้ที่นักวิจัยใช้พัฒนาฉลากนาโน




               จากสถิติที่ผ่านมา การพิสูจน์หลักฐานทางนิติเวช เกี่ยวกับอาชญากรรมอาวุธปืนด้วยเทคนิคการตรวจดีเอ็นเอ (DNA) นั้นทำได้ยาก ประสบผลสำเร็จเพียงแค่ประมาณ 10 % เท่านั้น เนื่องจาก ดีเอ็นเอ จะถูกทำลายด้วยความร้อนที่ถ่ายทอดจากดินปืนขณะเผาไหม้ไปสู่ปลอกกระสุนปืนอย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ปลอกกระสุนที่ทำจากทองแดงหากถูกสัมผัสด้วยกรดแลคติกจากเหงื่อก็จะเกิดปฏิกริยาทางเคมี ที่สามารถทำลายดีเอ็นเอบนปลอกกระสุนได้ด้วยเช่นกัน จากสาเหตุต่าง ๆ เหล่านนี้ทำให้ปริมาณตัวอย่างดีเอ็นเอที่เก็บได้จากที่เกิดเหตุ ไม่เพียงพอต่อการตรวจพิสูจน์



               งานวิจัยยังได้มีการพัฒนาร่วมกับการทำให้ปลอกกระสุนมีความคมด้วยผิวสัมผัส แบบปิรามิดเล็กๆ (micro-patterned pyramid textures) หรือด้วยการผสมหินกรวดคม ๆ ลงไปใน เรซินแผ่นบางๆ ตรงฐานกระสุน โดยวิธีการนี้จะทำให้สามารถดักจับเซลล์ผิวหนังที่ตายแล้ว จากนิ้วหัวแม่มือของผู้บรรจุกระสุนปืนลงกระบอกได้ในปริมาณที่มากพอ และสามารถเชื่อถือได้ในพิสูจน์ ซึ่งถือได้ว่าเป็นเทคโนโลยีที่ออกแบบมาเพื่อหลีกเลี่ยงการทำลายของดีเอ็นเอโดยเฉพาะ 
               ขณะนี้ทีมวิจัยกำลังทำงานเพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของตำรวจและผู้ผลิตกระสุนปืน โดยคาดว่าฉลากนาโนและเทคนิคการตรวจจับดีเอ็นเอนี้ จะพร้อมใช้ได้ภายในระยะเวลา 1 ปีนี้ (ข้อมูลเมื่อ ส.ค. 51) ในอนาคตอาจมีการประยุกต์ใช้ทางอื่นด้วย เช่น อาชญากรรมจากการใช้มีด 
               เห็นได้ชัดว่าการวิจัยนี้มีประโยชน์ต่อการนำตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากว่าปัจจุบันการพิสูจน์หลักฐานทำได้ยากมาก เพราะการกู้ลายนิ้วมือและดีเอ็นเอที่ติดอยู่บนกระสุนปืนที่เรียบและเป็นเงานั้นยุ่งยาก การใช้ฉลากนาโน นอกจากจะช่วยให้การทำงานของตำรวจง่ายขึ้นแล้ว ยังเป็นการทำให้อาชญากรลังเลที่จะใช้ปืนเป็นอาวุธในการก่ออาชญากรรมตั้งแต่แรกเลยทีเดียว



ข้อมูลจาก //www.thai-nano.com/nano_articledetail.php?article_id=37


Create Date : 26 มกราคม 2553
Last Update : 26 มกราคม 2553 18:10:52 น. 3 comments
Counter : 2175 Pageviews.

 
God is the way
The Truth
and The Life

when your life need miracal
Ask form him.. Then you will be
impress by its result as I do~!

what is the truth
if u ask me then
I will tell u that
it is GOD


โดย: da IP: 124.122.67.223 วันที่: 26 มกราคม 2553 เวลา:23:51:23 น.  

 
ปลอกกระสุนทองเหลือง ใหม่ๆ ที่ยังเป็นเงามันอยู่ หากบรรจุเข้าในปืน ไม่ว่าลูกโม่หรือแมกกาซีน เมื่อมีการยิง ลูกกระสุนออกไป จะพบคราบรอยนิ้วมือติดที่ปลอกกระสุน เนื่องจากความร้อน จะทำให้คราบเหงื่อ ของปลายนิ้วมือที่บรรจุกระสุนเกิดร่องรอยเป็นรูปลายพิมพ์นิ้วมือ สามรถส่งตรวจพิสูจน์ได้


โดย: พ.ต.ท.ธนูศิลป์ มะโรณีย์ IP: 58.10.64.243 วันที่: 19 มีนาคม 2556 เวลา:22:53:49 น.  

 
ขอบคุณสำหรับข้อมูลครับ


โดย: DR.MOO CAN DO วันที่: 13 เมษายน 2556 เวลา:23:51:19 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

DR.MOO CAN DO
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 42 คน [?]




