สวัสดีค่ะ ภาระหน้าที่ทำให้ต้องเดินทางไกลมาถึงบัวโนสไอเรส แต่ยังคิดถึงเพื่อนบล็อกทุกคนนะค่ะ

กิน-ดื่มผลไม้ ตอนท้องว่าง ดี-ไม่ดี ?!

กระแสเฮลตี้กำลังครองเมืองเช่นนี้ ต้องบอกว่า ผัก-ผลไม้ก็ขึ้นแท่นติดอันดับของอาหารและเครื่องดื่ม ที่อยู่ในใจของคนที่รักสุขภาพเช่นกัน

ผู้ประกอบการหลายรายจึงพยายามสร้างสรรค์ทำให้การดื่ม-กินผักผลไม้เหล่านี้ง่ายขึ้น ด้วยการทำเป็นสำเร็จรูป กึ่งสำเร็จรูป ไปจนถึงสรรหากรรมวิธี หรือสูตรเด็ดเคล็ดลับต่างๆ มาป้อนให้กับผู้บริโภค

ปัจจุบันมีน้ำผลไม้สำเร็จรูปออกมาในรูปแบบที่มีคำเรียกต่างๆ ที่ผู้บริโภคอย่างเราๆ ควรรู้

ตั้งแต่ ′น้ำผลไม้สด′ หมายถึง น้ำที่คั้นมาสดๆ ไม่ได้ปรุงแต่งใดๆ ทั้งสิ้น ถ้าเป็น ′น้ำผลไม้ที่ผ่านกระบวนการ′ จะหมายถึง นำผลไม้ที่ผ่านกรรมวิธีถนอมอาหารเพื่อยืดอายุโดยใส่สารกันบูด หรือสารปรุงแต่งอื่นๆ ที่จะเห็นได้อยู่ทั่วไปในรูปของศัพท์ต่างๆ

′น้ำผลไม้ชนิด 100%′ เป็นน้ำผลไม้ที่มีรสชาติใกล้เคียงกับของสดมากที่สุด เพราะไม่มีการปรุงแต่งรสชาติ ′น้ำผลไม้ผสม′ ประเภทนี้จะมีการผสมน้ำผลไม้อื่นลงไปด้วย มักเติมน้ำตาล สารกันบูด สารปรุงแต่งรสและกลิ่น รวมถึงสารกันบูด โดยจะมีส่วนประกอบหลักอยู่ที่ 40-60% ส่วน ′น้ำผลไม้ยูเอชที′ จะเหมือนน้ำผลไม้ผสม โดยจะมีสัดส่วนอยู่ที่ 20-100% และมีการบรรจุแบบสุญญากาศเพื่อยืดอายุ

แม้จะมีของสำเร็จรูปให้เลือกสรร อย่างไรก็ตาม ผลวิจัยของทุกสถาบันจะพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า การกิน-ดื่มผลไม้แท้ๆ ต่างหากที่จะมีประโยชน์สูงสุด แต่การจะรับประโยชน์ให้ได้สูงสุดนั้น ก็ต้องกิน ให้ถูกวิธี นั่นคือ ให้กินตอนที่ ′ท้องว่าง′ เรียกว่า พฤติกรรมในการกินผลไม้ตบท้ายหลังมื้ออาหารอย่างที่ทำๆ กันอยู่นั้นผิดทาง

นั่นเป็นเพราะในเรื่องของการย่อยนั้น ผลไม้จะถูกย่อยได้เร็วกว่าอาหารอื่นๆ แต่ร่างกายไม่สามารถดูดซึมเข้าไปได้ เพราะถูกอาหารที่ยังไม่ย่อยขวางเอาไว้ แล้วเมื่อผลไม้ไปรวมตัวกับอาหารอื่นๆ จะทำให้เกิดแก๊สในกระเพาะอาหาร ทำให้แน่นท้อง

นอกจากนั้นแล้ว การกินผลไม้ตอนท้องว่าง จะไปช่วยล้างพิษที่สะสมอยู่ และสำหรับผู้กำลังลดน้ำหนัก ผลไม้เหล่านี้ยังจะเป็นพลังงานให้กับร่างกายด้วย

ส่วนคนที่ชอบดื่มน้ำผลไม้นั้น ควรเลือกดื่มน้ำผลไม้สด เลี่ยงการดื่มน้ำผลไม้กระป๋องหรือที่ผ่านความร้อนมาแล้ว เพราะจะไม่หลงเหลือวิตามินอยู่เลย และการดื่มที่จะได้ประโยชน์สูงสุดนั้น ควรดื่มอย่างช้าๆ ทีละคำ เพื่อให้น้ำผลไม้ไปรวมกับน้ำลายเสียก่อน

ถ้าทำได้อย่างสม่ำเสมอดังว่า ผมหงอก หัวล้าน อารมณ์หงุดหงิด หรือรอยคล้ำใต้ดวงตา จะหายไปอย่างปลิดทิ้ง








ขอบคุณข้อมูลจาก//women.thaiza.com




 

Create Date : 27 กันยายน 2552
1 comments
Last Update : 27 กันยายน 2552 8:30:57 น.
Counter : 766 Pageviews.

 

ขอบคุณสำหรับความรู้ค่ะ

 

โดย: archawin 27 กันยายน 2552 12:01:08 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 


kobnon
Location :
นนทบุรี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 92 คน [?]




.
สาระน่ารู้ประจำวัน
1.โรคข้อสันหลังอักเสบติดยึด
2. บุหรี่ ทำนมยาน หูตึง
3. Upside down pineapple cake


music
Group Blog
 
<<
กันยายน 2552
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
27282930 
 
27 กันยายน 2552
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add kobnon's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.