มหาสมุทรที่ยิ่งใหญ่ได้ เพราะอยู่ต่ำกว่าแม่น้ำทั้งหลาย.....................

Dr.Manta and the gang พาตะลุยแดนมังกร , Episode 1(เมือง Yuxi)








บทสนทนากับสองสหายเมื่อหลายเดือนก่อน

แมนต้า : โอ๋/มิตร ไปเที่ยวจีนกันป่าว
โอ๋/มิตร : ไป!

นั่นคือคำตอบ....มันช่างใจง่ายกันซะจริงๆผัวเมียสองคนนี้
ก็แหงหล่ะนักบินกับเมียนักบิน จะบินไปไหนมาไหนก็ช่างถูกแสนถูก
ไอ้เราสิต้องออกค่าตั๋วเต็มราคา....ชิส์

แต่ไม่รู้ว่าพอเสร็จทริปนี้สองคนนี้จะเข็ดหลาบกับการตะลอนๆไปกับผมรึเปล่าก็ไม่รู้
ไม่สนใจหรอก ถึงจะเข็ดหลาบยังไง
มีทริปหน้าครั้งใดก็คงไม่แคล้วเรียกใช้บริการสองคนนี้อีก
ก็เที่ยวกันถูกขานี่นา ช่วยไม่ได้ เหอๆๆ

.....

ความจริงวันที่จะไปจีนกันนี้ผมต้องสละสิทธิ์การท่องเที่ยวกับทีมงาน IE-Metropolis
เพื่อนๆอุตสาห์โหวตจนได้เข้ารอบ แต่ก็ดั๊นเดินทางวันเดียวกับที่ต้องตะลอนจีนซะงั้น

ยังไงก็ขอบคุณและก็ต้องขออภัยทุกท่านที่โหวตให้ผมด้วยน่ะครับ
ซาบซึ้งเป็นอย่างสูง
ส่วนสมาร์ทไกด์ที่ได้ไปตะลุยภูเก็ตก็เห็นว่ามีความสุขสำราญกันดี
ไว้วันหลังคงได้แจมทริปกันน่ะครับ








ผมเดินทางโดยสายการบินไทย TG 616 บินจากกรุงเทพแวะรับผู้โดยสารที่เชียงใหม่
ก่อนจะมุ่งหน้าล้อแตะรันเวย์ที่สนามบินนานาชาติคุนหมิง

มิตรและโอ๋นั่งเครื่องจากกรุงเทพมา
ส่วนผมก็ขึ้นเครื่องจากเชียงใหม่ ใช้เวลาบินเพียง 1.10 ชม.เท่านั้นจากเชียงใหม่
ไวมากๆ ตอนบินไต่ระดับไปสักพัก
ผมเพิ่งรู้ว่าเครื่องบินลำนี้บินผ่านแถวๆดอยผาตั้ง เห็นเชียงของและอ.เวียงแก่นอยู่ข้างล่างลิบๆ
ยังไม่ทันไรเกิดอาการคิดถึงบ้านมาซะงั้น


เมื่อบินมาถึงสนามบินคุนหมิง
ผมก็ต้องผ่านขั้นตอนตรวจคนเข้าเมืองตามปกติ
แต่ที่ไม่ปกติก็คือ พอจะเดินออก Arrival gate นายตรวจก็กวักมือหยอยๆ
เรียกผมให้ไปพบ เวรกรรมจริงๆ
ชักไม่ปกติซะแล้วสิ

เค้าพูดเป็นภาษาจีนโฉงเฉงโฉงฉางฟังไม่รู้เรื่อง
แต่เดาความหมายเอาว่า"ขอฉันดูของในกล่องนั้นหน่อยซิ"
เมื่อได้กล่องไปแล้วก็เอามีดตัดฉับๆ เทกระจาดของในกล่อง
ยึดของที่ผมอุตสาห์เตรียมมาฝากน้องๆทางนี้ไปเกือบหมด
อันประกอบไปด้วยน้ำพริกเผา น้ำพริกนรก แคบหมู หมูแดดเดียว ขนมไทยฯลฯ
แต่ก็ยังใจดีเหลือข้าวซอยตัดให้ผมซะสองอัน(ใจดีมากกกกกกกก)
เค้าให้เหตุผลว่าห้ามนำของพวกนี้เข้าประเทศ

เซ็งๆๆๆๆๆๆๆ เถียงไม่ออกเฟ้ย
ฝากไว้ก่อนเหอะ คราวหน้าจะขนกัญชาเข้าประเทศซะให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย

..........

