Dr.Manta and the gang พาตะลุยแดนมังกร , Episode 6 (สัมผัสชีวิตแบบคาราวานที่ Lashi lake) ใครที่พลาดสี่ภาคก่อนสามารถติดตามได้จากลิงค์ข้างล่างน่ะครับ จะได้ติดตามเป็นซีรีส์เดียวเลย ท่าทางทริปจีนทริปนี้จะทำออกมาถึง 10 ซีรีส์เลยน่ะเนี่ย อย่าเพิ่งเบื่อซะก่อนน่ะครับ คลิกที่นี่เพื่อดู Episode1 คลิกที่นี่เพื่อดู Episode2 คลิกที่นี่เพื่อดู Episode3 คลิกที่นี่เพื่อดู Episode4 คลิกที่นี่เพื่อดู Episode5 ................ วันนี้ผมและเพื่อนๆร่วมทริปรีบตื่นแต่เช้าตรู่ เพราะมีนัดที่จะออกไปเที่ยวทะเลสาบ Lashi กันในวันนี้ ทะเลสาบ Lashi นั้นอยู่ห่างจากตัวเมืองเก่าลี่เจียงไปประมาณสัก 10 กิโลเมตร เป็นทะเลสาบที่อยู่สูงจากระดับน้ำทะเลปานกลางถึง 2500 เมตร มีนกอพยพมาอาศัยอยู่ประมาณ 50 สายพันธ์ น้องต้น Unravel น่าจะหาโอกาสมาส่องนกแถวๆนี้และเก็บภาพมาให้พี่ๆดูมั่งน่ะ อากาศที่เมืองเก่าลี่เจียงตอนเช้าเนี่ยหนาวมากๆ กำลักซุกตัวอยู่ที่ใต้ผ้าห่มหนาและฟูกที่อุ่นด้วยผ้าคลุมแบบฮีทเตอร์ อุ่นได้ที่เลย แต่ก็ต้องจำใจตื่นขึ้นมาล้างหน้าแปรงฟัน พวกเราพร้อมใจกันละเว้นการอาบน้ำตอนเช้าๆ(ชักจะเหมือนคนจีนท้องถิ่นไปทุกที) เนื่องด้วยน้ำที่เย็นจัดนั่นเอง ยามเช้าตรู่ที่เมืองเก่าลี่เจียงนั้นยังไม่คลาคร่ำไปด้วยผู้คนเหมือนตอนสายๆ การค่อยๆเดินละเลียดชมบรรยากาศตอนเช้าตรู่นั้นน่าจะเหมาะที่สุด แต่พวกเราก็ต้องรีบเดินจ้ำอ้าว เพราะกลัวพลาดนัด พวกเราซื้อแพคเกจ One day trip มาเพื่อที่จะไปขี่ม้า ที่เลือกซื้อทัวร์เป็นแพคเกจก็เนื่องจากว่าดูแล้วราคาสมเหตุสมผล แถมก็ยังไม่ต้องเสียเวลาอีกครึ่งวันลองผิดลองถูก ถ้าพูดภาษาจีนคล่องปร๋อก็ว่าไปอย่าง นี่แต่ละคนพึ่งพาไม่ได้เลย แต่ถึงแม้เราจะไปกับทัวร์กรุ๊ปเล็กๆ คนที่พาเราไปก็พูดภาษาอังกฤษไม่ได้อยู่ดี เวลาจะไปไหนพวกเราก็ต้องอาศัยสายตา เห็นเค้าทำอะไรก็ทำตาม เดินไปไหนมาไหนตานึงเล็งช่องมองภาพ แต่ก็ต้องขยันหันมาชำเลือกเพื่อนร่วมทริปด้วย ว่าเค้าจะก้าวย่างไปทางไหน เราออกเดินทางโดยรถตู้ขนาดเล็ก ใครอยากรู้ว่าขนาดเล็กยังไงก็ลองจินตนาการถึงรถขนาดมิร่า แต่อาจใหญ่กว่านั้นนิดนึง พอจะนั่งอัดๆกันได้แปดคน พวกเราสี่คน และสาวชาวจีนอีกสี่คน(ไม่มีใครพูดภาษาอังกฤษอีกแล้ว) อาหารเช้าเรากินกันง่ายๆเอาแค่พออิ่ม เก็บท้องเอาไว้กินอาหารมื้อเที่ยงที่เค้าจะเลี้ยงดีกว่า แบบว่างกครับ ประหยัดเงินกองกลางแหะๆ อากาศในวันนี้ปลอดโปร่งโล่งสบายมากๆ แดดกำลังพอดี อาจจะแรงเปรี้ยงๆบ้างในตอนบ่าย แต่มันเป็นแดดที่แรงท่ามกลางอากาศที่หนาวเย็นครับ พวกเรากลับจากทริปนี้มา ทุกคนหน้าแดงแจ๋ หูลอก หน้าลอกไปตามๆกัน ผมยิ่งไม่ค่อยชอบทาครีมกันแดดอยู่ด้วย กลับมาแล้วแสบหน้ามากๆ นั่งรถกินชมชมวิวมาไม่นานนัก พวกเราก็มาถึงยังพื้นที่โล่งๆริมทะเลสาบ Lashi ที่นี่มีม้าอยู่หลายตัวเลยครับ ที่เห็นอยู่ทางซ้ายมือนั่นก็คือห้องน้ำครับ และก็ตามแบบฉบับห้องน้ำของจีน พวกเราเข้าไปทำธุระก็ต้องผงะออกมาทันที เพราะมันเลวร้ายกว่าที่เราเคยเจอมาเลย