ผมเป็น นิติพยาธิแพทย์ หรือ จะเรียกว่า หมอนิติเวช ก็ได้ครับ นิติพยาธิแพทย์ เป็นแพทย์เฉพาะทางสาขาหนึ่ง ซึ่งเมื่อเรียนจบแพทย์ทั่วไป 6 ปีแล้ว ก็ต้องเรียนต่อเฉพาะทาง นิติพยาธิอีก 3 ปี และเมื่อสอบผ่าน ก็จะได้รับวุฒิบัตรเป็นผู้เชี่ยวชาญสาขานิติเวชศาสตร์ และได้เป็นนิติพยาธิแพทย์ โดยสมบูรณ์
หน้าที่ของหมอนิติเวช แบ่งออกเป็น 2 ส่วนใหญ่ๆ
ส่วนแรก จะเกี่ยวข้องกับผู้ป่วยคดี โดยในผู้ป่วยคดีนั้นแพทย์นิติเวชจะมีหน้าที่ในการตรวจ และให้ความเห็นกับพนักงานสอบสวนเกี่ยวกับบาดแผลที่ตรวจพบ ซึ่งตำรวจจะนำไปใช้ในการตั้งข้อกล่าวหากับคู่กรณี และหน้าที่ต่อมาของแพทย์นิติเวชคือการเป็นพยานในชั้นศาลในคดีดังกล่าว
ส่วนที่สอง จะเกี่ยวข้องกับผู้เสียชีวิต โดยในกรณีผู้เสียชีวิตนั้นแพทย์นิติเวชมีหน้าที่ในการตรวจสถานที่เกิดเหตุในกรณีตายผิดธรรมชาติตามที่กฎหมายกำหนด และหากมีความจำเป็นต้องผ่าชันสูตร ก็จะต้องมีการทำรายงาน และให้ความเห็นเกี่ยวกับสาเหตุของการเสียชีวิต ส่งให้พนักงานสอบสวน สุดท้ายหน้าที่หลักที่สำคัญโดยหลีกเลี่ยงไม่ได้คือการเป็นพยานในชั้นศาลในคดีนั้นๆครับ
ประวัติการศึกษา
1.แพทยศาสตร์บัณฑิต คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล
2.วุฒิบัตรผู้เชี่ยวชาญสาขานิติเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
3.ประกาศนียบัตร “Crime Scene Investigation” โครงการร่วมระหว่าง International Law Enforcement Academy กับ Federal Bureau of Investigation Academy
4.ประกาศนียบัตร “การบริหารงานโรงพยาบาล” คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล
ผลงาน
1.อาจารย์ประจำภาควิชานิติเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ มศว.
2.อาจารย์พิเศษ สอนนักศึกษาชั้นปีที่ 3 โรงเรียนนายร้อยตำรวจ
3.อาจารย์พิเศษ สอนนักศึกษาปริญญาโท สาขานิติวิทยาศาสตร์ โรงเรียนนายร้อยตำรวจ
4.อาจารย์พิเศษ สอนนักศึกษาปริญญาโท สาขานิติวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร
5.วิทยากร หัวข้อ "ICD-10" ของกระทรวงสาธารณสุข
6.วิทยากร หัวข้อ "การตรวจสถานที่เกิดเหตุ" ของมูลนิธิร่วมกตัญญู และกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย
7.วิทยากรอบรมหลักสูตรนายร้อยตำรวจอบรม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
8.วิทยากร หัวข้อ "KPI รายบุคคล" ให้กับโรงพยาบาลและมหาลัยวิทยาลัย ในภาครัฐ
9.วิทยากร หัวข้อ "Living will" ให้กับโรงพยาบาลในภาครัฐและเอกชน10.วิทยากร หัวข้อ "นิติเวชศาสตร์กับงานด้านโบราณคดี" ให้กับคณะโบราณคดี มหาวิทยาลัยศิลปากร
11.ร่วมเขียนหนังสือ "KPI รายบุคคล"
12.ร่วมเขียนหนังสือ "มาตรฐาน ICD-10, ICD-9"
13.ที่ปรึกษารายการ "เรื่องจริงผ่านจอ" และ "Redline"
14.บทความทางวิชาการและผลงานวิจัยทั้งในและต่างประเทศ 15 เรื่อง
15.ปัจจุบันดำรงตำแหน่งผู้ช่วยศาสตราจารย์ ตั้งแต่ ปี พศ.2553
16.ปัจจุบันดำรงตำแหน่งรองผู้อำนวยการศูนย์การแพทย์สมเด็จพระเทพ ฯ คณะแพทยศาสตร์ มศว. ตั้งแต่ปี พศ.2551
ผศ.นพ.วีระศักดิ์ จรัสชัยศรี (DR.MOO CAN DO)
New Comments
Friends' blogs
[Add DR.MOO CAN DO's blog to your web]
Links
 
MY VIP Friend


 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.