ที่สนามบินมีน้องตุ้ยกับเพื่อนชาวจีนชื่อไบรอัน(ชื่อเก๋น่ะ)มารอรับพวกเรา
เมื่อทราบข่าวว่าอดกินของอร่อยก็หน้าสลดไปเลย
เอาหน่ะ เดี๋ยวอีกสองเดือนกลับมาไทยก็ได้กินล่ะ
ตอนนี้ทนกินอาหารจีนเผ็ดๆมันๆไปก่อนละกัน

ตอนเย็นเราเลยพาน้องๆไปเลี้ยงปลอบขวัญที่ร้านอาหารจีนยูนนาน
ที่นั่นเราเจอเพื่อนใหม่อีกสองคนที่เป็นชาวจีน แต่คนไทยตั้งชื่อให้ว่าน้องบัวกับน้องเบญจมาศ
พูดไทยได้นิดหน่อย ภาษาอังกฤษก็ถือว่าใช้ได้
ค่อยยังชั่วไม่งั้นถ้าพูดอังกฤษไม่ได้ พวกผมคงเป็นไบ้แน่ๆ
ก็ที่มากันเนี่ย มีคนพูดภาษาจีนได้ซะที่ไหนหล่ะ









นักศึกษาเหล่านี้เรียนกันที่วิทยาลัย Yuxi Normal University
โดยวิทยาลัยนี้ทำสัญญากับสถาบันราชภัฏของไทยเอาไว้ว่าจะแลกเปลี่ยนนักศึกษากัน
ไทยไปเรียนจีน จีนก็จะบินมาเรียนที่ไทยเพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนประสบการณ์

น้องตุ้ยเลือกมาเรียนที่วิทยาลัยแห่งนี้ด้วยเหตุผลที่ว่าเมืองเงียบสงบ
ไม่วุ่นวายเหมือนคุนหมิงหรือเมืองอื่นๆในตัวเลือกที่ให้มา
ผมก็ว่าจริงอย่างที่น้องเค้าว่าแหละ เมืองนี้ดูสงบกว่าคุนหมิงเยอะ
คุนหมิงรถติด ค่อนข้างสกปรกหน่อยๆ แถมตอนนี้มีการก่อสร้างอะไรต่อมิอะไรเยอะแยะ
ไปคุนหมิงคราวนี้เลยค่อนข้างปวดเศียรเวียนเกล้าเล็กน้อย








การเดินทางไปไหนมาไหนในตัวเมืองก็ค่อนข้างสะดวกสบาย
ค่ารถเมล์ตลอดสายแค่ 1 หยวน(ประมาณห้าบาท)
แต่รถเมล์ค่อนข้างแน่นนิดนึง ขึ้นทีหลังก็จะได้ห้อยโหน
เหมือนรถเมล์ร้อนบ้านเรานี่แหละ

แต่น้องตุ้ยบอกว่าหน้าหนาวใครที่ขึ้นรถเมล์ก็ต้องประสบกับภัยอีกอย่างนึง
ภัยที่ว่านั้นก็คือภัยจากกลิ่นเต่า
เพราะหน้าหนาวที่นี่ อากาศหนาวสะท้านทรวงมากๆ
คนจีนหลายคนเลยอยากประหยัดน้ำ โดยไม่อาบน้ำกันซะงั้น
กลิ่นเต่าเลยกระจายคละคลุ้งไปทั่วรถ

