Dr.Manta and the gang พาตะลุยแดนมังกร , Episode 7 (สัมผัสชีวิตแบบคาราวานภาค6.1) ใครที่พลาดหกภาคก่อนสามารถติดตามได้จากลิงค์ข้างล่างน่ะครับ จะได้ติดตามเป็นซีรีส์เดียวเลย ท่าทางทริปจีนทริปนี้จะทำออกมาถึง 10 ซีรีส์เลยน่ะเนี่ย อย่าเพิ่งเบื่อซะก่อนน่ะครับ คลิกที่นี่เพื่อดู Episode1 คลิกที่นี่เพื่อดู Episode2 คลิกที่นี่เพื่อดู Episode3 คลิกที่นี่เพื่อดู Episode4 คลิกที่นี่เพื่อดู Episode5 คลิกที่นี่เพื่อดู Episode6 ........................ หลังจากที่หดหู่กับห้องน้ำแล้ว เราก็มาดูสิ่งที่เจริญหูเจริญตากันมั่งดีกว่า วัดที่เราไปวันนี้ผมไม่ทราบเหมือนกันว่าชื่อวัดอะไร เนื่องจากคนที่พาเรามาพูดจีนกันโฉงเฉง สื่อสารลำบากมาก เดี๋ยวภาพต่อไปจะมีชื่อวัดอยู่ ถ้าหากว่าท่านใดสามารถอ่านภาษาจีนได้ รบกวนบอกชื่อวัดให้ผมทราบที จะขอบพระคุณเป็นอย่างยิ่งครับ นี่แหละครับป้ายชื่อวัด การเดินทางมาเที่ยวจีนครั้งนี้ เป็นหนึ่งแรงบันดาลใจที่ทำให้ผมอยากฝึกเรียนภาษาจีนขึ้นมาเลย เพราะประเทศจีนเป็นประเทศที่ใหญ่อันดับต้นๆของโลก ประชากรก็มีเป็นพันล้านคน หากเราเรียนรู้ภาษาเค้าไว้ เชื่อว่ามีประโยชน์แน่นอน และอีกหน่อยถ้าหากว่าสะพานมิตรภาพไทย-ลาวที่อ.เชียงของสร้างเสร็จ การเดินทางของคนจีนคนไทยไปมาหาสู่กันจะง่ายดายกว่านี้มากๆ แบบนี้ต้องหาคนมาสอนซะแล้วสิ วัดนี้ได้วัฒนธรรมมาจากทางธิเบต ที่บริเวณหน้าวัดจะมีตัวหมุนๆสีทองอยู่ไม่รู้เรียกว่าอะไร ไกด์บุ้ยมือเป็นแนวๆบอกให้เราไปลากและหมุนมันครบสามรอบ หมุนไปครบหนึ่งรอบจะมีเสียงกระดิ่งดังหนึ่งครั้ง คงจะประมาณว่าหมุนเพื่อให้เกิดความเป็นสิริมงคลครับ มาดูภายในตัววัดกันบ้าง ผมว่าเป็นความลงตัวของการผสมผสานกันของวัดจีนและธิเบต จะดูให้เป็นจีนๆก็ได้ มองให้เป็นธิเบตก็พอไหว ภายในวัดทาสีโทนออกเหลืองๆ บริเวณผนังบางที่จะมีรอยมือแปะๆอยู่ คาดว่าจะเป็นรอยฝ่ามือของผู้ที่แสวงบุญ(หรือเปล่า?) ในบริเวณใจกลางของวัดจะมีต้นไม้อยู่สองต้น ดูจากรูปร่างหงิกงอแล้วน่าจะอายุหลายร้อยปี ไม่แน่ใจว่าเป็นต้น Camelia หรือเปล่าหนอ? บริเวณหน้าตัววิหาร มีลามะน้อยกำลังปัดกวาดทำความสะอาดอยู่ ท่าทางกำลังงงและสงสัยว่าเจ้าคนนี้มันจะเก็บภาพไปทำไมเยอะแยะ แต่พวกเราก็ถ่ายภาพกันทุกชอตจริงๆแหละ ก็บ้านเรามันไม่มีอย่างนี้นี่นา ได้โอกาสมาแล้วต้องถ่ายภาพให้หนำใจ แถมคราวนี้ผมยังไม่ค่อยกังวลเรื่องเมมโมรี่การ์ดจะหมดซะด้วย เพราะได้รับความอนุเคราะห์จากนาย Little knight ให้ยืมมาอีก 16 GB รวมกับที่ผมมีอยู่เดิมอีก 8 GB งานนี้สบายแฮครับ สภาพแสงที่จีนก็ช่างเหมาะต่อการถ่ายภาพเหลือเกิน โดยเฉพาะในวันนี้ที่ท้องฟ้าปลอดโปร่ง ไม่มีเมฆหมอกมาบดบังทัศนวิสัยแต่อย่างใด แดดก็แรงกำลังพอเหมาะ จนเจ้าเหมียวตัวน้อยอดไม่ได้ที่จะมานั่งผิงแดดรับความอบอุ่นกับเค้ามั่ง พวกเราเดินทะลุประตูวัดออกมาทางด้านข้างของตัววัด บริเวณนี้จะมีต้นไม้ใหญ่อยู่เยอะแยะไปหมด อากาศเลยเย็นมากขึ้นกว่าเดิมหน่อย สายลมที่พัดมากระทบตัวเราเย็นก็จริงแต่ทว่ารู้สึกสดชื่นมากครับ ที่กิ่งก้านของต้นไม้ใหญ่เหล่านี้จะมีธงมนต์แขวนอยู่เต็มไปหมด บริเวณลำต้นของต้นไม้ก็จะมีไลเคนมั่ง มอสมั่งขึ้นปกคลุมเต็มไปหมด เหมือนกับอ่างกาแถวๆดอยอินทนนท์บ้านเราเลยครับ เวลาที่เรายืนอยู่บริเวณนี้ ได้ยินเสียงกระดิ่งที่ดังเป็นระยะๆตามจังหวะสายลมที่พัดมา และมองเห็นธงมนต์ปลิวโบกไสว ผมรู้สึกสงบอย่างประหลาด กลับมาในตัววัดอีกครั้ง เห็นลามะคนเดิมเมื่อกี้นำอะไรสักอย่างขึ้นไปตากแดดอยู่ที่ชั้นสอง อยากรู้จังว่าสิ่งนั้นคืออะไร? มันคือสิ่งนี้นั่นเองครับ เป็นก้อนดินเหนียวที่ลามะจะผสมคลุกเคล้าดินในอ่างหินสกัด รู้สึกจะผสมเม็ดทานตะวันลงไปด้วย(ของโปรดของ ณ มิตรเลยน่ะนั่น) และแต่ละอันก็จะบรรจุเหรียญซึ่งผู้ที่มาทำบุญที่วัดนี้นำมาถวาย เมื่อเวลาย่างไปเกือบบ่ายโมงแล้ว พวกเราก็ต้องร่ำลาจากวัดแห่งนี้ไปโดยที่ยังไม่ทันได้รู้จักชื่อวัดเลย กะว่าจะพึ่งพากเพื่อนๆในนี้ช่วยบอกให้โดยเฉพาะเลยน่ะเนี่ย หลังจากออกจากวัด พวกเราก็กลับขึ้นไปนั่งบนหลังม้า(จอมตด)เหมือนเดิม และรอบบ่ายนี้เจ้าม้าทั้งสามตัวของผม ของน้องโอ๋ และน้องตุ้ยดูท่าว่าจะตดหนักหน่วงยิ่งกว่าตอนเช้าซะอีก กลับไปไทยคราวนี้จะส่งยาไซเมธิโคนเพื่อขับลมส่วนเกินมาให้มันกินซะหน่อย เหม็นมากๆ พี่คนจีนเสื้อเขียวพาเรามายังลานแห่งหนึ่งกลางหุบเขา บริเวณนี้เป็นที่ราบโล่ง เหมือนเป็นที่ทำสงครามสามก๊กยังไงยังงั้นเลย เห็นยอดภูเขาหิมะมังกรหยกอยู่ไกลลิบๆ ตอนนี้เราหยุดเพื่อให้ม้าได้พักดื่มน้ำและกินหญ้ากันอีกรอบนึง แต่ผมก็หิวเหมือนกัน เห็นเค้าว่าทริปนี้จะได้กินข้าวด้วย ทำไมป่านนี้ยังไม่ได้กินเลย ท้องร้องโครกครากแล้วเฟ้ย เดี๋ยวก็ไปแย่งหญ้าของน้องม้ากินซะเลยนิ เวลาก็ปาไปบ่ายโมงนิดๆแล้ว เราตั้งความหวังเอาไว้ว่าเดี๋ยวเค้าน่าจะมีอาหารกล่องให้เรากิน แต่ก็ไม่มีวี่แววของหม้อไหหรือถ้วยชามใดๆ ท่าทางจะต้องรออีกนาน เลยนั่งดูคนซ้อมขี่ม้ากันเพื่อกลบเกลื่อนอาการหิวไว้ก่อน ที่นี่เค้าจะให้พวกเราฝึกซ้อมขี่ม้าแบบวิ่งด้วยน่ะครับ หากใครสนใจก็อาจจะบอกให้เค้าพาไปวิ่งสักรอบสองรอบก็ได้ แต่ผมตอนนี้ยังรู้สึกระบมอยู่เลยต้องขอบาย เพื่อนๆที่มาด้วยกันก็ด้วย ไม่มีใครอยากควบม้าวิ่งซักกะคน จะว่าไปแล้วก็สงสารม้าพวกนี้เหมือนกัน มันคงต้องออกเดินทางไกลๆแบบนี้ทุกวันสิน่ะ ตอนที่ไปขี่ม้าที่แคชเมียร์เมื่อสามปีก่อนมันไม่เห็นขี่ไกลแบบนี้เลย บางทีตอนที่ขึ้นเขาชันอยากจะลงจากหลังม้าเพื่อที่จะผ่อนแรงให้มัน แต่ก็กลัวว่าจะเสียเวลาของทีม และพาลจะตามขบวนไม่ทันเอา อากาศตอนบ่ายโมงแบบนี้ และมองจากรูปถ่ายเห็นแดดเปรี้ยงๆแบบนี้หลายคนคงคิดว่าน่าจะร้อน แต่ผิดถนัดครับ นั่งในร่มกันแทบไม่ได้เลย แต่ละคนถ่อไปนั่งผิงแดดกลางลานกันหมดเลย ก็อากาศมันเย็นหวิวซะขนาดนั้น ขอจบการขี่ม้าแบบคาราวานเอาไว้เท่านี้ก่อนน่ะครับ เดี๋ยวภาคต่อไปจะพาไปล่องเรือที่ทะเลสาบ Lashi ครับ รับรองสนุกไม่แพ้กัน ขอบคุณที่ติดตามรับชมครับ Kamigami sama Ost.Spirited away   Create Date : 27 พฤศจิกายน 2551 16 comments Last Update : 23 สิงหาคม 2552 20:14:44 น. Counter : 1105 Pageviews. Share Tweet