ขนาดจะถ่ายรูปด้านในมาฝากยังกดชัตเตอร์ไม่ลงเลย ผมเลยเลือกที่จะทำธุระด้านนอกห้องน้ำแทน ฉี่ให้ม้าดูครับ เห็นม้าแอบชำเลืองมามองพร้อมกับส่ายหน้า มันหาว่าไซส์ผมกระจอกครับ อิอิ (หมายถึงไซส์รองเท้าน่ะครับ) สักพักเจ้าของม้าก็ไปปลดม้าที่ผูกเอาไว้กับท่อนไม้มาให้พวกเรา เห็นมันตัวเท่าๆกันหมดเลย ก็เลยคิดว่าตัวไหนก็ได้ ไม่น่าจะแตกต่างกัน แต่สุดท้ายม้าของผม ของน้องตุ้ย และของน้องโอ๋ เป็นม้าสามตัวที่ตดบ่อยที่สุดเลย ฟังไม่ผิดหรอกครับ ม้ามันตดจริงๆครับ ตดเสียงดังมากๆ ขนาดนั่งอยู่บนหลังของมันแรงสั่นสะเทือนที่ทวารของมัน เรายังรับรู้ได้เลย แถมคนที่อยู่ข้างหลังม้้าตัวที่ตดต้องรับกรรมดมตดม้าไปเต็มๆอีกต่างหาก ผมจึงพยายามชิงอยู่หน้าคนอื่น กะจะกลั่นแกล้งให้ดมตดม้าของผมซะหน่อย บางทีผมก็ทำเนียน แอบตดแจมกับม้าไปด้วย สะใจ 5555 นี่แหละครับโฉมหน้าม้าของผม ผิวสีเข้มเกือบดำ สายสีเขียวอ่อนนี่แหละ ตอนนี้ก็มองหน้าทำความรู้จักกันเอาไว้ก่อน แต่ดูจากสายตามันแล้วเนี่ย มันอยากให้ผมขี่บนหลังมันไหมหนอ? เมื่อได้ม้าแล้วก็พร้อมที่จะควบมันออกไปท่องเที่ยวแล้วครับ วันนี้จะพาไปสัมผัสกับชีวิตคาราวานแถวบนยอดเขาครับ เหมือนคาวบอยเค้าจะมีอาวุธคู่กายเป็นปืนสั้นมั่งยาวมั่ง แต่พวกผมมีอาวุธคู่กายเป็นกล้องครับ กดแชะๆๆ เบลอก็กด ไม่เบลอก็กด ม้าบางตัวก็เชื่องว่าง่าย แต่บางตัวนี่สิ คิดจะหยุดก็หยุด คิดจะเลี้ยวก็เลี้ยว ใหม่ๆพวกเรายังไม่ค่อยชินกับการบังคับม้าสักเท่าไหร่ แต่แปร๊บๆ พวกเราก็สามารถบังคับมันได้ในขั้นพื้นฐาน อาทิเช่นเลี้ยวซ้ายเลี้ยวขวาได้บ้าง ขี่ม้าไปก็ชมบรรยากาศข้างทางไป ผู้คนแถวนี้อยู่กันแบบเรียบง่ายครับ ปลูกแอบเปิ้ล ปลูกองุ่นม่วง สาลี่ เห็นแล้วอยากไปเด็ดกินจากต้นจัง คนนำฝูงม้ารีบชี้ไปที่บ้านหลังนี้พร้อมกับพูดเป็นภาษาจีนว่า "อะโช๊ะอะเช๊ะอะจึ๋งๆโฉงฉางโต่งเต่ง" (เดาเอาว่าน่าจะหมายถึงบ้านนี้แหละบ้านของผม) ลองมองย้อนไปทางด้านหลังตอนที่เราขี่ม้าขึ้นเนินเขามาได้สักพัก เห็นทะเลสาบสีน้ำเงินสดใสนั่นแหละครับคือทะเลสาบ Lashi เดี๋ยวเสร็จจากการขี่ม้าแล้ว เราจะได้ไปล่องเรือต่ออีกทีนึงครับ ท่าทางทะเลสาบแห่งนี้จะมีนกน้ำอยู่เยอะสมคำร่ำลือ ว่างๆสงสัยต้องมาฝึกส่องนกแถวนี้ซะหน่อย น้องโอ๋ของเราวันนี้หน้าสวยใสไร้สิว แต่ใครจะไปรู้ว่าตอนกลับไปหน้าคงจะแดงเป็นปื้นๆ ไม่เป็นไรเนอะ ของแบบนี้ อยากสนุกก็อย่าไปกลัวแดด สักพักนึงก็มีเสียงสาวจีนคนนึงที่มาด้วยกันกับพวกเราหวีดร้องกรี๊ดๆ ที่เธอหวีดร้องก็เพราะว่าม้าของเธอมันดื้อหน่ะสิ เห็นหญ้าตรงโน้นเขียวสดหน่อย ก็แตกฝูงไปซะงั้น แถมยังเดินไปทางที่สูงชันซะด้วย เป็นใครก็หวาดเสียวเป็นธรรมดา ช่วงนี้ใบไม้กำลังเปลี่ยนสีสวยงาม เห็นต้นไม้สีเหลืองแบบนี้มันช่างตัดกับท้องฟ้าสีครามเข้มจริงๆ ดีที่วันนี้พกฟิลเตอร์โพลาไรซ์มาด้วย เลยทำให้ตัดแสงสะท้อนที่ฟุ้งกระจายได้พอสมควร ภาพทะเลสาบอีกมุมหนึ่งซึ่งสูงกว่าจุดแรก และตรงนี้เราจะเริ่มเข้าไปในป่าสนแล้ว