หากใครที่ไม่ต้องการดมกลิ่นก็สามารถเลือกใช้บริการรถแท็กซี่ได้
แท็กซี่เริ่มต้นที่ห้าหยวน ถ้าไปไหนไม่ไกลก็ไม่แพงเลย








อาหารการกินก็ถือว่าสะดวกสบายและมีตัวเลือกให้มากมาย
เพียงแต่ว่าอาจไม่ค่อยถูกปากสำหรับบางคนเท่าไหร่
เพราะอาหารจีนยูนนานนั้นค่อนข้างเผ็ดและมันมากๆ
ใครที่จินตนาการว่าอาหารจีนยูนนานนั้นจืดชืด คุนคิดผิดแล้วครับ

อาหารแทบทุกอย่างต้องราดพริก โรยพริก คลุกพริก เกลือกกลิ้งพริก ฯลฯ
แถมอาหารพวกผัดๆเนี่ย ได้น้ำมันมาซะครึ่งจาน
จนแทบอยากจะตะโกนถามพ่อครัวแม่ครัวหลังร้านว่า"น้ำมันเนี่ยสั่งมาทีละกี่พันลิตรครับ?"

แต่ที่ถูกและอร่อยก็เห็นจะเป็นผลไม้เมืองหนาว
ที่นี่สามารถซื้อได้ในราคาถูกๆ เดินไปกัดกินไปได้อย่างสบายอุรา








ถึงแม้คนจีนที่นี่จะพูดภาษาอังกฤษไม่ได้กันเลย
แต่การสั่งอาหารนั้นก็ไม่(ค่อย)ยุ่งยากมากสักเท่าไหร่
เพราะเค้าจะเอาวัตถุดิบในการประกอบอาหารมาใส่ตู้โชว์ไว้หน้าครัว
ใครอยากกินอะไรก็เอานิ้วจิ้มๆได้เลย

อยากกินแบบผัดก็บอกว่า "ฉ่าว"
อยากกินแบบต้มก็บอกว่า "สุ่ย"(มั้ง?)
ถึงสั่งไปแล้วไม่ได้อย่างที่สั่งก็คงไม่มีปัญญาไปบอกให้เค้าเปลี่ยนเมนูหรอก

ก็พูดไม่รู้เรื่องนี่ครับ....วัยรุ่นเซ็ง








หอพักนักศึกษาที่นี่ก็อยู่กันห้องละสี่คนมั่ง หกคนมั่ง
น้องตุ้ยได้อยู่ห้องละสี่คนร่วมกับเพื่อนชาวไทยคนอื่นๆ

วันที่เราไปเยี่ยมน้องเราคืนนั้น นายไบรอันเกิดอยากโชว์ห้องของเค้า
จึงชวนเราขึ้นไปเยี่ยมชมที่ชั้นห้า

บรรยากาศค่อนข้างดีทีเดียว
แต่ที่ชั้นนี้สามารถมองเห็นเมือง Yuxi มุมสูงได้
เห็นโรงงานทำบุหรี่ขนาดยักษ์(ใหญ่จริงๆ)

เค้าว่ากันว่าโรงงานแห่งนี้จ่ายอากรเป็นเงินถึง 1 ใน 3 ของเมือง Yuxi เลยทีเดียว
แหงหล่ะ จะไม่ให้รวยได้อย่างไร
ไปที่ไหนก็มีแต่คนสูบบุหรี่ปรื๊ดๆๆ ไม่เว้นแม้แต่นักศึกษา
โรงงานก็น่ะ มาตั้งจ่อหน้าประตูวิทยาลัยซะงัั้น








นี่คือบรรยากาศที่ระเบียงห้องพักของไบรอัน
ลมโชยพัดมาเบาๆ ไอ้เราก็ถ่ายรูปไปอย่างสบายอุราแชะๆ
ได้กลิ่นหอมจากรองเท้าของสมาชิกในห้องลอยมาแตะโพรงจมูกเป็นพักๆ

อาาาาาา...ช่างหอมหวลจริงๆ(แหวะๆๆ)









สมาชิกในห้องของนายไบรอันเป็นคนจีนทั้งหมด
เมื่อไบรอันแนะนำให้รู้จัก พวกเค้าก็ตื่นเต้นกันใหญ่
ประหนึ่งว่าพวกเราเป็นช่วงช่วงกับหลินหุ้ย

บางคนเคยมาเรียนที่ไทยมาแล้ว สามารถพูดไทยได้นิดโหน่ยย
(ทำเสียงแบบฝรั่งหัดพูดไทยด้วย)

มีอยู่คนนึงท่าทางอาวุโสที่สุดในห้อง
และก็ดูมีแววศิลปินมากที่สุด ถึงกับหยิบกีตาร์มาเล่นเพลงโชว์ซะเลย
ร้องเก่ง และเล่นเก่งมากๆ ข้าน้อยขอซูฮก








เสร็จแล้วน้องตุ้ยก็พาเราไปเดินเล่นแถวๆอนุสรณ์สถานที่เนินเขาหลังวิทยาลัย
ระหว่างทางที่เราเดินไปมีนักศึกษาจีนชายหญิงจับคู่กระหนุงกระหนิ๋งกันตลอดทาง

บางคนก็ไปนั่งจู๋จี๋กันในที่ลับตา หลังสุมทุมพุ่มไม้มั่ง
บางคนก็ชอบแบบเปิดเผยโจ่งแจ้งจูบกันตรงใต้ไฟสปอตไลท์เลยก็มี
อะไรจะกล้าหาญชาญชัยขนาดนั้น

แต่หนาวๆแบบนี้ จู๋จี๋กันมั่งก็คงจะอบอุ่นดี
น่าอิจฉาจริงๆ









ดึกพอสมควร พวกเราจึงขอตัวเดินกลับโรงแรมซึ่งอยู่ไม่ไกลจากวิทยาลัยมากนัก
ตอนกลางคืนลมหนาวพัดมาวิ้วๆ ทรมาณจับจิต
ขาก็เมื่อยล้าไปหมดเพราะเราเดินกันมาทั้งวัน

อยากเดินให้ถึงโรงแรมไวๆจัง...








โรงแรมห้องใหญ่มาก(ขอย้ำว่าใหญ่มาก)เทียบกับราคา 76 หยวน(ประมาณ400บาท)
มีเตียงสามเตียงพอดี
ความจริงอยากได้ห้องที่เล็กกว่านี้หน่อยนึง
เอาแค่สองเตียงก็พอ นอนเบียดๆกันก็อุ่นดี









ตื่นเช้ามาเราเดินไปหาน้องตุ้ยที่วิทยาลัยอีกครั้ง
เพื่อไปรับน้องตุ้ยไปเที่ยวทะเลสาบ Fuxian ด้วยกันกับพวกเรา

ระหว่างทางมีคนมานั่งกินหมี่เชี่ยน บางคนมานั่งกินพร้อมกับนั่งผิงแดดไปด้วย
คนที่นี่จะชอบกินหมี่เชี่ยนกันมากๆ
ใครที่ไม่รู้จักว่าหมี่เชี่ยนหน้าตาเป็นอย่างไร
ลองนึกถึงภาพขนมจีนน้ำใสโปะหน้าด้วยน้ำพริกอ่องนั่นแหละคือหมี่เชี่ยนหล่ะ










เราได้พบกับน้องตุ้ยระหว่างทางพอดี
วันนี้น้องเค้ามากับอาจารย์ชาวจีน
ชื่อว่าอาจารย์ผิง อาจารย์พูดภาษาอังกฤษคล่องปร๋อ
เพราะว่าไปศึกษาร่ำเรียนมาซะไกลถึงประเทศแคนาดา
เพราะฉะนั้นจึงไม่มีปัญหาเวลาสื่อสารกับพวกเรา

และอาจารย์ผิงยังช่วยให้พวกเราสื่อสารกับคนจีนเวลาไปกินไปซื้ออะไรด้วย
อาทิเช่นพาผมไปซื้อซิมจีนโดยใช้บัตรประชาชนของอาจารย์ค้ำประกัน
พาพวกเราไปสั่งอาหารโดยไม่ต้องเสียเวลาคาดเดาว่าที่สั่งไปหน้าตาจะเป็นอย่างไร