แรงกว่าstarwarซะอีกนะเนี่ยย ภาพสวยเพลงเพราะค่ะ ชอบๆ แต่ยังไม่ได้อ่าน รูปโหลดนานนนน ไปแระ   โดย: Jolisa 27 พฤศจิกายน 2551 16:18:08 น.

บรรยากาศสวย ภาพสวย น่ายินดีครับ ที่ได้ไปเยือนที่สววยๆแบบนี้ เข้ามาแนะนำตัว ยินดีที่ได้รู้จักกันครับ>   โดย: The no ordinary guy 27 พฤศจิกายน 2551 16:19:23 น.

ชอบภาพม้าจัง..มันทำหน้าเหมือนเบื่อใครใกล้ๆรึเปล่านี่..ล้อเล่นค้า...   โดย: rm IP: 119.42.84.141 27 พฤศจิกายน 2551 17:14:13 น.

555+ ยังติดท็อปไฟล์ค่ะพี่ พี่เข้าใจอะไรผิดไปหรือเปล่า นาห์บอกว่ารางวัลสำหรับคนที่ติดตามทุกบล็อกนะคะ ไม่ได้หมายความว่าเจิมทุกบล็อกซะหน่อย ว่าแต่สรุปแล้วพี่ได้ข้าวเปล่าอ่ะ   โดย: มัยดีนาห์ 27 พฤศจิกายน 2551 18:12:07 น.

ภาพสดใสทุกภาพอีกเช่นเคยทั้งทริปเลยครับน้อง เสียอย่างเดียวเจ้าข้อมือที่นาฬิกาอาศัยอยู่หนะ "เหี่ยวไปนีสสสสสนะน้อง" บำรุงหน่อยจิ เพราะหน้ากับมือเริ่มเหี่ยวพอๆ กันแล้วอ่ะจ้าาาาา   โดย: พี่รี่+ต๊อก 27 พฤศจิกายน 2551 18:12:13 น.

เท่ห์มากๆอะ..ซีรี่ยส์นี้..ไม่รู้ไปหาเพลงมาประกอบได้จากไหนเนอะ เข้ากั๊น เข้ากัน..แหร่มจริงๆครับพี่   โดย: อ๊อด IP: 159.92.57.11 27 พฤศจิกายน 2551 19:00:55 น.

งานการไม่ทำ มานั่งอัพบล็อคน่ะ น่าอิจฉาคนมีเวลาว่างจริงๆ   โดย: iPOND IP: 61.19.67.63 27 พฤศจิกายน 2551 19:43:12 น.