ค่อยยังชั่วหน่อย อย่างน้อยก็ขี่ม้าในร่ม ไม่ร้อนแบบนี้น่าจะขี่ได้นาน การขี่ม้าใครว่าสบาย ผมว่าบางทีถ้าขี่ไปนานๆก็ทรมาณเหมือนกันน่ะครับ หากว่าเราขี่แบบลงน้ำหนักตัวไม่สัมพันธ์กับม้าเดิน หลังของมันก็จะกระแทกตรงนั้นของเราปุ๊กปั๊ก ยิ่งตอนที่มันวิ่งเร็วๆยิ่งแล้วใหญ่ น้ำตาแทบจะเล็ดเลยทีเดียว และแล้วเราก็ได้เข้ามาสู่ป่าสนซะที เห็นบรรยากาศแบบนี้แล้วนึกถึงหนังจีนกำลังภายในขึ้นมาตะหงิดๆ อยากแต่งชุดแบบก๋วยเจ๋งแล้วมีกระบี่มังกรหยกสะพายอยู่ข้างหลัง วิ่งควบม้าฝ่าต้นสนที่ขี้นแน่นขนัดแบบนี้แหละ ม้านี่ก็แปลก บางทีทางที่ดีๆกว้างๆมีให้เดินไม่ยักกะเดิน ชอบไปเดินตรงทางแคบๆ เบียดกับต้นไม้มั่ง เดินชิดเหวมั่ง บางทีถ้าไม่ระวังก็พาขาเรากระแทกต้นไม้ตุ๊บตั๊บ สงสัยมันจะแค้นเราที่นั่งบนหลังมันแน่ๆ ถ้าให้ผมมาเองผมคงหลงแน่ๆ ก็ต้นไม้หน่ะสิครับ มันดูเหมือนๆกันไปซะหมด แยกไม่ออกว่าทางไหนที่เราเดินมา ทางไหนที่กำลังจะไปต่อ น่าจะมีเครื่อง GPS ติดบนหลังม้าซะให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย จะได้ไม่ต้องกลัวหลง ชาวบ้านบางคนก็มาเก็บใบสนที่ร่วงหล่นอยู่ตามพื้น ไม่รู้ว่าเอาไปทำเป็นอาหารให้สัตว์หรือเปล่า หรือว่าเอาไปทำเป็นเชื้อเพลิง บางคนก็พาฝูงแพะมาเลี้ยงบนยอดเขาแห่งนี้ แพะสีดำหลายสิบตัวเลยทีเดยว พวกเราขี่ม้าลัดเลาะไปตามชะง่อนหินมั่ง ไต่ขึ้นไต่ลงอยู่พักใหญ่ๆ สักพักก็ทะลุออกที่อีกด้านหนึ่งของภูเขา เริ่มกลับสู่แสงแดดเจิดจ้าอีกครั้งหนึ่ง ที่นี่เราเห็นวัดแบบธิเบตอยู่ข้างหน้าไม่ไกลเท่าไหร่นัก คาดเอาว่าเค้าน่าจะให้พวกเรามาเที่ยวชมวัดแห่งนี้ เป็นวัดที่ตั้งอยู่ห่างไกลจากบ้านผู้คนพอสมควร มีความสงบเงียบใช้ได้เลยทีเดียว ผมชอบครับ พี่คนจีนเสื้อเขียวพูดภาษาจีนอีกครั้ง เดาเอาเหมือนเดิมว่าให้ลงก่อน ให้ม้าได้พักกินน้ำกินหญ้าก่อน พวกเราก็รีบลงสิครับ เพราะตอนนี้หลังจากที่นั่งม้ามาได้พักใหญ่พวกเราเกิดอาการปวดฉี่ขึ้นมาอย่างรุนแรง สายตารีบสอดส่ายหาห้องน้ำโดยด่วน ห้องน้ำตั้งอยู่ห่างจากตัววัดไปประมาณห้าสิบเมตร ผมทำใจเผื่อเอาไว้ก่อนที่จะเข้าไปใช้บริการ และก็เป็นไปดังคาด มันเป็นเหมือนกันหมดเลยจริงด้วย ที่เห็นเป็นปล่องๆนั่นหน่ะ ถ้าใครจะถ่ายหนักก็ต้องหย่อนให้ตรงช่องด้วยน่ะ แต่ครั้นจะก้มไปเล็งก็จะเจอภาพอันบาดตาบาดใจ สยองขวัญสั่นประสาทมาก ผมรีบฉี่รีบออกเลยครับ ดูหน้าผมตอนเดินออกมาจากห้องน้ำก็รู้ว่ารู้สึกอย่างไรกับห้องน้ำ อิอิ ภาพนี้สอยมาโดยเพื่อนร่วมแกงค์ครับ แอบเก็บภาพผมตอนทีเผลอ สงสัยคนถ่ายเคยเป็นปาปารัสซี่มาก่อนแน่ๆ ....... ขออนุญาตจบซีรีส์นี้ไว้กลางคันก่อนน่ะครับ เพราะภาพมันเยอะเกิน เดี๋ยวกระทู้จะโหลดไม่หมดครับ หากมีแรงเหลืออีกแป๊บจะตั้งกระทู้ใหม่ ถ้าหากว่าไม่มีแรงก็คงต้องเป็นวันพรุ่งนี้เลยครับ ขอบคุณที่ติดตามรับชมครับ Only you by Joshua Radin   Create Date : 26 พฤศจิกายน 2551 11 comments Last Update : 23 สิงหาคม 2552 20:15:08 น. Counter : 1318 Pageviews. Share Tweet