ต้องขอบคุณอาจารย์มา ณ ที่นี้ด้วยครับ
(วีรกรรมความดีที่อาจารย์ช่วยเรายังมีอีกมาก เดี๋ยวเอาไว้เล่าในตอนหลังๆ)










ทานอาหารเช้าเป็นหมี่เชี่ยนเสร็จ
พวกเราก็ต่อกันด้วยซาลาเปารสเยี่ยม
ขายโดยอาตี๋น้อยหน้าใสกิ๊ก สาวน้อยสาวใหญ่รุมซื้อกันเต็มไปหมด








อาจารย์ผิงขับรถมาส่งเรายังคิวรถแท็กซี่และช่วยคุยเรื่องราคาให้
ความจริงเราสามารถไปที่ทะเลสาบ Fuxian ได้โดยรถโดยสารประจำทาง
แต่วิธีการนี้จะเหมาะกว่าสำหรับผู้ที่พูดภาษาจีนได้ดี
สำหรับพวกเราที่พูดได้แค่คำว่า หนีห่าว สมควรที่จะใช้บริการแท็กซี่เป็นที่สุด

ระหว่าทางเราต้องเปิดตำรา Phrase book ท่องคำศัพท์ภาษาจีนกัน
เพราะว่าอาจารย์ผิงไม่ได้เดินทางมากับพวกเราด้วย
หลังจากนี้เราต้องยืนด้วยลำแข้งของเราเอง ลำเค็ญดีแท้








ระหว่างทางบรรยากาศดีมาก
อากาศเย็นกำลังสบาย เราไม่ได้เปิดเครื่องปรับอากาศภายในรถ
เปิดแง้มหน้าต่างให้ลมจากภายนอกพัดเข้ามากระทบใบหน้า สดชื่นดีครับ

แต่พอขับผ่านสวนผักก็จะมีกลิ่นแปลกๆโชยมาแตะจมูกเป็นพักๆ
เป็นกลิ่นเน่าที่คุ้นเคย ผมเดาเอาว่าน่าจะเป็นกลิ่นของอุนจิที่เค้าเอาไปรดผักครับ
เห็นเค้าตักใส่ถังไปสาดๆแถวแปลงผัก

มิน่าหล่ะผักที่นี่ก้านมันถึงได้อวบอิ่มน่าลิ้มลองเป็นยิ่งนัก(กึ๋ยๆๆ)








บ้านเรือนที่นี่ส่วนใหญ่จะสร้างแบบง่ายๆ
กลมกลืนกับธรรมชาติ ผนังบ้านก็ก่อด้วยดินที่ปั้นขึ้นรูปต่อๆกันขึ้นไป
เสียดายที่ไม่ได้ลงแวะถ่ายรูป เลยอาศัยยื่นกล้องออกไปถ่ายเป็นกระสัยไปก่อน








และแล้วพวกเราก็เดินทางมาถึงทะเลสาบ Fuxian
น้ำที่นี่ใสและเย็นเจี๊ยบ

เค้าเอาทรายมาเทบริเวณริมทะเลสาบให้เหมือนกับเป็นทะเล
ที่นี่มีโรงแรมหรูให้พักด้วย สนนราคาคืนละเจ็ดแปดพันเอง(สนม่ะๆ)








พวกเราแค่ยืนริมทะเลสาบก็หนาวมากๆแล้วเนื่องจากลมที่พัดมาตลอด
แต่เราเห็นคนจีนอยู่กลุ่มหนึ่งว่ายน้ำกันสนุกสนาน
ไม่รู้ว่าว่ายกันไปได้ยังไง เย็นซะขนาดนี้

อันนี้ก็ต้องขอซูฮกเค้าด้วยเหมือนกัน ยอดไปเลย








ที่เห็นคฤหาสน์หรูอยู่ริมทะเลสาบนี้นี่ก็คือโรงแรมหรูที่ว่า
(ดันจำไม่ได้ว่าชื่อโรงแรมอะไร เพราะคงไม่มีตังค์มานอนหรูๆแบบนี้)

