พะนอขวัญ บทที่ ๑๕
น่านฟ้ากดกริ่งหน้าห้อง รอไม่นานประตูก็ถูกเปิดออก เสียงหัวเราะเฮฮาดังแว่วมาจากด้านใน เขารับไหว้รุ่นน้องของน้องชายซึ่งเป็นเจ้าของห้องชุด น่านฟ้าสบตาเด็กหนุ่ม แววตานิ่งเรียบที่มองตอบมาบ่งบอกความเชื่อมั่นในตัวเอง ในบรรดารุ่นน้องของแดนดินเขารู้สึกว่าคมคิดนี่แหละที่ เอาเรื่อง มากที่สุด
สวัสดีครับพี่ใหญ่ คมคิดยกมุมปากนิดๆ สบตาคมกล้าของฝ่ายตรงข้าม ใบหน้าคมคายนั้นมีรอยยิ้มนิดๆ ฉาบอยู่เช่นเดียวกับแววตามีรอยยิ้มจางๆ
ครับ... คมคิดมองอย่างแปลกใจเมื่อน่านฟ้ายื่นถุงกระดาษอาบมัน พิมพ์ชื่อไอศกรีมยี่ห้อดังให้
มีคนบอกว่านายชอบ น่านฟ้าตอบยิ้มๆ
อ่า...ขอบคุณครับ คมคิดไหว้อีกครั้งก่อนจะรับถุงมา น่านฟ้าพยักหน้านิดๆ กิริยามารยาทของเด็กหนุ่มดูขัดกับภาพลักษณ์ภายนอกมากทีเดียว
คมคิดเหลือบมองในถุงเป็นกล่องซึ่งบรรจุมาพร้อมกับน้ำแข็งแห้งอย่างดี คนที่บอกน่านฟ้าก็คงจะไม่ใช่ใครอื่นหรอก ก็คงเป็นคนที่ออกไปคุยโทรศัพท์แล้วกลับมาบอกกับเขาว่าจะมีคนมาขอร่วมวงวันนี้ด้วยอีกคน
การเห็นน่านฟ้าตรงหน้าประตูแบบนี้แสดงว่า ท่าทางเรื่องจะเป็นไปอย่างที่แดนดินต้องการ เพราะการที่น่านฟ้ามาปรากฏตัวที่ห้องเขาแบบนี้คงคิดเป็นอื่นไม่ได้
เพียงแต่ว่าเขาเหลือบมองร่างสูง ขนาดค่ำแล้วตั้งแต่ศีรษะจดเท้าน่านฟ้าก็ยังดูเนี้ยบ เนคไทไม่เบี้ยวเลยสักนิด คนแบบนี้จะเหมาะกับรุ่นพี่สาวของเขาจริงๆ เหรอ แม้ว่าพะนอขวัญจะไม่ได้ติสต์หลุดโลก แต่ก็ไม่ใช่คนที่จะสวยเรียบหรูในแบบฉบับของสาวสังคมไฮโซเลยสักนิด
เชิญด้านในครับพี่ใหญ่ คมคิดเอ่ย แล้วเบี่ยงตัวให้น่านฟ้าเข้ามาในห้อง
หากมัน ไม่ใช่เรื่องที่เขาจะต้องคิดแทน
แต่ถ้าคนๆ นี้ทำให้รุ่นพี่สาวเสียใจละก็...