กลับมาทวงความเป็นหนึ่งอีกแย้ว...ถ้าไม่มีใครชิงตัดหน้านะ อิอิอิ ได้กลิ่นธูปเรียกปั๊บ ก็โผล่มาปุ๊ปเลย.. นึกว่าจะไม่ได้เห็นรูปกระโดดซะแล้วพี่หมอ....แต่แล้วก็ได้ยล ได้โดดจนได้เนอะ ทริปนี้หน้าตาไม่มีใครออกแนวไทยซักคน..ทั้งตี๋ ทั้งหมวย ทั้งแก๊งค์เลย..แล้วนี่คนที่นั่นเค้าอาจจะแอบคิดก็ได้ว่า เชอะ..ที่แท้ก็จีน แต่ทำเป็นพูดไทย...อิอิอิ ทริปนี้เจ๋งจริงๆครับ ได้ไปหลายที่เนอะ....หืม..อยากมีโอกาสไปเที่ยวเมืองจีนกับเค้าบ้างจัง.. รักษาสุขภาพด้วยนะ...เชียงของหนาวใช่ไหมหล่ะ....ที่นี่ก็หนาวเช่นกัน   โดย: อ๊อด สิงห์นครงพิงค์ IP: 92.9.88.41 26 พฤศจิกายน 2551 21:51:04 น.