ถ้ามีบ้านติดน้ำแบบนี้คงจะดีเนอะ

ฝันเอาไว้ก่อนพ่อสอนไว้








เห็นเค้าว่ามีบริการนั่งเรือไปยังเกาะกลางน้ำด้วย
ที่เกาะกลางน้ำจะมีวัดอยู่ด้วย แต่จะต้องเสียตังค์ทั้งค่าเรือและค่าเข้าวัด
(ราคาค่อนข้างแพง)

พวกเราเห็นพ้องต้องกันว่าแค่ชมความงามรอบๆทะเลสาบก็คงจะเพียงพอแล้ว









จะเช่าเรือพายไปเองก็ได้ หรือจะให้เค้าพายไปส่งก็ได้

ขืนพายไปเองผมว่าอีกสามวันคงจะไปถึงอยู่หรอก
ลมแรงซะขนาดนั้น ไม่มีแรงพายต้านลมว๊อย








ซูมให้เห็นเกาะกลางน้ำที่มีวัดอยู่ครับ
ท่าทางบรรยากาศจะดี

เราเดินกันอยู่นานเลย ไม่ยักกะเห็นใครนั่งเรือไปเที่ยวกันเลย
สงสัยราคาจะแพงไปจริงๆแหละ











ขอจบลงด้วยภาพนี้ก่อนละกันครับ
เดี๋ยววันต่อไปเราจะพาไปตะลุยมุมอื่นๆของเมือง Yuxi
และจะต่อด้วยเมืองลี่เจียง , ทะเลสาบ Lashi , เขาหิมะมังกรหยก , ป่าหิน

ไหนๆจะอัพกระทู้แล้วขออัพหลายอันหน่อยครับ
กะเอาไว้ว่าสองวันอัพที(ถ้าไม่ติดธุระด่วนน่ะครับ)

ขอบคุณที่ติดตามรับชมครับผม












 

Create Date : 23 พฤศจิกายน 2551
17 comments
Last Update : 23 สิงหาคม 2552 20:17:45 น.
Counter : 2014 Pageviews.

 

โห...อ้ายเบส...ฮูปงามแต๊ๆ...อิอิ ขอมาแบบ Sound track หน้อยเน้อ

พอได้ e-mail alert Blog Update ปั๊บ ไม่ขงไม่เขียนมันแล้ว thesis เปิดบล๊อกพี่หมอดีกว่า...


งามแต๊ๆ...สงสัยจะม่วนขนาดเนอะ... เราไม่เคยไปเมืองจีนเลยอะ อยากลองไปสักครั้ง..เมืองก็สวยแปลกตา แถวนี้มันน่าเบื่อแล้วอะพี่..


อาหารจีนก็น่าจะกินง่ายสบายดีเนอะ....รูปแรกนั่นก็เล่นเอาน้ำลายหกละ


ทะเลจีนก็ดูสวยดีนะ...ดีจริงๆนะเนี่ยมีไกด์ดีๆพาไปเที่ยวด้วย แหร่มจริงๆ


เห้อ...อยากไปวุ้ยยยย

 

โดย: อ๊อด สิงห์ ละทิ้งงาน มาอ่านบล๊อก อิอิอิ IP: 92.11.170.213 23 พฤศจิกายน 2551 21:32:21 น.  

 

สวยงามดีอ่ะครับน้องหมอ...(พูดเพราะไหมล่ะ) ว่าแต่เวลาไปไหนแล้วไม่มีพี่รี่+ต๊อกคุ้มครอง มันก็จะมีแต่เรื่องๆๆๆ แบบนี้แหละ จำไว้เวลาไปไหนใครคุ้มครองอยู่หนะ ให้สำนึกอยู่ในชีวิตจิตใจด้วยนะน้อง

 

โดย: พี่รี่+ต๊อก 23 พฤศจิกายน 2551 21:42:19 น.  