ถึงเป็นพี่ชายของพี่รหัสเขาก็ไม่เกรงใจละนะ
น่านฟ้าเดินตามเด็กหนุ่มเข้ามาในห้อง เพียงแค่พ้นจากส่วนของหน้าประตูเข้าสู่ห้องโถงก็เห็นกลุ่มคนที่นั่งกันอยู่ที่พื้นหน้าทีวีจอยักษ์ มุมปากกระตุกจนอยากจะหัวเราะออกมา
พื้นไม้ปาเก้เงางามถูกปูด้วยเสื่อผืนใหญ่มีเด็กหนุ่มและน้องชายของเขานั่งล้อมวงกันอยู่ โซฟาที่คาดว่าน่าจะเคยตั้งอยู่หน้าทีวีถูกย้ายออกไปด้านข้าง บรรยากาศของห้องราคาสูงลิบที่ตกแต่งอย่างสวยงามที่เขาคุ้นเคยดูแตกต่างขึ้นมาทันที
คมคิดเหลือบมองสีหน้าของพี่ชายพี่รหัสแล้วอมยิ้ม ทีแรกเขาก็แปลกใจอยู่เหมือนกันว่าทำไมรุ่นพี่สาวจึงเสนอให้นั่งกับพื้น แต่พวกเขาก็คุ้นเคยกับการนั่งกับพื้นอยู่แล้ว เพราะการใช้ชีวิตอยู่ที่คณะก็ทำแบบนี้อยู่บ่อยๆ บางทีก็นั่งกับพื้นแบบไม่มีเสื่อปูด้วยซ้ำ รวมทั้งพี่ชายคนกลางของพี่รหัสด้วย นั่นก็ท่าทางจะถนัดกว่าพวกเขาเสียอีก จึงเปลี่ยนสถานที่จากห้องครัวมาเป็นหน้าทีวี
ห้องชุดนี้แต่ก่อนเป็นของพี่ชายคนโตกับภรรยา แต่เมื่อไม่กี่เดือนก่อนพี่สะใภ้ตั้งครรภ์ จึงย้ายไปอยู่ที่บ้าน ทั้งคู่จึงยกห้องนี้กับเขาเพราะใกล้มหาวิทยาลัยมากกว่าคอนโดมิเนียมเดิม สำหรับเขายังไงก็ได้ แต่เมื่อทางบ้านเห็นตรงกันก็เลยย้ายเข้ามา จึงถูกรุ่นพี่สาวแซวเรื่องฐานะอยู่หลายคำ
มีเจ๊แพงนี่แหละที่ดูจะเฉยๆ เมื่อรู้ว่าฐานะครอบครัวของน้องๆ แต่ละคนเป็นอย่างไร บางคนที่รู้เรื่องที่บ้านพวกเขาก็สร้างความลำบากใจให้ไม่น้อย มีเจ๊แพงนี่แหละที่อยู่ด้วยแล้วสบายใจ
พี่ใหญ่... เสียงแดนดินดังขึ้นทันทีที่ทั้งสองเดินเข้ามาใกล้ วาษิตกับแมทธิวเงยหน้าของสารพัดจานอาหารตรงหน้าขึ้นมาไหว้พี่ชายของรุ่นพี่ทันที
เขตชลสบตาคมของพี่ชายแล้วยิ้ม
น่านฟ้ารับไหว้เด็กหนุ่มแล้วเหลือบมองน้องชายคนกลางที่นั่งอย่างสบายกลมกลืนไปกับกลุ่มน้องๆ
เขตชลก็อยู่ด้วยอย่างนั้นเหรอ...
ไอติม... สองเด็กหนุ่มประสานเสียงกัน ตาจ้องเป๋งที่ถุงในมือคมคิด ขณะกำลังจะลุกขึ้นไปหาเป้าหมายใหม่ก็ถูกคนที่เดินออกมาจากห้องครัวแหวออกมาเบาๆ
หยุดเลยทั้งสองคน กินข้าวกันก่อน คมเอาไอติมไปเก็บก่อนเดี๋ยวค่อยกินทีหลัง พะนอขวัญมองรุ่นน้องอย่างระอา ทั้งสองมองตามไอศกรีมตาละห้อย พฤติกรรมของรุ่นน้องดูเหมือนเด็กประถมมากว่านักศึกษา ก่อนจะหันไปยังคนที่มาใหม่
คุณพระเอกยังคงคอนเซปต์หล่อเนี้ยบอยู่เหมือนเดิม
เอ่อ...สวัสดีค่ะ พะนอขวัญทักและไหว้โดยอัตโนมัติ สบตาคมที่ฉายแววยิ้มนิดๆ ซึ่งทำให้บรรยากาศเข้าถึงยากของเขาเปลี่ยนไป
บางทีเข้าถึงง่ายไปก็...ไม่ดีต่อหัวใจเท่าไร