สัวสดีครับคุณหมอ ภาพสวยมากครับ ชอบมากที่สุดคือภาพพระที่กำลังเดินออกมาจากประตูวัด ถ้าผมเป็นกรรมการคัดเลือกรูปประกวด ผมให้ภาพนี้ชนะเลิศครับ ที่ร้านตอนนี้เงียบมากครับ ได้รับผลกระทบเต็มๆ ตอนนี้ลูกค้าหายไป 90 % เป็นปีที่หนักหน่วงมากๆสำหรับผมและลูกน้องครับ   โดย: กะก๋า ฮา 3 สายสะพาย (กะว่าก๋า ) 27 พฤศจิกายน 2551 20:39:00 น.

ตามมาเที่ยวกันต่ออีกครับ รูปทุกรูปดูมีชีวิตชีวาจริงๆ ถ่ายทอดเรื่องราวได้ดีมากๆเลย   โดย: chalawanman 27 พฤศจิกายน 2551 21:51:36 น.

โห..ภาพชุดนี้สวยขาดจริงๆ... ผมชอบวัดแนวทิเบต..อย่างนี้จัง มิตร กะ โอ๋..เนี่ยทำเนียน...เป็นคนจีนได้เลยอ่ะ ผมก็ได้โอกาสอัพบ้างดีกว่า... กลัวเมมโมรี่พังเหมือนกัน...อิอิ   โดย: Little Knight 27 พฤศจิกายน 2551 23:48:09 น.

ไม่ได้มาตั้งนาน แอบไปซะไกล บังเอิญติดงานตามเคยครับ ไม่ว่างเลยไม่ได้เข้ามาเลย ไปถึงตอนที่6ซะละ ว่างๆเดี๋ยวตามเก็บอ่านทีเดียวเลย วันนี้ดึกละดูแค่ตอนเดียวก่อน รูปงามมากครับ ชอบภาพเหลืองแดง สีจัดจ้านดี เณรน้อยคงงง ตามมาถ่ายอยู่ได้ หน้าบึ้งเลย   โดย: แป๊กก 28 พฤศจิกายน 2551 9:01:29 น.

ถ้าแน่จริง... อัพอีกดิ รออ่านล่วงหน้า 50 บล๊อกแล้วนะเนี่ย พลังเยอะดีนัก เอาดิๆๆๆๆๆๆ   โดย: พี่รี่+ต๊อก 28 พฤศจิกายน 2551 10:25:30 น.

เฮ้ย..เลนส์ที่ฝากใว้ตายแล้วหรอ.. ตายในคลีนิค..เก็บค่าทำขวัญนะเฟ้ย... ล่าสุดกล้องผมอยู่เจแปน-แดนอาทิตย์อุทัย คาดว่าคงยังไม่ได้กลับสู่มาตุภูมิอีกนาน จนกว่าจะไปสลายม๊อบเสือเหลืองได้.. โถ่..ได้โปรดปล่อยกล้องผมกลับเมืองไทยด้วยเถิด...   โดย: Little Knight 28 พฤศจิกายน 2551 13:50:14 น.

อัพ อัพ อัพ อีก.. อารายกัน..แค่วันศุกร์ทำเป็นงานเข้า..ไม่อัพ เพื่อนๆรออ่าน รอเจิมกันเป็นแถว.. เร็วๆBlog กำลังติดลมบน...ชิงเกิดคว้าสายสะพาย มาเป็นเกียรติแก่กลุ่มเราบ้าง...สู้ๆๆๆ   โดย: Little Knight 28 พฤศจิกายน 2551 16:47:57 น.

ดูสิ .. เพื่อนๆ ยุแยงกันเป็นแถวๆ เลย แล้วจะรอดเรา ไปอีกคนได้ไง .. อัพอีก อัพอีก อัพอีก ชุดนี้ชอบมากๆ กับ #4 ถ้านับจากรูปสุดท้ายขึ้นไปค่ะ แบบว่าชอบสีและองค์ประกอบของภาพ เห็นแล้ว ชอบใจอยากไปนั่งบนหลังม้า ถึงแม้ว่าอาจจะต้องบ่น เรื่องระบมเหมือนคุณหมอก็ตามค่ะ   โดย: JewNid 28 พฤศจิกายน 2551 20:22:23 น.

ชอบอากาศหนาว ๆ กับแดดอุ่น ๆ แบบเนี้ยค่ะ   โดย: มันจะดีเหรอคะ 3 ธันวาคม 2551 9:31:51 น.