 

แปลกตาไปนิด

55+

 

โดย: iPOND IP: 61.19.67.83 23 พฤศจิกายน 2551 21:49:48 น.  

 

สวยจริงๆ..ครับ..

เห็นแล้วอยากไปบ้างจัง..
เห็นอาหารจีนควันฉุยๆๆ แล้ว หม่ำตอนหนาวๆเนี่ยได้ใจดี

โรงแรมห้องเบ้อเร่อเลย..แต่ทำไมทีวีจอเล็กจังอ่ะ..
รอดูเมืองต่อไปดีกว่า...สู้ๆคุนหมอ

 

โดย: Little Knight 23 พฤศจิกายน 2551 21:59:56 น.  

 

ตามพี่หมอไปเที่ยวจีน
แต่พออ่านมาถึงบรรทัดใกล้ๆจบ
พี่หมอบอกว่าจะพาไปเขาหิมะมังกรหยกกอยากเห็นภาพจังเลย
ก็ชอบเรื่องดาบมังกรหยกนี่นา 555+


วันนี้ได้เที่ยวบล็อกพี่ๆทุกคนเลยดีจังเลยค่ะพี่
อัพบ่อยๆน๊าขยันเหมือนๆพี่ก๋าบ้างน้องๆจะได้ไม่เหงา

ฝันดีค่ะพี่หมอ

 

โดย: มัยดีนาห์ 23 พฤศจิกายน 2551 22:22:07 น.  

 

ไปเยือนเมืองจีนหนนี้กับเพื่อนร่วมทริปหน้าตาพอคุ้นเคย
ยังไงก็ขอเป็นเพื่อนร่วมทริปผ่านบล็อกอีกหนนะค่ะ ...
เพราะไหนๆ ถึงไม่ได้เจอกันแต่ก็แวะมาเยือนกันด้วยภาพเท่าที่โอกาส
เอื้ออำนวยค่ะ และแน่นอนว่าได้เข้ามาอ่านเมื่อไหร่ก็ทำให้อิ่มหัวใจเท่านั้น
เพราะว่าภาพมันกระตุ้นให้รู้สึกเอาได้ง่ายๆ แบบนี้ล่ะคะ


ภาพวิวสวยมั่กๆ ... เข้ามาทีไรถ้าไม่บอกก็กระไรอยู่ เพราะว่า
ภาพสวยจริงๆ เพราะถือว่าในฝีมือของหมอสวยอยู่แล้วคะ เข้ามาทีไร
ไม่ต้องคิดล่ะ แต่แค่จะต้องคิดว่าวันนี้จะได้ดูภาพเยอะหรือเปล่าน๊อ 55+

ชอบภาพวัดจังคะ ... ขนาดว่าอยู่ไกลหน่อยแต่ด้วยพลังซูม
ของเลนส์แล้ว เหมือนว่าแค่เอื้อมจริงๆ ...ดูเค้าเด่นเป็นสง่านะคะชอบจัง ...

 

โดย: JewNid 23 พฤศจิกายน 2551 22:28:46 น.  

 

อิจฉาจังเลยเบส อยากไปเที่ยวลุยๆ แบบนี้บ้างจัง ทะเลเค้าก็ส้วย สวยเนอะ น้ำเงี่ยะใสแจ๋วเชียว จะรออ่านตอนเขามังกรหยกนะ
เห็นรูปใน Hi5 แล้วเจ๋ง ให้อารมณ์เหมือน switzerland เลย :)

 

โดย: Fern 087 IP: 71.232.37.234 23 พฤศจิกายน 2551 22:41:13 น.  

 


โอ้..ช่วงนี้มีแต่รูปงามๆต่างเมือง
จากเพื่อนๆ มาให้ยลเกิดกิเลสทั้งนั้นเลยอ่ะ

สวยมากมายเลยอ่ะพี่หมอ
ว่าแต่อยากไปต่อแถวซื้อซาลาเปาบ้างจัง...อ่ะโฮ่ะๆๆๆ...