พี่มาทันใช่ไหม น่านฟ้าพยักพเยิดไปยังเด็กหนุ่มที่มองพวกเขาเป็นตาเดียว
ก็...ทันนะคะ ถ้าไม่ถือว่ามีคนแอบหยิบชิมก่อน พะนอขวัญตอบ ตวัดสายตาไปยังรุ่นน้องที่ชูมือหรา ยิ้มแหยๆ เมื่อถูกจับได้
น่านฟ้าหัวเราะในลำคอ
เอาเถอะ...ถึงจะอยู่กันหลายๆ คน ก็สนุกไปอีกแบบ
เอาล่ะ กินกันได้แล้วจ้ะ แต่ก็เพลาๆ บ้างนะ ถึงพรุ่งนี้จะเรียนบ่ายกันก็เถอะ พะนอขวัญชายตามองคมคิดที่กลับมาประจำที่นั่งใกล้สารพัดเครื่องดื่ม และเริ่มแจกจ่าย
ครับเจ๊... เสียงตอบประสานกัน หากแววตาวาวๆ ของแต่ละคนทำให้เธอโคลงศีรษะ พวกนี้ตั้งใจเมากันจริงจังแน่นอน
ก่อนจะหันไปมองชุดเต็มยศของคุณพระเอก
เอ่อ...วันนี้อยากเฮฮากันสบายๆ ก็เลยนั่งกับพื้นกันค่ะ พะนอขวัญอมยิ้ม
ก็ลองดูหน่อยว่าคุณพระเอกจะมีปฏิกิริยายังไง
น่านฟ้าสบตาสีน้ำตาลเข้ม น่าจะมีแววขำปนท้าทาย แน่นอนว่าเขายังไม่เคยนั่งกับพื้นอย่างนี้มาก่อน
นั่งล้อมวงกินข้าวแบบนี้...ผมชอบนะเนี่ย เขตชลเอ่ยขึ้น มองหญิงสาวก่อนจะหันไปยักคิ้วใส่พี่ชาย พี่ใหญ่จะไหวไหม...ไม่เคยนั่งแบบนี้นี่นา
น่านฟ้ากระตุกยิ้มก่อนจะคลายเนคไท แล้วดึงออก ม้วนใส่กระเป๋าเสื้อ แกะกระดุมเสื้อเชิ้ตและถอดสูทออก
คนเราก็ต้องมีการปรับตัวอยู่แล้ว... เขาตอบน้องชายก่อนจะหันกลับไปสบตาหญิงสาว พี่เป็นคนปรับตัวง่ายนะ
ณัฐนนทยาวางกระเป๋าบนโต๊ะกลาง แล้วทิ้งตัวบนโซฟา มือหยิบรีโมทมากดเปิด ภาพบนหน้าจอพลาสม่าทีวีขนาดใหญ่เป็นรายการแฟชั่นโชว์ที่เธอชื่นชอบ แต่กลับไม่ทำให้เธอสนใจได้นัก
เชอะ...มีแต่คนประหลาดทั้งนั้น หญิงสาวเหยียดริมฝีปาก ก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูเมื่อได้ยินเสียงดนตรีเบาๆ โปรแกรมคุยผ่านโซเชียลเน็ตเวิร์กสุดฮิตขึ้นมาบนหน้าจอ กลุ่มเพื่อนสมัยที่เรียนมหาวิทยาลัยนั่นเอง
ที่ไหนล่ะ เธอพิมพ์ถามกลับไปเมื่อคนในกลุ่มนัดกันไปสังสรรค์เป็นประจำ แน่นอนล่ะว่าเธอไม่เคยพลาดสักครั้ง แม้จะเหนื่อยจากการทำงานก็ตาม หากเรื่องอะไรจะหายหน้าไปจากกลุ่ม บรรดาเพื่อนที่อยู่ในครอบครัวร่ำรวยพวกนี้เธออุตส่าห์ใช้เวลาในการเลือกเฟ้นเป็นนาน แต่ถึงกระนั้นก็ไม่ได้ตามที่เธอคาดหวังไว้มากนัก หากก็ยังพอจะมีประโยชน์อยู่บ้าง
ไวน์แอนด์เรสเตอรองท์ที่กำลังนิยมในกลุ่มคนรุ่นใหม่ถูกเสนอขึ้นมา
ณัฐนนทยาตอบตกลงกลับไป ริมฝีปากแย้มขึ้นเมื่อคิดว่าจะสวมชุดไหนไปดี แน่นอนว่าเธอจะต้องโดดเด่นไม่แพ้ใคร ขณะจะหยิบกระเป๋าสายตาก็ไปปะทะกับซองจดหมายหลายซองที่วางซ้อนกันอยู่บนโต๊ะกลาง ใบแจ้งยอดของบัตรเครดิตที่เธอใช้อยู่หลายใบ คิ้วเรียวขมวดมุ่น
แม่ชักช้าจริง...