- หวัดดีน้อง ... "แสง Flare ธรรมชาติแน่นะนั่น" มันดูเกินจริง จริงจริ๊งงงงงงงเล้ยยยยย ยอมรับมาซะดีดีว่า แสงธรรมชาติมีภาพไหนบ้าง บอกมาๆๆๆๆ - ภาพใสดีอ่ะ - เห็น Bg แล้วอยากกินกล้วยหรือน้อง   โดย: พี่รี่+ต๊อก 26 พฤศจิกายน 2551 22:16:25 น.

....   โดย: iPOND IP: 61.19.67.208 26 พฤศจิกายน 2551 22:47:53 น.

สงสารม้าตัวที่พี่นั่งจังเลย แบกรับน้ำหนักไม่พอยังทรมานกะกลิ่นอีก แต่ชอบทะเลสาบสวยมากกกกกกก ป่าสนก็สวยเหมือนในหนังจีนเลย เออ พี่น่าจะมีแฟนพันธุ์แท้ตามติดซี่รี่ย์ของพี่นะ แบบว่าใครมาชมทุกบล็อกได้รางวัล 555+ นาห์ว่านาห์กะพี่อ๊อดชนะเห็นๆ มีอีกบล็อกไหมหนอ ลุ้นๆๆๆ   โดย: มัยดีนาห์ 26 พฤศจิกายน 2551 22:50:27 น.

อยากขี่ม้าตามเที่ยวด้วยจังค่ะ แต่กลัวเหลือเกินว่า ม้ามันจะบ่นออกมาดังๆ ว่าหนักจะโว้ย ... ภาพสุดยอดมากเลยคะ แวะเยือนบล็อกเก่ายังอิ่มใจ กับภาพยังไม่หาย มาเจอบล็อกใหม่อีกแล้ว ต้องบอกว่า คุณหมอขยันจริงๆ ล่ะคะ .. วันล่ะ 2 บล็อกอย่างนี้ เหมือนว่ากำลังดี ไม่มาก ไม่น้อยนะค่ะ ...   โดย: JewNid 26 พฤศจิกายน 2551 23:53:51 น.

ชอบมากเลยค่ะ บรรยากาศ.....หลับตาก่อนนะค่ะ แล้วฝันว่าตัวเองจะได้ไปมั่ง... ฝั-น-ห-วา-น ฟ้าสวยได้ใจ   โดย: แพนด้าเริงระบำ 27 พฤศจิกายน 2551 0:21:09 น.

รอยฉี่ที่ห้องน้ำเป็นของหมอใช่เปล่า... อิอิ..นิสัยไม่ดี..ฉี่ไม่เช็ดไม่ราดน้ำ.. ยังอุตสาห์มาถ่ายรูปให้ดูอีก..หุหุ ม้าตด..เพราะออกแรงแบกเจ้าพวกคนไทยกลุ่มนี้แหละ ม้าเนี่ย..ทำได้ดีจริงๆ..เพื่อนที่เมืองไทยชอบๆๆๆ   โดย: Little Knight 27 พฤศจิกายน 2551 13:46:31 น.

ขอบอกว่าม้าตัวที่พี่หมอนั่งอ่ะนะ ทั้งตดทั้งอึ๊ไปตลอดทางเลยอ่ะ ที่สำคัญคือม้าของโอ๋เดินตามหลังอยู่เนี่ยดิ ย่างขวาตดปู๊ด ย่างซ้ายตดป๊าด ดีนะที่ไม่ค่อยมีกลิ่น ไม่งั้นคงเป็นลมตกม้าอยู่แถวนั้นแล้วอ่ะ   โดย: ผีคิว IP: 125.24.218.105 28 พฤศจิกายน 2551 0:21:02 น.

โดย: มันจะดีเหรอคะ 3 ธันวาคม 2551 9:28:40 น.

ep.นี้..มีเรื่องให้ขำเยอะจังค่ะ.. ภาพสวยใสไร้ที่ติเหมือนเดิมค่ะ.. อืม..ตอนแรก..คิดว่าม้าจะช็อคเรื่องไซส์ของคุณหมอซะอีก..ประมาณว่าใหญ่กว่าไซส์ม้าน่ะ..(ไซส์เท้าน่ะค่ะ..เพราะม้าไม่ใส่รองเท้า)อิอิ   โดย: AB_PAE 4 ธันวาคม 2551 9:48:20 น.

นอกจากเรื่องราวที่ถ่ายทอดได้ดีมาก ๆ แล้ว ยังชอบเพลง only you มาก ๆ ค่ะ โดยเฉพาะตอนนี้นั่งในร้านกาแฟ แล้วทำงานไปด้วย มีความสุขมากค่ะ ขอบคุณสำหรับเพลงเพราะ ๆ แบบนี้จริง ๆ ค่ะ   โดย: Autum IP: 58.64.83.70 8 มีนาคม 2552 15:01:52 น.