 

โดย: สะพานไม้ 23 พฤศจิกายน 2551 23:41:22 น.  

 


บอกได้คำเดียวสั้นๆ ค่ะว่าอิจฉาจังเลยเน๊าะ

 

โดย: อุ้มสี 24 พฤศจิกายน 2551 1:09:46 น.  

 

โห..เสียดายของฝากจากเมืองไทยเนอะ..น้ำพริกเผา น้ำพริกนรก แคบหมู หมูแดดเดียว ขนมไทย ฯลฯ...ไม่ได้ปนเปื้อนซะหน่อย..ทำเป็นห้าม...

ทีบ้านเรายังนำเข้าเมลานีนมาเยอะแยะ..ไม่สำนึกซะเล้ย..

ภาพสวยมากเหมือนเดิมค่ะ..อ่านแล้วสนุกดี....รอภาคต่อไปอยู่เน้อ..อ้อ..ลงรูปตัวเองเยอะๆหน่อยสิคะ..หายไปนาน..น่าจะมีคนคิดถึงเยอะทีเดียว..อิอิ

 

โดย: AB_PAE 24 พฤศจิกายน 2551 10:46:39 น.  

 

หน้าตาหมอ..ดูแล้วมันน่าค้นน่ะซิ...
วันหลังใส่ชุดกราวไปด้วย...ทำตัวน่านับถือหน่อย...

555 สงสารน้องตุ้ยเนอะ..อดของฝากเลย
บอกแล้ว...อย่านำของนรกๆ ติดตัวไป...
คราวหน้าเอาน้ำพริกสวรรค์ อร่อยเหาะประมาณนี้ไปนะ

จริงๆแล้ว หมูแดดเดียวทำมาจากหมูชุบกัญชาเปล่า
บอกความจริงมาเหอะ..เห็นช่วงนี้อารมณ์ดีพิลึก

 

โดย: Little Knight 24 พฤศจิกายน 2551 11:30:50 น.  

 

ในที่สุดก็ได้ชมภาพแล้ว เสียดายตม.ไม่น่ามาขโมยของกินหมอเลยเนอะ กำลังคิดว่าไปแบบนี้ใครจะพูดภาษาจีนได้บ้างหนอ ที่แท้มีไกด์อยู่ทางโน้น สบายไปเลย... แล้วจะมามาเที่ยวต่อนะคะ

 

โดย: นักเดินทางพเนจร (นักเดินทางพเนจร ) 24 พฤศจิกายน 2551 12:19:00 น.  

 

สวยจัง..คุนหมอ

 

โดย: ชิซูกะ IP: 203.146.234.214 25 พฤศจิกายน 2551 11:17:54 น.  

 

เพิ่งจะได้ตามไปเที่ยวค่า ยังสนุกเหมือนเดิม รูปก็สวยด้วย คริคริ

 

โดย: butbbj 26 พฤศจิกายน 2551 9:55:27 น.  

 

มาย้อนหลังดูค่ะ

 

โดย: มันจะดีเหรอคะ 3 ธันวาคม 2551 8:57:24 น.  

 

บรรยากาศดีมากค่ะ เห็นแล้วอยากไปเที่ยวจัง แต่จาไปเที่ยวเนปาลแหละม่ายรู้เป็นงัยแหละชอบเที่ยวมากมากเลย

 

โดย: roongtiva9999 IP: 118.172.91.181 10 ธันวาคม 2551 11:20:26 น.  

 

วัดนั้นไปมาแล้วสวยมาก แต่เค้าไม่ให้ขึ้นอะ บอกว่ามันอันตรา ย ทะเลสาบ อะตรงกลาง ๆๆมีแต่สาหร่า ยเต็มไปหมดเล ยสยองจิง ๆๆ

 

โดย: ติ้ม IP: 222.123.19.3 3 มกราคม 2552 16:01:09 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


Dr.Manta
Location :
เชียงราย Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 30 คน [?]




&key



Group Blog
 
 
พฤศจิกายน 2551
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
30 
 
23 พฤศจิกายน 2551
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add Dr.Manta's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.