หญิงสาวโทรศัพท์ทันที เบ้ปากเมื่อต้องรอสายอยู่พักหนึ่งกว่าปลายสายจะกดรับ เสียงไถ่ถามสารทุกข์สุกดิบอย่างยินดีของมารดาฟังน่าเบื่อเหมือนทุกๆ ครั้ง เธอบอกตั้งหลายรอบแล้วว่าให้เลิกพูดภาษาถิ่นเลิกเรียกชื่อเก่าแต่ก็ยังเหมือนเดิม
น่าเบื่อจริงๆ
ก็ดี...งานเยอะเหมือนเดิม เธอตอบไม่ต่างจากเดิมนัก และปล่อยให้มารดาพร่ำพูดไปอีกครู่ เธอรอจังหวะให้มารดาหยุดแล้วจึงเอ่ยเรื่องที่ต้องการ
แล้วทำไมเดือนนี้แม่โอนเงินให้ช้า
ณัฐนนทยาไม่ใส่ใจคำตอบของมารดา แต่ย้ำให้รีบโอนเงินมาให้เธอ ก่อนจะวางสายไปโดยไม่ตอบคำถามของมารดาว่าจะกลับไปเยี่ยมบ้านอีกเมื่อไร
จะกลับไปทำบ่อยๆ บ้านนอกอย่างนั้น...เชอะ
ร่างโปร่งลุกจากโซฟา ก้าวตรงไปยังห้องนอนเพื่อนเตรียมตัวออกไปสังสรรค์กับเพื่อน
น่านฟ้าละสายตาจากการอ่านเอกสารไปมองร่างสูงของน้องชายที่เปิดประตูห้องทำงานของเขาเข้ามา เขตชลก็ยังคงเป็นเขตชล แม้จะยอมสวมเสื้อเชิ้ตแต่ท่อนล่างก็ยังเป็นกางเกงยีนส์อยู่ดี ยิ่งกับสูทแล้ว แทบจะไม่ได้เห็น
เข้าออฟฟิศได้เหรอวันนี้
เขตชลยิ้มกว้างให้กับคำทักกึ่งประชดของพี่ชาย
ก็ได้บ้างหรอกน่า วันนี้มีประชุมโปรเจคโรงแรมนี่นา เขาเดินเข้ามาใกล้โต๊ะทำงานของพี่ชาย มองแฟ้มเอกสารเป็นตั้งอย่างอ่อนใจ
โปรเจคโรงแรม... น่านฟ้าเลิกคิ้ว กระหวัดคิดถึงใครบางคนขึ้นมา
จากเมื่อวาน รู้สึกว่าเจ้าตัวเริ่มลงมือตอบโต้เขาเข้าบ้างแล้วสิ...
หึๆ ประชุมฝ่ายการตลาดน่ะ เขตชลเอ่ยดัก ตอนนี้เขาชักเดาใจพี่ชายเก่งขึ้น หรือจะเป็นแค่เรื่องนี้ล่ะมั้ง อะไรกัน...ก็เจอกันเมื่อวานอยู่แท้ๆ
น่านฟ้ามองใบหน้าระรื่นของน้องชาย เขายังไม่เข้าใจความรู้สึกของเขตชลเท่าไรนัก บางทีเจ้าตัวก็ทำเหมือนกระเซ้าเย้าแหย่เรื่องของพะนอขวัญเหมือนจะสนับสนุน อย่างเมื่อวานเขานึกว่าเขตชลจะขอกลับบ้านด้วยตอนที่เขาจะไปส่งพะนอขวัญแล้วเพราะพวกเด็กๆ เริ่มอ้อแอ้กันหมด แต่เขตชลบอกว่าจะค้างที่คอนโดมิเนียม
หากบางทีเขาก็เห็นแววตาล้ำลึกเวลาที่เขตชลมองพะนอขวัญ
จะเที่ยงแล้ว ไม่มีนัดใช่ไหม ไปกินข้าวกันเถอะ อย่าทำงานเยอะนัก แค่นี้กลางกับนายเล็กก็ใช้เงินไม่หมดแล้ว เขตชลปลายตามองแฟ้มงานบนโต๊ะ เขาถามเลขานุการของพี่ชายมาเรียบร้อยแล้ว เที่ยงนี้พี่ชายไม่มีนัดกับใคร
น่านฟ้าหัวเราะเบาๆ ก่อนจะยอมปิดแฟ้มแล้วเก็บปากกา
พ่อกับแม่ก็มีนัดแล้ว ยังดีนะที่พี่ใหญ่ว่าง ไม่งั้นกินข้าวคนเดียวเซ็งตายเลย เขตชลกวาดตามองรอบๆ ห้อง
อะไร...แล้วสาวๆ ของนายล่ะ
สาวๆ ที่ไหนกัน ไม่มี...
ไม่มี...ของนายนี่เสียงสูงไปนะ
เขตชลหัวเราะอย่างชอบใจ
นี่ก็โทรไปชวนคุณแพงล่ะ เขตชลมองพี่ชายที่ชะงักไปนิด นัยน์ตาคมเป็นประกาย นั่นก็ไม่ว่างต้องไปทานข้าวกับเจ้านาย โห...เจ้านายใจดีชะมัด พาลูกน้องสาวๆ สวยๆ ไปทานข้าวด้วย
อยากทำบ้างหรือไง น่านฟ้ารู้ว่าเจ้าน้องชายตัวดีอยากกระเซ้าเล่น แต่เขาก็ช้าไปเหมือนกัน งานตรงหน้าบางทีก็ทำให้ลืมเวลาไป
ออฟฟิศของพะนอขวัญก็ไม่ได้ไกลจากออฟฟิศของเขานัก
เจ้านายของพะนอขวัญ... คนที่เขาเคยเจอวันนั้น หรือว่าอีกคนที่เป็นนักออกแบบชื่อดัง รู้สึกว่าจะยังโสดทั้งคู่เสียด้วยสิ
ลูกน้องแถวไซต์ไม่ได้สวยๆ งามๆ แบบในออฟฟิศสักหน่อย เขตชลโบกไม้โบกมือ แต่ถึงมีเขาก็ไม่เคยคิดจะโปรยเสน่ห์เล่นหรอก
หึๆ ของสวยๆ งามๆ ก็เอาไว้แค่ดูสวยๆ งามๆ ก็พอ
ก็นั่นสินะ เขตชลพยักหน้าหงึกๆ พี่ชายเขาเห็นแต่ของสวยๆ งามๆ มาจนชาชินแล้วมั้ง เวลาสะดุดตาก็เลยไม่ต้องสวยมาก...แต่มีเอกลักษณ์ไงล่ะ
ผู้หญิงอะไรให้เสื่อเป็นของขวัญวันเกิดรุ่นน้อง พอรู้ว่าเสื่อผืนใหญ่นั่นมาอยู่ที่ห้องชุดสุดหรูนั่นได้ยังไงเขาก็หัวเราะแทบตาย ยิ่งไปกว่านั้นแดนดินยังบอกว่าเคยได้ต้นกล้วย ต้นกล้วยที่ตอนนี้กลายเป็นกอกล้วยขนาดใหญ่แถวๆ เรือนครัวที่บ้านไปแล้ว
ถ้าไม่ติสต์ขนาดหนักคิดไม่ได้นะของขวัญแบบนี้ หึๆ
ว่าแต่นายจะกินอะไร น่านฟ้าลุกจากเก้าอี้
อาหารญี่ปุ่น เขตชลตอบทันที
เดี๋ยวเถอะ คนเป็นพี่ชายได้แต่ส่ายหน้า ขณะน้องชายหัวเราะร่วนที่ได้แกล้งพี่ชายบ้าง เขตชลเสนอร้านอาหารญี่ปุ่นไปอย่างนั้นเอง เขาไม่ได้ชอบกินขนาดนั้น
งั้นอะไรก็ได้...แบบหนักๆ ท้องเข้าไว้ เดี๋ยวต้องกลับไปไซต์ ที่สำคัญก็คือ...พี่ใหญ่เลี้ยง
งั้นก็...ข้าวราดแกงในแคนทีก็แล้วกัน
ก็ไม่เกี่ยงนะ เขตชลยิ้มกว้าง แต่รู้ว่าคงไม่ได้กินข้าวราดแกงในแคนทีนหรอก ไม่ใช่ว่าน่านฟ้ากินไม่ได้ แต่เป็นเพราะช่วงนี้เป็นเวลาพักของพนักงาน การเห็นผู้บริหารระดับสูงไปนั่งกินข้าวด้วยมักจะทำให้รู้สึกเกร็ง ส่วนใหญ่น่านฟ้าใช้วิธีสั่งขึ้นมาบนห้องทำงานบ่อยๆ
แต่...เมื่อวานนี้เขาอยากถ่ายคลิปตอนที่น่านฟ้านั่งบนเสื่อ กินข้าวเหนียวด้วยมือเอาไว้ดูอีกชะมัด มันต้องแก้เครียดได้ดีแน่ๆ
พะนอขวัญใช้มือขวาควานหาโทรศัพท์ ขณะที่มือซ้ายยังจับดินสอลากเส้นปราดๆ สายตาจ้องอยู่บนกระดาษ แต่ก็ยังไม่เจอโทรศัพท์สักที
หืม...คุณพระเอก โห พ่อแม่ตั้งชื่อให้จริงเหรอเนี่ย มัทวีซึ่งกำลังจะเดินผ่านโต๊ะรุ่นน้องสาว เลยถือโอกาสหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูก่อนจะส่งให้ เพราะเจ้าตัวเอาแต่ใช้มือควานๆ บนโต๊ะ โดยไม่ได้หันมามองเลย
อ่ะ...ขอบคุณค่ะเจ๊ พะนอขวัญยิ้มแห้งๆ ไม่แก้ความเข้าใจผิดของมัทวี เธอนี่แหละที่เป็นคนตั้งให้เขาเอง เธอรอให้มัทวีเดินผ่านไปก่อนจึงกดรับสาย
สวัสดีค่ะ
เลิกงานหรือยังครับน้องแพง เสียงนุ่มๆ ดังมาตามสาย ทำให้พะนอขวัญเหลือบมองไปที่นาฬิกาติดผนังเรือนใหญ่ ใกล้จะได้เวลาเลิกงานตามปกติแล้ว มิน่าถึงเริ่มมีปฏิกิริยาจากเพื่อนร่วมงาน แต่บางคนก็ยังเงียบก้มหน้าก้มตาอยู่กับชิ้นงานไม่ต่างจากเธอ
ยังค่ะ...
หึๆ อีกสิบนาทีสินะ เสียงนุ่มๆ ติดจะหัวเราะ ทำให้พะนอขวัญเผลอยิ้มออกมา ขนาดมาแต่เสียงยังทำให้ใบหน้ารู้สึกร้อนวูบได้เลย
จะให้พี่ไปรับที่ออฟฟิศหรืออพาร์ทเมนต์ดี
อะ...อะไรนะคะ พะนอขวัญชักตามคำพูดเขาไม่ทัน
วันนี้พี่มีเมนูอร่อยๆ มาแนะนำ แลกกับเมนูของน้องแพงเมื่อวานไง
หา...เอ่อ... พะนอขวัญเกาศีรษะอย่างงงๆ สรุปว่าเขาจะชวนเธอไปกินข้าวใช่ไหม
แล้วจะให้พี่ไปรับที่ไหนครับ
คือว่า...แพงยังทำงานอยู่เลยค่ะ ยังไม่รู้ว่าจะเสร็จตอนไหนด้วย พะนอขวัญมองบนโต๊ะทำงานตัวเอง ไอเดียกำลังพุ่งจึงอยากจะทำให้เสร็จ
ไม่ใช่ไม่อยากเจอคุณพระเอกหรอกนะ
น่านฟ้ามองดอกทานตะวันทั้งสามบนผนังห้องทำงาน ปลายสายวางไปหลังจากบอกว่าขอทำงานต่อโดยไม่มีท่าทีอาลัยอาวรณ์เลยสักนิด
ผู้หญิงอะไร... ชายหนุ่มโคลงศีรษะ ไม่รู้จะขำหรือโมโหดีที่ถูกปฏิเสธโดยข้ออ้างที่เขาเองก็เคยใช้บ่อยๆ
สัญญาณจากอินเตอร์คอมดังขึ้นเขาจึงกดรับ
ผมเคลียร์นัดเย็นนี้หมดแล้วนะครับ แล้วก็จองร้านอาหารตามที่บอสสั่งเรียบร้อยแล้ว น้ำเสียงไตรฟังดูระรื่นยียวนชวนให้คันไม้คันมือจริงๆ
แคนเซิลร้านไปก่อน เอาเอกสารที่เหลือเข้ามาให้ด้วย
เอ่อ...ครับ ไตรตอบรับอย่างแปลกใจ แปลว่าดินเนอร์ริมแม่น้ำเจ้าพระยาคืนนี้เป็นอันยกเลิกไปใช่ไหมนี่ เกิดอะไรขึ้นกับเจ้านายของเขากัน
เลขานุการหนุ่มเคาะประตูห้องก่อนจะเปิดออก มองเจ้านายที่นั่งหลังโต๊ะทำงานตัวใหญ่อย่างพิจารณา แม้ว่าจะไม่ได้ดูหงุดหงิดโมโหแต่ท่าทางรื่นรมย์ก่อนหน้านี้หายไป เขาวางแฟ้มเอกสารที่ยังไม่ด่วนมากนักวางบนโต๊ะ
บอสจะทำงานต่อเหรอครับ
อืม...นายกลับไปได้เลยนะ น่านฟ้าพยักหน้า
อ๋อ...ผมจะอยู่เคลียร์งานรอถนนโล่งสักนิดก่อนครับ บอสมีอะไรก็เรียกได้เลยนะครับ ไตรค้อมศีรษะนิดๆ ก่อนจะถอยไปยังประตูห้อง ก่อนจะออกจากห้องเขาหันมาเย้าเจ้านายหนุ่ม
แล้วจะให้ผมนัดใครแทนไหมครับ
น่านฟ้าแสยะยิ้ม...
ไตร...นัดใครบ้างก็ได้นะ จะได้ไม่ว่างมาก
น่านฟ้าโคลงศีรษะ ประตูห้องทำงานปิดแล้วแต่ยังเหมือนได้ยินเสียงหัวเราะของเลขานุการ เขาระบายลมหายใจเช้าก่อนจะหยิบแฟ้มขึ้นมาอ่าน หากไม่ถึงสิบนาทีน่านฟ้าก็วางแฟ้มลง
ร่างสูงลุกขึ้น เปิดลิ้นชักหยิบกระเป๋าสตางค์ โทรศัพท์มือถือและกุญแจรถ ก่อนหยิบแฟ้มเอกสารติดมือ เปิดประตูห้องออกไปก็เห็นไตรกำลังง่วนกับคอมพิวเตอร์
อ้าว...มีอะไรหรือเปล่าครับ
ฉันจะกลับแล้ว นายก็กลับบ้านเร็วๆ บ้าง
ไตรมองร่างสูงของเจ้านายที่เดินออกไป เมื่อครู่ยังทำท่าว่าจะทำงานอยู่อีกนาน แต่ไหงเปลี่ยนใจซะแล้ว ท่าทางแปลกๆ นะวันนี้
น่านฟ้าใช้เวลาร่วมชั่วโมงกว่าจะมาถึงสิริอาร์ตแอนด์ดีไซน์ เพราะอยู่ในช่วงเวลาเลิกงานที่ผู้คนต่างใช้เวลาอยู่บนท้องถนน ปกติเขาไม่ออกมาผจญผู้คนในช่วงนี้สักเท่าไรนัก เขาจอดรถในส่วนของลูกค้าโชว์รูม กวาดสายตาหาที่จอดรถของพนักงาน
บรรดารถจักรยานยนต์ที่จอดเรียงกันอยู่ในส่วนของพนักงานล้วนแล้วแต่สีสันแสบทรวงทั้งนั้น รวมทั้งเวสป้าสีเขียวตองซึ่งแทรกอยู่
ยังทำงานอยู่อีกสินะ...
ไม่ได้คิดมาจับผิด เพราะเขารู้ว่าพะนอขวัญไม่ได้โกหกเขาเรื่องที่ยังทำงานต่อ ถ้าดูจากแดนดินเวลาทำงานละก็ ไม่เสร็จไม่เลิก บางครั้งไม่ออกมากินข้าวกินปลาด้วยซ้ำ
เพื่อความแน่ใจเขาสอบถามยามของบริษัทว่าพะนอขวัญกลับไปหรือยัง ยามชี้ไปทางอาคารด้านหลังซึ่งเป็นสตูดิโอสำหรับนักออกแบบ
คงจะอีกนานนะครับ เพิ่งเข้าไปแค่ชั่วโมงเดียว ยามตอบ เหลือบมองแขกที่ไม่เคยเห็นหน้ามาก่อน ปกติคนที่มาหาพะนอขวัญมักจะเป็นเด็กหนุ่มๆ ท่าทางหลุดโลก
จะให้โทรศัพท์เข้าไปให้ไหมครับ พอดีจะให้แขกเข้าไปในสตูดิโอไม่ได้ ยามบอกตามกฎของบริษัท
น่านฟ้าเหลือบมองนาฬิกา เกือบทุ่มแล้วไม่รู้ว่าเจ้าตัวเอาแต่หมกมุ่นอยู่กับการทำงาน ได้กินอะไรไปบ้างหรือยัง
ไม่เป็นไร...เดี๋ยวผมมานะ
ยามมองตามร่างสูงสง่าที่เดินออกไปทางประตู แล้วข้ามถนนไปยังร้านอาหารฝั่งตรงข้าม
หรือว่าจะเป็นแฟนคุณแพงละนี่...หล่อทีเดียว
พะนอขวัญละมือจากชิ้นงานที่บรรจงทำอยู่เพราะแรงสะเทือนของโทรศัพท์จากระบบสั่นที่เปิดไว้ เพื่อไม่ให้เสียงรบกวนเพื่อนร่วมงาน ตอนนี้เธอย้ายเข้ามาทำงานในสตูดิโอซึ่งมีเพื่อนอีกห้าชีวิตอยู่ด้วย นอกนั้นยังมีคนที่อยู่บนออฟฟิศอีก
คุณพระเอก ปรากฏหราอยู่บนหน้าจอ
น้องแพงออกมาจากสตูดิโอแป๊บนึงนะครับ เสียงนุ่มๆ ดังมาเมื่อเธอกดรับสาย ก่อนที่เธอจะเอ่ยอะไรเสียอีก
คะ... พะนอขวัญเอ่ยงงๆ
พี่ขอเวลาห้านาที คงไม่กวนน้องแพงนะครับ
เอ่อ...พี่ใหญ่อยู่หน้าสตูเหรอคะ พะนอขวัญเกาศีรษะ ก่อนจะลุกขึ้นวิ่งออกไปยังประตูสตูดิโอ เมื่อเปิดประตูออกมาก็ต้องกะพริบตา ข้างนอกมืดแล้ว มีเพียงแสงจากดวงไฟต่างๆ
หญิงสาวลดมือที่ถือโทรศัพท์ลงเมื่อเห็นร่างสูงในชุดสูทอันเป็นเอกลักษณ์ของใครบางคน รอยยิ้มน้อยๆ นั้นทำให้เธอยิ้มตอบโดยอัตโนมัติ
น้องแพง...ทานอะไรหรือยังครับ น่านฟ้าสบตาโตของอีกฝ่าย ได้เห็นแววตาแปลกใจปนดีใจทำให้เขารู้สึกอิ่มใจขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก
เอ่อ...ยังค่ะ พะนอขวัญตอบเขินๆ เวลาทำงานเธอก็มักจะลืมเรื่องอื่นๆ ไป
วันนี้เขาชวนเธอไปกินข้าวแต่เธอก็ปฏิเสธไปแล้ว
นี่ครับ...พี่สั่งจากร้านนั้น...เขาบอกว่าที่ออฟฟิศสั่งปิ่นโตบ่อยๆ น่านฟ้ายกปิ่นโตเถาใหญ่ที่ถือไว้ขึ้นมาส่งให้หญิงสาว แล้วก็ทานเลยนะครับ ห้ามวางทิ้งไว้
พะนอขวัญละสายตาจากนัยน์ตาคมมายังปิ่นโตในมือใหญ่
ขอบคุณค่ะ... พะนอขวัญเอ่ยเสียงเบา รับปิ่นโตมาถือไว้
อืม พี่ไม่รบกวนน้องแพงแล้ว...อย่าทำงานดึกมากนะครับ น่านฟ้ายิ้มนิดๆ ถึงไม่ได้พาหญิงสาวออกไปรับประทานอาหารที่ร้านอย่างที่ตั้งใจไว้ แต่อย่างน้อยก็พอจะทำให้เธอได้นึกเขาบ้าง
พะนอขวัญเงยหน้าขึ้นก็ได้สบตาคมอีกครั้ง
พี่ไปก่อนนะครับ น่านฟ้าพยักหน้า แม้จะอยากยืดเวลาอีกสักนิด แต่จะยิ่งทำให้พะนอขวัญทำงานช้าเข้าไปอีก
พี่ใหญ่คะ...
ร่างสูงที่เดินออกไปชะงักก่อนจะหันกลับมาหาหญิงสาว รอยยิ้มหวานที่ส่งมาให้ทำให้ชายหนุ่มหายใจสะดุด
เอ่อ...ทานข้าวด้วยกันก่อนไหมคะ เยอะขนาดนี้แพงทานคนเดียวไม่หมดแน่
++++++++++++++++++++++++++++++
พบกันปีหน้าฟ้าใหม่นะคะ
สวัสดีปีใหม่...มีความสุขทุกๆ วันกันนะคะ ^^